ชีวิตของนักล่านาซี...ไซมอน วีเซนธัล บทที่ 4

ในการประชุมที่มีขึ้นแบบติดๆกันแทบทุกวัน ระหว่างฮาเรลกับกลุ่มนักอุ้มนั้น...หัวใจสำคัญคือ แผนการที่ว่าจะเอาอดอล์ฟออกไปขึ้นเครื่องบินได้อย่างไร?
เพราะช่องทางที่เป็นไปได้นั้น..มีอยู่สามช่อง  คือ  หนึ่ง...จับยัดใส่กล่องใต้ท้องเครื่อง...สอง เอาไปซ่อนในตู้ที่ลำเลียงอาหารขึ้นเครื่อง ...สาม...จับแต่งตัวเป็นหนึ่งในทีมพนักงานสายการบิน
แล้วก็คุมตัวไปอย่างปรกติ...
ว่าแล้ว..ฮาเรลก็หันมาทาง Avraham Salom  และสั่งว่า..
"หน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจนี้...เป็นของนาย...รีบไปทำแผนงานมาเสนอด่วน..."
ซึ่งหมายถึงว่า อัฟราฮัม จะต้องเร่งประสานกับ ชิโมนี่และไคลน์ ในเรื่องความสะดวกต่างๆที่ไปเริ่มปูพื้นไว้แล้วกับส่วนงานอื่นๆในสนามบิน...
แต่..ไม่ได้หมายความว่า...จะไม่มีเหตุอื่นๆอุบัติขึ้นแบบเหนือความคาดหมาย...เช่น...เกิดมาการตามหาตัวอดอล์ฟแบบจริงจัง ถึงขนาดสั่งให้เครื่องบินที่กำลังจะทะยานขึ้นฟ้า...หยุดเพื่อรอการตรวจค้น...
และทุกคนก็คงอยู่ในสภาพที่เขาคงจะควบคุมอะไรไม่ได้ เพราะนอกจากกัปตันนักบินมือหนึ่ง  Zvi Tohar แล้ว...คนอื่นๆไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการอุ้มอดอล์ฟขึ้นเครื่องในครั้งนี้...

ส่วนเหตุการณ์ที่เซฟเฮ้าส์คงเป็นปรกติ เพราะเชลยไม่มีท่าทีที่จะขัดขืนอะไร ให้ความร่วมมือทุกอย่างโดยดี... ฮาเรลได้ส่งสายสืบหญิงวัยกลางคนเข้ามาอยู่ในบ้านหนึ่งคน...ท่าทางลักษณะเป็นคุณนายร่างท้วมนิดๆ เพื่อมาเป็นเกราะกำบังไม่ให้คนสงสัยว่า บ้านนี้ทำไมมีแต่ผู้ชายมาอยู่ชุมนุมกัน..เธอมีนามว่า Judith Nesiahu
เธอมาอยู่ในลักษณะว่าเป็นคุณนายภรรยาของใครคนหนึ่ง...และผลพลอยได้คือ เข้ามาทำหน้าที่เป็นแม่บ้านจริงๆ คอยดูและเรื่องอาหารและที่อยู่อาศัย...

การตรวจหาข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ต่างก็ช่วยกันดูอย่างละเอียดละออว่าจะมีข่าวเรื่องการหายตัวของอดอล์ฟปรากฏขึ้นมาหรือไม่...
แต่ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท เพราะในหน้าหนังสือพิมพ์ของแต่ละวันมีแต่ข่าวของการจัดงานเฉลิมฉลองเอกราชครบ 150 ปี ที่จะมีขบวนพาเหรด
และ การแสดงแสนยานุภาพของสามเหล่าทัพพร้อมอาวุธ แบบจัดเต็ม..

คืนนั้น ฮาเรลได้ถือโอกาสขึ้นไปดูเชลยที่จับมาด้วยความลำลากยากเย็นด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก...
อดอล์ฟนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง...เมื่อออกคำสั่งให้ลุกขึ้น...เขาก็ปฏิบัติตามอย่างโดยดี...
ฮาเรลนึกสังเวชใจที่เห็นสภาพของคนที่เขาเคยคิดว่า...มันน่าจะมีลักษณะหรือราศีของคนเคยเป็นชนชั้นผู้นำเหลือไว้บ้าง...แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้า...มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
เพราะร่างนั้น..ดูยังไงก็ไม่ต่างอะไรกับชาวบ้านธรรมดาๆนี่เอง...
ฮาเรลรู้ประวัติของอดอล์ฟละเอียดกว่าใครๆ...ว่า...งานที่อดอล์ฟควบคุมอยู่นั้น คือ...จัดการรีดเอาสมบัติและทรัพย์สินต่างๆไปจากยิวจนหมดสิ้น ด้วยการใส่หน้ากากที่ทำเหมือนปรานี
เพราะเขาสามารถพูดภาษาฮีบรูได้...โดยการประกาศออกไปว่า...เป็นการ"ควบคุมชั่วคราว" เพระาเยอรมันต้องการที่จะจัดระเบียบกองทัพและประชาชนให้อยู่กันอย่างปลอดภัย
เมื่อไหร่ที่เยอรมันชนะสงคราม...ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นปรกติ...ยิวจะได้รับสิทธิและเสรีภาพ ที่จะไปไหนหรือทำอะไรก็ได้
และในขณะเดียวกัน...เขาก็เป็นผู้จัดทำตารางเดินของรถไฟทุกสาย...ที่จะเข้าไปสู่สถานีของค่ายนรกให้วิ่งมากเที่ยวที่สุดเท่าที่จะมากได้...ทุกขบวนแน่นอัดไปด้วยชาวยิวทุกเพศทุกวัย...

ฮาเรลหันไปมองร่างนั้นอีกที...ถามตัวเองว่า...นี่ละหรือ...ไอ้ซาตานที่ผลาญชีวิตคนบริสุทธิ์ไปนับล้านๆคน....?

ก่อนลาจากในคืนนั้น ฮาเรลได้ย้ำว่า..
"เข้าใจนะว่า...งานนี้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ขอเวลาอีกแค่อีกสองสามวัน...ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย...เราคงจะได้พักผ่อนกันเสียที"

วันที่ 16 พฤษภาคม  ฮาเรลพยายามจะใช้ทุกโอกาสให้กลายเป็นนาทีทอง...ความคิดที่จะรวบตัว Dr. Josef Mengele ยังอยู่ในสมอง และเขาคิดว่า...ไม่ลองก็ไม่รู้
จากการติดต่อของอิลานี ...เขาได้กลุ่มยิวอาสาช่วยชาติ (sayanim) คือสองสามีภรรยา  Hirel และ  Neomi Pooch ในการเป็นสายสืบไปยังสถานที่ต่างๆ
ที่เขาได้รับรายงานมาว่า เมงเกเล่ อาจใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว...
แต่...เหมือนจะช้าไป...เพราะไม่ว่าตามจี้ไปที่ไหน...ก็ได้รับคำตอบว่า..."เพิ่งย้ายออกไปไม่นานนี้..."
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่