เครดิตบทความโดย....ทันหุ้น
เริ่มเกิดอาการกล้า ๆ กลัว ๆ กันซะแล้วครับสำหรับการลงทุนในหุ้นบ้านเราช่วงเวลานี้ แม้โดยภาพรวมของตลาดทุนจะยังดูดีดูมีแนวโน้มที่คงเป็นขาขึ้นก็ตาม แม้จะมีการทำนายทายกันว่า ดัชนีรอบนี้น่าจะสามารถไต่ตัวสู่ระดับ 1600 จุดได้ก็ตาม แต่ที่คนเล่นหุ้นเกิดอาการกล้า ๆ กลัว ๆ ดังที่ว่า ก็ด้วยเพราะว่า ค่าพีอีของตลาดนั้นสูงปาเข้าไปเกือบ 19 เท่า ค่าพีอีของตัวหุ้นรายตัวก็สูงโด่งจนไม่รู้ว่า ความสามารถการดำเนินงานในอนาคตมันจะตามราคาหุ้นได้ทันหรือไม่นั้นเอง
การลงทุนที่ต้องคอยระมัดระวังทุกฝีก้าวจากนี้ต่อไปจึงเกิดอาการเกร็ง ๆ ของเหล่าผู้กล้าอยู่บ้าง นักลงทุนประเภทกองทุนช่วงนี้ก็เริ่มชะลอดูทีท่า ตรวจตรามองดูผลงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/57 กันเสียก่อน ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนนักลงทุนรายย่อยรายน้อยที่พัวพันเล่นหุ้นปั่นหุ้นสร้างหุ้นติดกระแส ช่วงเวลานี้ก็เริ่มหันซ้ายแลขวา พร้อมที่จะเททิ้งคว่ำกระจาดหากอาการหุ้นเกิดซวนเซขึ้น พวกนักเลงหุ้นรายใหญ่ก็จ้อง ๆ มอง ๆ พร้อมขยับขาถอยเช่นกัน สำหรับบรรดาเจ้าของหุ้น แม้อยากจะลุ้นสร้างกระแสดันราคาหุ้ตัวเอง ตอนนี้ต่างก็เริ่มหายใจขัดเช่นกัน เพราะเริ่มหมดมุขเข็นหุ้น มีก็แต่นักลงทุนต่างชาตินี่ละครับ ที่ย้ายเม็ดเงินจากฝั่งฝากยุโรปเข้ามาลงในเอเชีย ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ที่ทำให้ตลาดทุนบ้านเรานั้นคงมีแรงหนุนซื้อ จากเงินทุนต่างชาตินี่ละที่พอช่วยประคับประคองให้ตลาดทุนของเราดูดีได้หน่อยครับ
จุดของตลาดทุนบ้านเรา ณ วันนี้จึงอาจกลายเป็นจุดที่อาจพลิกผันได้ทุกห้วงเวลา ขึ้นก็ได้ ลงก็ได้ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวชี้นำตลาดคือภาพที่แท้จริงของ ผลงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดนี่ละครับ โดยเฉพาะผลงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และไตรมาสที่ 3/57 คือคำตอบที่จะนำพาภาวะการณ์ของตลาดทุนแห่งนี้ ที่จะขึ้นบนต่อไปได้สู่จุดสูงสุดใหม่ หรือจะห้อยหัวตัวงอลงมาเล่นกันที่จุดต่ำอีก ผลการดำเนินงานนี่ละครับคือบทสรุปของความเป็นไปของภาวะตลาดทุนอย่างแท้จริง
สิ่งที่พวกเราเอง จำต้องประเมินให้รู้แจ้งเห็นจริงคือ ผลงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนโดยภาพรวมว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เรานั้นต้องเฝ้าดูหุ้นเป้าหมายที่เราสนใจ หรือหุ้นที่เรานั้นมีติดอยู่ในพอร์ต ว่าหุ้นเหล่านั้นจะมีผลประกอบการเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี ทุกอย่างจะเป็นจุดชี้บอกถึงอนาคตของตลาดหุ้น และอนาคตของหุ้นที่เป็นเป้าหมายของเราครับ
ยิ่งภาวะหุ้นเมื่อเดินทางถึงรอยต่อ ที่จะขึ้นหรือลง พวกเราในฐานะที่เป็นผู้แสวงหาล่าโอกาสสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองบนสังเวียนตลาดทุน จำต้องทำการบ้านให้มากๆ หน่อย และต้องตั้งสติ เรียกสมาธิ ตัดซึ่งกิเลส ละทิ้งความโลภมาก ทำตัวให้ปราศจาคความอยากทุกประการ และจงตั้งมั่นในสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ทั้งต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อให้ตัวเราเองสามารถมองเห็นช่องทางของแนวโน้มทิศทางหุ้นบนความเป็นจริงด้วยเหตุผลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
เราอย่างมองข้ามความปลอดภัยกันนะ เราอย่าไว้ใจตลาดทุนจนลืมกลัวนะ เราอย่าสนุกกับการลงทุนในช่วงจังหวะขาขึ้นจนเพลิน จงเฝ้าระมัดระวัง สุดท้ายเราจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่พึงปรารถนาได้ และเราจะสามารถก้าวผ่านการลงทุนสู่ความสำเร็จได้ทุกสถานภาพ จงจดจำไว้ครับว่า ตลาดทุนนั้นจะทำให้คนที่ประมาท ไม่รู้ไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบครอบ ไม่ใส่ใจใฝ่รู้ ไม่สนใจค้นคว้า คนเหล่านั้นจะพ่ายแพ้แก่ตลาดทุนหมดรูปไร้อนาคตเข็ดเขี้ยวตลาดทุนไปเลย แต่ตรงกันข้าม ผู้ที่เฝ้าระมัดระวัง ไม่ประมาท เตรียมตัวพร้อมเสมอ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทุกภาวะเช่นกัน
การลงทุนที่ดี อย่าไปกลัวตกรถ อย่างเกรงซื้อหุ้นตามคนอื่นไม่ทัน อย่าวิตกว่า ตลาดหุ้นมันจะขึ้นพรวดพราดไปจนทำให้เราเสียโอกาส อย่าไปกังวลว่าเราจะไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วงตลาดดีขึ้นนี้ ขอให้เรานั้นตอกย้ำความคิดของเราเองไว้เสมอ ว่า เสียดายเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเสียใจ หากเราไม่อยากเสียดาย หรือต้องเสียใจ เราก็ต้องเตรียมตัวเราได้ให้พร้อมรู้ทุกด้าน เราต้องสู้หุ้นบน สิ่งที่รู้แจ้งเห็นจริง ประจักษ์ชัด ประเมินอนาคตได้เท่านั้นครับ นี่คือสิ่งที่จะนำพาสู่ความสำเร็จได้แบบเบ็ดเสร็จ
ความเสี่ยงที่สูงของผู้ที่เล่นกับหุ้นช่วงนี้ คือ ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย ผู้ที่รู้แบบปู ๆ ปลา ๆ ผู้ที่รู้แบบฟังเขาเล่าบอกมา ผู้ที่รู้แบบคาดเดาเอาเอง ผู้ที่รู้แบบไม่กระจ่างชัดและจิตนาการไปเรื่อง ในที่สุดแล้วนักลงทุนเหล่านี้จะนำพาตัวเองตกสู่หลุมดำ แม้ในเวลานี้ภาวะตลาดทุนคงมีการไต่ตัวที่ดีขึ้น ตลาดรวมยังเป็นขาขึ้นอยู่ก็ตาม แต่หากเมื่อไหร่ภาวะตลาดทุนเกิดความพลิกผันเปลี่ยนทิศทางเมื่อไหร่นักลงทุนประเภทนี้มักจะมีบทสรุปสุดท้าย คืออยู่ในวังวนแห่งความเศร้าตรมทุกข์ระบบเสียเป็นส่วนใหญ่
ผมเองก็ขอให้ทุกท่านทุกคนโชคดีกับการลงทุนในห้วงเวลาของรอยต่อหุ้น ที่มีทิศทางพร้อมพลิกผันจะขึ้นต่อทำจุดสูงสุดใหม่ก็ได้ หรือจะปรับตัวลดลงต่ำก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ท่านเองนั้นละจะรู้เท่าทันแนวโน้ม มองและอ่านทิศทางหุ้นดูตัวหุ้นได้อย่างทะลุปรูโปร่งหรือไม่ คนเล่นหุ้นคนลงทุนในหุ้นทุกคนหวังได้เฉกเช่นเดียวกันหมด แต่บทสรุปนั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้มาดังที่ตั้งใจหวังกันทุกคน ตรงกันข้ามผลของหุ้นที่ขึ้น ๆ ลง ๆ และสุดท้ายเมื่อหมดรอบขึ้นอาการหุ้นตกต่ำลดลง มักจะมีคนที่บาดเจ็บสูญเสียมากกว่าผู้ประสบความสำเร็จเสมอครับ
ปรับตัวบนความไม่ประมาทกับเกมหุ้น
เริ่มเกิดอาการกล้า ๆ กลัว ๆ กันซะแล้วครับสำหรับการลงทุนในหุ้นบ้านเราช่วงเวลานี้ แม้โดยภาพรวมของตลาดทุนจะยังดูดีดูมีแนวโน้มที่คงเป็นขาขึ้นก็ตาม แม้จะมีการทำนายทายกันว่า ดัชนีรอบนี้น่าจะสามารถไต่ตัวสู่ระดับ 1600 จุดได้ก็ตาม แต่ที่คนเล่นหุ้นเกิดอาการกล้า ๆ กลัว ๆ ดังที่ว่า ก็ด้วยเพราะว่า ค่าพีอีของตลาดนั้นสูงปาเข้าไปเกือบ 19 เท่า ค่าพีอีของตัวหุ้นรายตัวก็สูงโด่งจนไม่รู้ว่า ความสามารถการดำเนินงานในอนาคตมันจะตามราคาหุ้นได้ทันหรือไม่นั้นเอง
การลงทุนที่ต้องคอยระมัดระวังทุกฝีก้าวจากนี้ต่อไปจึงเกิดอาการเกร็ง ๆ ของเหล่าผู้กล้าอยู่บ้าง นักลงทุนประเภทกองทุนช่วงนี้ก็เริ่มชะลอดูทีท่า ตรวจตรามองดูผลงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/57 กันเสียก่อน ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนนักลงทุนรายย่อยรายน้อยที่พัวพันเล่นหุ้นปั่นหุ้นสร้างหุ้นติดกระแส ช่วงเวลานี้ก็เริ่มหันซ้ายแลขวา พร้อมที่จะเททิ้งคว่ำกระจาดหากอาการหุ้นเกิดซวนเซขึ้น พวกนักเลงหุ้นรายใหญ่ก็จ้อง ๆ มอง ๆ พร้อมขยับขาถอยเช่นกัน สำหรับบรรดาเจ้าของหุ้น แม้อยากจะลุ้นสร้างกระแสดันราคาหุ้ตัวเอง ตอนนี้ต่างก็เริ่มหายใจขัดเช่นกัน เพราะเริ่มหมดมุขเข็นหุ้น มีก็แต่นักลงทุนต่างชาตินี่ละครับ ที่ย้ายเม็ดเงินจากฝั่งฝากยุโรปเข้ามาลงในเอเชีย ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ที่ทำให้ตลาดทุนบ้านเรานั้นคงมีแรงหนุนซื้อ จากเงินทุนต่างชาตินี่ละที่พอช่วยประคับประคองให้ตลาดทุนของเราดูดีได้หน่อยครับ
จุดของตลาดทุนบ้านเรา ณ วันนี้จึงอาจกลายเป็นจุดที่อาจพลิกผันได้ทุกห้วงเวลา ขึ้นก็ได้ ลงก็ได้ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวชี้นำตลาดคือภาพที่แท้จริงของ ผลงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดนี่ละครับ โดยเฉพาะผลงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และไตรมาสที่ 3/57 คือคำตอบที่จะนำพาภาวะการณ์ของตลาดทุนแห่งนี้ ที่จะขึ้นบนต่อไปได้สู่จุดสูงสุดใหม่ หรือจะห้อยหัวตัวงอลงมาเล่นกันที่จุดต่ำอีก ผลการดำเนินงานนี่ละครับคือบทสรุปของความเป็นไปของภาวะตลาดทุนอย่างแท้จริง
สิ่งที่พวกเราเอง จำต้องประเมินให้รู้แจ้งเห็นจริงคือ ผลงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนโดยภาพรวมว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เรานั้นต้องเฝ้าดูหุ้นเป้าหมายที่เราสนใจ หรือหุ้นที่เรานั้นมีติดอยู่ในพอร์ต ว่าหุ้นเหล่านั้นจะมีผลประกอบการเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี ทุกอย่างจะเป็นจุดชี้บอกถึงอนาคตของตลาดหุ้น และอนาคตของหุ้นที่เป็นเป้าหมายของเราครับ
ยิ่งภาวะหุ้นเมื่อเดินทางถึงรอยต่อ ที่จะขึ้นหรือลง พวกเราในฐานะที่เป็นผู้แสวงหาล่าโอกาสสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองบนสังเวียนตลาดทุน จำต้องทำการบ้านให้มากๆ หน่อย และต้องตั้งสติ เรียกสมาธิ ตัดซึ่งกิเลส ละทิ้งความโลภมาก ทำตัวให้ปราศจาคความอยากทุกประการ และจงตั้งมั่นในสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ทั้งต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อให้ตัวเราเองสามารถมองเห็นช่องทางของแนวโน้มทิศทางหุ้นบนความเป็นจริงด้วยเหตุผลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
เราอย่างมองข้ามความปลอดภัยกันนะ เราอย่าไว้ใจตลาดทุนจนลืมกลัวนะ เราอย่าสนุกกับการลงทุนในช่วงจังหวะขาขึ้นจนเพลิน จงเฝ้าระมัดระวัง สุดท้ายเราจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่พึงปรารถนาได้ และเราจะสามารถก้าวผ่านการลงทุนสู่ความสำเร็จได้ทุกสถานภาพ จงจดจำไว้ครับว่า ตลาดทุนนั้นจะทำให้คนที่ประมาท ไม่รู้ไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบครอบ ไม่ใส่ใจใฝ่รู้ ไม่สนใจค้นคว้า คนเหล่านั้นจะพ่ายแพ้แก่ตลาดทุนหมดรูปไร้อนาคตเข็ดเขี้ยวตลาดทุนไปเลย แต่ตรงกันข้าม ผู้ที่เฝ้าระมัดระวัง ไม่ประมาท เตรียมตัวพร้อมเสมอ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทุกภาวะเช่นกัน
การลงทุนที่ดี อย่าไปกลัวตกรถ อย่างเกรงซื้อหุ้นตามคนอื่นไม่ทัน อย่าวิตกว่า ตลาดหุ้นมันจะขึ้นพรวดพราดไปจนทำให้เราเสียโอกาส อย่าไปกังวลว่าเราจะไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วงตลาดดีขึ้นนี้ ขอให้เรานั้นตอกย้ำความคิดของเราเองไว้เสมอ ว่า เสียดายเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเสียใจ หากเราไม่อยากเสียดาย หรือต้องเสียใจ เราก็ต้องเตรียมตัวเราได้ให้พร้อมรู้ทุกด้าน เราต้องสู้หุ้นบน สิ่งที่รู้แจ้งเห็นจริง ประจักษ์ชัด ประเมินอนาคตได้เท่านั้นครับ นี่คือสิ่งที่จะนำพาสู่ความสำเร็จได้แบบเบ็ดเสร็จ
ความเสี่ยงที่สูงของผู้ที่เล่นกับหุ้นช่วงนี้ คือ ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย ผู้ที่รู้แบบปู ๆ ปลา ๆ ผู้ที่รู้แบบฟังเขาเล่าบอกมา ผู้ที่รู้แบบคาดเดาเอาเอง ผู้ที่รู้แบบไม่กระจ่างชัดและจิตนาการไปเรื่อง ในที่สุดแล้วนักลงทุนเหล่านี้จะนำพาตัวเองตกสู่หลุมดำ แม้ในเวลานี้ภาวะตลาดทุนคงมีการไต่ตัวที่ดีขึ้น ตลาดรวมยังเป็นขาขึ้นอยู่ก็ตาม แต่หากเมื่อไหร่ภาวะตลาดทุนเกิดความพลิกผันเปลี่ยนทิศทางเมื่อไหร่นักลงทุนประเภทนี้มักจะมีบทสรุปสุดท้าย คืออยู่ในวังวนแห่งความเศร้าตรมทุกข์ระบบเสียเป็นส่วนใหญ่
ผมเองก็ขอให้ทุกท่านทุกคนโชคดีกับการลงทุนในห้วงเวลาของรอยต่อหุ้น ที่มีทิศทางพร้อมพลิกผันจะขึ้นต่อทำจุดสูงสุดใหม่ก็ได้ หรือจะปรับตัวลดลงต่ำก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ท่านเองนั้นละจะรู้เท่าทันแนวโน้ม มองและอ่านทิศทางหุ้นดูตัวหุ้นได้อย่างทะลุปรูโปร่งหรือไม่ คนเล่นหุ้นคนลงทุนในหุ้นทุกคนหวังได้เฉกเช่นเดียวกันหมด แต่บทสรุปนั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้มาดังที่ตั้งใจหวังกันทุกคน ตรงกันข้ามผลของหุ้นที่ขึ้น ๆ ลง ๆ และสุดท้ายเมื่อหมดรอบขึ้นอาการหุ้นตกต่ำลดลง มักจะมีคนที่บาดเจ็บสูญเสียมากกว่าผู้ประสบความสำเร็จเสมอครับ