สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูพึ่งอายุ19 เข้ามหาลัยมาแล้ว ตอนนี้ครอบครัวของหนูเหมือนจะไม่สนใจยัยดีกันสักเท่าไหร่ค่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่ายายของหนูตอนนี้เขากระดูกข้อเข่าไม่ดีตามวัยอายุของตัวเอง ลูกๆของยายมี3คนค่ะ แม่ของหนูคือพี่สาวคนโตค่ะ คนกลางคือน้าผู้ชายค่ะ ส่วนคนเล็กคือน้าผู้หญิงค่ะ ((แม่ของหนูเป็นแค่พนักงานบัญชีของบริษัทเฉยๆค่ะ ส่วนคนกลางเขาเป็นหัวหน้าของบริษัทแห่งนึงค่ะ ส่วนคนเล็กมีการมีงานที่ดีในบริษัทธนาคารแห่งนึงค่ะ คนนี้เขามีครอบครัวร่ำรวยไปแล้วค่ะ))
เข้าเรื่องกันเลยค่ะ ยายเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวมากๆๆเลยค่ะ เพราะคุณตาของหนูตอนยังไม่เสียชีวิตเขาชอบตามใจยายจนยายเคยตัวค่ะ ทำให้ชีวิตประจำวันของหนูและแม่ต้องมาคอยตามใจยายเช่นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ยายสามารถทำเองได้ค่ะ นั่นก็คือการหยิบข้าวของที่อยู่ใกล้ๆเพียงแค่เอื้อมมือไปหยิบก็ได้แล้วแต่ตนเองนั้นไม่ทำเอง ตัวเเองจะอ้างว่าขี้เกียจปวดหลัง ทั้งที่ตัวเองสามารถหยิบได้เองแล้วแท้ๆ เมื่อก่อนหนูจะทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ แต่พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ หนูคิดว่าหนูเหนื่อยกับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ยายแล้วค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ตัวของทุกคนสามารถทำได้ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลยค่ะ คำนึงก็ขี้เกียจสองคำก็อ้างอย่างอื่นว่าไม่เอา ปวดหลัง ไม่เอา ปวดนู่นปวดนี่ จนตอนนี้หนูและแม่ก็ไม่เชื่อกับผากของยายเองแล้วแหละค่ะว่าเขาแค่ขี้เกียจหรือเขาปวดจริงๆกันแน่ ยายเขาไม่แม้แต่จะออกกำลังกายเลยค่ะ ทั้งที่คุณหมอบอกให้ยายออกกำลังกายในบ้านตัวเองเพื่อไม่ให้ขาตัวเองมันอ่อนแรงหรืออะไรนี่แหละค่ะ เรียกไม่ถูก แต่ยายไม่ทำเลยค่ะ ยายเอาแต่กินนอนกินนอนดูทีวี วันๆของยายก็มีอยู่แค่นี้เองค่ะ พอแม่หนูแนะนำให้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ยายก็จะด่าและอคติแม่หนูไปทั้งชีวิตเลยค่ะ มีครั้งนึงหนูได้ยินยายด่าแม่หนูประมาณว่า"กูทำไม่ได้หรอก ถ้ากูทำแล้วกูล้มขึ้นมากูจะทำยังไง" และยายก็จะด่าแม่ของหนูให้หนูฟังว่า"แม่มันเลวด่าแต่กู อยากให้กูตายล่ะสิ กูล้มขึ้นมาแล้วถ้ากูติดเตียงขึ้นมาจะทำยังไง แม่พูดจาไม่ดีกับกูตลอดบังคับกูอยู่นั่นแหละ" ทุกอย่างที่แม่หวังดีกับยาย แต่ยายกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายและอคติแม่หนูไปตลอดกาลเลยค่ะ เหมือนมองแม่หนูเป็นคนชั่วคนไม่ดี และตอนนี้หนูก็มีการต่อต้านและหวังดีพูดให้ยายทำอะไรด้วยตัวเอง ยายก็จะเริ่มประนามหนูและเอาไปฟ้องลูกคนกลางและลูกคนเล็กของยายค่ะ กลายเป็นว่าน้าของหนูก็เริ่มมีความคิดว่าหนูเป็นคนไม่ดีในสายตาของพวกเขาไปแล้ว ตอนแรกหนูไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ายายไปฟ้องลูกๆของตัวเอง จนแม่หนูรู้ แม่หนูก็เลยดุยายลั่นบ้านจนทำให้หนูได้ยิน สิ่งนี้มันทำให้หนูคิดว่าสิ่งที่เราช่วยสิ่งที่ทำให้ยายมันไม่ได้มีผลอะไรต่อยายเลย เพราะยายอคติกับหนูและแม่ไปแล้ว เขาคงมองพวกหนูเป็นแค่ขี้ข้าที่ต้องมารับใช้ยาย เช็ดขี้เช็ดฉี่ให้ หนูทำทุกอย่างจริงๆค่ะ คนที่ต้องทำให้ยายมากทีสุดก็คือหนูค่ะ หนูเรียนมหาลัยเลยมีวันหยุดอยู่2วันค่ะไม่นับเสาร์อาทิตย์นะคะ ทำให้หนูสามารถมีวันที่ดูแลยายได้ หนูเรียนมหาลัยในเมืองเลยค่ะต้องนั่งรถไฟฟ้า1ชม.ครึ่ง เพราะบ้านหนูอยู่แถวชานเมืองมันเลยใช้เวลานาน ตอนแรกการดูแลยายมันไม่ได้หนักเท่าตอนนี้ หนูเลยไม่ได้ไปอยู่หอน่ะค่ะ อยากประหยัดด้วยน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ความคิดมันเริ่มเปลี่ยนไปแล้วค่ะ หนูอยากไปอยู่หอข้างนอกแล้ว ถ้ายายอคติต่อหนูขนาดนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหนูต้องไปเรียนตอนเช้าเลยค่ะ หนูเลยรีบตื่นแต่เช้ามาทำอะไรให้ตัวเองให้เสร็จรีบอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวได้5คำเองค่ะ ยายก็เรียกใช้หนูให้หนูอุ่นกับข้าวให้ยาย หนู โมโหมากเลยค่ะ เพราะหนูตื่นตั้งแต่เช้าแล้วแต่ยายไม่ใช้ก่อน มาใช้ตอนที่หนูกำลังจะเตรียมตัวออกจากบ้านแล้ว ถ้าไม่ออกตอนนี้มันจะสายได้ หนูเลยตะโกนใส่ยายไปว่า "หนูต้องไปเรียน หนูไม่ได้ไปไหน อย่าเอาแต่ใจได้มั้ยย" ยายหนูก็โมโหใส่หนูเลยค่ะว่า "แค่อุ่นกับข้าวให้กูจะเป็นจะตายเลยรึไง กูหิวข้าวเนี่ย จะไปก็ไปเลยไป" หนูก็ออกมาจากบ้านเลยค่ะ พอกลับมาที่บ้าน ยายก็ไม่พูดกับหนู หนูก็ไม่พูดกับยาย หนูก็ร้องไห้จนแม่หนูมาเห็น แม่หนูก็ทะเลาะกับยายเรื่องนี้เลยค่ะ แล้วยายก็พูดคำคำนึงที่ทำให้หนูคิดว่ายายเห็นหนูเป็นขี้ข้าของจริงแล้วแหละค่ะ ยายพูดว่า" เรื่องแค่นี้นี่ไปฟ้องแม่เลยนะ แห่มม แม่เลยมาด่ากูเนี่ย" สายใยหนูขาดแล้วค่ะ หมดห่วงคนเห็นแก่ตัวในรูปแบบคนในครอบครัวแล้วค่ะ
จนมาเมื่อวานนี้ลูกคนกลางมาที่บ้านค่ะ ยายก็เอาเรื่องเมื่อวันอังคารที่หนูไปฟ้องแม่ เอาไปฟ้องลูกคนกลางค่ะ จนทำให้แม่หนูและน้าเขาคุยกันค่ะ แม่หนูร้องไห้เพราะเขาสงสารหนูค่ะ หนูทำหนักที่สุดเลย ไม่มีวันหยุดเลยด้วยซ้ำ หนูไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยตั้งแต่ยายเป็นแบบนี้ มีแต่วันที่หนูออกไปเรียนทำให้หนูได้พักได้หายใจหายคอ แต่น้าเขากลับพูดว่า"แล้วจะให้ผมทำไง ผมทำงานตั้ง7วันเลยนะ ผมไม่มีเวลาว่างมาดูแลแม่หรอก" แม่หนูก็เสนอให้จ้างคนมา จ้างเด็กต่างด้าวก็ได้ถ้าไม่มีเงินกันเลย น้าหนูก็ปฏิเสธเพราะไม่ไว้ใจ อันนี้ก็ไม่เป็นไร แต่พอน้าหนูก็พูดว่า"ให้พี่Aเขามาทำให้สิ((พี่Aคือคนในเครือญาติหนูเองค่ะ เขาอยู่ในหมู่บ้านแต่เขาทำงานอิสระค่ะ))" แม่หนูก็บอก"ทำไมต้องให้เขาทำ เขาก็มีงานของเขา อย่าเอาพี่เขามาเกี่ยว และเรื่องนี้แค่ทุกคนมาดูแลแม่แค่นี้ทำไมถึงช่วยไม่ได้เลย คนที่อยู่ใกล้ที่สุดยังไม่มาดูแลเลยสักครั้ง((คนที่อยู่ใกล้ที่สุดคือน้าคนเล็กสุดเองค่ะ))" น้าเขาก็บอกให้แม่จัดการทุกอย่างเองแล้วกัน แม่หนูก็โทรหาน้าคนเล็กสุดแต่เขาไม่รับสายไม่ตอบแชทเลยหาย จนแม่หนูเครียดโทรไปหาพี่Aคนนั้นและเล่าให้ฟังทุกอย่าง คนนอกอย่างพี่Aเขาก็รู้ถึงนิสัยของยายดีเลยค่ะ เขาทำได้แค่ให้คำปรึกษากับแม่หนูและปลอบใจแม่หนูตลอดทั้งสาย หนูที่เป็นลูกก็เหนื่อยและเสียใจที่คนในครอบครัวรังแกทางอ้อมกันแบบนี้
เรื่องทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงของหนูเองค่ะ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านชีวิตของหนูสามารถเม้นบอกวิธีช่วยได้นะคะว่าหนูควรทำยังไงต่อดี ขอบคุณนะคะ
ยายรังแกฉัน(ลูกหลาน)?
เรื่องมันมีอยู่ว่ายายของหนูตอนนี้เขากระดูกข้อเข่าไม่ดีตามวัยอายุของตัวเอง ลูกๆของยายมี3คนค่ะ แม่ของหนูคือพี่สาวคนโตค่ะ คนกลางคือน้าผู้ชายค่ะ ส่วนคนเล็กคือน้าผู้หญิงค่ะ ((แม่ของหนูเป็นแค่พนักงานบัญชีของบริษัทเฉยๆค่ะ ส่วนคนกลางเขาเป็นหัวหน้าของบริษัทแห่งนึงค่ะ ส่วนคนเล็กมีการมีงานที่ดีในบริษัทธนาคารแห่งนึงค่ะ คนนี้เขามีครอบครัวร่ำรวยไปแล้วค่ะ))
เข้าเรื่องกันเลยค่ะ ยายเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวมากๆๆเลยค่ะ เพราะคุณตาของหนูตอนยังไม่เสียชีวิตเขาชอบตามใจยายจนยายเคยตัวค่ะ ทำให้ชีวิตประจำวันของหนูและแม่ต้องมาคอยตามใจยายเช่นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ยายสามารถทำเองได้ค่ะ นั่นก็คือการหยิบข้าวของที่อยู่ใกล้ๆเพียงแค่เอื้อมมือไปหยิบก็ได้แล้วแต่ตนเองนั้นไม่ทำเอง ตัวเเองจะอ้างว่าขี้เกียจปวดหลัง ทั้งที่ตัวเองสามารถหยิบได้เองแล้วแท้ๆ เมื่อก่อนหนูจะทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ แต่พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ หนูคิดว่าหนูเหนื่อยกับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ยายแล้วค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ตัวของทุกคนสามารถทำได้ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลยค่ะ คำนึงก็ขี้เกียจสองคำก็อ้างอย่างอื่นว่าไม่เอา ปวดหลัง ไม่เอา ปวดนู่นปวดนี่ จนตอนนี้หนูและแม่ก็ไม่เชื่อกับผากของยายเองแล้วแหละค่ะว่าเขาแค่ขี้เกียจหรือเขาปวดจริงๆกันแน่ ยายเขาไม่แม้แต่จะออกกำลังกายเลยค่ะ ทั้งที่คุณหมอบอกให้ยายออกกำลังกายในบ้านตัวเองเพื่อไม่ให้ขาตัวเองมันอ่อนแรงหรืออะไรนี่แหละค่ะ เรียกไม่ถูก แต่ยายไม่ทำเลยค่ะ ยายเอาแต่กินนอนกินนอนดูทีวี วันๆของยายก็มีอยู่แค่นี้เองค่ะ พอแม่หนูแนะนำให้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ยายก็จะด่าและอคติแม่หนูไปทั้งชีวิตเลยค่ะ มีครั้งนึงหนูได้ยินยายด่าแม่หนูประมาณว่า"กูทำไม่ได้หรอก ถ้ากูทำแล้วกูล้มขึ้นมากูจะทำยังไง" และยายก็จะด่าแม่ของหนูให้หนูฟังว่า"แม่มันเลวด่าแต่กู อยากให้กูตายล่ะสิ กูล้มขึ้นมาแล้วถ้ากูติดเตียงขึ้นมาจะทำยังไง แม่พูดจาไม่ดีกับกูตลอดบังคับกูอยู่นั่นแหละ" ทุกอย่างที่แม่หวังดีกับยาย แต่ยายกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายและอคติแม่หนูไปตลอดกาลเลยค่ะ เหมือนมองแม่หนูเป็นคนชั่วคนไม่ดี และตอนนี้หนูก็มีการต่อต้านและหวังดีพูดให้ยายทำอะไรด้วยตัวเอง ยายก็จะเริ่มประนามหนูและเอาไปฟ้องลูกคนกลางและลูกคนเล็กของยายค่ะ กลายเป็นว่าน้าของหนูก็เริ่มมีความคิดว่าหนูเป็นคนไม่ดีในสายตาของพวกเขาไปแล้ว ตอนแรกหนูไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ายายไปฟ้องลูกๆของตัวเอง จนแม่หนูรู้ แม่หนูก็เลยดุยายลั่นบ้านจนทำให้หนูได้ยิน สิ่งนี้มันทำให้หนูคิดว่าสิ่งที่เราช่วยสิ่งที่ทำให้ยายมันไม่ได้มีผลอะไรต่อยายเลย เพราะยายอคติกับหนูและแม่ไปแล้ว เขาคงมองพวกหนูเป็นแค่ขี้ข้าที่ต้องมารับใช้ยาย เช็ดขี้เช็ดฉี่ให้ หนูทำทุกอย่างจริงๆค่ะ คนที่ต้องทำให้ยายมากทีสุดก็คือหนูค่ะ หนูเรียนมหาลัยเลยมีวันหยุดอยู่2วันค่ะไม่นับเสาร์อาทิตย์นะคะ ทำให้หนูสามารถมีวันที่ดูแลยายได้ หนูเรียนมหาลัยในเมืองเลยค่ะต้องนั่งรถไฟฟ้า1ชม.ครึ่ง เพราะบ้านหนูอยู่แถวชานเมืองมันเลยใช้เวลานาน ตอนแรกการดูแลยายมันไม่ได้หนักเท่าตอนนี้ หนูเลยไม่ได้ไปอยู่หอน่ะค่ะ อยากประหยัดด้วยน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ความคิดมันเริ่มเปลี่ยนไปแล้วค่ะ หนูอยากไปอยู่หอข้างนอกแล้ว ถ้ายายอคติต่อหนูขนาดนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหนูต้องไปเรียนตอนเช้าเลยค่ะ หนูเลยรีบตื่นแต่เช้ามาทำอะไรให้ตัวเองให้เสร็จรีบอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวได้5คำเองค่ะ ยายก็เรียกใช้หนูให้หนูอุ่นกับข้าวให้ยาย หนู โมโหมากเลยค่ะ เพราะหนูตื่นตั้งแต่เช้าแล้วแต่ยายไม่ใช้ก่อน มาใช้ตอนที่หนูกำลังจะเตรียมตัวออกจากบ้านแล้ว ถ้าไม่ออกตอนนี้มันจะสายได้ หนูเลยตะโกนใส่ยายไปว่า "หนูต้องไปเรียน หนูไม่ได้ไปไหน อย่าเอาแต่ใจได้มั้ยย" ยายหนูก็โมโหใส่หนูเลยค่ะว่า "แค่อุ่นกับข้าวให้กูจะเป็นจะตายเลยรึไง กูหิวข้าวเนี่ย จะไปก็ไปเลยไป" หนูก็ออกมาจากบ้านเลยค่ะ พอกลับมาที่บ้าน ยายก็ไม่พูดกับหนู หนูก็ไม่พูดกับยาย หนูก็ร้องไห้จนแม่หนูมาเห็น แม่หนูก็ทะเลาะกับยายเรื่องนี้เลยค่ะ แล้วยายก็พูดคำคำนึงที่ทำให้หนูคิดว่ายายเห็นหนูเป็นขี้ข้าของจริงแล้วแหละค่ะ ยายพูดว่า" เรื่องแค่นี้นี่ไปฟ้องแม่เลยนะ แห่มม แม่เลยมาด่ากูเนี่ย" สายใยหนูขาดแล้วค่ะ หมดห่วงคนเห็นแก่ตัวในรูปแบบคนในครอบครัวแล้วค่ะ
จนมาเมื่อวานนี้ลูกคนกลางมาที่บ้านค่ะ ยายก็เอาเรื่องเมื่อวันอังคารที่หนูไปฟ้องแม่ เอาไปฟ้องลูกคนกลางค่ะ จนทำให้แม่หนูและน้าเขาคุยกันค่ะ แม่หนูร้องไห้เพราะเขาสงสารหนูค่ะ หนูทำหนักที่สุดเลย ไม่มีวันหยุดเลยด้วยซ้ำ หนูไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยตั้งแต่ยายเป็นแบบนี้ มีแต่วันที่หนูออกไปเรียนทำให้หนูได้พักได้หายใจหายคอ แต่น้าเขากลับพูดว่า"แล้วจะให้ผมทำไง ผมทำงานตั้ง7วันเลยนะ ผมไม่มีเวลาว่างมาดูแลแม่หรอก" แม่หนูก็เสนอให้จ้างคนมา จ้างเด็กต่างด้าวก็ได้ถ้าไม่มีเงินกันเลย น้าหนูก็ปฏิเสธเพราะไม่ไว้ใจ อันนี้ก็ไม่เป็นไร แต่พอน้าหนูก็พูดว่า"ให้พี่Aเขามาทำให้สิ((พี่Aคือคนในเครือญาติหนูเองค่ะ เขาอยู่ในหมู่บ้านแต่เขาทำงานอิสระค่ะ))" แม่หนูก็บอก"ทำไมต้องให้เขาทำ เขาก็มีงานของเขา อย่าเอาพี่เขามาเกี่ยว และเรื่องนี้แค่ทุกคนมาดูแลแม่แค่นี้ทำไมถึงช่วยไม่ได้เลย คนที่อยู่ใกล้ที่สุดยังไม่มาดูแลเลยสักครั้ง((คนที่อยู่ใกล้ที่สุดคือน้าคนเล็กสุดเองค่ะ))" น้าเขาก็บอกให้แม่จัดการทุกอย่างเองแล้วกัน แม่หนูก็โทรหาน้าคนเล็กสุดแต่เขาไม่รับสายไม่ตอบแชทเลยหาย จนแม่หนูเครียดโทรไปหาพี่Aคนนั้นและเล่าให้ฟังทุกอย่าง คนนอกอย่างพี่Aเขาก็รู้ถึงนิสัยของยายดีเลยค่ะ เขาทำได้แค่ให้คำปรึกษากับแม่หนูและปลอบใจแม่หนูตลอดทั้งสาย หนูที่เป็นลูกก็เหนื่อยและเสียใจที่คนในครอบครัวรังแกทางอ้อมกันแบบนี้
เรื่องทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงของหนูเองค่ะ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านชีวิตของหนูสามารถเม้นบอกวิธีช่วยได้นะคะว่าหนูควรทำยังไงต่อดี ขอบคุณนะคะ