ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

สวัสดีค่ะ ได้อ่านจากหลายๆกระทู้เรื่องประสบการณ์ชีวิต เลยอยากจะมาแชร์ความรู้สึกนี้ให้กับเพื่อนๆบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มเขียนยังไง เรียบเรียงไม่ค่อยถูกก็ขออภัยด้วยนะค่ะ
                  เริ่มจากตอนที่ จขกท ยังเป็นเด็กเลยนะค่ะ ชีวิตความเป็นอยู่ในวัยเด็กนั้น พ่อแม่ จขกท เป็นลูกจ้างกรรมกรก่อสร้างนะค่ะ ได้มาสร้างบ้านให้เจ้านายคนนึง ซึ่งท่านได้ไปอยู่กรุงเทพ บ้านเลยสร้างยังไม่ทันได้ตกแต่งภายในและภายนอก แลดูคล้ายบ้านร้างนะ แต่เจ้านายได้ให้ พ่อแม่ เฝ้าบ้านให้โดยให้อาศัยอยู่ฟรีค่ะ แต่ดูแลทำความสะอาดบ้านให้ จขกท ก็เรียนโรงเรียนวัดธรรมดาอยู่ฝั่งตรงข้ามซุปเปอร์ พ่อไปรับไปส่ง บางครั้งถ้าพ่อไปทำงานเช้าก็เดินไปค่ะ ชีวิตเป็นอยู่มาเรื่อยๆ จนพ่อเลิกเป็นลูกจ้างออกมา ทำรับเหมากับนายตำรวจท่านนึง ได้รับงานคุมงานที่ดอยสะเก็ด เชัยงใหม่ สร้างมหาวิทยาลัยค่ะ เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้สวย มีแผนการจะออกรถยนต์มาใช้ทำงาน แต่ จขกทดันมาประสบอุบัติเหตุ ช่วง ปี 2550 เดือน เมษายน วันที่ 15 ต้องเข้าทำการรักษาอยู่โรงพยาบาลใกล้ที่เกิดเหตุค่ะ ดันเป็นโรงพยาบาลเอกชนซะนิ ค่าใช้จ่ายแพงสุดๆไปเลย ต้องหาเงินมาวางมัดจำไว้ค่าผ่าตัด 80,000เพราะ จขกท เลือดคลั่งในสมอง เพื่อน ไหล่หลุดต้องดาม รวมค่ารักษาตอนนั้น150,000 ทำเอาครอบครัวล้มเลยค่ะ ทุกอย่างเหมือนต้องเริ่มใหม่ แต่ยังไม่พอ ผ่านไปไม่กี่เดือนต้องมารับข่าวจากเจ้าของบ้านที่อาศัยว่าเค้าจะกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว ได้ให้ช่างมาต่อเติม  มันเหมือนความฝันเลยค่ะ ชีวิตที่เกิดมากับบ้านหลังนี้ ผูกพันกับที่นี่ อยู่ๆเราต้องไปจากจริงๆมันน่าเศร้าค่ะ ทีนี้กลายเป็นคนไม่มีที่อยู่เลยค่ะ ครอบครัวต้องหาบ้านเช่าอยู่ พ่อแม่ไปนอนที่แคมป์คนงานที่ทำงาน เราอยู่กลับพี่ชายสองคนดูแลกันเอง พี่สาวก็ทำงานสปาอยู่ในตัวเมือง จนใกล้จบ ม.3เทอม1 เราย้ายไปเรียน โรงเรียนใกล้ที่ทำงาน เนื่องจากมีปัญหากับทางโรงเรียนซึ่งไม่ขอกล่าวนะค่ะ ทีนี้มาอยู่กับแม่ที่แคมป์คนงานชีวิตหละงจากย้ายออกมาจากบเานนั้นก็เหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวดูรุ่งเรืองขึเนมาก เราเปิดร้านขายของชำเล็กๆที่แคมป์ จนวันสอบจะจบ ม.3แล้ว เราก็ต้องมารับข่าวจากหมอเมื่อพ่อป่วยหนัก ว่าพ่อป่วยเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน เราไม่ได้เข้าใจความหมายมากค่ะในตอนนั้น แค่รู้ว่าพ่อหนักมาก สมองเบลอ จำไรไม่ค่อยได้ ต้แงพักงานรักษาตัวค่ะ มันก็ดูคล้ายไม่มีไรมากเมื่อสักระยะพ่อก็แลดูเหมือนจะดีขึ้น ทำงานเหมือนเดิมแต่ที่ไหนได้ ด้วยความไม่รู้ สุดท้ายพ่อก็ต้องเข้ารักษาด้วยการ ฟอกไต การศึกษาที่กำลังจะศึกษาต่อก็ต้องหยุดลง สิ่งที่หวังมันหยุดลงค่ะ เพราะต้องออกมาหาเงิน และด้วยความที่ต้องใช้เงินมากในการรักษาต่อครั้งมันแพง ไม่มีหนทางใดที่จะหาเงินจำมากต่ออาทิตย์ได้ จขกท เลยมาทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค่ะ (ไม่ได้อยากที่จะเป็นแต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องทำค่ะ) งานกลางคืนที่คนก็ดูถูกอยู่แล้ว จขกท กับพี่สาว ช่วยกันทำงานส่งเงินให้พ่อรักษาตัวมาร่วมปีอาการดูดีขึ้น พ่อกลับมาทำงานได้ บอกให้อยู่เฉยๆก็ไม่อยู่นะ ก็มาทำงานพ่อบอกอยากได้รถ ไม่อยากซื้อหรอกค่ะเพราะกลัวว่าจะไม่มีปัญญาผ่อน แต่พ่อก็ดื้อจะเอา แม่เลยเอาเงินก็บที่มีไปดาวน์รถกะบะ แล้วเราก็ผ่อนค่ะ ทีนี้หนักเลย หมุนเงินเไม่ทันเลยค่ะ ได้มาก็จ่าย เหนื่อยมากค่ะ จนพ่อมาทรุดอีกครั้งเมื่อเข้าปีที่3 พ่อต้องหยุดพักและอาการเริ่มแย่ลงทุกวันตัวเริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ ปีที่4นี่ยิ่งแย่พ่อเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นจนพยาบาลบางท่านเบื่อหน้าเลยละค่ะ พ่อต้องนอนพิงกำแพง หายใจไม่ค่อยออก มองดูพ่อแลเวมันทรมานมาก มันเจ็บแทนทุกครั้งที่มอง มันรับไม่ได้ ก่อนพ่อจะเสียตอนเข้าICU ต้องมาเห็นตอนที่ใส่เครื่องช่วยหายใจเข้าไปในคอมันยิ่งเจ็บ แต่ก็ยังรอดออกมายิ่งข้างนอกอีกเกือบอาทิตย์นะค่ะ ก่อนกลับไปโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย พ่อบอกพ่อไปอาจจะไม่กลับมาอีกนะ ยังคิดว่าพูดเล่นเลย แต่มันก็สุดท้ายจริงๆ พ่อตัดพร้อก่อนเสัยว่า ไม่น่าเลย ชีวิตทำไมไม่คิดว่าจะถึงจุดจบแบบนี้ ไม่เหลือแล้วไม่มีอะไรเหลือแล้ว แล้วร้องไห้ ...ใช่ค่ะ ไม่เหลือแล้วจริงๆ รถขาย มอไซค์เข้าไฟแนนซ์ จัดงานศพพ่อ หลังจากพ่อเสียก็ต้องมาทำงานใช้หนี้ จะเริ่มพื้นตัว เราก็มาเกิดอุบัติเหตุทางรถซ้ำสอง ค่าโรงพยาบาล หมดไปเป็นแสนอีกเช่นกัน มันท้อค่ะมันคอยคิดว่าบางทีเราก็เหมือนตัวถ่วงคนในครอบครัวเลยค่ะ กำลังจะไปได้ดีก็ทำให้ครอบครัวลำบากอีก หลายอย่างในชีวิตที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด สิ่งที่ควรจะเป็นก็ไม่ได้เป็น มันรันทดกว่านี้อีกหลายเรื่องที่มันยุ่งยากมาก จนทำให้บางที จขกท ยังคิดว่าเราเกิดมาทำไมถ้าจะ ซวยอะไรขนาดนี้ จนตอนนี้ก็ยังมีอาการซึมเศร้าบ้าง แต่ยังดีที่มีคนในครอบครัวคอยให้กำลังใจ ปัจจุบัน พ่อเสีย ไป2ปีแล้ว จขกท ได้ยืมเงินพี่สาวมาลงทุนทำพ่วงข้างขายอาหาร ก็ขอให้สิ่งดีๆมันเข้ามาบ้างเถอะค่ะ เริ่มชีวิตใหม่ คนที่กำลังท้อก็ขอให้สู้นะค่ะ

หวังว่าถ้ากิจการดีขึ้น คงได้มาตั้งกระทู้ อีกนะค่ะ     ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่