คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
1. สารให้ความหวานเทียม / น้ำตาลเทียม ครับ
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
แสดงความคิดเห็น
น้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล ใช้อะไรแทนน้ำตาลครับ?
เลยซื้อพวกน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล ท่านก็ดื่มได้สักระยะก็ไม่ดื่มกลับไปดื่มสูตรเดิม ถามว่าทำไม
ท่านบอกว่า "ไม่อร่อย" ผมเลยบอกว่า "ไม่มีน้ำตาลไงพ่อ อายุมากแล้วเบาๆน้ำตาลได้แล้ว"
แต่แกกลัวครับ กลัวสารที่ใส่แทนน้ำตาลว่าจะเป้นอันตรายต่อร่างกาย ผมจึงลองหาดูในกูเกิ้ล
สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลคือ "ขัณทศกร" ที่ใช้การหมักดองเชื่อมผลไม้ พ่อผมยิ่งกลัวหนัก
เลยอยากถามว่า สารที่ใส่ในเครื่องดื่มนั้นคือ ขัณทศกรจริงหรือไม่ครับ?
แล้วมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร?
ขอบคุณครับ