>>>คำอธิบายภาพและวิดีโออยู่ด่านล่างนะครับ งานชิ้นนี้ใช้เวลาประมาณสี่เดือน ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจชมงานครับ~
(ผมแท็กงานฝีมือด้วยนะครับ ผมเห็นว่าเป็นงานฝีมืออย่างนึง ถ้าหากไม่สมควรขออภัยนะครับบอกให้ลบได้ครับ)
เริ่มร่าง
เติมรายละเอียด
รายละเอียดตอนร่างแรกๆบางส่วนครับ
ร่างภาพได้เกินครึ่งแล้ว
ลบแก้แล้วแก้อีกอยู่หลายครั้ง
เริ่มลงปากกาบางส่วนครับ
เก็บเงาเพิ่มอีกนิด
ถึงตรงนี้แล้วปลื้มใจนิดนึงละครับ ที่ร่างไว้ได้ส่งผลแล้ว มันสวยอย่างที่คิดไว้พอสมควร
ถ่ายลายเส้นใกล้ๆให้ชมครับ
25% ได้ครับตอนนี้ น้ำตาจะไหล
เกล็ดตรงนี้เป็นอะไรที่ยากมากที่สุดที่นึงครับ คือไม่ได้คิดว่ามันจะยากมากขนาดนี้เห็นว่าเรียบๆ
ทั้งแผงนี่นั่งเล็มเกือบๆ 5 ชั่วโมง มีสี่ด้าน ปวดคอสุดๆ ฮ่าๆๆ
อีกฝั่งครับเก็บเงาเสร็จออกมาน่าปลื้มใจยิ่งนัก
50% แล้ววววว
เริ่มเก็บเงาส่วนขวาบนครับ
ส่วนนี้ขออณุญาตบอกนัยยะในภาพบางส่วนครับ ดูง่ายดี...ขีรสูตร [๔๒๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนานนี้ ดื่มแล้ว กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไหนจะมากกว่ากัน ฯ ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ย่อมทราบธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว น้ำนมมารดาที่พวกข้าพระองค์ผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนาน ดื่มแล้วนั่นแหละ มากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ฯ
[๔๒๘] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนานดื่มแล้วนั่นแหละ มากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๔
...เนื้อความพระไตรปิฎกมหามกุฎ เล่มที่ ๑๖ บรรทัดที่ ๔๗๙๕ - ๔๘๑๑. หน้าที่ ๒๐๑ - ๒๐๒.
มุมขวาบนได้มาบางส่วนแล้วครับ
เกล็ดอีกส่วน เลเยอร์แรกครับ
เกล็ดตอนทับได้หลายๆเลเยอร์ครับ เสร็จก็เป็นแบบนี้
ที่เช็ดหมึกปากกาชั้นดีครับ มะเร็งจะกินมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ ติดนิสัยเอามือเช็ดหมึกเยิ้ม
นั่งรอคอหายปวด ถ่ายภาพเล่นต่อซักหน่อย
ส่วนกลางด้านบนครับ
ใกล้แล้วววววว
พรีเซนเตอร์หลอดไฟ ฮ่าๆๆ
เสร็จสมบูรณ์ครับ (^_^)~
"อณูอวิชชา...อนันต์มายาคติ"~
"Molecule Ignorance ... Countless Mythologies"
Ballpoint pen on paper
Size 99cm. x 69cm.
<<<<<<---------(6N9)--------->>>>>
ระบบความคิดของเรามีมายาคติครอบอยู่ มายาคติที่ว่าก็มีอวิชชาครอบอยู่อีกทีครับ(ตามความเชื่อผมล้วนๆ) ตามทฤษฎีนักคิด
แบบโรล็องด์ บาร์ตส์(Roland Barthes)เค้าเห็นว่าระบบความคิดคนมีสิ่งที่ครอบอยู่คือชุดความคิดที่เรียกว่ามายาคติแต่ผมเห็นว่าพุทธเจ้าเห็นกว้างกว่ามากคือท่านเห็นอวิชชา เห็นความโง่เขลา เห็นที่มาของชุดความคิด เห็นที่มาของการมีตัวตนที่ต้องมาคิดมาใช้ชีวิตไปตามชุดความคิดที่เราทำกัน ทำไมต้องดิ้นรนใช้ชีวิต ทำไมต้องเชื่อ ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ท่านตอบไว้ได้น่าทึ่งมากๆซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรก เค้าให้เชื่อก็เชื่อ ทำก็ทำ จนวันนึงผมเกิดข้อสงสัย ว่าทำไม เพื่ออะไร ทำไปทำไม พอผมสงสัยและผมตั้งคำถามก็หาคำตอบด้วยการอ่านแนวคิดของพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก สุดท้ายผมพบว่าสิ่งที่พุธทองค์พูดมานั้นไม่สามารถคัดง้างได้ สมเหตุสมผล เป็นปัญญารู้ได้เฉพาะตน ซึ่งแนวคิดตรงนี้ผมก็เอามาวาดภาพครับ พยายามใส่แนวคิดเท่าที่จะสอดแทรกเข้าไปได้ในภาพมันก็เลยดูรกๆหน่อย ประเด็นของผมก็คือผมอยากให้ทุกคนสงสัยและตั้งคำถามและดิ้นรนเพื่อที่จะหาคำตอบครับ ว่าแล้วผมก็ใช้ชีวิตตามมายาคติต่อไป ฮ่าๆๆ~
ผลงานอื่นๆเพิ่มเติมเชิญในนี้ได้ครับ ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งที่สนใจชม หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ~
ww.facebook.com/ART6N9
งานวาดด้วยปากกาลูกลื่น "อณูอวิชชาอนันต์มายาคติ"...ฝากไว้ติชมด้วยครับ~
(ผมแท็กงานฝีมือด้วยนะครับ ผมเห็นว่าเป็นงานฝีมืออย่างนึง ถ้าหากไม่สมควรขออภัยนะครับบอกให้ลบได้ครับ)
เริ่มร่าง
เติมรายละเอียด
รายละเอียดตอนร่างแรกๆบางส่วนครับ
ร่างภาพได้เกินครึ่งแล้ว
ลบแก้แล้วแก้อีกอยู่หลายครั้ง
เริ่มลงปากกาบางส่วนครับ
เก็บเงาเพิ่มอีกนิด
ถึงตรงนี้แล้วปลื้มใจนิดนึงละครับ ที่ร่างไว้ได้ส่งผลแล้ว มันสวยอย่างที่คิดไว้พอสมควร
ถ่ายลายเส้นใกล้ๆให้ชมครับ
25% ได้ครับตอนนี้ น้ำตาจะไหล
เกล็ดตรงนี้เป็นอะไรที่ยากมากที่สุดที่นึงครับ คือไม่ได้คิดว่ามันจะยากมากขนาดนี้เห็นว่าเรียบๆ
ทั้งแผงนี่นั่งเล็มเกือบๆ 5 ชั่วโมง มีสี่ด้าน ปวดคอสุดๆ ฮ่าๆๆ
อีกฝั่งครับเก็บเงาเสร็จออกมาน่าปลื้มใจยิ่งนัก
50% แล้ววววว
เริ่มเก็บเงาส่วนขวาบนครับ
ส่วนนี้ขออณุญาตบอกนัยยะในภาพบางส่วนครับ ดูง่ายดี...ขีรสูตร [๔๒๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนานนี้ ดื่มแล้ว กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไหนจะมากกว่ากัน ฯ ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ย่อมทราบธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว น้ำนมมารดาที่พวกข้าพระองค์ผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนาน ดื่มแล้วนั่นแหละ มากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ฯ
[๔๒๘] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนานดื่มแล้วนั่นแหละ มากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๔
...เนื้อความพระไตรปิฎกมหามกุฎ เล่มที่ ๑๖ บรรทัดที่ ๔๗๙๕ - ๔๘๑๑. หน้าที่ ๒๐๑ - ๒๐๒.
มุมขวาบนได้มาบางส่วนแล้วครับ
เกล็ดอีกส่วน เลเยอร์แรกครับ
เกล็ดตอนทับได้หลายๆเลเยอร์ครับ เสร็จก็เป็นแบบนี้
ที่เช็ดหมึกปากกาชั้นดีครับ มะเร็งจะกินมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ ติดนิสัยเอามือเช็ดหมึกเยิ้ม
นั่งรอคอหายปวด ถ่ายภาพเล่นต่อซักหน่อย
ส่วนกลางด้านบนครับ
ใกล้แล้วววววว
พรีเซนเตอร์หลอดไฟ ฮ่าๆๆ
เสร็จสมบูรณ์ครับ (^_^)~
"Molecule Ignorance ... Countless Mythologies"
Ballpoint pen on paper
Size 99cm. x 69cm.
<<<<<<---------(6N9)--------->>>>>
ระบบความคิดของเรามีมายาคติครอบอยู่ มายาคติที่ว่าก็มีอวิชชาครอบอยู่อีกทีครับ(ตามความเชื่อผมล้วนๆ) ตามทฤษฎีนักคิด
แบบโรล็องด์ บาร์ตส์(Roland Barthes)เค้าเห็นว่าระบบความคิดคนมีสิ่งที่ครอบอยู่คือชุดความคิดที่เรียกว่ามายาคติแต่ผมเห็นว่าพุทธเจ้าเห็นกว้างกว่ามากคือท่านเห็นอวิชชา เห็นความโง่เขลา เห็นที่มาของชุดความคิด เห็นที่มาของการมีตัวตนที่ต้องมาคิดมาใช้ชีวิตไปตามชุดความคิดที่เราทำกัน ทำไมต้องดิ้นรนใช้ชีวิต ทำไมต้องเชื่อ ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ท่านตอบไว้ได้น่าทึ่งมากๆซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรก เค้าให้เชื่อก็เชื่อ ทำก็ทำ จนวันนึงผมเกิดข้อสงสัย ว่าทำไม เพื่ออะไร ทำไปทำไม พอผมสงสัยและผมตั้งคำถามก็หาคำตอบด้วยการอ่านแนวคิดของพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก สุดท้ายผมพบว่าสิ่งที่พุธทองค์พูดมานั้นไม่สามารถคัดง้างได้ สมเหตุสมผล เป็นปัญญารู้ได้เฉพาะตน ซึ่งแนวคิดตรงนี้ผมก็เอามาวาดภาพครับ พยายามใส่แนวคิดเท่าที่จะสอดแทรกเข้าไปได้ในภาพมันก็เลยดูรกๆหน่อย ประเด็นของผมก็คือผมอยากให้ทุกคนสงสัยและตั้งคำถามและดิ้นรนเพื่อที่จะหาคำตอบครับ ว่าแล้วผมก็ใช้ชีวิตตามมายาคติต่อไป ฮ่าๆๆ~
ww.facebook.com/ART6N9