เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปช่วยดูงานก่อสร้างให้เจ้าของงานแห่งหนึ่ง
วันนั้นก็มีประชุมเดือนละครั้งตามปกติ ระหว่างทางก็มีเสียงดังโคล้งเคล้งเหมือนรถจะหลุดเป็นชิ้นๆ
ผมรีบจอดรถและลงไปดูรอบๆรถ ก้มดูแล้ว ก้มดูอีก จนแน่ใจว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ สงสัยผมจะคิดไปเองมั้ง
พอขับๆไปก็มีเสียงโคล้งเคล้งๆก็ดังขึ้นอีก จนรถคันหลังคงทนไม่ไหวมั้ง
บีบแตรปี๊นๆๆๆ แซงมาข้างๆผม และบอกผมว่ายางแตกๆ
พอผมรู้ว่า ยางแตกหรอ ผมก็แบบ เออๆ แตกก็แตก ใกล้ถึงไซด์งานละ ช่างแม่ม
พอถึงหน้างาน ผมอ้อมไปจอดรถอยู่ข้างหลังไซด์
และคิดอยู่ว่าจะใช้กำลังภายในดี หรือ กำลังภายนอกดี
กำลังภายในก็คือเปลี่ยนเองครับ
กำลังภายนอกก็คือ โทรสั่งให้หน้างานมาเปลี่ยนให้ เค้าก็คงเกรงใจมาช่วยเราะแหละ
ผมถามตัวเองว่า อุปกรณ์เปลี่ยนยางพวกนี้ เค้าออกแบบมาให้ใครใช้รู้มั้ย
คำตอบคือ ใช่ครับ มันถูกออกแบบมาเพื่อคนโง่ที่สุดก็ใช้ได้
แล้วระดับวิศวกรฉลาดๆอย่างเรา มันจะทำไม่ได้ได้ยังไงวะ ถ้าเลวร้ายสุดๆ คนแถวนี้ก็ไม่มีใครรู้จักเราหรอก จะไปกลัวทำไมวะ 5555+
สรุปคือ เปลี่ยนเองครับ มั่นใจมากว่าเต็มที่ไม่เกิน 10 นาที เดี๋ยวก็เสร็จ
และตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมา ผมถึงได้รู้ว่า ผม

โคตรคิดผิดเลย
ผมเริ่มจากค่อยๆทยอยเอาของออกจากท้ายรถจนหยิบยางอะไหล่ออกมาได้
และเอายางมาเคาะให้เด้งดึ๋งๆ เออ สนุกดีหวะ
อยู่ๆก็มีคนงานคนนึงเดินมา และถามว่า “ยางแตกหรอ”
ผมหันไปหาปุ้บ ก็เห็นคนงานคนนี้ยืนใกล้ๆผม และเบื้องหลังคนงานคนนี้ก็ยังมีคนงานอีกเพียบนั่งดูผมอยู่
ผมก็คิดในใจ คนงานแม่มมาสร้างศาลานั่งเล่นตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ ทำไมมองไม่เห็น
แต่เอาจริงๆ มันสร้างมาตั้งนานละครับ ผมมองไม่เห็นเองแหละ 555+
ผมยกมือไหว้ทีนึง สวัสดีคร้าบ ผมเปลี่ยนยางตรงนี้ได้มั้ยคับ ไม่ขวางใครใช่มั้ย
คนงานก็ตอบว่า เปลี่ยนตรงนี้ได้เลย ตามสบาย
และแทนที่คนงานคนนี้จะกลับเข้าไปตามเดิม แต่กลับนั่งยองๆอยู่ตรงนั้น
ในใจก็คิดว่า กลัวกรูหายว่างั้นเถอะ งั้นเฝ้าดีๆนะ 555+
ผมหันไปดูนาฬิกา ผ่านไปแล้ว 5 นาที จาก 10 นี่แค่ยกของลงอย่างเดียวนะ 555+
พอผมเอายางออกมาเสร็จ และหยิบประแจไขออกมา ปรากฏว่าเจอเรื่องผิดปกติครับ
รถผมเป็นรถ 4 ประตู เครื่อง 1,500 และประแจที่ให้มามีท่อนเดียว
ผมก็คิดในใจ ประแจมันต้องมี 3 ท่อนต่อไม่ใช่หรอวะ ดูในหนังออกจะบ่อย
สิ่งแรกที่คิดก็คือ “ใครขโมยประแจกรูไปวะ พนักงานตอนเข้าศูนย์แหงมๆ

เลวมาก” คือ ไม่คิดมากครับ โทษคนอื่นไว้ก่อน 5555+
คนงานที่อยู่ใกล้ๆผมก็ถามว่า “ประแจมีชิ้นเดียวหรอ มีคู่มือหรือเปล่า ใช้ยังไง”
ผมก็ยิ้มๆ และคิดในใจ ไม่ต้องยุ่งเลยๆ ระดับฉลาดๆขนาดนี้ คู่มือไม่ต้อง มีคนขโมยของกรูไปแน่นอน ชัวร์ๆ
ผมก็ถามต่อว่า “พอจะมีประแจให้ยืมปะคับ เหมือนมันจะหายไป 2 ท่อน”
คนงานก็บอกต่อว่า” ไม่ลองเปิดดูคู่มือก่อนหรอ”
ผมก็คิดในใจ มันจะคู่มืออะไรวะ มันมีคนขโมยของกรูชัวร์ๆ ไม่ให้ยืมและยังพูดมากอีก
แต่พอสังเกตดูอีกที ประแจถ้ามีท่อนต่อ มันก็ต้องมีรูเอาไว้ต่อ แต่ทำไมประแจเราไม่มีรูต่อวะ
อันจะหยิบคู่มือมาดูมันก็เสียศักดิ์ศรี สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ โทรหาเซลล์คนที่ขายรถให้ดีที่สุดละ 555+
พอโทรถามเซลล์ปุ้บ ได้ความว่า ไม่ต้องใช้ข้อต่อ คือใช้แม่แรงตรงข้างๆรถได้เลยมันจะมีปีกที่รับกันอยู่
ผมก็แบบ อ๋อออออออออออออ หรอ เพิ่งรู้อะ 555+
พอทราบความเสร็จ ก็รีบเอาแม่แรงไปขันด้านข้างรถทันที
คนงานก็ถามว่า แน่ใจหรอว่าใช้ตรงนี้
ผมก็ตอบว่า “แน่ใจครับ เคยเปลี่ยนมาแล้วรอบนึง” คือแถมาก 5555+
พอผมกำลังขันแม่แรงขึ้น คนงานอีกคนก็เดินมาถามว่า “ไม่คลายน๊อตที่ล้อก่อนหรอ ถ้ายกลอยเลย มันจะขันยากนะ”
ผมก็คิดในใจ “เอออออ ไอ้นี่มีเหตุผล” 5555+
ผมก็คลายแม่แรงลงก่อน และใช้ประแจขันที่ล้อรถ แต่โยกยังไงก็ไม่ลง
คนงานอีกคนนึงก็พูดว่า “ขันผิดทางนะ ต้องขันไปอีกทางนึง”
ผมก็คิดในใจ “หรออออ” 5555+
คนงานอีกคนเดินไปแถวๆท้ายรถผม เห็นหมวกเซฟตี้สีขาว ก็ถามว่า “เป็นช่างหรอ และหมุนวาวล์ปิดน้ำเป็นปะ”
ผมก็คิดในใจ “กรูก็หมุนๆไปก่อนแหละ ทางไหนน้ำไม่ไหลก่อนก็ทางนั้น โอเคนะ” 55555+
ผมเอาประแจค่อยๆคลายน๊อตทีละตัว พอคลายเสร็จตัวแรก คนงานก็นั่งเชียร์ว่า ต้องคลายน๊อตตัวนั้นก่อนสิ ต้องคลายตัวนี้ก่อนสิ
ผมก็คิดในใจว่า “กรูไม่ใช่ไก่ชนนะ ไม่ต้องลุ้นมากก็ได้” 5555+
พอคลายน๊อต เอายางอะไหล่ขึ้นเปลี่ยน และขันน๊อต
ระหว่างขันก็มีคนงานสองคนมายืนใกล้ๆผมและคุยกันว่า
คนงาน1 : เวลาใส่น๊อตเนี่ย ต้องใส่หลวมๆทุกตัวก่อนนะ แล้วค่อยขันให้ตึง
คนงาน 2 : ทำไมต้องขันให้ตึงละ
คนงาน1 : ถ้าขันไม่ตึง น๊อตมันจะขาดไง
คนงาน 2 : น๊อตขาดแล้วจะเป็นยังไงละ
คนงาน 1 : น๊อตขาด ล้อก็จะหลุดไง
คนงาน 2 : ล้อหลังอาจจะแซงล้อหน้า หรือ ล้อหน้าอาจจะหยุดล้อก่อนล้อหลังใช่มั้ย
คนงาน 1 : ใช่ๆ ประมานนั้น
ผมนั่งฟังไปพลางคิดในใจไป “พวกมืงมีความสุขกันมากใช่มั้ย”
พอขันน๊อตเสร็จปุ้บ เอาของทุกอย่างเก็บขึ้นกระโปรงท้าย ปิดกระโปรงรถเรียบร้อย
คนงานพากันไชโยโห่ฮิ้ว ไอ้นี่เปลี่ยนยางเสร็จแล้วมันเคยเปลี่ยนมาก่อนนะเนี่ยยยยยยย 5555555555+
คนงานคนนึงก็ถามว่า ไม่ถ่ายรูปลงเฟสบุคหน่อยหรอ
ผมก็คิดในใจ “เออหวะ ลืม” 5555+
สรุปใช้เวลาเปลี่ยนยางครั้งแรกในชีวิตไป 30 นาที
และวันนั้นก็ใส่ชุดไปเต็มยศครับ เสื้อเชิ้ต แขนยาว กางเกงแสลค กับอากาศร้อนๆช่วง 8.00 น. กลางแจ้ง
พอขึ้นห้องประชุมปุ้บ มีแต่คนถาม นายช่างไปอาบน้ำที่ไหนมาคะ 55555+
แล้ววันนั้นซวยอย่างครับ เจ้าของโครงการไม่มา ผมต้องนั่งหัวโต๊ะเอง
ระหว่างประชุม ผรม. เอาวัสดุหลังคามาให้ดู เพื่อขออนุมัติ แต่ไม่มีคู่มือ
ผมก็บอกว่า ต้องขอให้ทาง ผรม. นำส่งคู่มือให้ผมด้วย เพราะนอกจากตัววัสดุแล้วยังเป็นมาตรฐานการติดตั้งของวัสดุนั้นๆ
ซึ่งทางผมกับทาง ผรม. ต้องใช้เป็นข้อตกลงร่วมกันในการทำงานต่อไป
พอพูดถึงคู่มือ เรื่องนี้คุ้นๆนะ 555+
พอต่อมาคุยเรื่องปัญหาเรื่องหน้างาน และ ผรม. จะไปเชิญหัวหน้างานมาคุยด้วย
ปกติถ้าเชิญใครมาก็ต้องเกรงใจคนหัวโต๊ะเป็นธรรมดา
แต่หัวหน้างานที่เชิญมา ดันเป็น 1 ในคนงานที่มาดูผมเปลี่ยนยางอย่างใกล้ชิดและแนบแน่นมากๆ
พอหัวหน้างานเข้ามา และเห็นผมนั่งหัวโต๊ะก็ถามเจ้านายเค้าว่า
1. ใครวะ?
2. แล้วมันไปนั่งทำไมตรงนั้น?
ผมก็บอกเพื่อนๆในที่ประชุมว่า "เมื่อเช้ารถผมยางแตก ผมเปลี่ยนยางไม่ค่อยเป็น เค้าก็มาช่วยผมลุ้น"
หัวหน้างานก็แซวผมว่า "ถ้าหลงป่าไม่มี 3g คงตายแน่ๆ จับประแจยังสั่นๆ และจับขาสาวจะรอดมั้ยเนี่ย" 5555+
สรุปคือ ภาพพจน์ผมเสียหมดและ เพราะเค้าคงเอาเรื่องผมไปคุยต่อข้างล่าง ก็เพราะอียางเส้นเดียวนี่แหละ 555+
แต่ก็สนุกดีครับ กับการเปลี่ยนยางครั้งแรกในชีวิต
ถ้าใครยังไม่เคยเปลี่ยนยางเลย ว่างๆลองหัดเปลี่ยนก็ได้ครับ ลองงานก่อนเจอของจริง เพื่อความสะใจของชีวิตครับ 5555+
สุดท้ายตอนจบ มีทิ้งท้ายเหมือนหนังฝรั่งเลยครับ
ผมฉีดน้ำล้างกระจกเพราะมีฝุ่นเยอะมาก แต่ไม่มีน้ำออกมา
พอมองไปซัก 5 เมตร มีก๊อกน้ำและสายยางกองอยู่ ในรถผมก็มีขวดน้ำเล็กๆอยู่
ระดับวิศวกรฉลาดๆของเราจะทำยังไง
ได้คำตอบคือ เดินไปที่ก๊อก กรอกน้ำจากสายยางใส่ขวด และค่อยๆเติมทีละขวด
พอผมเดินได้ 2 รอบ กำลังเติมขวดที่ 2
มีคนงานคนนึง เดินมาเปิดก๊อกน้ำ ลากสายยาง และเอาปลายสายยางยัดลงไปในกระติกช่องปัดน้ำฝน
อัดน้ำเต็มจนล้นออกมา และมัดสายยางกลับ พร้อมกับเดินมาถามผมว่า
“ถามจริงๆนะ เป็นช่างจริงปะ” 55555+
ประสบการณ์เปลี่ยนยางครั้งแรกของนายช่างโยธาต่อหน้ามวลมหาประชาคนงาน
วันนั้นก็มีประชุมเดือนละครั้งตามปกติ ระหว่างทางก็มีเสียงดังโคล้งเคล้งเหมือนรถจะหลุดเป็นชิ้นๆ
ผมรีบจอดรถและลงไปดูรอบๆรถ ก้มดูแล้ว ก้มดูอีก จนแน่ใจว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ สงสัยผมจะคิดไปเองมั้ง
พอขับๆไปก็มีเสียงโคล้งเคล้งๆก็ดังขึ้นอีก จนรถคันหลังคงทนไม่ไหวมั้ง
บีบแตรปี๊นๆๆๆ แซงมาข้างๆผม และบอกผมว่ายางแตกๆ
พอผมรู้ว่า ยางแตกหรอ ผมก็แบบ เออๆ แตกก็แตก ใกล้ถึงไซด์งานละ ช่างแม่ม
พอถึงหน้างาน ผมอ้อมไปจอดรถอยู่ข้างหลังไซด์
และคิดอยู่ว่าจะใช้กำลังภายในดี หรือ กำลังภายนอกดี
กำลังภายในก็คือเปลี่ยนเองครับ
กำลังภายนอกก็คือ โทรสั่งให้หน้างานมาเปลี่ยนให้ เค้าก็คงเกรงใจมาช่วยเราะแหละ
ผมถามตัวเองว่า อุปกรณ์เปลี่ยนยางพวกนี้ เค้าออกแบบมาให้ใครใช้รู้มั้ย
คำตอบคือ ใช่ครับ มันถูกออกแบบมาเพื่อคนโง่ที่สุดก็ใช้ได้
แล้วระดับวิศวกรฉลาดๆอย่างเรา มันจะทำไม่ได้ได้ยังไงวะ ถ้าเลวร้ายสุดๆ คนแถวนี้ก็ไม่มีใครรู้จักเราหรอก จะไปกลัวทำไมวะ 5555+
สรุปคือ เปลี่ยนเองครับ มั่นใจมากว่าเต็มที่ไม่เกิน 10 นาที เดี๋ยวก็เสร็จ
และตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมา ผมถึงได้รู้ว่า ผม
ผมเริ่มจากค่อยๆทยอยเอาของออกจากท้ายรถจนหยิบยางอะไหล่ออกมาได้
และเอายางมาเคาะให้เด้งดึ๋งๆ เออ สนุกดีหวะ
อยู่ๆก็มีคนงานคนนึงเดินมา และถามว่า “ยางแตกหรอ”
ผมหันไปหาปุ้บ ก็เห็นคนงานคนนี้ยืนใกล้ๆผม และเบื้องหลังคนงานคนนี้ก็ยังมีคนงานอีกเพียบนั่งดูผมอยู่
ผมก็คิดในใจ คนงานแม่มมาสร้างศาลานั่งเล่นตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ ทำไมมองไม่เห็น
แต่เอาจริงๆ มันสร้างมาตั้งนานละครับ ผมมองไม่เห็นเองแหละ 555+
ผมยกมือไหว้ทีนึง สวัสดีคร้าบ ผมเปลี่ยนยางตรงนี้ได้มั้ยคับ ไม่ขวางใครใช่มั้ย
คนงานก็ตอบว่า เปลี่ยนตรงนี้ได้เลย ตามสบาย
และแทนที่คนงานคนนี้จะกลับเข้าไปตามเดิม แต่กลับนั่งยองๆอยู่ตรงนั้น
ในใจก็คิดว่า กลัวกรูหายว่างั้นเถอะ งั้นเฝ้าดีๆนะ 555+
ผมหันไปดูนาฬิกา ผ่านไปแล้ว 5 นาที จาก 10 นี่แค่ยกของลงอย่างเดียวนะ 555+
พอผมเอายางออกมาเสร็จ และหยิบประแจไขออกมา ปรากฏว่าเจอเรื่องผิดปกติครับ
รถผมเป็นรถ 4 ประตู เครื่อง 1,500 และประแจที่ให้มามีท่อนเดียว
ผมก็คิดในใจ ประแจมันต้องมี 3 ท่อนต่อไม่ใช่หรอวะ ดูในหนังออกจะบ่อย
สิ่งแรกที่คิดก็คือ “ใครขโมยประแจกรูไปวะ พนักงานตอนเข้าศูนย์แหงมๆ
คนงานที่อยู่ใกล้ๆผมก็ถามว่า “ประแจมีชิ้นเดียวหรอ มีคู่มือหรือเปล่า ใช้ยังไง”
ผมก็ยิ้มๆ และคิดในใจ ไม่ต้องยุ่งเลยๆ ระดับฉลาดๆขนาดนี้ คู่มือไม่ต้อง มีคนขโมยของกรูไปแน่นอน ชัวร์ๆ
ผมก็ถามต่อว่า “พอจะมีประแจให้ยืมปะคับ เหมือนมันจะหายไป 2 ท่อน”
คนงานก็บอกต่อว่า” ไม่ลองเปิดดูคู่มือก่อนหรอ”
ผมก็คิดในใจ มันจะคู่มืออะไรวะ มันมีคนขโมยของกรูชัวร์ๆ ไม่ให้ยืมและยังพูดมากอีก
แต่พอสังเกตดูอีกที ประแจถ้ามีท่อนต่อ มันก็ต้องมีรูเอาไว้ต่อ แต่ทำไมประแจเราไม่มีรูต่อวะ
อันจะหยิบคู่มือมาดูมันก็เสียศักดิ์ศรี สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ โทรหาเซลล์คนที่ขายรถให้ดีที่สุดละ 555+
พอโทรถามเซลล์ปุ้บ ได้ความว่า ไม่ต้องใช้ข้อต่อ คือใช้แม่แรงตรงข้างๆรถได้เลยมันจะมีปีกที่รับกันอยู่
ผมก็แบบ อ๋อออออออออออออ หรอ เพิ่งรู้อะ 555+
พอทราบความเสร็จ ก็รีบเอาแม่แรงไปขันด้านข้างรถทันที
คนงานก็ถามว่า แน่ใจหรอว่าใช้ตรงนี้
ผมก็ตอบว่า “แน่ใจครับ เคยเปลี่ยนมาแล้วรอบนึง” คือแถมาก 5555+
พอผมกำลังขันแม่แรงขึ้น คนงานอีกคนก็เดินมาถามว่า “ไม่คลายน๊อตที่ล้อก่อนหรอ ถ้ายกลอยเลย มันจะขันยากนะ”
ผมก็คิดในใจ “เอออออ ไอ้นี่มีเหตุผล” 5555+
ผมก็คลายแม่แรงลงก่อน และใช้ประแจขันที่ล้อรถ แต่โยกยังไงก็ไม่ลง
คนงานอีกคนนึงก็พูดว่า “ขันผิดทางนะ ต้องขันไปอีกทางนึง”
ผมก็คิดในใจ “หรออออ” 5555+
คนงานอีกคนเดินไปแถวๆท้ายรถผม เห็นหมวกเซฟตี้สีขาว ก็ถามว่า “เป็นช่างหรอ และหมุนวาวล์ปิดน้ำเป็นปะ”
ผมก็คิดในใจ “กรูก็หมุนๆไปก่อนแหละ ทางไหนน้ำไม่ไหลก่อนก็ทางนั้น โอเคนะ” 55555+
ผมเอาประแจค่อยๆคลายน๊อตทีละตัว พอคลายเสร็จตัวแรก คนงานก็นั่งเชียร์ว่า ต้องคลายน๊อตตัวนั้นก่อนสิ ต้องคลายตัวนี้ก่อนสิ
ผมก็คิดในใจว่า “กรูไม่ใช่ไก่ชนนะ ไม่ต้องลุ้นมากก็ได้” 5555+
พอคลายน๊อต เอายางอะไหล่ขึ้นเปลี่ยน และขันน๊อต
ระหว่างขันก็มีคนงานสองคนมายืนใกล้ๆผมและคุยกันว่า
คนงาน1 : เวลาใส่น๊อตเนี่ย ต้องใส่หลวมๆทุกตัวก่อนนะ แล้วค่อยขันให้ตึง
คนงาน 2 : ทำไมต้องขันให้ตึงละ
คนงาน1 : ถ้าขันไม่ตึง น๊อตมันจะขาดไง
คนงาน 2 : น๊อตขาดแล้วจะเป็นยังไงละ
คนงาน 1 : น๊อตขาด ล้อก็จะหลุดไง
คนงาน 2 : ล้อหลังอาจจะแซงล้อหน้า หรือ ล้อหน้าอาจจะหยุดล้อก่อนล้อหลังใช่มั้ย
คนงาน 1 : ใช่ๆ ประมานนั้น
ผมนั่งฟังไปพลางคิดในใจไป “พวกมืงมีความสุขกันมากใช่มั้ย”
พอขันน๊อตเสร็จปุ้บ เอาของทุกอย่างเก็บขึ้นกระโปรงท้าย ปิดกระโปรงรถเรียบร้อย
คนงานพากันไชโยโห่ฮิ้ว ไอ้นี่เปลี่ยนยางเสร็จแล้วมันเคยเปลี่ยนมาก่อนนะเนี่ยยยยยยย 5555555555+
คนงานคนนึงก็ถามว่า ไม่ถ่ายรูปลงเฟสบุคหน่อยหรอ
ผมก็คิดในใจ “เออหวะ ลืม” 5555+
สรุปใช้เวลาเปลี่ยนยางครั้งแรกในชีวิตไป 30 นาที
และวันนั้นก็ใส่ชุดไปเต็มยศครับ เสื้อเชิ้ต แขนยาว กางเกงแสลค กับอากาศร้อนๆช่วง 8.00 น. กลางแจ้ง
พอขึ้นห้องประชุมปุ้บ มีแต่คนถาม นายช่างไปอาบน้ำที่ไหนมาคะ 55555+
แล้ววันนั้นซวยอย่างครับ เจ้าของโครงการไม่มา ผมต้องนั่งหัวโต๊ะเอง
ระหว่างประชุม ผรม. เอาวัสดุหลังคามาให้ดู เพื่อขออนุมัติ แต่ไม่มีคู่มือ
ผมก็บอกว่า ต้องขอให้ทาง ผรม. นำส่งคู่มือให้ผมด้วย เพราะนอกจากตัววัสดุแล้วยังเป็นมาตรฐานการติดตั้งของวัสดุนั้นๆ
ซึ่งทางผมกับทาง ผรม. ต้องใช้เป็นข้อตกลงร่วมกันในการทำงานต่อไป
พอพูดถึงคู่มือ เรื่องนี้คุ้นๆนะ 555+
พอต่อมาคุยเรื่องปัญหาเรื่องหน้างาน และ ผรม. จะไปเชิญหัวหน้างานมาคุยด้วย
ปกติถ้าเชิญใครมาก็ต้องเกรงใจคนหัวโต๊ะเป็นธรรมดา
แต่หัวหน้างานที่เชิญมา ดันเป็น 1 ในคนงานที่มาดูผมเปลี่ยนยางอย่างใกล้ชิดและแนบแน่นมากๆ
พอหัวหน้างานเข้ามา และเห็นผมนั่งหัวโต๊ะก็ถามเจ้านายเค้าว่า
1. ใครวะ?
2. แล้วมันไปนั่งทำไมตรงนั้น?
ผมก็บอกเพื่อนๆในที่ประชุมว่า "เมื่อเช้ารถผมยางแตก ผมเปลี่ยนยางไม่ค่อยเป็น เค้าก็มาช่วยผมลุ้น"
หัวหน้างานก็แซวผมว่า "ถ้าหลงป่าไม่มี 3g คงตายแน่ๆ จับประแจยังสั่นๆ และจับขาสาวจะรอดมั้ยเนี่ย" 5555+
สรุปคือ ภาพพจน์ผมเสียหมดและ เพราะเค้าคงเอาเรื่องผมไปคุยต่อข้างล่าง ก็เพราะอียางเส้นเดียวนี่แหละ 555+
แต่ก็สนุกดีครับ กับการเปลี่ยนยางครั้งแรกในชีวิต
ถ้าใครยังไม่เคยเปลี่ยนยางเลย ว่างๆลองหัดเปลี่ยนก็ได้ครับ ลองงานก่อนเจอของจริง เพื่อความสะใจของชีวิตครับ 5555+
สุดท้ายตอนจบ มีทิ้งท้ายเหมือนหนังฝรั่งเลยครับ
ผมฉีดน้ำล้างกระจกเพราะมีฝุ่นเยอะมาก แต่ไม่มีน้ำออกมา
พอมองไปซัก 5 เมตร มีก๊อกน้ำและสายยางกองอยู่ ในรถผมก็มีขวดน้ำเล็กๆอยู่
ระดับวิศวกรฉลาดๆของเราจะทำยังไง
ได้คำตอบคือ เดินไปที่ก๊อก กรอกน้ำจากสายยางใส่ขวด และค่อยๆเติมทีละขวด
พอผมเดินได้ 2 รอบ กำลังเติมขวดที่ 2
มีคนงานคนนึง เดินมาเปิดก๊อกน้ำ ลากสายยาง และเอาปลายสายยางยัดลงไปในกระติกช่องปัดน้ำฝน
อัดน้ำเต็มจนล้นออกมา และมัดสายยางกลับ พร้อมกับเดินมาถามผมว่า
“ถามจริงๆนะ เป็นช่างจริงปะ” 55555+