กลใจในรอยแค้น ตอนที่ 5 การเดินเกมส์ (เริ่มแซ่บมาก)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 4 เริ่มเปิดเกมส์ http://pantip.com/topic/32608597


        หลังจากที่พี่ฑัตเข้าไปกอดวิวจากทางด้านหลังไว้ได้แล้ว เขาก็เริ่มคิดไปว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่า
เธอขึ้นมาบ้าง เพราะฑัตใช้มือข้างหนึ่งกดแจกันที่เขาคิดว่าวิวจะลุกขึ้นไปคว้ามาป้องกันตัวไว้ได้ทันแล้ว
         “จะใจร้ายขนาดเอาแจกันมาฟาดหัวผัวเลยเหรอจ้ะยาหยี” พี่ฑัตจงใจพูดจาก่อกวนเธอ ก่อนจะเริ่มก้มลง
ไปหอมผมของเธออย่างจงใจ
         “ปล่อยวิวเถอะค่ะ ไม่งั้นพี่เองจะต้องเสียใจนะคะ” วิวพูดขู่ขึ้นมาขณะที่เธอแอบหยิบของชิ้นหนึ่งในลิ้นชัก
ที่หัวเตียงขึ้นมากระชับในมืออย่างเตรียมพร้อม
         “โอ๊ย พี่กลั้ว กลัวค่ะ” พี่ฑัตที่ไม่รู้ว่าวิวได้แอบเอาอาวุธลับบางอย่างจากในกระเป๋าของเธอออกมาซ่อน
ไว้ในลิ้นชักตรงนี้ตั้งแต่เมื่อตอนเย็นแล้วก็เริ่มพูดจาก่อกวนวิวก่อนจะเริ่มกอดวิวแบบแนบแน่นมากขึ้น
        “ปล่อยค่ะ” วิวพูดกับพี่ฑัตเสียงแข็ง ๆ
        “ถ้าพี่ไม่ปล่อยล่ะจ้ะ” พี่ฑัตเริ่มเลื่อนมือของเขาขึ้นมาจนเกือบจะถึงทรวงอกของวิว และจังหวะที่พี่ฑัต
ไม่ได้ระวังตัวนี่เองวิวก็รีบสะบัดตัวออกและหันไปฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ตาของเขาเข้าเต็ม ๆ จนพี่ฑัตถึงกับ
ร้องลั่นและถึงกับทรุดตัวลงไปนอนดิ้นพราด ๆ ที่พื้นด้วยความทรมาน

         หลังจากที่มองพี่ฑัตที่นอนดิ้นทรมานเพราะแสบตาได้สักครู่ วิวก็รีบเดินออกไปตรงห้องอีกส่วน ที่อยู่
หน้าห้องนอน และจัดการผูกเชือกเส้นหนาที่เธอเตรียมเอาไว้เข้ากับที่จับประตูแบบเลื่อนทั้ง 2 ด้านที่เลื่อนมา
ประกบกันได้ ทำให้พี่ฑัตถูกขังไว้ในส่วนห้องนอนทั้งคืน ส่วนเธอก็ได้นอนอย่างสงบสุขอยู่ที่ห้องรับแขกด้าน
ที่เธอใช้เตรียมตัวช่วงเช้าและเย็น โดยเธอได้แอบเตรียมหมอนและผ้าห่มออกมาวางเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนลงไป
ที่งานแล้ว รวมทั้งเธอกับพี่ฑัตยังต่างมีห้องน้ำอยู่ในโซนของตัวเอง ทำให้เขาไม่สามารถอ้างลูกไม้ตื้น ๆ เรื่อง
ห้องน้ำเพื่อออกมาจัดการแก้แค้นเธอได้ วิวจึงได้แต่แอบสะใจเวลาที่พี่ฑัตพยายามจะเปิดประตูออกมาหาเรื่อง
เธอแต่กลับออกมาไม่ได้
         /หึ ๆ ๆ ก็พี่ให้ชั้นเลือกทุกอย่างเอง ทั้งแบบงาน ของชำร่วย ห้องหอ ชั้นก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวชั้น
เองอยู่แล้วแหละค่ะ แหมทุกอย่างในห้องชั้นก็วางแผนเอาตัวรอดไว้หมดซะแล้วด้วยสิ 555/ วิวแอบนึกเยาะเย้ย
พี่ฑัตอยู่ในใจ
        /ยัยบ้าเอ้ย ดันเอาสเปรย์พริกไทยมาแอบไว้ แสบตาฉิบเป๋งเลย จำไว้เลยนะ ทำชั้นแสบสันต์ตั้งแต่คืนแรก
ที่เข้าหอแบบนี้ ถ้าชั้นได้เอาคืนเมื่อไหร่นะ เธอเละแน่/ พี่ฑัตนึกแค้นอยู่ในใจหลังจากที่เข้าไปล้างตาและอาบน้ำ
เปลี่ยนเป็นชุดอาบน้ำออกมาเสร็จ และรู้ตัวว่าตัวเองนั้นถูกขังไว้ในห้องนอนคนเดียวแบบนี้

       หลังแต่งงานกันและเข้าหอที่โรงแรมคืนแรกแบบป่วง ๆ ไปแล้ว กลางวันวันต่อมา จู่ ๆ ก็มีกริ่งดังขึ้นที่หน้า
บ้านของฑัต ส่วนฑัตที่ลางานไว้เพื่อจะได้ดูเหมือนว่าเขาแต่งงานตามปกติก็ลางานไว้เป็นเวลา 3 วันโดยให้
เหตุผลว่าเพราะไปฮันนีมูน
       /ใครมากันนะ/ ฑัตคิดในใจขณะที่เดินไปเปิดประตูบ้าน และเมื่อเขาเพ่งสายตามองผ่านแดดจ้ายามบ่าย
ออกไปฑัตก็ถึงรู้ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านของเขาในตอนนี้ก็คือยัยวิวนั่นเอง ฑัตจึงรีบปิดประตู แต่เมื่อเขาปิด
ประตูปึ้ป กริ่งของที่บ้านก็ดังรัว ๆ ขึ้นอีกเป็น 10 ทีติด ๆ กันทันที
      “กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
      /โว๊ย ยัยบ้านี่กวนประสาทที่สุดจริง ๆ/ ฑัตที่เริ่มโมโหจึงหันหลังกลับไปเปิดประตู แล้วรีบสาวเท้าเดิน
ไปยังประตูรั้วทันที
      “Hello ว่าไงคะ สามีหน้าตาไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือว่าคิดถึงภรรยาคนนี้คะ” วิวเริ่มพูดจากวนฑัตก่อน
ทันทีเพราะเธอก็นึกโมโหพี่ฑัตอยู่เหมือนกันที่เขาเปิดประตูออกมาเห็นเธอยืนตากแดดร้อน ๆ อยู่ที่ประตูรั้ว
แล้วเขาก็รีบปิดประตูกลับเข้าบ้านไปทันทีเมื่อช่วงก่อนหน้านี้
      “มาทำไม” ฑัตถามออกมาแบบเสียงสะบัด ๆ เหมือนคนที่กำลังพยายามข่มอารมณ์ไว้แต่เก็บไม่ค่อยอยู่
นัก
      “แหม ความจำเสื่อมหรอคะ สามีขา พึ่งแต่งงานกันเมื่อวานแท้ ๆ ภรรยาก็ต้องย้ายตามเข้ามาอยู่บ้านสามี
สิคะ” วิวจีบปากจีบคอพูดแบบโอเว่อร์แอคติ้งพร้อมกับรีบชูกระเป๋าให้ดู
      “กลับบ้านเธอไปสิ เธอจะมาอยู่อะไรบ้านชั้น” ฑัตเริ่มไล่
      “พี่ฑัตจะให้วิวเข้าไปดี ๆ หรืออยากขายหน้าเพื่อนบ้านแถวนี้ก่อนคะ บ้านข้าง ๆ นี่อาจจะไม่มีใครอยู่
ตอนกลางวันแบบนี้ แต่ถัดไปอีกไม่กี่หลังคงพอจะมีแล้วพวกเขาก็คงได้ยินเสียงวิวคร่ำครวญได้ไม่ยาก
เท่าไหร่ ถ้าวิวจะดราม่าตรงนี้ นี่วิวไม่ได้แค่ขู่นะคะ พี่ฑัตเองก็รู้ว่าวิวเป็นคนยังไง” วิวเริ่มพูดจาข่มขู่ฑัตด้วย
หน้าตาร้ายกาจทันที


         หลังจากฑัตหันมาจ้องหน้าวิวกลางไอแดดที่ร้อนระอุ จนเขาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหงื่อวิวเริ่ม
มีเหงื่อซึม ๆ ออกมาตรงไรผมบนหน้าผากแล้ว หลังจากฑัตยืนชั่งใจอยู่สักครู่หนึ่ง ตอนนี้ฑัตกำลังนึกย้อนกลับ
ไปถึงคืนวันแรกที่เขาบินไปถึงที่ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นครั้งแรก วันนั้นคนที่มารับเขาที่สนามบิน Schipol
ก็คือวิว เขายังจำมันได้ดีเหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง วันนั้นเขาเห็นเธอเป็นครั้งแรกตอนที่เดินออก
มาจากประตูทางออกหมายเลข 3 วินาทีนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งดูโดดเด่นออกมาจากกลุ่มชาวต่างชาติ
ส่วนใหญ่ที่ยืนรอรับผู้โดยสารขาออกคนอื่นอยู่ เธอดูสูงขาว หน้ายาวรีรูปไข่ คิ้วเข้ม ผมสั้นแต่ดำขลับ เธออยู่
ในชุดการเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม รองเท้าผ้าใบสีดำ และสวมแจ็คเก็ตสีดำยาวคลุมทับเสื้อตัวในอยู่ เมื่อเธอเห็น
เขาลากกระเป๋าผ่านที่กั้นที่เป็นราว ๆ สีเงินออกมา เธอก็เข้ามาสวัสดีแล้วถามขึ้นทันทีว่า
        “สวัสดีค่ะ พี่ฑัตรึเปล่าคะ”
        “ใช่ครับ ขอบคุณมากนะคะน้องวิว ที่ช่วยมารับพี่ถึงที่นี่” พี่ฑัตรีบกล่าวขอบคุณอย่างดีใจ
        “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราคนไทยด้วยกัน แถมในเมืองก็มีนักเรียนไทยอยูกันแค่ 2-3 คน แค่นี้ ก็ช่วย ๆ
กันไปค่ะ” วิวยิ้มให้เขาก่อนจะพูดต่อว่า
        “เอากระเป๋า laptop มาให้วิวช่วยถือเถอะค่ะ พี่จะได้ไม่หนักมาก” วิวพูดกับเขาอย่างใจดีก่อนจะยื่นมือ
มารับกระเป๋าไปช่วยถือ 1 ใบ
        “ขอบคุณมากนะครับน้องวิว ช่วยมารับพี่แล้วยังใจดีช่วยพี่ถือกระเป๋าอีก” พี่ฑัตยิ้มให้วิว
        “ไม่ต้องเกรงใจหรือขอบคุณวิวบ่อย ๆ หรอกค่ะ เรื่องแค่นี้เองค่ะ” วิวยิ้มให้เขาอย่างใจดี
         ตอนนั้นเขารู้สึกอุ่นใจที่มีน้องนักเรียนไทยจากเมืองเดียวกันช่วยมารับเขาตามที่เขาไปโพสต์หา
คนช่วยมารับใน facebook ของสมาคมนักเรียนไทย และการที่เขาได้เห็นรูป profile ของเธอและพูดคุย
รายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางและซักถามเธอเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมตัว สภาพอากาศ การใช้ชีวิต
ที่นี่มาก่อนอยู่บ้างก็ทำให้เขาไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าไปเลยซะทีเดียว และเพราะการที่
เขามาถึงหัวค่ำจนเกือบ 2 ทุ่มขนาดนี้ กว่าจะนั่งรถไฟไปยังเมืองที่เขาเรียนอีกก็กินเวลาอีกเกือบ 2 ชั่วโมง
ถ้าเขาเดินทางไปที่เมืองเองก็คงเริ่มมึนตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วรถไฟแล้ว แถมคงหาโรงแรมแทบไม่เจอแน่ ๆ
เพราะมันดึกขนาดนี้แล้ว แต่พอได้คนที่ชำนาญการเดินทางและรู้จักเมืองเป็นอย่างดีมาช่วยแบบนี้เขาก็
เลยสบายใจขึ้นมาก คืนนั้นวิวก็พาเขาไปขึ้นรถไฟ เขาและเธอได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันคร่าว ๆ
จนพอรู้ว่าพื้นเพของทั้งคู่เป็นคนที่ไหน เธอเรียนจบอะไร ที่ไหนมา และเขาจบที่ไหนมา และกำลังทำงาน
อะไรอยู่ เป็นต้น หลังจากถึงที่เมือง เธอก็ไปส่งเขาที่โรงแรมในตัวเมือง ก่อนจะมารับเขาพาขึ้นรถบัสไปที่
มหาวิทยาลัยในเช้าวันรุ่งขึ้น วันต่อมาเธอก็พาเขาไปลงทะเบียนที่ town hall ของเมือง และพาเขาไป
เปิดบัญชีธนาคารอีกด้วย ถ้าจะพูดกันจริง ๆ แล้ววิวก็เคยมีน้ำใจช่วยเขาอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะ
ได้เจอแพรที่บินมาถึงที่เมืองนั้นทีหลังเขา และการที่เขาจีบแพรก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาไม่ถูกกับวิวขึ้นมา

         เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่วิวเคยช่วยเหลือเขามาก่อน เขาก็เลยเดินไปเปิดประตูรั้ว วิวจึงรีบลาก
กระเป๋าลากและหิ้วกระเป๋าถืออีกใบเดินผ่านประตูรั้วบ้านเข้ามาทันที
         “เธอพักให้หายร้อน แล้วก็รีบกลับบ้านเธอไปซะ” ฑัตที่เดินนำหน้าวิวไปทางประตูบ้านพูดขึ้น
         “วิวไม่กลับ วิวจะอยู่ที่นี่ วิวจะอยู่เป็นมารขัดขวางความสุขของพี่ที่บ้านหลังนี้” วิวพูดใส่พี่ฑัตจากทาง
ด้านหลัง
         “วิวพี่ไม่อยากมีเรื่องนะ หยุดพูดจาหาเรื่องพี่สักทีได้มั้ย” พี่ฑัตเริ่มอดโมโหขึ้นมาอีกรอบไม่ได้
หลังจากที่พยายามนึกถึงเรื่องที่ดี ๆ ที่วิวเคยช่วยเขาในอดีตเมื่อสักครู่ แต่พอวิวเริ่มพูดจาไม่ดีใส่ เขาก็เริ่ม
ข่มอารมณ์โทสะเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน
         “คนเลว ๆ อย่างพี่ ยังไงก็คงไม่หมดเวรหมดกรรมง่าย ๆ หรอกค่ะ” วิวพูดจาร้าย ๆ ใส่พี่ฑัตอีกรอบ
ด้วยน้ำเสียงในเชิงเสียดสี
        “ทำยังไงเธอถึงจะเลิกจองเวรจองกรรมชั้นสักทีฮะ แต่งงานพี่ก็ยอมแต่งให้แล้ว วิวจะเอาอะไรจากพี่อีก”
ฑัตที่ข่มอารมณ์ไม่ไหวแล้ว ถึงกับหันมาคว้าแขนของวิวบีบอย่างแรงจนวิวถึงกับทำกระเป๋าถือหลุดมือ หล่นลง
พื้นเสียงดังโครมคราม
         “พี่ฑัต ปล่อยนะ วิวเจ็บ” เจ็บร้องอย่างเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่แขน
         “เธอก็บอกมาก่อนสิว่าเธอจะเลิกมายุ่งกับชั้นสักที” ฑัตบีบแขนของวิวแรงขึ้นอีกอย่างโมโห แต่ไม่ทันไร
เขาก็ถูกวิวเตะกระเป๋าลากที่วางอยู่ข้างตัวเธอให้ล้มใส่หน้าแข้งและเท้าของเขาเข้าอย่างจัง ทำให้ฑัตเจ็บมาก
จนถึงกับต้องปล่อยแขนเธอออกอย่างอัตโนมัติแถมยังร้องเสียงดังลั่น
         “โอ๊ย เจ็บ ๆๆๆๆๆ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่