พ่อเราเสียตั้งแต่เรา 3 ขวบ ตอนนั้นยังไม่ประสีประสาอะไร ยืนมองศพพ่อที่ลอยขึ้นจากนั้นอย่างเฉยๆ ถ้าถามว่าจำได้ไหม จำได้เกือบหมดนับตั้งแต่พูดกับแม่ว่า "พ่อไม่อยู่แล้ว"
วันนั้นคือวันสงกรานต์ 14 เมษายน เรา ยาย แม่ ไปทำบุญ พ่อและพี่ชาย(คนละพ่อ) อยู่บ้าน พอพี่เราตื่นก็ออกไปบ้านญาติ พ่ออยู่บ้านคนเดียว แม่เล่าว่าเรางอแงมาก ร้องไห้บอกให้กลับบ้านอย่างเดียว แม่เลยพากลับ พอมาถึงพ่อไม่อยู่บ้านแล้ว คำแรกที่ออกจากปากเรา "พ่อไม่อยู่แล้ว พ่อไปแล้ว" เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงบอกแม่แบบนั้น แม่ และยายตามหาก็ไม่เจอ จนเราบอกว่าไปดูที่เขื่อน(ไซฟอนคลองประปา) เรา ยาย แม่ไปที่นั่น เห็นผ้าขาวม้าและรองเท้าพ่อว่างอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างวางเรียบร้อยมาก ภาพมันติดตาเราจริง "พ่ออยู่ในนั้น" เราพูด แม่เรางงไปหมด พาเราไปอยู่บ้านญาติติดๆ กัน แล้วแม่กับยายก็ไปไหนไม่รู้ ที่บ้านทำพิธีเชิญวิญญาณและร่างขึ้นจากนั้นโดยการจุดธูปเรียกแต่ก็ยังไม่ขึ้น แม่ไปหาพระที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าพรุ่งนี้ เพื่อนๆ ญาติๆ พ่อกับแม่ก็นั่งเฝ้ากันทั้งวันทั้งคืน เพราะถ้าร่างลอยขึ้นมาถ้าไม่รอดัก ก็จะไหลตามแรงน้ำไป พอเช้าทุกคนก็ไปยืนรอที่ข้างคลอง เราได้แค่ยืนเกาะบานเกร็ดดู แล้วร่างพ่อก็ขึ้นมา เราเห็นแค่ราง แล้วทุกคนก็รีบใช้พวกสวิง อันใหญ่ๆ กั้นไว้ ช่วงงานศพแม่ร้องไห้อย่างหนัก และก็ไม่สบาย แม่บอกว่าพ่อจะให้แม่ไปด้วยแต่แม่บอกพ่อไปว่าถ้าแม่ไปด้วยแล้วใครจะเลี้ยงลูก แม่เป็นคางทูม นอนซม ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา แล้วแม่ก็ดีขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าพ่อยังอยู่ เราเองก็เช่นกัน จนหลายปีผ่านไปเราก็เข้าโรงเรียนแล้วล่ะ มีคนบอกกับทางบ้านย่าว่าพ่อเราจะไปเกิดแล้วนะ ป้าโทรมาบอกแม่และคืนนั้นเราก็เห็นพ่อ เราไม่ได้ฝันภาพนั้นยังจำได้ไม่ลืม พ่อใส่กางเกงตัวที่ชอบชอบไม่ใส่เสื้อ ตัวและหน้าของพ่อเขียว พ่อยืนอยู่ที่หน้าตู้ใบนั้นใบที่แม่เก็บของของเราไว้ในนั้น "พ่อไป ดูแลแม่ด้วย) พ่อยิ้ม แล้วทุกอย่างก็กลับมาปกติ เราเล่าให้คนในบ้านฟัง เขาก็บอกกันว่าพ่อเอ็งไปเกิดแล้ว
เมื่อเข้าโรงเรียนวันแม่เรามีความสุข ได้เขียนเรียงความให้แม่ ทำการ์ด ซื้อพวงมาลัยให้แม่ แต่พอถึงวันพ่อ ไม่ว่าจะกี่ปีเรียงความมันไม่เคยเปลี่ยนไป มันก็ยังคงเป็นเรื่องเศร้าๆ เดิมๆ ที่เราเขียนตั้งแต่ ป.1จนจบประถม เพื่อนชอบล้อว่า "ลูกไม่มีพ่อ" "พ่อตาย แหวะ" เราเจ็บนะ แต่ไม่เคยเล่าให้แม่ฟัง มันคือปมด้อยที่เรียกน้ำตาเราได้มากทีเดียว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนล้ออยู่ เราเก็บไว้ ไม่พูด แล้วแอบมาร้องคนเดียวบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนโต เราอิจฉาคนที่มีพ่อ ไปเที่ยวไปกินข้าว พ่อ แม่ ลูก มันดูครบสมบูรณ์ แต่แม่เราก็ทำหน้าที่ได้ดีสุดๆ ยายและแม่เลี้ยงเรามาดีมาก เราเหมือนไม่ขาดอะไร แต่ในใจก็อยากจะมีพ่อ แล้วตั้งแต่พ่อเสียแม่ก็ไม่มีใคร แม่ต้องการเลี้ยงเราให้ดีที่สุด แต่นั่นแหละมันก็เจ็บทุกครั้งที่โดนด่าแบบนั้น เจ็บทุกครั้งที่เห็น พ่อ แม่ลูก อื่นๆ เจ็บที่เราเรียกพ่อได้แค่ไม่กี่ครั้ง ทุกวันพ่อเราจะระลึกถึงพ่อตลอดและให้สัญญาว่าเราจะดูแลแม่ตามที่พ่อเคยบอกเราไว้
รู้สึกอย่างไรเมื่อคนชอบว่าเรา "ไอ้ลูกไม่มีพ่อ"
วันนั้นคือวันสงกรานต์ 14 เมษายน เรา ยาย แม่ ไปทำบุญ พ่อและพี่ชาย(คนละพ่อ) อยู่บ้าน พอพี่เราตื่นก็ออกไปบ้านญาติ พ่ออยู่บ้านคนเดียว แม่เล่าว่าเรางอแงมาก ร้องไห้บอกให้กลับบ้านอย่างเดียว แม่เลยพากลับ พอมาถึงพ่อไม่อยู่บ้านแล้ว คำแรกที่ออกจากปากเรา "พ่อไม่อยู่แล้ว พ่อไปแล้ว" เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงบอกแม่แบบนั้น แม่ และยายตามหาก็ไม่เจอ จนเราบอกว่าไปดูที่เขื่อน(ไซฟอนคลองประปา) เรา ยาย แม่ไปที่นั่น เห็นผ้าขาวม้าและรองเท้าพ่อว่างอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างวางเรียบร้อยมาก ภาพมันติดตาเราจริง "พ่ออยู่ในนั้น" เราพูด แม่เรางงไปหมด พาเราไปอยู่บ้านญาติติดๆ กัน แล้วแม่กับยายก็ไปไหนไม่รู้ ที่บ้านทำพิธีเชิญวิญญาณและร่างขึ้นจากนั้นโดยการจุดธูปเรียกแต่ก็ยังไม่ขึ้น แม่ไปหาพระที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าพรุ่งนี้ เพื่อนๆ ญาติๆ พ่อกับแม่ก็นั่งเฝ้ากันทั้งวันทั้งคืน เพราะถ้าร่างลอยขึ้นมาถ้าไม่รอดัก ก็จะไหลตามแรงน้ำไป พอเช้าทุกคนก็ไปยืนรอที่ข้างคลอง เราได้แค่ยืนเกาะบานเกร็ดดู แล้วร่างพ่อก็ขึ้นมา เราเห็นแค่ราง แล้วทุกคนก็รีบใช้พวกสวิง อันใหญ่ๆ กั้นไว้ ช่วงงานศพแม่ร้องไห้อย่างหนัก และก็ไม่สบาย แม่บอกว่าพ่อจะให้แม่ไปด้วยแต่แม่บอกพ่อไปว่าถ้าแม่ไปด้วยแล้วใครจะเลี้ยงลูก แม่เป็นคางทูม นอนซม ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา แล้วแม่ก็ดีขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าพ่อยังอยู่ เราเองก็เช่นกัน จนหลายปีผ่านไปเราก็เข้าโรงเรียนแล้วล่ะ มีคนบอกกับทางบ้านย่าว่าพ่อเราจะไปเกิดแล้วนะ ป้าโทรมาบอกแม่และคืนนั้นเราก็เห็นพ่อ เราไม่ได้ฝันภาพนั้นยังจำได้ไม่ลืม พ่อใส่กางเกงตัวที่ชอบชอบไม่ใส่เสื้อ ตัวและหน้าของพ่อเขียว พ่อยืนอยู่ที่หน้าตู้ใบนั้นใบที่แม่เก็บของของเราไว้ในนั้น "พ่อไป ดูแลแม่ด้วย) พ่อยิ้ม แล้วทุกอย่างก็กลับมาปกติ เราเล่าให้คนในบ้านฟัง เขาก็บอกกันว่าพ่อเอ็งไปเกิดแล้ว
เมื่อเข้าโรงเรียนวันแม่เรามีความสุข ได้เขียนเรียงความให้แม่ ทำการ์ด ซื้อพวงมาลัยให้แม่ แต่พอถึงวันพ่อ ไม่ว่าจะกี่ปีเรียงความมันไม่เคยเปลี่ยนไป มันก็ยังคงเป็นเรื่องเศร้าๆ เดิมๆ ที่เราเขียนตั้งแต่ ป.1จนจบประถม เพื่อนชอบล้อว่า "ลูกไม่มีพ่อ" "พ่อตาย แหวะ" เราเจ็บนะ แต่ไม่เคยเล่าให้แม่ฟัง มันคือปมด้อยที่เรียกน้ำตาเราได้มากทีเดียว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนล้ออยู่ เราเก็บไว้ ไม่พูด แล้วแอบมาร้องคนเดียวบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนโต เราอิจฉาคนที่มีพ่อ ไปเที่ยวไปกินข้าว พ่อ แม่ ลูก มันดูครบสมบูรณ์ แต่แม่เราก็ทำหน้าที่ได้ดีสุดๆ ยายและแม่เลี้ยงเรามาดีมาก เราเหมือนไม่ขาดอะไร แต่ในใจก็อยากจะมีพ่อ แล้วตั้งแต่พ่อเสียแม่ก็ไม่มีใคร แม่ต้องการเลี้ยงเราให้ดีที่สุด แต่นั่นแหละมันก็เจ็บทุกครั้งที่โดนด่าแบบนั้น เจ็บทุกครั้งที่เห็น พ่อ แม่ลูก อื่นๆ เจ็บที่เราเรียกพ่อได้แค่ไม่กี่ครั้ง ทุกวันพ่อเราจะระลึกถึงพ่อตลอดและให้สัญญาว่าเราจะดูแลแม่ตามที่พ่อเคยบอกเราไว้