สวัสดีคะเพื่อนๆ พิมพึ่งหัดเขียนกระทู้แรกแต่อยากจะเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่เพื่อนๆฟังมากๆเป็นประสบการณ์ที่เสียทั้งเงินทั้งความรู้สึกแล้วยังเจ็บตัวด้วย T..T
ถ้าเขียนอะไรผิดพลาดหรืออ่านไม่เข้าใจยังไงก็บอกกันได้น้าา
ไม่เสียเวลาเลยละกันเรื่องนี้เกิดขึ้นปีที่แล้ว จะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จำได้นะคะ ไม่อยากให้ใครมาเจอเรื่องแบบนี้เลย
พิมเป็นคนที่ต้นแขนใหญ่มาก ใหญ่แต่ต้นแขนไม่ว่าจะผอมหรือลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลง ใฝ่ฝันอยากดูดไขมันแขนตั้งแต่อยู่มหาลัย(แต่ไม่มีเงิน5555) จนถึงปัจจุบันนี้ทำงานเริ่มมีเงินเก็บเลยตัดสินใจไปทำ บวกกับออกจากที่ทำงานเก่ารอเวลาเริ่มทำงานที่ใหม่(จะมีเวลาให้พักประมาณหนึ่งอาทิตย์คะ) พิมเลือกคลีนิคชื่อดังมากๆที่หนึ่งเข้าไปสาขาสยามเพราะเป็นสาขาเดียวที่มีห้องสำหรับทำเวเซอร์ดูดไขมัน เป็นคลีนิคที่ถ้าเอ่ยชื่อคงไม่มีสาวๆคนไหนไม่รู้จัก ตกลงราคาอยู่ที่ 40,000 บาท ดูดทั้งหมด2 จุด จุดละ20,000 ไม่รวมค่ายากับที่รัดแขน
เริ่มจากครั้งแรกที่เข้าไปคุยและจ่ายเงินมัดจำ เจอพนักงานแล้วก็เกย์แก่คนนึ่ง(ขออนุญาติหยาบคายนะคะ เกลียดมันจริงๆ) เค้าก็ให้คำปรึกษานู้นนี่นั่น พอเค้าจับแขนพิมเค้าบอกว่าดูดแค่สองจุดก็พอ ข้างละจุด และให้พิมเข้าพบหมอด้วยคะ แต่เป็นหมอผู้ชายไม่ใช่หมอคนที่ทำเวเซอร์ให้พิม
พอมาถึงเวลามัดจำแล้วก็นัดคิวทำเวเซอร์ พิมก็ถามทางพนักงานคะว่าหมอท่านไหนเก่ง(พูดแบบไม่โลกสวยนะคะ หมอไม่ได้เก่งทุกคน และหมอคนหนึ่งก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกอย่าง เป็นความผิดพิมเองที่ไม่ศึกษาให้ดีจริงๆ เป็นเรื่องที่เสียใจมากๆคะ) พนักงานตอบว่า"หมอทุกท่านเก่งเหมือนกันหมดคะ"
E-ตอllหลลลลลลลล!!!! กรีดร้องอยู่ในใจ ทุกวันนี้ถ้าไปที่ไหนแล้วพนักงานตอบแบบนี้จะไม่ทำเลยคะ ออกมาเลย
มัดจำนัดเวลาเสร็จก็มาถึงวันทำ พิมนัดทำวันศุกร์ตอนเช้า นัดแปดโมงเช้า จำได้แม่นเลยคะหมอมาช้าไปครึ่งชั่วโมงและหมอเป็นผู้หญิงคะ ไม่ใช่คนเดียวกับที่เจอวันนั้น พอเจอหมอ หมอก็จำแขนดู เค้าบอกว่าแขนอย่างงี้ต้องดูดข้างละสองจุดนะถึงจะสวย (อ้าวแรกมาแล้ว) ตอนที่หมอมาเค้ารีบมาก รีบทำรีบไปต่อเลยคุยกับหมอเหมือนเค้าต้องไปคลีนิคอีกที่ต่อ (รับงานหลายที่อะคะ) คือเค้ารีบทำรีบกลับมากจนเรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยสนใจคนไข้เท่าไหร่ ส่วนผลงานหรอค่ะ.....คือแขนเยินมากก รอยช้ำน่ากลัวมากกกกกก และแขนก็เป็นรอยบุ๋มเป็นรอยเหมือนหลอดเป็นเส้นๆตามแขน(เป็นรอยท่อที่ใช้ดูดไขมันแบบชัดเจนมาก) คือมันเป็นการดูดครั้งแรกเลยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แค่ชื่อก็น่ากลัวละ ทำออกมาก็คงต้องน่ากลัวอย่างงี้แหละ (โลกสวยมากกก)
ทำเสร็จหมอก็บอกว่าถ้ามีปัญหาอยากพบหมอนัดกับทางคลีนิคได้ตลอดแล้วหมอก็รีบกลับ กลับก่อนคนไข้อีก
แผลจากการทำครั้งนั้นใช้เวลารักษากว่าสองเดือน (สองเดือนที่ว่าไม่ใช่หายดีนะคะ แค่กลับมาใช้ชีวิตได้แผลรอยช้ำเริ่มหาย) คือรอยช้ำหายช้ามาก ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะร่างกายตัวเองที่ทำให้แผลหายช้า สองเดือนต้นแขนก็ยังปูดอยู่ พอเราพับแขนมันปูดเหมือนเป็นปีก หรือพวกแขนคนเล่นกล้ามแต่ต่างตรงที่ของเรามันเป็นไขมัน!! เลยตัดสินใจโทรกลับไปถามทางคลีนิคเค้าก็บอกว่าต้องรอซักสามเดือนถึงจะเห็นผล?? เอิ่มม แอบหงุดหงิดแต่ก็ยังเชื่อคะ ทางพนักงานบอกว่าถ้าหมอดูดไม่หมดจริงๆ หมอก็จะดูดซ้ำให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พอผ่านมาสามเดือน โดยที่เราส่องกระจกดูแขนตัวเองทุกวันมันไม่ได้ลดลงจากเดือนที่แล้ว ไขมันยังเหลืออยู่บริเวณต้นแขนบนๆ ข้างรักแร้ เลยโทรไปอีกรอบเค้าบอกเดี๋ยวนัดหมอให้ นัดไปทั้งหมดประมาณสามรอบ โดยหมอคนนี้จะเข้าเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้นเราก็โอเคกี่โมงก็ได้อยากเจอหมอมากแต่หมอก็ยกเลิกนัดทั้งสามรอบ เวลาร่วงเลยมาจนจะสี่เดือนแล้วคะ ยังไม่ได้เจอหมอเลย!!! เคลียดมาก ท้อด้วยเพราะนัดทีเค้าก็มายกเลิกวันก่อนจะถึง นัดอีกทีก็ก็แคนเซิลอีก คือตอนนั้นก็ทำงานที่ใหม่ด้วย ไม่ได้ว่างมาโทรตามจิกเค้าได้ตลอด จนครั้งล่าสุดที่เค้าแคนเซิลนัดเกย์แก่คนที่เราซื้อคอสด้วยโทรมาบอก เราก็โวยวายว่าหมอแคนเซิลทำไม เหมือนเค้ากลัวจะต้องมาดูดซ้ำให้เราฟรีอะคะ พิมคิดว่านะเพราะเค้าหลีกเลี่ยงไม่ยอมมาเจอพิมเลย ถามว่าเข้าตอนไหนก็ไม่บอก คือติดต่อหมอไม่ได้เลย
เกย์แก่คนนั้นก็เริ่มจะเหวี่ยง พูดแบบ จริงๆแขนน้องต้องทำbodytide ไม่ใช่เวเซอร์ ฟายยยยยยยยยย!!!!! ก็มันเป็นคนแนะนำให้ทำตัวนี้เอง ยังมีการบอกว่าแจนพิมอาจจะไม่ใช่ไขมัน อาจจะหย่อนคล้อยเพราะพิมรัดไม่ดี คือเค้าโยดความผิดกันไปทั่วคุยไปคุยมาเลยตกลงกันว่าให้พิมไปหาหมอคลีนิคนี้สาขาไหนก็ได้ให้หมอดูแขนก่อน เพราะพิมมั่นใจมากว่ามันเป็นไขมันไม่ใช่ห้อย พิมตัดสินใจไปคลีนิคนี้สาขาCentral พระราม3 ไปพบหมอ
สรุป หมอจับแขนดูแล้วบอกว่าไขมันเหลืออยู่ เยอะด้วยเค้าก็โทรแจ้งสาขาสยามว่าเป็นไขมันจริงๆ เหลือเยอะด้วย (ฉันก็พูดปากเปียกปากแฉะ!!!) คือตอนนั้นหงุดหงิดมาก เพราะหลังจากที่เกย์แก่รู้ว่ามันเป็นความผิดหมอจริงๆมันก็ไม่สามารถนัดหมอให้ได้ พูดปัดว่าหมอไม่ใช่หมอประจำ ไม่สามารถเข้ามาเพื่อมาพบเราคนเดียวได้ ตามสัญญาปัญญาอ่อนอะไรสักอย่าง และทั้งสาขาสยามนำทีมโดยเกย์แก่กับสาขาพระรามสาม ก็พยายามจะขายคอสทั้งดูดไขมันอีกครั้งโดยหมอท่านอื่น หรือกระทั้งฉีดสลายไขมัน คือเค้าหน้าไม่อายมากที่กล้ามาขายกับพิมอีก ทุกวันนี้ก็ไม่เคยได้เจอหมอคนนั้นอีก ถ้าเค้าได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้เค้าคงจะรู้ตัว แค่อยากจะบอกว่า ไม่แปลกใจเลยที่เค้าเป็นถึงหมอศัลยกรรมแต่ตัวอ้วนเหมือนตัวจะระเบิด ลดยังไงก็ไม่ลงหรอกคะเพราะมันเป็นบาปเป็นกรรมที่เค้าทำไว้กับคนไข้ (อันนี้อาฆาตหมอเล็กน้อย55555 ไม่ได้เหมารวมคนอ้วนคนอื่นนะคะ พิมก็อ้วนเหมือนกัน ด่าเจาะจงหมอคนนี้คงเดียว)
ส่วนเรื่องที่เสียเงินนับแสนยังไงเดี๋ยวพิมมาเล่าต่อนะคะ
เลือกคลีนิค/หมอทำ Vaser ดูดไขมันผิดคิดจนตัวตาย ต้องเสียเงินนับแสน (คลีนิคชื่อดังมีกว่า23 สาขาไม่ได้การันตีอะไรเลย)
ถ้าเขียนอะไรผิดพลาดหรืออ่านไม่เข้าใจยังไงก็บอกกันได้น้าา
ไม่เสียเวลาเลยละกันเรื่องนี้เกิดขึ้นปีที่แล้ว จะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จำได้นะคะ ไม่อยากให้ใครมาเจอเรื่องแบบนี้เลย
พิมเป็นคนที่ต้นแขนใหญ่มาก ใหญ่แต่ต้นแขนไม่ว่าจะผอมหรือลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลง ใฝ่ฝันอยากดูดไขมันแขนตั้งแต่อยู่มหาลัย(แต่ไม่มีเงิน5555) จนถึงปัจจุบันนี้ทำงานเริ่มมีเงินเก็บเลยตัดสินใจไปทำ บวกกับออกจากที่ทำงานเก่ารอเวลาเริ่มทำงานที่ใหม่(จะมีเวลาให้พักประมาณหนึ่งอาทิตย์คะ) พิมเลือกคลีนิคชื่อดังมากๆที่หนึ่งเข้าไปสาขาสยามเพราะเป็นสาขาเดียวที่มีห้องสำหรับทำเวเซอร์ดูดไขมัน เป็นคลีนิคที่ถ้าเอ่ยชื่อคงไม่มีสาวๆคนไหนไม่รู้จัก ตกลงราคาอยู่ที่ 40,000 บาท ดูดทั้งหมด2 จุด จุดละ20,000 ไม่รวมค่ายากับที่รัดแขน
เริ่มจากครั้งแรกที่เข้าไปคุยและจ่ายเงินมัดจำ เจอพนักงานแล้วก็เกย์แก่คนนึ่ง(ขออนุญาติหยาบคายนะคะ เกลียดมันจริงๆ) เค้าก็ให้คำปรึกษานู้นนี่นั่น พอเค้าจับแขนพิมเค้าบอกว่าดูดแค่สองจุดก็พอ ข้างละจุด และให้พิมเข้าพบหมอด้วยคะ แต่เป็นหมอผู้ชายไม่ใช่หมอคนที่ทำเวเซอร์ให้พิม
พอมาถึงเวลามัดจำแล้วก็นัดคิวทำเวเซอร์ พิมก็ถามทางพนักงานคะว่าหมอท่านไหนเก่ง(พูดแบบไม่โลกสวยนะคะ หมอไม่ได้เก่งทุกคน และหมอคนหนึ่งก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกอย่าง เป็นความผิดพิมเองที่ไม่ศึกษาให้ดีจริงๆ เป็นเรื่องที่เสียใจมากๆคะ) พนักงานตอบว่า"หมอทุกท่านเก่งเหมือนกันหมดคะ"
E-ตอllหลลลลลลลล!!!! กรีดร้องอยู่ในใจ ทุกวันนี้ถ้าไปที่ไหนแล้วพนักงานตอบแบบนี้จะไม่ทำเลยคะ ออกมาเลย
มัดจำนัดเวลาเสร็จก็มาถึงวันทำ พิมนัดทำวันศุกร์ตอนเช้า นัดแปดโมงเช้า จำได้แม่นเลยคะหมอมาช้าไปครึ่งชั่วโมงและหมอเป็นผู้หญิงคะ ไม่ใช่คนเดียวกับที่เจอวันนั้น พอเจอหมอ หมอก็จำแขนดู เค้าบอกว่าแขนอย่างงี้ต้องดูดข้างละสองจุดนะถึงจะสวย (อ้าวแรกมาแล้ว) ตอนที่หมอมาเค้ารีบมาก รีบทำรีบไปต่อเลยคุยกับหมอเหมือนเค้าต้องไปคลีนิคอีกที่ต่อ (รับงานหลายที่อะคะ) คือเค้ารีบทำรีบกลับมากจนเรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยสนใจคนไข้เท่าไหร่ ส่วนผลงานหรอค่ะ.....คือแขนเยินมากก รอยช้ำน่ากลัวมากกกกกก และแขนก็เป็นรอยบุ๋มเป็นรอยเหมือนหลอดเป็นเส้นๆตามแขน(เป็นรอยท่อที่ใช้ดูดไขมันแบบชัดเจนมาก) คือมันเป็นการดูดครั้งแรกเลยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แค่ชื่อก็น่ากลัวละ ทำออกมาก็คงต้องน่ากลัวอย่างงี้แหละ (โลกสวยมากกก)
ทำเสร็จหมอก็บอกว่าถ้ามีปัญหาอยากพบหมอนัดกับทางคลีนิคได้ตลอดแล้วหมอก็รีบกลับ กลับก่อนคนไข้อีก
แผลจากการทำครั้งนั้นใช้เวลารักษากว่าสองเดือน (สองเดือนที่ว่าไม่ใช่หายดีนะคะ แค่กลับมาใช้ชีวิตได้แผลรอยช้ำเริ่มหาย) คือรอยช้ำหายช้ามาก ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะร่างกายตัวเองที่ทำให้แผลหายช้า สองเดือนต้นแขนก็ยังปูดอยู่ พอเราพับแขนมันปูดเหมือนเป็นปีก หรือพวกแขนคนเล่นกล้ามแต่ต่างตรงที่ของเรามันเป็นไขมัน!! เลยตัดสินใจโทรกลับไปถามทางคลีนิคเค้าก็บอกว่าต้องรอซักสามเดือนถึงจะเห็นผล?? เอิ่มม แอบหงุดหงิดแต่ก็ยังเชื่อคะ ทางพนักงานบอกว่าถ้าหมอดูดไม่หมดจริงๆ หมอก็จะดูดซ้ำให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พอผ่านมาสามเดือน โดยที่เราส่องกระจกดูแขนตัวเองทุกวันมันไม่ได้ลดลงจากเดือนที่แล้ว ไขมันยังเหลืออยู่บริเวณต้นแขนบนๆ ข้างรักแร้ เลยโทรไปอีกรอบเค้าบอกเดี๋ยวนัดหมอให้ นัดไปทั้งหมดประมาณสามรอบ โดยหมอคนนี้จะเข้าเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้นเราก็โอเคกี่โมงก็ได้อยากเจอหมอมากแต่หมอก็ยกเลิกนัดทั้งสามรอบ เวลาร่วงเลยมาจนจะสี่เดือนแล้วคะ ยังไม่ได้เจอหมอเลย!!! เคลียดมาก ท้อด้วยเพราะนัดทีเค้าก็มายกเลิกวันก่อนจะถึง นัดอีกทีก็ก็แคนเซิลอีก คือตอนนั้นก็ทำงานที่ใหม่ด้วย ไม่ได้ว่างมาโทรตามจิกเค้าได้ตลอด จนครั้งล่าสุดที่เค้าแคนเซิลนัดเกย์แก่คนที่เราซื้อคอสด้วยโทรมาบอก เราก็โวยวายว่าหมอแคนเซิลทำไม เหมือนเค้ากลัวจะต้องมาดูดซ้ำให้เราฟรีอะคะ พิมคิดว่านะเพราะเค้าหลีกเลี่ยงไม่ยอมมาเจอพิมเลย ถามว่าเข้าตอนไหนก็ไม่บอก คือติดต่อหมอไม่ได้เลย
เกย์แก่คนนั้นก็เริ่มจะเหวี่ยง พูดแบบ จริงๆแขนน้องต้องทำbodytide ไม่ใช่เวเซอร์ ฟายยยยยยยยยย!!!!! ก็มันเป็นคนแนะนำให้ทำตัวนี้เอง ยังมีการบอกว่าแจนพิมอาจจะไม่ใช่ไขมัน อาจจะหย่อนคล้อยเพราะพิมรัดไม่ดี คือเค้าโยดความผิดกันไปทั่วคุยไปคุยมาเลยตกลงกันว่าให้พิมไปหาหมอคลีนิคนี้สาขาไหนก็ได้ให้หมอดูแขนก่อน เพราะพิมมั่นใจมากว่ามันเป็นไขมันไม่ใช่ห้อย พิมตัดสินใจไปคลีนิคนี้สาขาCentral พระราม3 ไปพบหมอ
สรุป หมอจับแขนดูแล้วบอกว่าไขมันเหลืออยู่ เยอะด้วยเค้าก็โทรแจ้งสาขาสยามว่าเป็นไขมันจริงๆ เหลือเยอะด้วย (ฉันก็พูดปากเปียกปากแฉะ!!!) คือตอนนั้นหงุดหงิดมาก เพราะหลังจากที่เกย์แก่รู้ว่ามันเป็นความผิดหมอจริงๆมันก็ไม่สามารถนัดหมอให้ได้ พูดปัดว่าหมอไม่ใช่หมอประจำ ไม่สามารถเข้ามาเพื่อมาพบเราคนเดียวได้ ตามสัญญาปัญญาอ่อนอะไรสักอย่าง และทั้งสาขาสยามนำทีมโดยเกย์แก่กับสาขาพระรามสาม ก็พยายามจะขายคอสทั้งดูดไขมันอีกครั้งโดยหมอท่านอื่น หรือกระทั้งฉีดสลายไขมัน คือเค้าหน้าไม่อายมากที่กล้ามาขายกับพิมอีก ทุกวันนี้ก็ไม่เคยได้เจอหมอคนนั้นอีก ถ้าเค้าได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้เค้าคงจะรู้ตัว แค่อยากจะบอกว่า ไม่แปลกใจเลยที่เค้าเป็นถึงหมอศัลยกรรมแต่ตัวอ้วนเหมือนตัวจะระเบิด ลดยังไงก็ไม่ลงหรอกคะเพราะมันเป็นบาปเป็นกรรมที่เค้าทำไว้กับคนไข้ (อันนี้อาฆาตหมอเล็กน้อย55555 ไม่ได้เหมารวมคนอ้วนคนอื่นนะคะ พิมก็อ้วนเหมือนกัน ด่าเจาะจงหมอคนนี้คงเดียว)
ส่วนเรื่องที่เสียเงินนับแสนยังไงเดี๋ยวพิมมาเล่าต่อนะคะ