สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันธ์ทิพย์ วันนี้มีเรื่องที่จะมาขอกำลังใจ
และขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆ ชาวพันธ์ทิพย์ กรณีโดนไล่ออกจากงาน ระหว่างท้อง
เป็นเรื่องการล้มเหลวของชีวิตคร้ังใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้เป็นมา
ภาษาที่ใช้อาจจะวกไป วนมา ไม่สละสลวย เวิ้นเว้อ ยืนยาว ไปสักหน่อย เริ่มเรื่องเลยนะคะ
ดิฉันอายุ 34 ปีค่ะ มีลูก 3 คนค่ะ คนโตอายุ 9 ขวบ คนที่ 2 อายุ 5 ขวบ และในท้อง 6 เดือนค่ะ
ดิฉันทำงานในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานขายฝ่ายขายกับบริษัทนี้เป็นเวลา 5 ปีกว่า
ทุกอย่างปกติดี กับเพื่อนในแผนกไม่เคยมีปัญหา ส่วนกับหัวหน้า ดิฉันไม่ค่อยสุงสิงด้วยเท่าไหร่
ถ้ามีปัญหานาน ๆ ทีจะเข้าไปพบ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บริษัทเริ่มใหญ่ขึ้น มีสาขาอยู่ 2-3 ประเทศในเอเซีย
จึงทำให้บริษัทมีความเข้มงวดในการทำงานมากขึ้น
ดิฉันรับตำแหน่ง ประสานงานขายในส่วน ตจว. ค่ะ
การทำงานเมื่อก่อน สนุกสนาน ฝ่ายขายเป็นกันเองมาก บรรยากาศน่าทำงานมาก จนคิดว่า ที่นี่คือใช่แล้ว
จนช่วงหลัง ๆ เจ้านายเริ่มที่จะประชุมฝ่ายขายมากขึ้นเนื่องจาก บริษัทเติบโต แต่ทำไมยอดขายไม่โตตาม
เริ่มให้ฝ่ายขายหาข้อผิดพลาด ในแต่ละแผนกที่มีผลกับยอดขายในแต่ละเขตของตน
ดิฉันเข้าใจว่า อะไร อะไรย่อมเปลี่ยนไป เพราะฝ่ายขายเริ่มมีการทยอยลาออกไปเป็นว่าเล่น
บรรยากาศในการทำงานเริ่มอึมครึม เมื่อก่อนยอมรับ มีออเดอร์หลุดบ้าง
มีการเลื่อนส่งสินค้าบ้าง มีข้อผิดพลาดในการสั่งสินค้าบ้าง ก็มีการประนี ประนอมได้
ในปัจจุบันการผิดพลาดพวกนี้ ฝ่ายขายจะต้องเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้เจ้านายฟัง
เพราะมีผลกระทบกับยอดขาย
จนมาถึงตาดิฉัน เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่นมา หัวหน้าเรียกดิฉัน
เพื่อเซ็นหนังสือสัญญาเลิกจ้าง
บอกว่าดิฉันไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย
และฝ่ายขายเป็นคนโหวตให้ดิฉันออก ซึ่งเมื่อเห็นจดหมายแล้ว ดิฉันถึงกับเตลิด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สติสตางค์ตอนนั้น คือ มันกระเจิงไปหมด จึงไม่ได้มีข้อโต้แย้งอะไร
ด้วยความโกรธ เพราะเขตที่ดิฉันดู ยอมรับผิดพลาดจริง แต่ก็ปิดยอดให้ฝ่ายขาย 120 ได้ทุกเดือน
และไม่เคยมีฝ่ายคนไหน ต่อว่าดิฉันเลย ขณะที่ดิฉันออกงานมา ก็ยังมี line เข้ามาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมิขาดสาย
สอบถามถึงค่าชดเชย หัวหน้าแจ้งว่า ให้ 3 เดือน แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่า เขาจะให้ค่าตกใจอีก 1 เดือนด้วยหรือเปล่า
ไม่มีกะจิต กะใจถามอะไรต่อไป และไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับบริษัทต่อ
ขอตัวลากลับบ้านในเย็นวันนั้น
ในสมองก็คิด อีก 3 เดือนกว่าจะคลอด ลูกต้องเรียนหนังสืออีก 2 คน
สามีก็ต้องเหนื่อยในการ ทำงานคนเดียว เพราะที่ผ่านมา 10 กว่าปี
ดิฉันไม่เคยคิดพึงพาอาศัยสามีเลย
มันทำให้ตะขิด ตะขวนใจ ที่จะเพิ่งพาเขา
สามีก็ให้กำลังใจ ถือว่าพักผ่อนซะ อย่าให้ดิฉันคิดมาก
ครั้นจะกลับบ้านไปช่วยพ่อกับแม่ดูแลลูกอีก 2 คน
ก็เกรงว่า น้องสาว พ่อ แม่จะรุมด่า ให้หมดกำลังใจ
เพราะท้องลูกคนที่ 3 ก็โดนด่าเช้า ด่าเย็น พูดเหน็บแนมจนเบื่อหน่าย
จึงอยากจะขอกำลังใจ จากเพื่อนๆ ชาวพันธทิพย์เพื่อเป็นกำลังใจผ่านตัวหนังสือ
และอยากทราบว่า กรณีขึ้นทะเบียนคนว่างงาน ดิฉันต้องไปแจ้ง โดนเลิกจ้าง หรือ ลาออกเองคะ
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่าน
โดนจ้างออก ระหว่างตั้งครรภ์
และขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆ ชาวพันธ์ทิพย์ กรณีโดนไล่ออกจากงาน ระหว่างท้อง
เป็นเรื่องการล้มเหลวของชีวิตคร้ังใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้เป็นมา
ภาษาที่ใช้อาจจะวกไป วนมา ไม่สละสลวย เวิ้นเว้อ ยืนยาว ไปสักหน่อย เริ่มเรื่องเลยนะคะ
ดิฉันอายุ 34 ปีค่ะ มีลูก 3 คนค่ะ คนโตอายุ 9 ขวบ คนที่ 2 อายุ 5 ขวบ และในท้อง 6 เดือนค่ะ
ดิฉันทำงานในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานขายฝ่ายขายกับบริษัทนี้เป็นเวลา 5 ปีกว่า
ทุกอย่างปกติดี กับเพื่อนในแผนกไม่เคยมีปัญหา ส่วนกับหัวหน้า ดิฉันไม่ค่อยสุงสิงด้วยเท่าไหร่
ถ้ามีปัญหานาน ๆ ทีจะเข้าไปพบ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บริษัทเริ่มใหญ่ขึ้น มีสาขาอยู่ 2-3 ประเทศในเอเซีย
จึงทำให้บริษัทมีความเข้มงวดในการทำงานมากขึ้น
ดิฉันรับตำแหน่ง ประสานงานขายในส่วน ตจว. ค่ะ
การทำงานเมื่อก่อน สนุกสนาน ฝ่ายขายเป็นกันเองมาก บรรยากาศน่าทำงานมาก จนคิดว่า ที่นี่คือใช่แล้ว
จนช่วงหลัง ๆ เจ้านายเริ่มที่จะประชุมฝ่ายขายมากขึ้นเนื่องจาก บริษัทเติบโต แต่ทำไมยอดขายไม่โตตาม
เริ่มให้ฝ่ายขายหาข้อผิดพลาด ในแต่ละแผนกที่มีผลกับยอดขายในแต่ละเขตของตน
ดิฉันเข้าใจว่า อะไร อะไรย่อมเปลี่ยนไป เพราะฝ่ายขายเริ่มมีการทยอยลาออกไปเป็นว่าเล่น
บรรยากาศในการทำงานเริ่มอึมครึม เมื่อก่อนยอมรับ มีออเดอร์หลุดบ้าง
มีการเลื่อนส่งสินค้าบ้าง มีข้อผิดพลาดในการสั่งสินค้าบ้าง ก็มีการประนี ประนอมได้
ในปัจจุบันการผิดพลาดพวกนี้ ฝ่ายขายจะต้องเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้เจ้านายฟัง
เพราะมีผลกระทบกับยอดขาย
จนมาถึงตาดิฉัน เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่นมา หัวหน้าเรียกดิฉัน
เพื่อเซ็นหนังสือสัญญาเลิกจ้าง
บอกว่าดิฉันไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย
และฝ่ายขายเป็นคนโหวตให้ดิฉันออก ซึ่งเมื่อเห็นจดหมายแล้ว ดิฉันถึงกับเตลิด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สติสตางค์ตอนนั้น คือ มันกระเจิงไปหมด จึงไม่ได้มีข้อโต้แย้งอะไร
ด้วยความโกรธ เพราะเขตที่ดิฉันดู ยอมรับผิดพลาดจริง แต่ก็ปิดยอดให้ฝ่ายขาย 120 ได้ทุกเดือน
และไม่เคยมีฝ่ายคนไหน ต่อว่าดิฉันเลย ขณะที่ดิฉันออกงานมา ก็ยังมี line เข้ามาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมิขาดสาย
สอบถามถึงค่าชดเชย หัวหน้าแจ้งว่า ให้ 3 เดือน แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่า เขาจะให้ค่าตกใจอีก 1 เดือนด้วยหรือเปล่า
ไม่มีกะจิต กะใจถามอะไรต่อไป และไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับบริษัทต่อ
ขอตัวลากลับบ้านในเย็นวันนั้น
ในสมองก็คิด อีก 3 เดือนกว่าจะคลอด ลูกต้องเรียนหนังสืออีก 2 คน
สามีก็ต้องเหนื่อยในการ ทำงานคนเดียว เพราะที่ผ่านมา 10 กว่าปี
ดิฉันไม่เคยคิดพึงพาอาศัยสามีเลย
มันทำให้ตะขิด ตะขวนใจ ที่จะเพิ่งพาเขา
สามีก็ให้กำลังใจ ถือว่าพักผ่อนซะ อย่าให้ดิฉันคิดมาก
ครั้นจะกลับบ้านไปช่วยพ่อกับแม่ดูแลลูกอีก 2 คน
ก็เกรงว่า น้องสาว พ่อ แม่จะรุมด่า ให้หมดกำลังใจ
เพราะท้องลูกคนที่ 3 ก็โดนด่าเช้า ด่าเย็น พูดเหน็บแนมจนเบื่อหน่าย
จึงอยากจะขอกำลังใจ จากเพื่อนๆ ชาวพันธทิพย์เพื่อเป็นกำลังใจผ่านตัวหนังสือ
และอยากทราบว่า กรณีขึ้นทะเบียนคนว่างงาน ดิฉันต้องไปแจ้ง โดนเลิกจ้าง หรือ ลาออกเองคะ
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่าน