ความเกียจคร้านได้ขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อนเมื่อ...


เรื่อง / พัฒน์ นวลจีน
ความเกียจคร้านได้ขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อนเมื่อ...


ใครบ้างที่ไม่ชอบมัน ความเกียจคร้านยินดีเป็นเพื่อนกับเราและอย่างเข้าใจเหมือนกับรู้จักกันมานานชั่วชีวิต เราจะถวิลหาเกียจคร้านเมื่อไหร่ก็ได้ตั้งแต่แดดออกยันแดดตก มันพร้อมที่จะเสนอตัวเข้ามานั่งเป็นเพื่อนเราทุกเวลาและเมื่อเรายินดี

    ดอกตะแบกชูช่อขึ้นไปในแนวดิ่ง ดอกสีม่วงของมันสะดุดตาริมถนนลาดยางในสายของต้นฤดูหนาว แต่อากาศวันนี้ไม่อนุญาตให้ลมหนาวพัดมาตามชื่อของฤดู แดดยังทำหน้าที่ร้อนคลั่งและเรียกเหงื่อให้ออกทางรูขุมขนตลอดเวลา อีกทั้งมันยังสามารถฉุดให้เราลุกขึ้นจากที่นอนโสมมที่ขลุกอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เดือนก่อนเพราะความรีบเร่งของเวลาเพื่อปากท้อง ทำให้ไม่มีเวลาแม้แต่จะจัดการกับผ้าปูที่นอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หรือขนาดวันหยุดที่เพื่อนเก่าความเกียจคร้านมันเข้ามากล่อมให้เปลือกตาคล้อยต่ำและฝืนทนหลับในห้องที่อบอ้าว หรืออย่างขยันก็ลุกขึ้นมาปิดม่านให้บดบังแสงแดดยามสายที่ทะลึ่งสาดเข้ามาในห้องเพื่อแหวกตาเรา และเราจะยอมสบัดความเกียจคร้านนั้นออกไปก็ต่อเมื่อท้องเรียกร้องหาอาหารมื้อแรกของวัน

    การตื่นนอนเป็นไปอย่างเนือยช้า และ (บางคน) สิ่งแรกที่ทำเมื่อตืนนอนคือมองเข็มนาฬิกาหรือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสพ Social Network ก่อนที่จะดันตัวเองขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างจริงจัง จากนั้นเราเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยแต่ยังไม่ยอมลดตัวลงไปเพื่ออาบน้ำและเดินกลับมาที่เตียงนอนโสมมและมีกลิ่นที่เหมือนยานอนหลับ เรานอนทิ้งกายอยู่บนนั้นนานพอที่จะทำให้เรารู้สึกว่าวันนี้ต้องทำอะไรเสียบ้างแต่เข็มนาฬิกาก็เดินเลยครึ่งวันมาเสียแล้ว ท้องเราร้องเพื่อต้องการมื้อแรกของวันอย่างจริงจัง เรากระวีกระวาดอาบน้ำอย่างรีบเร่งแข่งกับความหิวโหยที่มาเคาะประตูรออยู่ที่หน้าบ้าน จนสุดท้ายก้าวแรกที่ย่างเดินออกจากบ้านก็มาถึงเราในเวลาบ่ายอ่อน เพราะเรา (ส่วนใหญ่) มักมีความเกียจคร้านชวนออกไปกินข้าวนอกบ้านมากกว่าให้ความขยันชวนเราทำอาหารกินเองในห้องครัว

    และเมื่อถึงร้านอาหารเราปิดเมนูลงเพราะไม่มีเวลามานั่งคิดว่าจะสั่งอะไรในนาทีเร่งรีบของความหิวเช่นนี้ อาหารสิ้นคิดและติดปากจึงเป็นเมนูแรกที่นึกถึง จากนั้นเราพาร่างกายที่ยังไม่ตื่นดีจากปาร์ตี้หนักหน่วงของค่ำคืนไปหาคาเฟ่เจ้าประจำที่มุมถนน เพื่อจิบกาแฟแก้วแรกของวันในตอนบ่าย! มันไม่ควรเป็นเช่นนั้นในความรู้สึกแต่เราไม่มีทางเลือกและพลางคิดว่าเวลานี้คือ Coffee Time ในความจำเป็น

     ก่อนจะถึงเวลาตะวันรอนเราหยิบหนังสือของนักเขียนที่ชื่นชอบออกมาอ่านฆ่าเวลาหรือนั่งเล่น Social Network ต่อไปเพื่อรอการ Comment หรือกด Like จากเพื่อนสนิทหรือคนแปลกหน้ามันทำให้เรารู้สึกว่าเรามีคนพูดคุยด้วยอยู่รอบกายแต่ในความเป็นจริงเราเป็นเพียงคนเดียวดายนั่งมองหน้าจออยู่ที่โต๊ะมุมในสุดของคาเฟ่ก็เท่านั้น ความเหงามันร้ายกาจในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะคนใน พ.ศ. นี้เลือกที่จะยิ้มให้กล้องถ่ายรูปมากกว่ามองตากัน

    เรา (หรือผมถ้าคุณจะคิดแบบนั้น) นั่งมองควันบุหรี่ม้วนสายที่ถูกไฟแผดเผาจนเป็นเถ้า เพราะความเกียจคร้านที่จะเขี่ยมันทิ้งลงในถาดเขี่ยบุหรี่ เพราะมัวแต่นั่งคิดถึงความฝันยิ่งใหญ่บัดซบและลอยฟุ้งในความคิดของคนวัยกำดัด เขา (ใครช่างมัน) เป็นนักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดของคาเฟ่แห่งนั้นบอกว่า “ผมตั้งใจจะเรียนจบในสาขาที่เรียนมา และมีเก้าอี้ในรัฐสภา ผมไม่ได้เกลียดคนแก่ แต่ไม่ชอบคนแก่ที่มัวแต่อร่อยกับบ้านเมือง”

    พนักงานสาวธนาคารที่ทำงานในวันหยุดหล่อนคุยถึงการขายประกันกับลูกค้าทางโทรศัพท์ และหล่อนหลบแดดร้อนมาสั่งน้ำมะเขือเทศปั่นดื่มเพื่อความคิดที่ว่าสุขภาพหล่อนจะดีขึ้นจากการนอนดึกติดต่อกันหลายคืน

    เช่นกันกับนักศึกษาสาวแห่งมหาวิทยาลัย พวกหล่อนมาติวหนังสือกันในวันที่ไม่มีการเรียนการสอนดูเหมือนว่าความขยันจะชักจูงหล่อนมาแต่ความจริงแล้วความเกียจคร้านต่างหากที่จูงมือพวกหล่อนเข้ามาหา Wifi เพื่ออัพโหลดรูปภาพและจริตแคปชั่นสวยหรู

    จะมีก็แต่คนกวาดขยะข้างนอกนั่นที่ดูขยันกว่าใครอื่น เพราะงานของเขามีให้ทำทุกวันและอย่างล้นมือราวกับว่าความสกปรกของประเทศนี้จะเป็นสินค้าส่งออก

    และสำหรับคน (หากจะคิดเป็นผม) ที่ไม่มีงานการอะไรทำเป็นหลักแหล่งก็มีความเกียจคร้านมานั่งเป็นเพื่อนเช่นกัน และความฝันที่ดูเหมือนท้องฟ้าหม่นในฤดูฝน มันเศร้าระคนในทำนองเดียวกับเพลง Nearer My God to Tree เขานั่งมองควันบุหรี่อย่างนั้นในถาดเขี่ยและจุดมันขึ้นมาอีกมวน จนสิ้นควันจางจากนั้นเขาลุกขึ้นสะพายกระเป๋าออกไปจากร้าน ถึงตอนนั้นเข็มนาฬิกาก็เดินมาถึงบ่ายแก่ เมื่อเดินทางมาถึงบ้านและกลับเข้ามาในห้องนอนความเกียจคร้านมันตบเตียงชักชวนให้เข้าไปหา

    ฝนท้ายฤดูตกลงมาเหมือนไล่ช้างไม่นานเท่าไหร่มันก็หยุดลงและทิ้งความชื้นไว้บนดินหมาดน้ำกลิ่นมันฟุ้งอากาศจรุงขึ้นมาและเช่นเคยมันทำให้คิดถึงที่นอนและหมอนข้างกลิ่นคุ้นเคย สุดท้ายเรายอมแพ้ให้กับมัน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีเข็มนาฬิกาก็เตรียมดึงตะวันตกดิน หมดวันอีกเช่นเคยและกลางคืนโศกเศร้าและเหงาเดียวดายก็มาถึง การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานแม้ไม่มีอะไรทำนอกจากกด Refresh รอการอัพเดทของใครบางคนจนกินเวลาถึงวันใหม่ ความง่วงจึงจูงมือเราขึ้นเตียง

    เช้าวันใหม่มาถึงและความเกียจคร้านเป็นสิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาตื่น
    เราสนิทกันเหลือเกินและดูเหมือนจะเป็นเพื่อนตาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่