ทิฏฐิความเห็นว่า
ขาดสูญเช่นนั้นเป็น
สังขาร
อธิบายด้วยความเห็นว่าดังนี้
เมื่อพิจารณาถึงเหตุของ สังขาร คือ อวิชชา จึงได้รู้ถึงเหตุและผล
เพราะว่า สังขาร ไม่ใช่ตัวตน
...
[๑๘๐] ปุถุชนย่อมไม่ตามเห็นรูป โดยความเป็นตนเลย ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นเวทนา
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสังขาร
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน ฯลฯ เป็นผู้ไม่มีทิฏฐิ เช่นนี้
ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความ
ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา แต่ว่าเป็นผู้มีทิฏฐิ เช่นนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี
เราจักไม่มี บริขารของเราจักไม่มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มีทิฏฐิความเห็นว่า
ขาดสูญเช่นนั้นเป็น
สังขาร. ก็สังขารนั้น มีอะไรเป็นเหตุ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลแม้รู้อยู่อย่างนี้ เห็น
อยู่อย่างนี้ อาสวะทั้งหลาย ย่อมสิ้นไปโดยลำดับ.
...
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๒๑๑๑-๒๒๒๗ หน้าที่ ๙๒-๙๗.
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=2111&Z=2227&pagebreak=0&fontsz=1
สังขารขาดสูญ เป็นความเห็นถูก
อธิบายด้วยความเห็นว่าดังนี้
เมื่อพิจารณาถึงเหตุของ สังขาร คือ อวิชชา จึงได้รู้ถึงเหตุและผล
เพราะว่า สังขาร ไม่ใช่ตัวตน
...
[๑๘๐] ปุถุชนย่อมไม่ตามเห็นรูป โดยความเป็นตนเลย ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นเวทนา
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสังขาร
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน ฯลฯ เป็นผู้ไม่มีทิฏฐิ เช่นนี้
ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความ
ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา แต่ว่าเป็นผู้มีทิฏฐิ เช่นนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี
เราจักไม่มี บริขารของเราจักไม่มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มีทิฏฐิความเห็นว่าขาดสูญเช่นนั้นเป็น
สังขาร. ก็สังขารนั้น มีอะไรเป็นเหตุ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลแม้รู้อยู่อย่างนี้ เห็น
อยู่อย่างนี้ อาสวะทั้งหลาย ย่อมสิ้นไปโดยลำดับ.
...
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๒๑๑๑-๒๒๒๗ หน้าที่ ๙๒-๙๗.
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=2111&Z=2227&pagebreak=0&fontsz=1