พ่อแม่หย่ากัน แยกกันอยู่ ควรคุยให้เขากลับมาคืนดีกัน หรือปล่อยไว้อย่างนี้สักพักคะ

สวัสดีคะ ตอนนี้ จขกท. มีปัญหาคือ พ่อแม่หย่ากัน .. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครอบครัวมี 4 คนคะ แม่ตั้งท้อง จขกท. ตั้งแต่แม่อายุ 16 ปี จขกท. มีน้องสาวอายุ 15 ปีคนนึง สาเหตุการหย่าร้างมันเริ่มมาจาก พ่อของ จขกท. เป็นคนสังสรรค์ เรียกได้ว่า กินเหล้าเก่งมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่พ่อเป็นคนเอาการเอางาน เป็นรองประธานชุมชน มีสังคมกว้าง พ่อถูกเรียกตัวจากภาคอิสานถูกบริษัทใหญ่เรียกมาทำงานอยู่เมืองอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ตอนนั้นครอบครัวก็ย้ายมาอยู่นี้ทั้งหมด ตอนนั้นแม่ท้อง จขกท. อยู่ พักกหลังแม่เริ่มกินเหล้าบ้าง แม่เป็นแม่ค้า มีลูกค้าเยอะ สังคมแม่กว้างออกไปเริ่มๆ บางครั้งแม่ก็ไปนั่งกินด้วยกับพ่อบ้าง บางครั้งพอพ่อออกไป แม่ก็แอบออไปบ้าง และมักจะกลับมาก่อนพ่อเสมอ บางวันโชคไม่เข้าข้างแม่ พ่อกลับมาก่อน ก็มีเรื่องทะเลาะกัน หลังจากทะเลาะแม่ก็บอกกับพ่อว่า จะไม่กินแล้ว สุดท้ายแม่ก็แอบออกไปกินตลอด แม่เคยไปเมาหนักมาก กลับมาเดินชนบ่อน้ำพุในบ้านแตก และหลับคาตรงนั้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แม่บอกว่าตั้งน้ำพุไว้ในบ้านเงินทองไหลมาเทมา ยังดีที่แม่ไม่เป็นอะไร ไม่มีใครในบ้านได้ยินเสียงบ่อน้ำพุแตก บางครั้งแม่กลับมาก็อ้วกหมดสภาพคาที่โถส้วม นั่นเป็นเหตุที่ทำให้พ่อไม่พอใจแม่ พ่อบอกว่าแม่ติดเหล้ามาก  พ่อโกรธจัดต่อยทีวีจอติดผนังในห้องนอนตัวเองแตกถึง 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดกระดูกหัก วันนั้นเป็นวันที่ จขกท. มีสอบปลายภาค แม่กลับไปไหนกับพ่อมาไม่รู้ ตอนนั้นพ่อ จขกท. อารมณ์ดูฉุนเฉียวและเย็นชา แต่จขกท. ก็ไม่ถาม พอไปขึ้นรถ แม่ก็ตาแดง ร้องไห้ โทรคุยกับพี่สาว ตอนนั้น จขกท ไม่เอะใจอะไร คงทะเลาะกับพ่อปกติ แม่วางโทรศัพท์สักพักแล้วโยนกระดาษมาให้ ตอนแรก จขกท คิดว่าเค้าไปทำประกันให้ จขกท หรอ? พอพลิกดูอีกด้าน ยังไม่เปิดข้อมูลข้างใน มันมีตัวอักษรเล็กๆ เขียนว่า เอกสารการหย่า โลกทั้งโลกหมุนเคว้ง ทุกอย่างพังลงมา สมองดับไปหมด เข้าใจเลยว่าแม่ร้องไห้อะไร จขกท นั่งนิ่งน้ำตาไหล แม่เขาหันมาปลอบประมาณว่า "หนูจะร้องไห้ทำไมลูก แม่ก็ยังอยู่นี่แหละ ลูกค้าแแม่อยู่นี่เยอะแยะ แม่ไม่ไปไหนหรอก" ตอนนั้น จขกท. ตอบแม่กลับเพียงคำสั้นๆว่า " เงียบ " แล้วแม่ก็เลิกพูด อ่านดูเหมือน จขกท เป็นเด็กเกเร แต่ ณ ตอนนั้น จขกท กำลังคิดทุกอย่าง ต้องทำงานบ้านเองใช่ไหม? ไม่มีใครไปรับส่งใช่ไหม? ตอนั้ไม่มีสมาธิสอบ พกทิชชู่เข้าห้องสอบ ทำข้อสอบเสร็จเร็วมาก แล้วก็นั่งเหมอ บางครั้งน้ำตาก็ไหลออกมา เพราะสมองเอาจิตไปผูกกับเรื่องนี้ ทั้งๆที่ก็รู้ว่า ที่กำลังทำอยู่คืออนาคต กลับมาบ้านก็ไม่มองหน้าพ่อหนึ่งวันเต็ม ไม่ออกไปกินข้าว อยู่แต่ในห้อง เตรียมอ่านสอบสำหรับวันอื่นๆ ------- ณ ปัจจุบันถึงวันนี้ แม่ไม่อยู่ได้ 1 อาทิตย์แล้ว โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอม แบ่งงานบ้านกับน้องสาว พ่อพยายามสอนเราสองคนขี่รถ เพราะเปิดเทอมเขาไม่อยากให้เราตื่นเช้าเดินไปโบกรถสองแถวเอง ส่วนเรื่องอาหารการกิน จขกท ดูสูตรในพันทิปบ้าง ในยูทูปบ้าง หลังจากวันนั้นทำใจได้ก็ออกมาคุยกับพ่อปกติ พ่อต้องทำงานจันทร์ - ศุกร์ ออกจากบ้านตั้งแต่ 7.30 น. กลับประมาณ 17.00 น. พ่อทำอาหารให้กิน มีช่วงเวลาที่พ่อไปทำงานแม่จะแวะเอาของกินหรือขนมมาฝาก  มาทำความสะอาดบ้านบ้าง มาหุงข้าวหรือทำกับข้าวไว้ให้ พ่อเขารู้ว่าอาหารหรือพวกกับข้าวนี้แม่เป็นคนมาทำไว้ แต่พ่อไม่เคยมีท่าทีรังเกียจที่แม่ยังเข้ามาในบ้าน มารับไปทำธุระที่โรงเรียน เนื่องจากรถยนต์ที่แม่ใช้อยู่เป็นเงินที่พ่อกู้งานบริษัทและยืมเงินย่ามาส่วนหนึ่ง พ่อบอกว่า ถ้าแม่ไม่ใช้รถมารับ-ส่งเรา พ่อจะขายรถนั้นซะ ตอนนี้แม่ไปเช่าอพาตเม้นท์อยู่ตัวคนเดียว กับรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่แม่ซื้อเอง (ซึ่งมันเป็นสมบัติของแม่) แม่หอบเสื้อผ้าไปหมดตู้ ไหนๆ ก็มาระบานแล้ว ก็อยากระบายให้หมด อดีตที่แม่อยู่ พ่อให้เงินเดือนแม่เดือนละ 3,000 บาท แม่มีอาชีพเสริม แต่โดยรวมแม่ต้องรับผิดชอบค่าขนมของพวกเราสองคน (อาทิตย์ละ 400 บาทต่อคน) แม่ต้องรับผิดชอบค่ากับข้าวในบ้าน อันที่จริง 3,000 ที่พ่อให้มาไม่พอหรอก แต่แม่เป็นคนหาเงินเก่งสุดๆ คนหนึ่ง แต่ตอนที่แม่อยู่ จขกท มักจะไม่ค่อยลงรอยกับแม่เท่าไร เคยได้ยินเรื่อง ขาลกับวอกไม่ถูกกันไหม? จขกท และพ่อ เกิดปีขาล และแม่เกิดปีวอก เราสองคนมักเป็นคนที่มีปัญหากับแม่ ซึ่งที่ถูกต้องคือ น้องคนเล็ก จะเป็นคนแม่ชอบมากที่สุด น้องจะได้เงินค่าขนมเพิ่มทุกครั้ง แต่ จขกท จะไม่ได้ เพราะ จขกท มีนิสัยเหมือนพ่อ เงียบ นิ่ง ดื้อหัวชนฝา หาเงินเอง และใช้เงินเป็น แม่คงคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้เงิน จขกท เพิ่มก็ได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องนี้ไม่ได้โกรธแม่อะไร เพราะ จขกท ก็ขอให้น้องเลี้ยงขนมบ่อยๆ อีกทั้งที่พูดไปเรื่องแม่ท้อง จขกท ตั้งแต่เขาอายุ 16 ปี ในวันเกิด จขกท อายุ 16 ปี แม่นั่งคุยกับเพื่อนใกล้ๆ จขกท ว่า "แกรู้ไหม ตอนที่ฉันอายุ 16 ปีเท่ามันเนี่ย ฉันต้องมานั่งอุ้มท้องมัน ฉันย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่มีเพื่อนสักคน ตอนออกมาจากบ้านมีแต่คนรุมด่าฉัน ท้องเดี๋ยวมันก็เลิก แต่ตอนนี้ฉันมีทุกอย่าง" นั่นแหละ ตอนนี้ใน ขณะที่ จขกท เป็นวัยรุ่น แม่ จขกท ก็ดูแลตัวเอง แม่กินอาหารเสริมนั่นนี่ ทาครีมมาดามออแกนิคที่ติดสารปรอท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จขกท บอกแม่แล้วแต่แม่เขาก็ยังใช้อยู่ ก็มันทำให้เขาหน้าขาวสุดๆ หลังๆ สังเกตุเห็น แม่ติดโทรศัพท์และหวงมากขึ้น แม่คุยกับลุงคนนึงที่เป็นเพื่อนพ่อ มานั่งกินเหล้ากับพ่อบ่อย ถามว่าทำไมถึงรู้? เวลาลุงคนนี้โทรมาเสียงแม่จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่จะทำเสียงเด็กลง เวลาลุงเขามาบ้าน แม่จะจัดเตรียกับแกล้มอย่างดี ตอนนั้นแม่คุยกับเขาอยู่ แล้ว จขกท เดินออกมาจากห้อง และเดินมาทางข้างหลังแม่ ได้ยินแม่พูดชัดเจนว่า 'หนูคิดถึงพี่' พอเขาหันหลังมาเจอ จขกท เขาก็เรียบตัดสายแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จขกท ได้แต่ตีหน้านิ่งๆ หยิบของที่ต้องการแล้วเดินกลับไป แต่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง เพราะไม่อยากให้เป็นปัญหา เรื่องแม่กับผู้ชายคนนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มเงียบๆไป เพราะเมียแกเป็นคนขี้หึงมาก ส่วนพ่อ จขกท เชามีนิสัยอย่างนึงที่คนในบ้านต้องปรับตัวคือ เขาชอบมองป้าบ้านข้างๆ ป้าแต่ละคนมีลูกแล้ว ตอนไปอยู่หน้าบ้าน จขกท กับน้องชอบชวนพ่อคุย แต่สายตาพ่อก็มองไปที่บ้านทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บ้านข้างหน้าบ้าง แล้วแต่ใครจะออกมา เมื่อก่อนเรื่องนี้ก็ทะเลาะกับแม่ แต่แม่ทำอะไรนิสัยนี้ไม่ได้ นี่อาจเป็นเหตุที่ทำให้แม่ดื่มเหล้าหนักด้วย ส่วนลูกๆแบบเราได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปซะ


มาถึงคำถาม : แม่ จขกท ออกจากบ้านไป 1 อาทิตย์แล้ว ป้าที่เป็นเพื่อนสนิทแม่โทรมาให้ จขกท คุยกับพ่อ ให้แม่เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ จขกท ก็รู้สึกลังเลใจ ไม่มีใครอยากให้มีสงครามในบ้านอีก จขกท รักทั้งสองฝ่าย แต่อีกใจก็คิดว่าอยู่แบบนี้สักพักก็ดี เขาคบกันมาจะ 20 ปีแล้ว บางทีการห่างกันสักพักอาจทำให้เขาคิดอะไรออกบ้างก็ได้  จขกท ควรทำอย่างไรดีคะ?