กลุ่มอินทัชโชว์แกร่ง เดินหน้าขยายธุรกิจเต็มอัตราศึก คาดโต5-7%

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408449928

กลุ่มอินทัชโชว์แกร่ง เดินหน้าขยายธุรกิจเต็มอัตราศึก คาดโต5-7%

updated: 19 ส.ค. 2557 เวลา 19:03:59 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

กลุ่มชินฯยังเติบโตแข็งแกร่ง หลังธุรกิจในเครือยังขยายตัวตามเป้า พร้อมเร่งหาธุรกิจเสริมศักยภาพในการเติบโต

นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่าสำหรับผลประกอบการของบริษัทปีนี้ยังแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่ารายได้จากการขายและบริการในปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่วางไว้ 5-7% จากปีก่อนที่ทำได้ 24,581.76 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจของเอไอเอสจะปรับตัวลดลงไปบ้างในช่วงที่มีปัญหาการเมือง แต่จะมีส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจของบมจ.ไทยคม (THCOM) ก็เข้ามาช่วยเสริม ทำให้รายได้จากการขายและบริการเป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้บริษัทจะสามารถปิดดีลร่วมลงทุน (Venture Capital) อย่างน้อย 1 ราย โดยยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับคอนเท้นท์ต่างๆ โดยได้ตั้งงบลงทุนดังกล่าวไว้ที่ 200 ล้านบาทต่อปี มีนโยบายถือหุ้นไม่เกิน 30% ส่วนที่มาของเงินลงทุนนั้นบริษัทจะใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ปัจจุบันกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นเงินทุน ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการทำดีลร่วมทุนไปแล้ว 3 บริษัท ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วรวมประมาณ 90 ล้านบาท

"ด้านธุรกิจดิจิทัล คอนเท้นท์ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบของธุรกิจ คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ส่วนธุรกิจดิจิทัลทีวี ยังต้องขอรอดูแนวโน้มของตลาดที่เพิ่งเริ่มดำเนินการก่อนว่าจะออกมาในลักษณะใด เพื่อหาแนวทางในการเข้าเจาะกลุ่มธุรกิจดังกล่าว" นางสาวทมยันตี กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการลงทุนธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจาก AIS เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 25% ภายใน 5-7 ปี (2557-2563) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 5% เพื่อกระจายความหลากหลายของการลงทุนและมองหากิจการที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต โดยจะยังคงเป็นธุรกิจใกล้เคียงธุรกิจหลักของบริษัท เช่น เทเลคอม มีเดีย ไอที และดิจิทัล

ด้านนายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยว่าในส่วนของธุรกิจไทยคมเอง คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 18% จากปีก่อนที่ทำได้ 8,286.13 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากดาวเทียมไทยคม 6 เข้ามาเต็มปี และรับรู้รายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์บนดาวเทียม รวมถึงรับรู้รายได้จากดาวเทียมไทยคม 7 ที่จะยิงขึ้นวงโครจรในช่วงวันที่ 26 ส.ค.นี้ และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/2557 เป็นต้นไป ขณะที่ต้นทุนของบริษัทยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังมีการเปลี่ยนระบบจากการให้สัมปทานเป็นการให้ไลน์เซ็นของทั้งดาวเทียมไทยคม 6 และไทยคม 7

ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้แล้วกว่า 897 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 18% จากปีก่อนที่ทำได้เพียง 14% ส่วนอัตรากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อม (EDITDA Margin) ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 54%

ขณะที่บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้อายุประมาณ 5-7 ปี มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยได้ในช่วงเดือนก.ย.นี้ ซึ่งมีดอกเบี้ยประมาณ 4-5% โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้ไปรีไฟแนนซ์เงินกู้จากการลงทุนในดาวเทียมไทยคม 7 ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยจาก 10% เหลือประมาณ 4-5%

นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่าได้ข้อสรุปซื้อกิจการบริษัททำธุรกิจวางระบบโทรคมนาคมในประเทศออสเตรเลียในช่วงปลายปีนี้ โดยจะมีมูลค่าลงทุนสูงกว่า 5.9 ล้านเหรียญออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลง นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในดาวเทียมไอพีสตาร์ 2 ซึ่งจะเป็นการให้บริการลูกค้าประเทศไทย และลูกค้าไอพีสตาร์1 ที่เต็มแล้ว รวมถึงศึกษาการยิงดาวเทียมเพิ่มอีก 3 ดวง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปสิ้นปีนี้เช่นกัน

นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) เปิดเผยว่าด้านในส่วนของบริษัทยังคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 4 - 5% จากปีก่อนที่ทำได้ 3,050.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจไอซีทีที่มีแนวโน้มรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการบริการด้าน ICT Solution, Data Center Cloud ธุรกิจ Voice and Mobile และยังมีรายได้จากการให้บริการข้อมูลอินเทอร์เน็ต ที่มีจำนวนฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมไปถึงรายได้จาก ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Cloud Data Center) ที่จะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ส.ค. 2557 ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2557

ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 34% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 32% ซึ่งเป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะผลักดันการขายสินค้าแบบเฉพาะกลุ่มตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะด้านธุรกิจการให้บริการด้านไอซีทีและธุรกิจสื่อโฆษณผ่านสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง ขณะที่การให้บริการข้อมูลเสียงทางโทรศัพท์ และการให้บริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่และจะเน้นการคัดสรรสินค้าและบริการมากขึ้น เพื่อให้เกิดความหลากหลายเสนอต่อผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดการใช้งานมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทยังมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2557 จำนวน 0.41 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 98% ของผลการดำเนินงานจากงบการเงินเฉพาะกิจการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 หลังในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานแล้วกว่า 248 ล้านบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่