กลุ่มทุนสื่อสารโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/58 เผยกลุ่มอินทัช ทั้ง เอไอเอส & ไทยคม กำไรโตต่อเนื่อง ส่วน "ทรู" ฟันกำไรกว่าพันล้านบาท ขณะที่ "ดีแทค" กำไรสุทธิน้อยกว่าคาดเหลือเพียง 1.3 พันล้านบาท
แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว กำลังซื้อลดลง แต่เมื่อดูผลประกอบการของกลุ่มทุนสื่อสารปรากฏว่ารายได้ในไตรมาส 2/58 มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มอินทัช ทั้ง เอไอเอส และไทยคมมีรายได้เติบโต
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ปรากฏว่า ไทยคมมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมทั้งสิ้น 6,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท หรือ 3.5% จาก 5,812 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 2557 จากรายได้จากการให้บริการดาวเทียม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,112 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 24% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยมีรายได้จากการให้บริการธุรกิจบรอดคาสต์ซึ่งมีการเติบโตสูง ด้วยจำนวนช่องรายการโทรทัศน์บนดาวเทียมไทยคมถึง 766 ช่องรายการ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากบริการที่เพิ่มขึ้นของดาวเทียมไทยคม 7 ตั้งแต่ปลายปี 2557
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 896,721 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 2/57 อยู่ที่ 572,131 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 572.13 ล้านบาท
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีการเติบโตในส่วนของธุรกิจหลักในการให้บริการด้านไอซีที โดยมีจำนวนฐานลูกค้าจากการให้บริการอินเตอร์เน็ตคุณภาพสำหรับลูกค้าองค์กร (Leased line) เติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และการให้บริการศูนย์คอมพิวเตอร์ (Internet Data Center: IDC) เติบโตขึ้น 5% ด้าน บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด (ดีทีวี) ยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจภายใต้โครงการ DTV MDU Project โดยนำเสนอการให้บริการแบบครบวงจรให้แก่กลุ่มลูกค้า คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และโรงแรม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า ในส่วนของบริการแพลตฟอร์ม ดีทีวียังคงพัฒนาแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ส่วนทางด้านบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้ชี้แจงผลประกอบการงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 9,848 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.31 บาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,475 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.85 บาท
อย่างไรก็ตาม เอไอเอส ได้ชี้แจงว่าช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว และมีการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถืออย่างรุนแรง รายได้ของเอไอเอสยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการอัพเกรดเครื่องโทรศัพท์เป็นสมาร์ทโฟนที่ช่วยส่งเสริมการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ (mobile data)
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้ คือรายได้จากการให้บริการข้อมูล (nonvoice) ซึ่งสามารถชดเชยกับรายได้จากการโทร. (voice) ที่ลดลง ในไตรมาส 2/2558 รายได้รวม (ไม่รวมค่าก่อสร้าง) เท่ากับ 38,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือและรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากเทียบไตรมาสต่อไตรมาสรายได้รวม (ไม่รวมค่าก่อสร้าง) ลดลง 6% จากรายได้ของโทรศัพท์มือถือที่ลดลง
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2558 ส่วนผลกำไรสุทธิเท่ากับ 19,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17,956 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 78,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากรายได้การขายโทรศัพท์มือถือและการให้บริการที่เพิ่มขึ้น การขายซิมและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 31% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการส่งเสริมการขายโทรศัพท์มือถือ 3G โดยเฉพาะการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอไอเอส รุ่นลาวา
ด้านศ.พิเศษอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รายงานผลประกอบการของบริษัท และ บริษัทย่อยในไตรมาส 2/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 1.302.39 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงในอัตราที่สูงกว่า 20% จากการดำเนินการสุทธิในปีเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2558 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,375 ล้านบาท ลดลง 53% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,951 ล้านบาท และลดลง 40% จากไตรมาส 1/2558 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,292 ล้านบาท เนื่องจากมี EBITDA ที่ลดลง ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงข่ายมากขึ้นและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง
ดังนั้น ส่งผลให้กำไรสุทธิช่วงครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่ 3,667 ล้านบาท ลดลง 41.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,256 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 44,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 44,345 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 17 บนขวา)
กลุ่มสื่อสารโชว์กำไรไตรมาส 2 อินทัชโตยกแผง/ทรูทะลุพันล้าน/ดีแทคน้อยกว่าคาด
กลุ่มทุนสื่อสารโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/58 เผยกลุ่มอินทัช ทั้ง เอไอเอส & ไทยคม กำไรโตต่อเนื่อง ส่วน "ทรู" ฟันกำไรกว่าพันล้านบาท ขณะที่ "ดีแทค" กำไรสุทธิน้อยกว่าคาดเหลือเพียง 1.3 พันล้านบาท
แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว กำลังซื้อลดลง แต่เมื่อดูผลประกอบการของกลุ่มทุนสื่อสารปรากฏว่ารายได้ในไตรมาส 2/58 มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มอินทัช ทั้ง เอไอเอส และไทยคมมีรายได้เติบโต
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ปรากฏว่า ไทยคมมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมทั้งสิ้น 6,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท หรือ 3.5% จาก 5,812 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 2557 จากรายได้จากการให้บริการดาวเทียม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,112 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 24% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยมีรายได้จากการให้บริการธุรกิจบรอดคาสต์ซึ่งมีการเติบโตสูง ด้วยจำนวนช่องรายการโทรทัศน์บนดาวเทียมไทยคมถึง 766 ช่องรายการ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากบริการที่เพิ่มขึ้นของดาวเทียมไทยคม 7 ตั้งแต่ปลายปี 2557
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 896,721 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 2/57 อยู่ที่ 572,131 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 572.13 ล้านบาท
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีการเติบโตในส่วนของธุรกิจหลักในการให้บริการด้านไอซีที โดยมีจำนวนฐานลูกค้าจากการให้บริการอินเตอร์เน็ตคุณภาพสำหรับลูกค้าองค์กร (Leased line) เติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และการให้บริการศูนย์คอมพิวเตอร์ (Internet Data Center: IDC) เติบโตขึ้น 5% ด้าน บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด (ดีทีวี) ยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจภายใต้โครงการ DTV MDU Project โดยนำเสนอการให้บริการแบบครบวงจรให้แก่กลุ่มลูกค้า คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และโรงแรม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า ในส่วนของบริการแพลตฟอร์ม ดีทีวียังคงพัฒนาแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ส่วนทางด้านบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้ชี้แจงผลประกอบการงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 9,848 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.31 บาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,475 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.85 บาท
อย่างไรก็ตาม เอไอเอส ได้ชี้แจงว่าช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว และมีการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถืออย่างรุนแรง รายได้ของเอไอเอสยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการอัพเกรดเครื่องโทรศัพท์เป็นสมาร์ทโฟนที่ช่วยส่งเสริมการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ (mobile data)
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้ คือรายได้จากการให้บริการข้อมูล (nonvoice) ซึ่งสามารถชดเชยกับรายได้จากการโทร. (voice) ที่ลดลง ในไตรมาส 2/2558 รายได้รวม (ไม่รวมค่าก่อสร้าง) เท่ากับ 38,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือและรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากเทียบไตรมาสต่อไตรมาสรายได้รวม (ไม่รวมค่าก่อสร้าง) ลดลง 6% จากรายได้ของโทรศัพท์มือถือที่ลดลง
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2558 ส่วนผลกำไรสุทธิเท่ากับ 19,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17,956 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 78,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากรายได้การขายโทรศัพท์มือถือและการให้บริการที่เพิ่มขึ้น การขายซิมและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 31% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการส่งเสริมการขายโทรศัพท์มือถือ 3G โดยเฉพาะการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอไอเอส รุ่นลาวา
ด้านศ.พิเศษอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รายงานผลประกอบการของบริษัท และ บริษัทย่อยในไตรมาส 2/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 1.302.39 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงในอัตราที่สูงกว่า 20% จากการดำเนินการสุทธิในปีเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2558 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,375 ล้านบาท ลดลง 53% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,951 ล้านบาท และลดลง 40% จากไตรมาส 1/2558 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,292 ล้านบาท เนื่องจากมี EBITDA ที่ลดลง ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงข่ายมากขึ้นและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง
ดังนั้น ส่งผลให้กำไรสุทธิช่วงครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่ 3,667 ล้านบาท ลดลง 41.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,256 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 44,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 44,345 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 17 บนขวา)