JJNY : แฟลชม็อบ"หนองคายสิบ่ทน"ครั้งที่ 2/เสรีพิศุทธ์ชี้ชะลอซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่ทางออก/รัฐสภาหมื่นล.น้ำรั่วซึม/ปลดพนง.2พัน

จัดแฟลชม็อบ "หนองคายสิบ่ทน"ครั้งที่ 2 คนเสื้อแดงขึ้นเวทีหนุน ชื่นชมพลังคนรุ่นใหม่
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2330405
 

 
เมื่อเวลา 18.40น. วันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ลานน้ำพุพญานาค หน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย เยาวชน นักศึกษา และชาวหนองคาย กว่า 100 คน รวมตัวกันทำกิจกรรม “หนองคายสิบ่ทน” เพื่อแสดงพลัง ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นครั้งที่สอง หลังจากรวมตัวกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
 
บรรยากาศในงาน มีตัวแทนเยาวชน และนักศึกษา ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น ขึ้นปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล ภายในการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องไม่เอารัฐประหาร หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้กระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นโดยเร็ว ขอให้ปรับปรุงการศึกษา ให้สวัสดิการแพทย์ พยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขที่ต่อสู้กับโรคโควิด-19 แทนการนำเงินงบประมาณไปซื้ออาวุธ และขอให้ชาวหนองคายร่วมกันลงรายชื่อให้ครบ 50,000 รายชื่อ เพื่อไปยื่นขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ
 
ขณะที่แกนนำระบุว่า สื่อนำเสนอข่าวการชุมนุมน้อย และขอให้ผู้ชุมนุมไปรวมตัวแสดงพลังกันอีกครั้งที่จังหวัดอุดรธานี นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้อดีตแกนนำเสื้อแดงหนองคาย ขึ้นเวทีแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นในการชุมนุมของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ซึ่งอดีตแกนนำ กล่าวชื่นชมเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ โดยอดีตเสื้อแดงพร้อมสนับสนุน โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งกิจกรรมเสร็จสิ้นในเวลา 20.55 น.
 

 
"เสรีพิศุทธ์"ชี้ชะลอซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่ทางออก
https://www.innnews.co.th/politics/news_761007/
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการชะลอจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปอีก 1 ปี  ว่า 
 
กองทัพและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แพ้กระแสสังคมและกลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ จึงยอมชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน แต่การเลื่อนออกไป 1 ปี ไม่ใช่ทางออกเพราะความจริงต้องยุติโครงการไปเลย ต้องไม่มีการซื้อเรือดำน้ำอีกเพราะขณะนี้ประเทศชาติ มีหนี้สินมหาศาล และรัฐบาลก็ยังจะกู้เงินอีก ภาษีที่เก็บจากประชาชนไม่พอใช้จ่ายจึงต้องกู้มาใช้จ่าย จะเอาไปซื้อของที่ไม่จำเป็นได้อย่างไร
 
ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่มีเรือดำน้ำมาตั้งนานแล้ว เพิ่งมาซื้อลำแรกในสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีอะไรอยู่ได้ จึงถือว่าไม่มีความจำเป็น ที่จะซื้อต่อไป ตราบใดที่หนี้สินของประเทศยังไม่หมด ดังนั้นขอบอกไว้เลยว่า หากมีการนำเรื่องนี้เข้ามาสู่ที่ประชุมสภาอีก ก็จะพาพี่น้องประชาชนถล่มอีก
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการตั้งงบประมาณเพื่อต่อสู้คดีเหมืองทองอัครา ว่าทหารไม่มีความรู้โดยเฉพาะความรู้ด้านกฎหมาย แต่ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จึงยึดอำนาจเข้ามาและมายึดอำนาจเข้ามาแล้วก็ไม่รู้จึงมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปิดเหมือง ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้เมื่อมีชาวบ้านมาร้องก็ควรให้อำนาจกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร
 
ทั้งนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยลั่นวาจาไว้แล้วว่า จะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ดังนั้นไม่ว่าจะชนะคดีหรือแพ้คดี ไม่ใช่แพ้คดีแล้วมาปัดความรับผิดชอบให้เป็นเรื่องของรัฐบาลประชาชน การนำภาษีของประชาชน 389 ล้านไปว่าจ้างทนาย โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรไม่ถูกต้องชอบธรรม ทำอะไรเพราะ.... ทำอะไรเพราะไม่รู้กฎหมาย แล้วให้พี่น้องประชาชนมารับผิดชอบหรือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่