ตั้งท้อง ทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน...แต่คนในบ้านไม่ให้กำลังใจเลย:(

สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เรื่องค่อนข้างยาว เราเรียบเรียงไม่ถูกค่ะ รายละเอียดเยอะ ขออภัยนะคะ
เราอายุ 26 ปี ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 14 สัปดาห์แล้วค่ะ พอรู้ว่ามีตัวเล็ก ถึงจะยังไม่พร้อม ไม่มีฐานะ แต่เราและแฟนดีใจมากค่ะ สวรรค์ส่งเขามา

ตอนนี้เราทำงานเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนมัธยมในต่างจังหวัด(เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดค่ะ) เงินเดือน 10,000 บาท
ก่อนหน้านี้ทำงานล่ามทางการทหาร ค่อนข้างท้าทาย ลุยๆ เงินเดือนประมาณ 30,000 - 40,000 บาท ค่อนข้างดี
กลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ค่าครองชีพน้อยกว่าใน กทม. เราคิดว่า เราน่าจะอยู่ได้ รับจ้างแปลงาน และสอนพิเศษเอา
ที่กลับมาอยู่บ้าน เพราะตอนทำงานล่าม เราไม่ค่อยกลับบ้าน มีงานตลอดทั้งปี ส่งกลับแต่เงินให้แม่
แม่คิดถึงเรามากจนป่วย เราจึงตัดสินใจกลับบ้าน มีโอกาสดูแลเขาตอนนี้ ดีกว่ามาคิดถึงเขาตอนไม่มีโอกาส

กลับมาบ้าน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเท่าเดิม แต่เงินเดือนเราน้อยกว่าเดิม คราวนี้เราต้องหางานเพิ่ม ขายของที่ตลาดนัด
ขายไปขายมาโดนโกงแชร์ เป็นหนี้รุงรัง เลยเลิกไป เอาเงินเดือนอัตราจ้างทะยอยใช้หนี้ไป (แฟนเราช่วยอีกแรง)

รับสอนพิเศษ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ เราเน้นราคาถูก 2,000 บาทต่อเทอม ลูกคนไม่มีฐานะก็เรียนกับเราได้ เราเน้นคนเยอะ(แต่ไม่เกินสิบคน..บ้านเราเล็ก) สอนเสาร์-อาทิตย์ วันละ 4 รอบ ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น หรือ 1 ทุ่ม ....ได้เงินปลดหนี้ไปหลายเจ้า

แต่มันมีหนี้ก้อนใหญ่ ที่พ่อแม่กู้มาส่งเราเรียนมหาวิทยาลัย พ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ไม่รับส่วย เงินเดือนน้อย แม่เคยเป็นแม่ค้า แต่ล้มป่วยตอนเราอยู่ม.1
แม่ทำงานไม่ได้ แม่ก็เครียด...แถมพ่อมีเมียน้อยอีก แม่เลยเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย
ด้วยความที่แม่ไม่มีรายได้ จ่ายค่าเทอมลูกทีก็ไปกู้ร้อยละสิบมา กู้ทบไปทบมา ไม่มีดอกเบี้ยเขาก็ทบเป็นต้น
เราหากินเองตั้งแต่เด็ก (ม. 1 ตอนแม่ป่วย เราก็เริ่มขายไส้กรอกบิ๊กไบท์,ขายของตามงานเทศกาล ม.ปลาย รับจ้างครูพิมพ์งาน ได้อาทิตย์ละ สองร้อย)
ได้เงินซื้อข้าว ปลากระป๋อง กะไข่ ไว้กินกะแม่สองคน .....ส่วนค่าเทอม เพื่อนพ่อบางคนสงสารก็ผลัดกันจ่ายค่าเทอมให้เราคนละเทอม วนๆกันไป

พอเรียนมหาวิทยาลัย เราก็ขายของตลาดนัด รับจ้างก็ได้เงินมากินใช้ในบ้าน
บางเดือนก็พอส่งดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ บางเดือนก็ไม่พอ  ปากกัดตีนถีบกันมา จนจบ
พร้อมหนี้สินประมาณ 2 แสน 5 หมื่นบาท (ดอกเบี้ยเดือนละตก 2 หมื่น 5 พันบาท) เราหาส่งเองตอนทำงานล่าม เราส่งได้ ไม่มีปัญหา

ต่อมา เรากับแฟนที่คบกันมา 5 ปี (เขาเป็นคนดี แต่เป็นเด็กกำพร้า อยู่ตัวคนเดียวมาทั้งชีวิต)
เราพาเขาเข้าบ้าน ให้มาอยู่เป็นลูกพ่อลูกแม่
ตอนแรก ที่บ้านไม่ยอมรับ เพราะแฟนเราจบแค่ ม.ปลาย ไม่ได้เรียนต่อ เขาทำงานสุจริต แต่เงินเดือนน้อย

เราเห็นแก่ตัวค่ะ เราห่วงแม่ ...แต่เราต้องไปทำงานต่างจังหวัดเพื่อหาเงิน เราเลยเอาแฟนมาอยู่บ้าน ดูแลแม่แทนเรา ซึ่งเขาก็ทำ
แม่เราโมโหร้าย แฟนเราชอบเอื่อยเฉื่อย ...นอนไม่ลุก ตื่นสาย ไม่ชอบล้างจาน ...แม่เราเริ่มรังแครังคัด โทรไปฟ้องเราตอนทำงานบ่อย
เราก็โทรกลับมาด่า แฟนเรา โดยที่เราไม่คิดเลย ว่า แฟนเราให้เงินเดือนเราหมด ผสมกันส่งดอกเบี้ยเงินกู้ ดูแลหลาน(ลูกพี่สาว)แทนเรา
อาบน้ำแต่งตัวหลาน ป้อนนม พาหลานเข้านอน แทนเราทุกอย่าง ซักผ้าแม่และคนในครอบครัวเรา(พี่สาว-พี่เขย) ดูแลแม่แทนเรา
มีเพียงข้อเสียเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่หลุดรอดไป.....พอเรากลับมาอยู่บ้าน ได้พิจารณาข้อเท็จจริง ก็สงสารเขาจับใจ (เรากลับมาอยู่บ้านได้สองปีแล้วค่ะ)

เราสองคนคุยกันว่า เรามีหนี้บุญคุณกับแม่ พ่อ พี่สาว ที่เขาส่งเราเรียน เราต้องใช้หนี้ก้อนนี้ให้หมดให้จงได้
ไม่งั้นเราจะไม่ยอมสร้างครอบครัวของตัวเองเด็ดขาด ..... ช่วงต้นๆลำบาก เพราะพอเราไม่มีเงินส่งดอกเบี้ย เราก็เล่นแชร์ เอามาจ่ายดอกเบี้ย
ไปๆมาๆ โดนโกงแชร์บ้าง เป็นเจ้ามือลูกแชร์โกงอีก เราเองที่สร้างหนี้หัวโต....เป็นหนี้แม้กระทั่งหมวกกันน๊อค
...แต่ปิดไม่ให้แม่รู้ ..เราก็ให้แม่ใช้จ่ายปกติ ซื้อของเข้าบ้าน

.........เรากับแฟนหมุนเงินจนหัวหมุน สุดท้ายความแตก พวกทวงหนี้หมวกกันน๊อคเคาะประตูบ้าน ก็ตั้งสติ ............

ยอมรับความจริงว่า เราหาเงินไม่พอค่าใช้จ่ายมานานแล้ว..แต่ไม่อยากให้แม่เครียด
เวลาเครียด เขาจะบ่น ร้องไห้ ทั้งวัน เราก็จิตตก เลยไม่ให้เขารู้ดีกว่า
สุดท้าย ก็โดนแม่ด่าแบบไม่เหลือดี...เหมือนชีวิตนี้ไม่เคยดีอะไรเลย....
พี่สาวกับพี่เขยสงสาร ให้ทะเบียนรถมาจำนำ สองคัน หลุดหนี้หมวกกันน๊อคมาได้ เอ้า....เริ่มนับหนึ่งใหม่

สอนพิเศษๆๆๆๆๆๆๆ คราวนี้ สอนทุกวัน จันทร์-ศุกร์สอนตอนเย็น หกโมงถึงสองทุ่ม เสร์-อาทิตย์ อัดจนเต็ม
คราวนี้เจ้าหนี้มามุกใหม่ ให้เราส่งแชร์ปลดหนี้.... เดือนละ 8,500 ระยะเวลา 36 เดิอน เราตกลง ...ส่งแต่ดอกเบี้ยมาตั้งแต่เรียน จนเรียนจบ
ดอกทบต้นไปหลายเท่าตั้งนานแล้ว....แต่ต้นไม่หมด แบบนี้ดีเหมือนกัน แต่เงินเดือนเราจะไม่เหลือเลย
เงินเดือนแฟนเรา และค่าสอนพิเศษ คือเงินสำหรับใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งไม่พอ ...พ่อแยกไปอยู่อีกบ้าน บ้านนี้มี แม่ พี่สาว พี่เขย หลาน เราและแฟน
เราผ่อนมอเตอร์ไซค์ ส่งเงินกู้ธนาคาร(เอามาคืนพี่สาว ตอนที่เรายืมไปใช้หนี้หมวกกันน๊อค) อะไรมันก็เหมือนจะดีแล้ว

แต่.....

พอเราตั้งท้อง เรากับแฟนดีใจนะคะ เราอายุพอสมควรแล้ว แต่ที่บ้านไม่ยินดีด้วย
พี่สาว บอกว่า เราเป็นแค่อัตราจ้าง พอท้อง โรงเรียนเขาก็ไล่ออก
แม่ บอกว่า เรายังไม่ได้เป็นข้าราชการ ไม่อยากให้เรามีลูก...(ประกอบกับไม่ชอบแฟนเราอยู่แล้ว) แม่พูดไปร้องไห้ไป

เรารู้สึกเหมือน เราทำผิด ที่กำลังจะมีลูก ....จากวันนั้นมา แม่ก็บ่นทุกวัน เครียด หาเงินไม่ได้ เงินไม่พอกินพอใช้
แม่แอบไปกู้ ร้อยละ ยี่สิบ มาสามหมื่น (แม่ชอบเสี่ยงค่ะ แต่พอหวยไม่ถูก ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าหวย..เราไม่มีพอที่จะให้..แม่เลยไปกู้มา)
เราหน้ามืด เอ้า....เดี๋ยวช่วยส่ง วันละ หกร้อย
เด็กมาจ่ายค่าเรียน เราก็ยกให้แม่หมด ...ส่วนเรา กินเงินเดือนของแฟน เอาไว้ซื้อกับข้าว(กินทั้งบ้าน) และใช้จ่ายจิปาถะ
แต่พอส่งใกล้หมด...แม่ไปกู้มาอีก มันเหมือนงูกินหาง ไม่มีสิ้นสุดค่ะ ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด

ช่วงนี้ เราไปหาหมอฝากครรภ์ ตรวจครรภ์ ค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น บางทีเราต้องเจียดค่าสอน(รับสอนที่สถาบันกวดวิชาข้างนอกอีก) เพื่อเอามาหาหมอ
บางทีเราไม่มีเหลือพอให้ แม่....เขาก็เครียด พอเครียดเขาก็ด่า ว่า บ่น
....เราทำงานกลับมาเหนื่อยๆ แพ้ท้องด้วย มาฟังแม่บ่น เห็นแม่ร้องไห้
เราจิตตกมากๆค่ะ เป็นอย่างนี้มาตลอด....จนมาสุดที่เหตุการณ์เมื่อวาน

เมื่อวาน....เรามีเงินอยู่ สามสิบบาท ไม่พอซื้อกับข้าวตอนเช้า ไม่พอให้เงินแม่ไปส่งรายวัน
..แฟนเราก็เพิ่งเบิกเงินมาใช้จ่าย ต้องรอไปก่อนจนกว่าจะเบิงวดใหม่ได้
ก็นั่งเศร้ากันอยู่....เราเริ่มเครียด ร้องไห้....แม่ก็ตะคอกว่า "จะร้องทำไม"
แล้วเริ่มด่าค่ะ ...ไล่เราออกจากบ้าน ....แฟนกอดเราไว้...ตอนแรกเราเงียบ...พอสักพัก แม่ด่าแรงขึ้นๆเรื่อยๆ
เริ่มพูดว่า เราทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อเขาเลย "ทำทุกอย่างเพื่อแค่ตัว กะผัว"

คำนี้อยู่ไม่ไหวแล้ว ลุกขึ้นคว้ากุญแจมอไซค์ จะขี่ออกไปสงบสติอารมณ์ ไม่อยากฟังเสียงแม่บ่นแล้ว ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกแย่
ยิ่งฟังยิ่งหดหู่ .......ทำไมแม่ไม่เห็นแก่ลูกในท้องเราบ้าง ขอเราสบายใจสักวันไม่ได้หรือ? ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

พอคว้ากุญแจ ...แฟนเรารั้งไว้  เราเริ่มกรีดร้องแล้ว มันสติแตก ขอไปให้พ้นๆตรงนี้ก่อน ขอออกไปก่อน ไม่เอาแล้ว ไม่อยากฟังแล้ว

แม่เห็นเรายื้อยุดอยู่ตรงนั้น...แม่ลุกมา คว้าไม้เท้าเหล็ก มาตีเรา เรียกเรา อีเนรคุณ อี....มากมายร้องไห้

แฟนเราเอาตัวบัง.....แม่เราเล็บยาว เขาก็จิกแขนเรา เลือดไหล บอกให้เราเข้าบ้าน....เรารับไม่ไหว ร้องไห้นั่งกองกะพื้น
อยากให้แม่หยุดด่าเสียที เราเครียดไม่ไหวแล้ว....แค่ไม่มีเงินก็เครียดพอแล้ว เรายืมเงินเพื่อนมาจ่ายค่าแชร์ มากินใช้ในบ้าน
เรายังไม่มีปัญญาคืนเลย ....คิดทุกวัน ทำทุกทางแล้ว ให้มีเงินพอ...แต่มันไม่พอ ...ไม่ใช่ว่าเราเห็นแก่ตัว เก็บไว้ไม่ให้แม่

แต่เราก็หมดกระเป๋าเหมือนกัน มีเท่าไหร่ เราจ่ายให้แม่หมดแล้ว ไม่อยากให้เจ้าหนี้มาด่าแม่ ไม่อยากให้เขาเครียด
แต่เวลาที่เราต้านทานไม่ไหวแล้ว....หมดหนทางแล้ว แม่เรากลับทำแบบนี้...เราหมดแรง

เรารักแม่นะ ห่วงเขาที่สุด แม่มาที่หนึ่งเสมอ คนอื่นมาทีหลัง ....แต่ทำไมเวลาเราล้ม สิ่งที่เราได้รับคือ แบบนี้?

ตอนเราเป็นเด็ก แม่ทุ่มเทเพื่อลูกทุกอย่าง เรากะแม่เคยกินปลากระป๋องกระป๋องเดียว กับข้าวสามมื้อ เพราะต้องส่งเงินให้พี่ที่เรียนมหาวิทยาลัย
ภาพมันติดตา...เราผูกพันกะแม่มาก....บอกตัวเองมาตลอด ว่า เขาลำบากเพื่อเรามาเยอะมากที่สุด...
ที่ผ่านมา เราพยายามอดทน เขาด่า อารมณ์เสีย
เราก็เฉยเสีย.....แต่นี่เราอุ้มท้อง แพ้ท้อง ขี่มอไซค์ตระเวนสอนตามสถาบันจนดึก กลับมาบ้าน เจอแบบนี้....

เราหมดแรง...เราสับสน...ท้อไปหมดแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่