ผมต้องขอขอบคุณสื่อ คอลัมน์ ชกไมีมีมุม หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ของคุณ วงค์ ตาวัน เป็นอย่างมาก ในถานะที่คนเสื้อแดงอย่างผม
และเพื่อนๆหลายคน ทั้งที่ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ และได้เสียชีวิตในการต่อสู้เรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นให้ยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชน
เป็นอย่างมากครับ.
ที่ช่วยย้ำวิเคราะห์ หาเหตุผล ในรายละเอียด ของคดี ชายชุดดำ ต่างคอลัมน์จากสื่ออื่นๆ ที่จะพยายามยัดเยียด สรุป คดีชายชุดดำไปที่
คนเสื้อแดงเป็นต้นเหตุโดยไม่หาเหตุผล แต่ใช้ความเชื่อและอคติ ในการเขียนข่าว.
ใครทำอะไรในคืนนั้น

ในวันที่พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ส่งฟ้องกลุ่มชายชุดดำต่ออัยการ ได้มีการแถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้วว่า สำนวนคดีเป็นการตั้งข้อหาเรื่องครอบครองอาวุธสงครามและพกพาไปในที่สาธารณะ ในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553
ไม่เกี่ยวข้องกับคดีสังหารพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม แต่อย่างใด!?
ล่าสุดแกนนำนปช.ได้เข้าพบพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผบ.ตร. ได้ทำความเข้าใจตรงกันว่า ไม่เกี่ยวกับคดีพล.อ.ร่มเกล้าแน่ๆ
จึงพอจะสรุปได้ในชั้นนี้ว่า กลุ่มชายชุดดำดังกล่าว ถูกจับกุมตามพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธสงคราม
แต่นอกเหนือจากนั้น ยังไม่ควรนำไปขยายความ โดยไม่มีพยานหลักฐานรองรับ
อีกทั้งยังไม่มีคำตอบว่า ใครกันแน่ที่ใช้ระเบิดมือขว้างใส่พล.อ.ร่มเกล้าและเจ้าหน้าที่ทหารที่บริเวณถนนดินสอ
ไป จนถึงอย่าเพิ่งนำเรื่องการจับชายชุดดำกลุ่มนี้ ไปขยายอย่างดีอกดีใจว่า ชายชุดดำคือคนเสื้อแดงที่ฆ่ากันเอง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลอภิสิทธิ์!!
อันที่จริง เหตุการณ์ในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 ซึ่งเป็นคืนแรกที่ศอฉ.สั่งเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม
ต้องถามว่า ทำไมคำสั่งให้เข้าขอคืนพื้นที่ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่บ่ายวันนั้น
แต่พอถึงมืดค่ำ เสี่ยงต่อเหตุไม่คาดฝัน ทำไมศอฉ.จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต่อ จนเกิดความรุนแรงล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นจริงๆ
นี่จะปัดว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลและศอฉ.ได้หรือ!?
ประการต่อมา หลังจากเหตุปะทะลุกลาม มีการใช้อาวุธจริง จนตายไปกว่า 20 ศพ
ใครกันที่เริ่มเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดการปะทะกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างถอย!
ไม่ใช่แกนนำรัฐบาล ไม่ใช่ศอฉ.
แต่ เป็นแกนนำเสื้อแดง โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง เรียกร้องขอให้ผู้แทนฝ่ายรัฐบาลติดต่อทางโทรศัพท์กันโดยด่วน
เรียกร้องให้สงบศึกโดยเร็วที่สุด
หลังจากนั้นจึงมีการติดต่อกัน และยุติการนองเลือดในคืนนั้นลงได้
ประเด็นนี้แหละ ตัดอคติมัวเมาออกไป ใช้สติไตร่ตรองก็จะได้คำตอบชัดเจน
ถ้าเสื้อแดง จัดทีมชายชุดดำมาไล่ฆ่าทหาร ไล่ฆ่าคน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บานปลาย
มีแต่ยิ่งต้องขยายการจลาจลให้ลุกลามไปสู่ชัยชนะไม่ใช่หรือ
แต่นี่แกนนำเสื้อแดงเรียกร้องให้หยุด
แปลได้ชัดว่า
เสื้อแดงไม่ได้รู้เห็นกับกลุ่มก่อความรุนแรงในคืนนั้น!
และผมยังจำช่วงเหตุการณ์ที่เลวร้ายในตอนนั้น ก็มีสื่อกลุ่มนี้และครับที่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง
ที่เรียกร้องให้
"หยุดฆ่าโดยทันที"
ขอบคุณสำหรับการเป็นสื่อที่เคียงข้างประชาชนซึ่งในยุคนี้หายากมากครับ.
ผมขอขอบคุณสื่อ คอลัมน์ ชกไมีมีมุม ของคุณวงค์ ตาวัน ข่าวสด " ใครทำอะไรในคืนนั้น" ครับ
และเพื่อนๆหลายคน ทั้งที่ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ และได้เสียชีวิตในการต่อสู้เรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นให้ยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชน
เป็นอย่างมากครับ.
ที่ช่วยย้ำวิเคราะห์ หาเหตุผล ในรายละเอียด ของคดี ชายชุดดำ ต่างคอลัมน์จากสื่ออื่นๆ ที่จะพยายามยัดเยียด สรุป คดีชายชุดดำไปที่
คนเสื้อแดงเป็นต้นเหตุโดยไม่หาเหตุผล แต่ใช้ความเชื่อและอคติ ในการเขียนข่าว.
ใครทำอะไรในคืนนั้น
ในวันที่พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ส่งฟ้องกลุ่มชายชุดดำต่ออัยการ ได้มีการแถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้วว่า สำนวนคดีเป็นการตั้งข้อหาเรื่องครอบครองอาวุธสงครามและพกพาไปในที่สาธารณะ ในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553
ไม่เกี่ยวข้องกับคดีสังหารพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม แต่อย่างใด!?
ล่าสุดแกนนำนปช.ได้เข้าพบพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผบ.ตร. ได้ทำความเข้าใจตรงกันว่า ไม่เกี่ยวกับคดีพล.อ.ร่มเกล้าแน่ๆ
จึงพอจะสรุปได้ในชั้นนี้ว่า กลุ่มชายชุดดำดังกล่าว ถูกจับกุมตามพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธสงคราม
แต่นอกเหนือจากนั้น ยังไม่ควรนำไปขยายความ โดยไม่มีพยานหลักฐานรองรับ
อีกทั้งยังไม่มีคำตอบว่า ใครกันแน่ที่ใช้ระเบิดมือขว้างใส่พล.อ.ร่มเกล้าและเจ้าหน้าที่ทหารที่บริเวณถนนดินสอ
ไป จนถึงอย่าเพิ่งนำเรื่องการจับชายชุดดำกลุ่มนี้ ไปขยายอย่างดีอกดีใจว่า ชายชุดดำคือคนเสื้อแดงที่ฆ่ากันเอง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลอภิสิทธิ์!!
อันที่จริง เหตุการณ์ในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 ซึ่งเป็นคืนแรกที่ศอฉ.สั่งเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม
ต้องถามว่า ทำไมคำสั่งให้เข้าขอคืนพื้นที่ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่บ่ายวันนั้น
แต่พอถึงมืดค่ำ เสี่ยงต่อเหตุไม่คาดฝัน ทำไมศอฉ.จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต่อ จนเกิดความรุนแรงล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นจริงๆ
นี่จะปัดว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลและศอฉ.ได้หรือ!?
ประการต่อมา หลังจากเหตุปะทะลุกลาม มีการใช้อาวุธจริง จนตายไปกว่า 20 ศพ
ใครกันที่เริ่มเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดการปะทะกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างถอย!
ไม่ใช่แกนนำรัฐบาล ไม่ใช่ศอฉ.
แต่ เป็นแกนนำเสื้อแดง โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง เรียกร้องขอให้ผู้แทนฝ่ายรัฐบาลติดต่อทางโทรศัพท์กันโดยด่วน
เรียกร้องให้สงบศึกโดยเร็วที่สุด
หลังจากนั้นจึงมีการติดต่อกัน และยุติการนองเลือดในคืนนั้นลงได้
ประเด็นนี้แหละ ตัดอคติมัวเมาออกไป ใช้สติไตร่ตรองก็จะได้คำตอบชัดเจน
ถ้าเสื้อแดง จัดทีมชายชุดดำมาไล่ฆ่าทหาร ไล่ฆ่าคน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บานปลาย
มีแต่ยิ่งต้องขยายการจลาจลให้ลุกลามไปสู่ชัยชนะไม่ใช่หรือ
แต่นี่แกนนำเสื้อแดงเรียกร้องให้หยุด
แปลได้ชัดว่า เสื้อแดงไม่ได้รู้เห็นกับกลุ่มก่อความรุนแรงในคืนนั้น!
และผมยังจำช่วงเหตุการณ์ที่เลวร้ายในตอนนั้น ก็มีสื่อกลุ่มนี้และครับที่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง
ที่เรียกร้องให้ "หยุดฆ่าโดยทันที"
ขอบคุณสำหรับการเป็นสื่อที่เคียงข้างประชาชนซึ่งในยุคนี้หายากมากครับ.