เครดิตข้อความ.....MonkeyFreeTime
ทางรอดหนึ่งของรายย่อยที่ผมมักจะเห็น ก็คือ พยายามจับทางให้ได้ว่าเจ้ามือจะมาเมื่อไหร่และมาในทิศทางไหน จากนั้นก็ตามแห่ไปกับเค้าด้วย ผมเองเห็นว่า "ถ้า" ทำได้ก็จะเป็นทางรอดอย่างหนึ่ง แต่ปัญหาที่พบคือ เรามักไม่รู้ล่วงหน้า และบ่อยครั้งที่เจ้ามือเข้าเนียนและออกไว การพยายามตีซี้และตามแห่จึงมักทำให้ติดดอย (ต้องทนถือหุ้นต้นทุนสูง)
ผมเองกลับคิดถึงอีกทางรอดหนึ่งว่า ถ้ารายย่อยอย่างเราสามารถรวมพลังกันได้ในแบบเดียวกับที่เจ้ามือทำ เราก็จะสามารถสู้กับเจ้ามือได้
ผมตั้งข้อสังเกตว่า หากเรารวมกลุ่มกันได้ใหญ่พอ บางทีอาจจะใหญ่กว่ากลุ่มเจ้ามือเดิมก็ได้ ...มาถึงตรงนี้เชื่อว่ารายย่อยน้อยใหญ่คงเริ่มสนใจ เพียงแต่ยังคิดอยู่ว่า "แล้วเราจะรวมตัวกันได้อย่างไรล่ะ?"
เคล็ดลับก็คือซื้อขายหุ้นตามแนวโน้มระยะยาวของราคาหุ้นไงล่ะ! คุณอาจจะบอกว่า "ฉันจะไปรู้แนวโน้มราคาระยะยาวได้ยังไง" ไม่ยากเลยครับ เพียงแต่มองไปที่ปัจจัยพื้นฐานและตีความให้ได้ว่าหุ้นตัวนี้ดีหรือแย่ (แม้จะยังไม่คำนวณเลยด้วยซ้ำ) บริษัทมีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ การที่เรา "คาดการณ์" ผลประกอบการระยะยาวได้ ก็เท่ากับเราหาแนวโน้มระยะยาวของราคาหุ้นได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ลงทุนเลย ถ้าคาดการณ์ไม่ได้ว่าผลประกอบการของบริษัทใน 3-5 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร บริษัทพวกนั้นผมปล่อยครับ ใครอยากเล่นก็เล่นไป
ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นภาพที่รายย่อยจะเห็นได้ร่วมกัน และเป็นทีเด็ดที่จะเอาชนะเจ้ามือได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้ามือลากหรือทุบหุ้นสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานแล้วล่ะก็ โอกาสที่เจ้ามือจะเจ็บเองก็มีเหมือนกัน
เพียงแต่เราเองอย่าไป "เล่น" หุ้นตัวเล็กที่ผลประกอบการห่วย และลาก-ทุบได้ง่ายๆ ก็แล้วกัน ไม่งั้นจะถูกเทพเจ้าลงทัณฑ์
ปล. ราคาหุ้นตอนนี้ผันผวนมากครับ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นใหญ่ หุ้นเล็ก หุ้นมีพื้นฐาน หรือไม่มีพื้นฐาน ตรงนี้ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ตอนนี้เรากำลังสู้กับอะไรอยู่ครับ ระหว่างอารมณ์มวลชน หรือพื้นฐานของหุ้น หลายๆคนลงทุนในหุ้นเพราะความมั่นใจในพื้นฐาน แต่ก็ต้องมาหมดความมั่นใจในราคาหน้ากระดานซึ่งสะท้อนตามอารมณ์มวลชน ดังนั้นก่อนการซื้อ ก่อนการคัทลอสทุกครั้ง ขอให้นึกถึงเหตุผลด้วยนะครับว่า เราเริ่มและจบด้วยเหตุผลเดียวกันหรือไม่ ผมมั่นใจครับว่า ส่วนใหญ่เริ่มและจบด้วยเหตุผลที่เปลี่ยนไปครับ.....หากไม่อยากถูกเทพเจ้าลงทัณฑ์....ขอให้คิดทบทวนกันใหม่ครับ
วิธีสู้กับเจ้ามือ
ทางรอดหนึ่งของรายย่อยที่ผมมักจะเห็น ก็คือ พยายามจับทางให้ได้ว่าเจ้ามือจะมาเมื่อไหร่และมาในทิศทางไหน จากนั้นก็ตามแห่ไปกับเค้าด้วย ผมเองเห็นว่า "ถ้า" ทำได้ก็จะเป็นทางรอดอย่างหนึ่ง แต่ปัญหาที่พบคือ เรามักไม่รู้ล่วงหน้า และบ่อยครั้งที่เจ้ามือเข้าเนียนและออกไว การพยายามตีซี้และตามแห่จึงมักทำให้ติดดอย (ต้องทนถือหุ้นต้นทุนสูง)
ผมเองกลับคิดถึงอีกทางรอดหนึ่งว่า ถ้ารายย่อยอย่างเราสามารถรวมพลังกันได้ในแบบเดียวกับที่เจ้ามือทำ เราก็จะสามารถสู้กับเจ้ามือได้
ผมตั้งข้อสังเกตว่า หากเรารวมกลุ่มกันได้ใหญ่พอ บางทีอาจจะใหญ่กว่ากลุ่มเจ้ามือเดิมก็ได้ ...มาถึงตรงนี้เชื่อว่ารายย่อยน้อยใหญ่คงเริ่มสนใจ เพียงแต่ยังคิดอยู่ว่า "แล้วเราจะรวมตัวกันได้อย่างไรล่ะ?"
เคล็ดลับก็คือซื้อขายหุ้นตามแนวโน้มระยะยาวของราคาหุ้นไงล่ะ! คุณอาจจะบอกว่า "ฉันจะไปรู้แนวโน้มราคาระยะยาวได้ยังไง" ไม่ยากเลยครับ เพียงแต่มองไปที่ปัจจัยพื้นฐานและตีความให้ได้ว่าหุ้นตัวนี้ดีหรือแย่ (แม้จะยังไม่คำนวณเลยด้วยซ้ำ) บริษัทมีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ การที่เรา "คาดการณ์" ผลประกอบการระยะยาวได้ ก็เท่ากับเราหาแนวโน้มระยะยาวของราคาหุ้นได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ลงทุนเลย ถ้าคาดการณ์ไม่ได้ว่าผลประกอบการของบริษัทใน 3-5 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร บริษัทพวกนั้นผมปล่อยครับ ใครอยากเล่นก็เล่นไป
ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นภาพที่รายย่อยจะเห็นได้ร่วมกัน และเป็นทีเด็ดที่จะเอาชนะเจ้ามือได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้ามือลากหรือทุบหุ้นสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานแล้วล่ะก็ โอกาสที่เจ้ามือจะเจ็บเองก็มีเหมือนกัน
เพียงแต่เราเองอย่าไป "เล่น" หุ้นตัวเล็กที่ผลประกอบการห่วย และลาก-ทุบได้ง่ายๆ ก็แล้วกัน ไม่งั้นจะถูกเทพเจ้าลงทัณฑ์
ปล. ราคาหุ้นตอนนี้ผันผวนมากครับ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นใหญ่ หุ้นเล็ก หุ้นมีพื้นฐาน หรือไม่มีพื้นฐาน ตรงนี้ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ตอนนี้เรากำลังสู้กับอะไรอยู่ครับ ระหว่างอารมณ์มวลชน หรือพื้นฐานของหุ้น หลายๆคนลงทุนในหุ้นเพราะความมั่นใจในพื้นฐาน แต่ก็ต้องมาหมดความมั่นใจในราคาหน้ากระดานซึ่งสะท้อนตามอารมณ์มวลชน ดังนั้นก่อนการซื้อ ก่อนการคัทลอสทุกครั้ง ขอให้นึกถึงเหตุผลด้วยนะครับว่า เราเริ่มและจบด้วยเหตุผลเดียวกันหรือไม่ ผมมั่นใจครับว่า ส่วนใหญ่เริ่มและจบด้วยเหตุผลที่เปลี่ยนไปครับ.....หากไม่อยากถูกเทพเจ้าลงทัณฑ์....ขอให้คิดทบทวนกันใหม่ครับ