ปวดหัวกินพารา สุขภาพไม่เคยตรวจ

พ่อดิฉันไม่เคยตรวจสุขภาพเลย เวลามีหมอมาที่ทำงานเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี พ่อก็หนีตลอด ไม่รู้ว่าพ่อกลัวหมอรึเปล่า หรือกลัวจะเจอโรคอะไรหรือเปล่า เพราะพ่อเป็นคนสูบบุหรี่จัดมาก พ่อสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 15 ปัจจุบันอายุ 58 ปี พ่อสูบมาตลอดระยะเวลา 43 ปี เวลาพ่อปวดหัวพ่อจะกินแต่ยาพารา พ่อกินยาพาราบ่อยมาก กินทุกวันเลยก็ว่าได้ กินเป็นระยะเวลาเกือบปี บางครั้งพ่อก็ไอหนักมาก บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป

     อยู่มาวันนึงพ่อปวดหัวและปวดหลังมาก แต่พ่อไม่ยอมไปโรงพยาบาล พอวันรุ่งขึ้นขณะที่ดิฉันนอนอยู่ก็เป็นเวลา 8 โมงเช้า ได้ยินเสียงพ่อร้องให้ช่วย “โอ้ย!! ช่วยพ่อด้วย พ่อไม่ไหวแล้ว” ดิฉันจึงรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง ด้วยความที่รีบดิฉันไม่ล้างหน้า ไม่แปรงฟัน หัวกระเซอะกระเซิง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งพ่อที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด พอไปถึงโรงพยาบาลพ่อได้เข้าห้องฉุกเฉิน แล้วพอดิฉันตั้งสติได้จึงรีบกลับบ้านมาแปรงฟัน ล้างหน้าแต่ยังไม่อาบน้ำ และรีบโทรบอกแม่ว่าพ่อเป็นหนักมาก แล้วจึงรีบกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ระหว่างที่รอแม่หมอเรียกดิฉันเข้าไปคุยว่าต้องเอ็กซเรย์ดูว่าเป็นอะไร ซึ่งทางโรงพยาบาลเครื่องเอกซเรย์ไม่ละเอียดพอ ต้องไปเอกซเรย์โรงพยาบาลเอกชน ระหว่างนั้นแม่กับพี่ก็มาพอดี แม่จึงไปโรงพยาบาลเอกชนกับรถพยาบาลที่มีพ่อไปด้วย ดิฉันจึงรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแล้วมารอผลที่โรงพยาบาลและเมื่อถึงโรงพยาบาลก็รอผลเอ็กซเรย์

     เวลาผ่านไปครึ่งวัน ตอนเวลาบ่ายโมงถึงรู้ว่าพ่อเป็น หลอดเลือดแดงโปร่งพอง ซึ่งปริมากและพร้อมที่จะแตกเต็มที่ แถมความดันขึ้นถึง 200 กว่าๆอีก สภาพนั้นเห็นพ่อทรมานมาก นอนนิ่งๆไม่ได้ ดิฉันรู้ว่าพ่อปวดมากแค่ไหนแต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย หมอบอกว่าต้องหาโรงพยาบาลที่ผ่าตัดด้านนี้โดยเฉพาะ และต้องส่งตัวให้เร็วที่สุดเพราะถ้าแตกก็จบ หมอและพยาบาลช่วยกันติดต่อโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯที่มีหมอเก่งทางด้านนี้ บางโรงพยาบาลที่ติดต่อไปก็เรียกส่วนต่างเลย 1 แสน แต่ก็ไม่รับเพราะมีคนไข้รอผ่าตัดอยู่เยอะ คือพยายามติดต่อหลายโรงพยาบาลมาก แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย

     ระยะเวลาล่วงเลยไปจนถึง 4 โมงเย็น ดิฉันนั่งน้ำตาไหลแล้ว แต่ไม่ให้พ่อเห็นนะ เพราะพ่อยังไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร กลัวพ่อจะใจเสียและไม่สู้ เวลาผ่านไปสัก 5 นาทีได้ มีสายโทรเข้ามาจากโรงพยาบาลราชวิถีว่ารับพ่อไปผ่าตัด ทางนั้นบอกว่าสามารถรอได้ไหม เพราะตอนนี้อาจารย์หมอติดผ่าตัดอยู่ แม่ตัดสินใจว่าได้ ยังไงก็ลองดู ดีกว่าอยู่ที่นี่เฉยๆ

     รถโรงพยาบาลจึงไปส่งพ่อที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 5 โมง ช่วงเลิกงาน แถมฝนก็ตก รถก็ติด ดิฉันต้องขอบคุณรถที่ให้ทางรถพยาบาลที่พ่อนั่งไปด้วย พวกคุณมีน้ำใจจริงๆ อย่างน้อยมันก็ช่วยให้พ่อดิฉันถึงมือหมอเร็วขึ้น พอพ่อถึงโรงพยาบาลราชวิถีก็ได้เข้าห้อง ICU ศัลยกรรมหัวใจเลย หมอฉีดยาบรรเทาอาการปวดให้พ่อก่อน แล้วก็คุยรายละเอียดการผ่าตัด ทำสัญญาอนุญาตไว้เลยเพราะคืนนี้คงยังไม่ได้ผ่าตัดเพราะอาจารย์หมอยังคงอยู่ในห้องผ่าตัด แม่ก็ถามค่ารักษาในการผ่าตัด หมอก็บอกว่าอย่าพึ่งพูดถึงเลย ดูแลคนไข้ก่อน (ภาษาหมอเรียบเรียงไม่ค่อยสวย)
  
     เช้าวันรุ่งขึ้นได้รับโทรศัพท์อาจารย์หมอว่าคนไข้อาการหนัก เส้นเลือดปริ ต้องรีบผ่าตัดด่วน หมอไม่รับรองว่าจะปลอดภัยไหม อาจจะรอดกลับมาหรือไปขณะผ่าตัด (หมอพูดภาษาหมอเรียบเรียงอาจไม่สวย) หมอถามว่าจะผ่าไหม ดิฉันเลยบอกไปว่าผ่าเลยคะ แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปดูอาการพ่อ ระหว่างอาบน้ำก็ร้องไห้โหออกมา แบบรู้ว่าพ่อเจ็บมาก กลัวพ่อใจไม่สู้ พอถึงโรงพยาบาลพ่อต้องไปผ่าตัดอีกตึกหนึ่งเพราะเป็นการผ่าตัดด่วน ตึกที่อยู่ห้องผ่าตัดเต็ม พ่อผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือดใหญ่เทียม(เส้นที่ล่อเลี้ยงหัวใจไปยังไต) และใส่ปอดเทียม เนื่องจากพ่อสูบบุหรี่จัด ปอดจึงหาย ดิฉันนั่งรอพ่อรับผ่าตัดตั้งแต่ 9 โมงเช้า เวลาล่วงเลยไปจนถึง 4 โมงเย็น เตียงรถเข็นพ่อออกมาจากห้องผ่าตัดสายระโยงระยางเต็มตัวพ่อไปหมด แล้วก็เคลื่อนย้ายพ่อไปห้อง ICU ศัลยกรรมหัวใจ

     ช่วง 2-3 วันแรกนี่น้ำตาร่วงทุกวัน เห็นพ่อที่เต็มไปด้วยสายระโยงเต็มตัวไปหมด วันที่ 4-7 พ่อไม่ยอมนอนทำให้อาการค่อนข้างทรุด แถมพ่อยังดิ้นอีก เลยต้องมัดมือ มัดขา พยายามพูดให้กำลังใจพ่อ พอพูดเสร็จก็หันหน้าหนี ไม่อยากให้พ่อเห็นดวงตาที่กำลังนองไปด้วยน้ำตา พอวันที่ 8 พ่อค่อนข้างดีขึ้น คุยรู้เรื่องขึ้น แต่พูดไม่มีเสียงนะ ต้องอ่านปากเอา บางวันนี่พ่อบอกอยากตาย ดิฉันอึ้งเลย  ด้วยความที่ดิฉันต้องเข้มแข็ง เราก็ให้กำลังใจพ่อ จึงพูดไปว่าไม่ได้ พ่อต้องอยู่ดูแลแม่ หนูไม่ให้พ่อตายหรอก พ่อต้องสู้นะ พ่อไม่ได้เป็นอะไรเลย พ่อต้องพักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้าน

     พอเข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 อาการพ่อดีขึ้น ผ่านไปได้ 14 วันนับจากวันที่พ่อผ่าตัด พ่อได้ย้ายออกจากห้อง ICU ไปอยู่ห้องผู้ป่วยศัลยกรรมหัวใจ และพักฟื้นได้ 7 วัน พ่อก็ได้กลับบ้าน แต่อาทิตย์หน้าหมอนัดพ่อ 2 วันแน่ะ หมอไต กับหมอหัวใจ(อาจารย์หมอที่ผ่าตัดพ่อนั่นละ)

     วันที่ไปพบหมอหัวใจ ไปโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 โมงเช้า กว่าจะได้พบหมอนี่ตอนบ่าย 2 เพราะหมอติดผ่าตัดด่วน (กรณีนี้เข้าใจอย่างมากเพราะพ่อก็ผ่าตัดด่วน) พอเข้าไปพบหมอ หมอบอกว่านึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว เพราะตอนผ่าตัดน็อคไปแล้ว ปั้มหัวใจขึ้นมา และก็บอกอาการต่างๆๆๆ อันนี้จำไม่ได้ล่ะคะ

     ตอนนี้เวลาก็ผ่านไป 2 เดือนแล้วนับตั้งแต่พ่อผ่าตัด พ่อดีขึ้นมาก สามารถเดินได้ แข็งแรงขึ้น ทำงานเบาๆได้เล็กๆน้อยๆ และที่สำคัญรอยเย็บที่ผ่าตัดเรียบเนียนมากคะ ต้องขอบคุณอาจารย์หมอมากที่รับพ่อมารักษา ถ้าไม่ได้อาจารย์หมอท่านนี้ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะเป็นยังไง เพราะไม่มีการติดต่อจากโรงพยาบาลไหนกลับมาเลยในตอนนั้น และขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้องหมอ พยาบาลโรงพยาบาลแถวบ้านที่ช่วยหาโรงพยาบาลให้  รถบนถนนที่หลีกทางให้ หมอและพยาบาลโรงพยาบาลราชวิถีที่ช่วยเหลือพ่ออย่างดี  และกำลังใจจากหลายๆคน ยอมรับว่าตอนนั้นใจเสียมาก

     ขอทิ้งท้ายนะคะสำหรับคนที่ไม่ชอบตรวจสุขภาพ หรือไม่เคยตรวจสุขภาพ ตรวจเถอะคะ  อย่ารอให้เป็นหนักเลย คุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนพ่อดิฉันนะคะ และถ้าปวดหัว อย่ากินยาพารา ควรหาหมอ จะได้รักษาอย่างถูกวิธี

     เพิ่มเติม อาการหลอดเลือดโปรงพองของพ่อเกิดจากความดันที่เป็นมาตลอดเวลา 2 ปี แต่พ่อคิดว่าแค่ปวดหัวกินยาพาราเดี๋ยวก็หาย ในกรณีของพ่อพอความดันสูงจึงหลอดเลือดจึงโปร่งพอง

    และก็บุหรี่เป็นไปได้ อย่าสูบเลย เดี๋ยวปอดจะหายได้นะคะ  

    ที่ดิฉันตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อที่ได้เตือนใครหลายๆคนที่ไม่ชอบตรวจสุขภาพ ป่วยก็ไม่ไปหาหมอ กินแต่ยาพารา จึงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นอะไร ถ้ารู้ตั้งแต่แรก รักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรก ก็อาจจะไม่เป็นหนักถึงขั้นผ่าตัดได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่