เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว เป็นเรื่องราวของเพื่อนผมคนหนึ่ง ซึ่งผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และมีเพื่อนหลายคนก็อยู่ในเหตุการณ์นี้เช่นกัน ถ้าเล่าตกหล่นยังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผมจบจากโรงเรียนนี้ได้สองปีแล้วอาจมีตกหล่นบ้าง ..
ก่อนอื่นต้องขออนุญาติเพื่อนด้วยที่เอาเหตุการณ์นี้มาเล่า มาเริ่มกันเลยครับ ..
ผมและเพื่อนๆกลุ่มนี้ได้รู้จักกันตอนมาอยู่หอในของโรงเรียนแห่งนี้ โดยที่ผมเป็นเด็กเก่าที่ผ่านชั้นม.3ขึ้นมาม.4 ส่วนเพื่อนๆที่เหลือในกลุ่มเป็นเด็กใหม่ที่มาจาก รร.อื่น
เราก็สนิทกันได้ไวมาก ด้วยนิสัยที่เหมือนๆกัน และในกลุ่มของพวกเรามี 2 คน ที่มันจะไปสอบเตรียมทหาร พวกมัน2คนก็ฟิตร่างกาย อ่านหนังสือกันเต็มที่ ในเทอมที่2หลังจากเพิ่งเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้
และมีอยู่วันหนึ่งในขณะที่พวกผมก็นั่งคุยกันอยู่ในห้องหอใน ขออธิบายห้องที่หอในก่อนนะครับ ลักษณะภายในห้อง มีเตียง4เตียง มีตู้เสื้อผ้าและโต้ะอ่านหนังสือของใครของมัน มีทางเข้าทางเดียว มีกระจกบานเกร็ดให้สามารถเห็นทางเดิน หอนี้มีอยู่ 9 ห้อง ทุกคนในหอจะรู้จักกันหมด ห้องที่เราอยู่รวมกันคือห้อง 204 แต่ผมนั้นอยู่ห้อง208 แต่ก็มานั่งคุยรวมๆกันที่ห้อง204นี้
ตอนกำลังคุยกันอย่างสนุก เวลาไม่ดึกมาก เพื่อนที่ผมบอกว่าจะสอบนายร้อยคนนี้ มันชื่อปัตติ ปัตติก็เดินเข้ามา แล้วมันพูดขึ้นว่า
"กูเจอผีหลอกหว่ะ "
เพื่อนๆก็หยุดคุยกัน แล้วก็เหน็บแนมว่า "คิดไปเองเปล่า" มันจึงเล่าให้ฟังว่า
"ตอนที่กูไปโหนแป้นบาสอ่ะ กูเห็นผู้หญิงท้องยืนอยู่ใต้เสาไฟตรงต้นไทรโรงเรียน...อ่ะ เขากวักมือเรียกกูเว้ย กูเลยเดินไปหา แต่พอยิ่งเดินเข้าไปหา ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนถอยหลังเข้าไปในต้นไทร "
ต้องขออธิบายก่อนว่า สนามบาสโรงเรียนผมนั้น อยู่ใกล้ๆหอเลย มี2สนาม แล้วใกล้ๆกันก็มีโรงเรียนอีกโรงเรียน ตรงโรงอาหารเก่าของอีกโรงเรียนนั้น มีต้นไทรใหญ่มากต้นหนึ่ง เรียกว่าผ่านตอนกลางคืนมีเสียวสันหลังกันบ้างแหะ ถึงแม้จะมีไฟทางก็ตาม
พวกเพื่อนๆก็ถามปัตติว่า อ่าวแล้วทำไง มันก็ตอบมาว่า
" พอกูรู้ว่าใช่แน่ๆ กูก็เดินถอยหลังกลับหอเลยเอ๊ง ให้แน่ใจว่าไม่ได้ตามกูมา แล้วก็ก็มาบอกพวกนี่แหละ"
เพื่อนๆต่างก็พากันคิดว่า ไอ้ปัตติแมร่งมโนละ ก็กลับมาคุยเฮอา แล้วก็แยกย้ายไปอาบน้ำ แล้วก็กลับมานอนเรียงกันในห้อง204
พวกเราได้เอาเตียง 3เตียง มาติดกันเพื่อให้นอนได้หลายๆคน อีกเตียงเป็นของไอ้นัทชิน มันนอนแยก
ส่วนพวกเรา เป็ด เต๋า เบส นัทสิด ปัตติ ก็นอนอัดๆกัน แล้วก็ปิดไฟนอนกันปกติ
ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียง อึกๆอักๆ ดังขึ้น ผมกับเต๋าก็มองหน้ากัน และก็มีเสียงเพื่อนคนนึฃพูดว่า
"ไอ้ปัตติ ไอ้ปัตติ" คือปัตติมีอาการเหมือนแน่นหน้าอกหายไปไม่ออก แล้วทำมือเหมือนพยายามจะแกะมือใครบางคนออกจากคอมัน
พอเพื่อนๆเห็นก็รีบลุกไปเปิดไฟ ก็เหมือนปัตติมีสีหน้าไม่ดี หลับตา แต่มีอาการเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ..
ตอนนั้นพวกเราไปรุมล้อมมันแล้วถามมันว่ามันเป็นอะไร
พวกเราก็คิดว่ามันอำเรา แต่ถ้ามันอำมันคงไม่ดูทรมานขนาดนี้ ตอนนั้นพวกเราไปรวมกันอยู่ที่เตียงไอ้นัทชินกันหมด
ผมถอดเอาพระพุทธชินราชที่ผมคล้องอยู่ ไปให้มันกำ อาการมันก็ยังไม่ดีขึ้น ไอ้เต๋า ก็เอารองเท้าเตะจะฝาดหน้ามัน แต่มันก็ไม่มีอาการสะทบสะท้านอะไร
พวกเราเอะอะโวยวายกันมาก ปัตติเป็นอะไรของเนี่ย ทุกคนในหอตื่นขึ้นและมามองดูพวกเราจากทางเดินผ่านช่องบานเกร็ด
เสียงดังจนทำให้ พี่เฟียตผู้จัดการหอต้องเข้ามาถามว่า "เสียงดังอะไรกัน" พอพี่เฟียตเข้ามาเห็น ก็เงียบแล้วเดินกลับออกไป ผ่านไปไม่ถึง 5นาทีพี่เฟียตก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับสร้อยพระที่มีพระดังๆมากมายรวมอยู่ในเส้นเดียวกัน พอพี่เฟียตมาถึง ก็ทำปากพึมพำ แล้วก็เอาสร้อยเส้นนั้นไปคล้องคอให้ปัตติ ..
---------
อาบน้ำแปป เดี๋ยวมาเล่าต่อ
ไม่ปกติหว่ะเพื่อน ..
ก่อนอื่นต้องขออนุญาติเพื่อนด้วยที่เอาเหตุการณ์นี้มาเล่า มาเริ่มกันเลยครับ ..
ผมและเพื่อนๆกลุ่มนี้ได้รู้จักกันตอนมาอยู่หอในของโรงเรียนแห่งนี้ โดยที่ผมเป็นเด็กเก่าที่ผ่านชั้นม.3ขึ้นมาม.4 ส่วนเพื่อนๆที่เหลือในกลุ่มเป็นเด็กใหม่ที่มาจาก รร.อื่น
เราก็สนิทกันได้ไวมาก ด้วยนิสัยที่เหมือนๆกัน และในกลุ่มของพวกเรามี 2 คน ที่มันจะไปสอบเตรียมทหาร พวกมัน2คนก็ฟิตร่างกาย อ่านหนังสือกันเต็มที่ ในเทอมที่2หลังจากเพิ่งเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้
และมีอยู่วันหนึ่งในขณะที่พวกผมก็นั่งคุยกันอยู่ในห้องหอใน ขออธิบายห้องที่หอในก่อนนะครับ ลักษณะภายในห้อง มีเตียง4เตียง มีตู้เสื้อผ้าและโต้ะอ่านหนังสือของใครของมัน มีทางเข้าทางเดียว มีกระจกบานเกร็ดให้สามารถเห็นทางเดิน หอนี้มีอยู่ 9 ห้อง ทุกคนในหอจะรู้จักกันหมด ห้องที่เราอยู่รวมกันคือห้อง 204 แต่ผมนั้นอยู่ห้อง208 แต่ก็มานั่งคุยรวมๆกันที่ห้อง204นี้
ตอนกำลังคุยกันอย่างสนุก เวลาไม่ดึกมาก เพื่อนที่ผมบอกว่าจะสอบนายร้อยคนนี้ มันชื่อปัตติ ปัตติก็เดินเข้ามา แล้วมันพูดขึ้นว่า
"กูเจอผีหลอกหว่ะ "
เพื่อนๆก็หยุดคุยกัน แล้วก็เหน็บแนมว่า "คิดไปเองเปล่า" มันจึงเล่าให้ฟังว่า
"ตอนที่กูไปโหนแป้นบาสอ่ะ กูเห็นผู้หญิงท้องยืนอยู่ใต้เสาไฟตรงต้นไทรโรงเรียน...อ่ะ เขากวักมือเรียกกูเว้ย กูเลยเดินไปหา แต่พอยิ่งเดินเข้าไปหา ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนถอยหลังเข้าไปในต้นไทร "
ต้องขออธิบายก่อนว่า สนามบาสโรงเรียนผมนั้น อยู่ใกล้ๆหอเลย มี2สนาม แล้วใกล้ๆกันก็มีโรงเรียนอีกโรงเรียน ตรงโรงอาหารเก่าของอีกโรงเรียนนั้น มีต้นไทรใหญ่มากต้นหนึ่ง เรียกว่าผ่านตอนกลางคืนมีเสียวสันหลังกันบ้างแหะ ถึงแม้จะมีไฟทางก็ตาม
พวกเพื่อนๆก็ถามปัตติว่า อ่าวแล้วทำไง มันก็ตอบมาว่า
" พอกูรู้ว่าใช่แน่ๆ กูก็เดินถอยหลังกลับหอเลยเอ๊ง ให้แน่ใจว่าไม่ได้ตามกูมา แล้วก็ก็มาบอกพวกนี่แหละ"
เพื่อนๆต่างก็พากันคิดว่า ไอ้ปัตติแมร่งมโนละ ก็กลับมาคุยเฮอา แล้วก็แยกย้ายไปอาบน้ำ แล้วก็กลับมานอนเรียงกันในห้อง204
พวกเราได้เอาเตียง 3เตียง มาติดกันเพื่อให้นอนได้หลายๆคน อีกเตียงเป็นของไอ้นัทชิน มันนอนแยก
ส่วนพวกเรา เป็ด เต๋า เบส นัทสิด ปัตติ ก็นอนอัดๆกัน แล้วก็ปิดไฟนอนกันปกติ
ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียง อึกๆอักๆ ดังขึ้น ผมกับเต๋าก็มองหน้ากัน และก็มีเสียงเพื่อนคนนึฃพูดว่า
"ไอ้ปัตติ ไอ้ปัตติ" คือปัตติมีอาการเหมือนแน่นหน้าอกหายไปไม่ออก แล้วทำมือเหมือนพยายามจะแกะมือใครบางคนออกจากคอมัน
พอเพื่อนๆเห็นก็รีบลุกไปเปิดไฟ ก็เหมือนปัตติมีสีหน้าไม่ดี หลับตา แต่มีอาการเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ..
ตอนนั้นพวกเราไปรุมล้อมมันแล้วถามมันว่ามันเป็นอะไร
พวกเราก็คิดว่ามันอำเรา แต่ถ้ามันอำมันคงไม่ดูทรมานขนาดนี้ ตอนนั้นพวกเราไปรวมกันอยู่ที่เตียงไอ้นัทชินกันหมด
ผมถอดเอาพระพุทธชินราชที่ผมคล้องอยู่ ไปให้มันกำ อาการมันก็ยังไม่ดีขึ้น ไอ้เต๋า ก็เอารองเท้าเตะจะฝาดหน้ามัน แต่มันก็ไม่มีอาการสะทบสะท้านอะไร
พวกเราเอะอะโวยวายกันมาก ปัตติเป็นอะไรของเนี่ย ทุกคนในหอตื่นขึ้นและมามองดูพวกเราจากทางเดินผ่านช่องบานเกร็ด
เสียงดังจนทำให้ พี่เฟียตผู้จัดการหอต้องเข้ามาถามว่า "เสียงดังอะไรกัน" พอพี่เฟียตเข้ามาเห็น ก็เงียบแล้วเดินกลับออกไป ผ่านไปไม่ถึง 5นาทีพี่เฟียตก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับสร้อยพระที่มีพระดังๆมากมายรวมอยู่ในเส้นเดียวกัน พอพี่เฟียตมาถึง ก็ทำปากพึมพำ แล้วก็เอาสร้อยเส้นนั้นไปคล้องคอให้ปัตติ ..
---------
อาบน้ำแปป เดี๋ยวมาเล่าต่อ