เกี่ยวกับประเด็นน้องแก้มนะครับ ทั้งสื่อในจอและสื่อออนไลน์ต่างๆต่างพากันวิเคราะห์ข่าวกันอย่างมึนงงกับเรื่องจะประหารไม่ประหาร ดื่มไม่ดื่มกันอยู่ ข่าวการยืนยันเรื่องการเสียชีวิตของน้องแก้มนั้นเป็นเรื่องที่น่าสลดใจมาก สังคมไทยที่กฎหมายพรากผู้เยาว์จะถูกใช้ก็ต่อเมื่อพ่อแม่หรือตัวเด็กเองนั้นมีการแจ้งความหรือฝ่ายคู่แข่งนำจุดอ่อนในจุดนี้มาใช้โจมตีก็เลวร้ายมากอยู่แล้ว กรณีที่ฆ่าข่มขืนเด็กจึงไม่แปลกที่อยากให้สิ่งมีชีวิตที่ทำแบบนี้ได้ตายๆไปเสีย
แต่น่าแปลก ที่พอข่าวยืนยันออกมาช่วงคนจะนอนกันแล้ว ตื่นเช้ามามีแต่ feed ข่มขื่น = ประหาร โชว์ hashtag โพสรูปต่างๆนานา จะเกิด viral เป็นกระแสสังคมขึ้นมาก็ไม่แปลกหรอกแต่นี่นอนแล้วตื่นมาเจอคนทำเลียนแบบไวไปรึเปล่า มันดูคล้ายกับการปั่น viral เทียมเพื่อกระตุ้นความคิดมวลชนให้มุ่งประเด็นการแก้ปัญหาหลักไปที่เรื่องการเพิ่มโทษข่มขืนให้ประหารแทน โอเคคุณเกลียดสัตว์นรกตัวนั้นมาก คุณอยากให้มันตาย แต่โดยปกติแล้วคดีข่มขืนคุณอยากให้ประหารมันตายให้หมดทุกคนเท่านั้นจริงๆเหรอ พวกเขารับสื่อ inception ให้ข่มขืนเป็นประหารโดยหลงลืมประเด็นว่าที่อยากให้มันตายคือพนักงานรถไฟที่ฆ่าข่มขืนคนนั้นรึเปล่า เมื่อเดือนก่อนอยากให้ใครตายบ้างยังไม่รู้เลย ปฏิกิริยาที่ไม่มีการกระตุ้นน่าจะเป็นความเคียดแค้นต่อผู้กระทำผิดและความปลอดภัยที่หละหลวมรถไฟไทยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้มากกว่าหรือเปล่า
แปลกที่สองคือหลังจากเกิดคดีร้ายแรงแบบนี้ได้รับการยืนยันและรายงานข่าวแล้ว นักข่าวก็มุ่งประเด็นไปที่โทษข่มขืน กฎหมายและโทษต่างๆรวมถึงเรื่องประเด็นการประหาร ประเด็นเรื่องปัญหาของรถไฟกลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ พูดถึงแบบผ่านๆแมวดมเลยก็ว่าได้ ไม่มีการเจาะลึกตีแผ่ข้อมูลการบริหารของรถไฟไทยแต่อย่างใด สุดท้ายก็ปลดคนใหญ่ๆในนั้นสักคนแล้วหวังว่าเรื่องมันจะจบ ปล่อยให้เป็นองค์กรล้าหลังและลึกลับมีชายชุดดำคอยทำงานอยู่ลับๆต่อไปล่าสุดมีข่าวมีคนดูต้นทางก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไปเหมือนกัน
แปลกที่สามคือมีคนมาโพส์แชร์ๆกันมามีแต่ hate speech แสดงอารมณ์โหดร้ายกับโชว์ง่าวต่างๆนานา ไม่รู้เป็นเพราะอยากดังจนลืมไตร่ตรองหรือเปล่า บางคนก็เป็นถึงดอกเตอร์ แต่กลับไม่มีข้อความที่วิเคราะห์ถึงรากเหง้าปัญหาที่แท้จริงให้คนไทยเราตาสว่างถึงปัญหาในการบริหารรถไฟไทยออกมาแชร์กันเยอะๆเลย อ่าน comment ที่แชร์ๆไปก็ไม่มีใครเจาะลึกลงในประเด็นนี้ ที่พอจะเห็นก็มีแต่เพื่อนผมไม่กี่คนที่สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ไม่เอาอารมณ์ไปอินกับกระแสสังคมจนมองภาพรวมไม่ออก แต่กลับไม่ค่อย go viral กันนัก เพื่อนผมหลายคนคิดได้แต่ทำไมกลับไม่มีใครคิดแบบนั้นออกสื่อมาช่วยประเทศไทยหาทางออกบ้างล่ะครับ
ต่อไปนี้ผมจะขอไล่ลำดับปัญหา สาเหตุของปัญหาเป็นลำดับไปจนถึงแนวทางที่จะพอแก้ไขปัญหานี้ได้โดยสันติและอหิงสาไม่ใช่อารมณ์หรือปล่อยคำผรุสวาสแต่อย่างใดนะครับ
1. ปัญหาที่สังคมรับรู้คือพนักงานรถไฟฆ่าข่มขืนเด็กในห้องโดยสารเวลาค่ำคืน
2. ปัจจัยที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมมีดังนี้
1) พนักงานไม่ได้รับการคัดกรองและสอบประวัติมาดีพอ
2) ขาดงบที่จะจ้างกำลังคนที่จะตรวจตราในทุกโบกี้
3) มีการดื่มสุราในเวลาทำงาน
4) ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นหละหลวม
5) การปล่อยให้เด็กนอนชั้นล่างไปเข้าห้องน้ำคนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับวัยที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้
3. เมื่อรวบรวมปัจจัยที่เกิดขึ้นเสร็จ การที่จะไม่ให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นได้อีกนั้น เราก็ต้องทำให้ปัจจัยที่นำไปสู่เหตุการณ์นั้นหายไปเสีย
1) ปรับปรุงมาตราการคัดเลือกคน ตรวจสอบประวัติและประเมินทัศนคติว่าเหมาะสมกับงานจริง ผู้ก่อคดีนั้นทำงานที่ท้องที่ไหน ก็ต้องไปตรวจสอบการรับคนของท้องที่นั้นว่ามีปัญหาอะไรและวิเคราะห์แก้ไขไป ถ้า HR ทำงานหละหลวมก็เปลี่ยนหน่วยงานคัดคนไป ถ้าคนบริหารบกพร่องในการประเมินงานก็รับผิดชอบเสีย
2) ถ้างบไม่พอมาโดยตลอดก็ต้องประเมินการแบ่งงบประมาณใหม่ ไล่ลำดับความสำคัญและกระจายงบไปตามความเหมาะสม ณ จุดนี้ผมจะไม่พูดถึงปัญหาคอรัปชั่นที่พูดไปแล้วก็แก้ไขอะไรกับระบบไม่ได้นะครับ การที่งบไม่พอมาโดยตลอดจนเกิดปัญหาใหญ่โตได้แบบนี้แปลว่าหน่วยงานนี้จัดลำดับความสำคัญของความปลอดภัยต่ำเกินไป ควรจะไล่ระดับความสำคัญใหม่แล้วแบ่งงบประมาณจากส่วนอื่นๆมาชดเชยแทน การจะแก้ไขปัญหาเรื่องงบนี้ได้ก็ต้องมีการประเมินงบและตรวจสอบในแต่ละท้องที่ ถ้างบตรงท้องที่นี่ไม่พอก็ต้องทำอย่างที่บอกเมื่อกี้ไป คราวนี้คุณก็ต้องมาไล่บี้ดูแล้วว่าใครบริหารงบประมาณเหล่านี้ในท้องที่นั้น ทำไมถึงหละหลวมปล่อยให้มีความเสี่ยงสูงจนเกิดเรื่องแบบนี้ได้
3) เนื่องจากรถไฟนั่นใช้เวลาเดินทางยาวนาน ก็บางช่วงที่ว่างยาวไม่มีอะไรทำแล้วมีดื่มเหล้าคุยกันฆ่าเวลาซึ่งตรงจุดนี้ตามมาตราฐานสังคมไทยแล้วห้ามพนักงานทุกคนดื่มเหล้าไม่ได้หรอก แต่ถ้าลดเวลาการทำงานของแต่ละคนบนขบวนลงได้ แบ่งกะดีๆก็ลดโอกาสที่คนจะดื่มเหล้าลงได้เหมือนกัน แต่นั่นก็คงติดประเด็นเรื่องงบอีกอยู่ดี หน่วยงานก็ขาดทุนทุกปีๆ ไม่รู้ว่าจะเจ๊งเมื่อไหร่เหมือนกันเพราะไม่เคยมีกำไรเลย
4) เนื่องจากขาดงบจึงทำให้การรักษาความปลอดภัยนั้นหละหลวมลง แต่ความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นสามารถเพิ่มได้โดยไม่ต้องใช้งบมากมายก็ได้ เช่นติดป้ายเตือนผู้โดยสารว่าอย่าปล่อยเด็กทิ้งไว้ตามลำพังแทนที่จะเป็นป้ายห้ามดื่ม/จำหน่ายเหล้า จัดแบ่งกะโดยสุ่มอย่าให้จับกลุ่มกันเองและแบ่งเวลาตรวจตราดูให้ดี เช่นแบ่งกะเป็นสองฝั่ง ให้เดินข้ามฝั่งทุก 30-60 นาทีสลับกัน ใช้แค่สองคนแต่ให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมาตรวจตราบ่อยเพราะดูเป็นการเดินทางไปกลับ ยกเว้นฆาตกรจะวางแผนคำนวนเวลามาเป็นอย่างดีแบบในการ์ตูนนักสืบ เรื่องแค่นี้ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรมากมายเลย หรือถ้ามีงบหน่อยจะติดกล้องเพิ่มโบกี้ละกล้องก็ได้
5) เหมือนที่บอกในข้อ 4 คือเตือนผู้ปกครองให้ดูแลเด็กให้ดี ติดป้ายเตือนดูแลก็ช่วยได้เยอะแล้ว ปัญหาที่อาจเกิดและข้อระวังหลักๆก็เขียนให้อ่านง่ายจำง่าย
ผมก็ไม่ได้ทำงานรถไฟ ไม่ได้นั่งบ่อยนัก ก็คงคิดคร่าวๆได้พอสังเขปเท่านี้ล่ะครับ เรื่องเกิดไปแล้ว เอาปัญหามาวิเคราะห์หาทางออกมันก็พูดดูง่ายดีแบบนี้แหละครับ คนที่คิดทำเรื่องพวกนี้ก่อนเกิดปัญหาได้นั้นน่านับถือในวิสัยทัศน์ของพวกเขาจริงๆ แต่ที่ออกในสื่อนั้นคืออะไร ไปสัมภาษณ์ผู้ว่าการรถไฟแกก็บอกว่าจะดูแลแบบนั้นแบบนี้ สักพักก็ปลดแกออก แก้ปัญหาโดยการห้ามขายเหล้าไป คือให้คนใหญ่คนโตออกมาแสดงวิธีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา แล้วก็ปลดเขาออกไป นโยบายที่เคยบอกก็กลายเป็นของเก่าไปแล้ว เหลือแต่นโยบายงงๆให้คุณมานั่งด่านั่งวิจารณ์แล้วก็ลืมๆกันไปอย่างห้ามดื่มเหล้าบนรถไฟ มีพนักงานรถไฟมาฆ่าข่มขืนเด็กก็แก้ปัญหาโดยการห้ามดื่มเหล้าเสีย สบายๆ แล้วประชาชนก็อยู่กับระบบเดิมๆไม่ไปโดนตรวจสอบถอนรากถอนโคนอะไร แล้วสื่อก็ไม่ว่าอะไรกับรฟทต่อไป เอาประเด็นเรื่องฆ่า ข่มขืน ประหาร ห้ามดื่มเหล้าบนรถไฟกับคนดังเม้นท์โง่ๆออกมาวิเคราะห์วิพากวิจารณ์กันต่อไป ประเด็นที่ควรจะไล่บี้จริงๆเกี่ยวกับระบบการจัดการของรถไฟไทยกลับนิ่งนองใจ ขนาดอดีตผู้ว่าเองยังไม่กล้าให้ลูกขึ้นรถไฟไทยแล้ว อยากให้สื่อช่วยทำหน้าที่ของสื่อในการไขความลับของวงจรอันโบราณเก่าแก่นี้เสียทีครับ เพื่อคุณภาพชีวิตและเงินภาษีของประชาชนพวกเราด้วยกัน
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าที่ผมพยายามคิด วิเคราะห์ หาหนทางเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันเลวร้ายแบบนี้ขึ้นมาอีกนั้น ท่านผู้มีอำนาจทั้งหลายจะมีวิสัยทัศน์และเห็นอกเห็นใจประชาชนที่ใช้บริการพื้นๆแบบนี้แค่ไหนกัน ผมได้แต่หวังว่าคุณประยุทธ์หรือใครที่มีอำนาจในการพัฒนาบ้านเมืองจะเห็นข้อความที่ผมพิมพ์มานี้หรือมีคนที่คิดวิเคราะห์แก้ปัญหาอย่างจริงจังช่วยหาทางออกให้พวกท่านได้บ้างครับ
tag สถานีโทรทัศน์ กับ ผู้ประกาศข่าว เพราะอยากให้คนเสพสื่อและผู้ประกาศข่าวใส่ใจในประเด็นเหล่านี้
tag การเมือง เผื่อจะมีใครที่อยากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงโทรคมนาคมเห็นแล้วนำไปพิจารณาบ้าง
tag ปัญหาสังคม เพราะมันเป็นมายาวนานหลายทศวรรษแล้ว เข้าใจตรงกันนะ
tag เรื่องเล่าสยองขวัญ เพราะข่าวนี้มันสยองมาก กดส่งแล้วผมรู้สึกสยองจริงๆ แก้แล้วแก้อีกเพื่อเน้นส่งสารหลักโดยไม่สุ่มเสี่ยงต่อการโจมตีผู้คนหรือหน่วยงานใด
ถึงคุณประยุทธ์และผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ ช่วยจัดการสื่อกับรถไฟไทยด้วยครับ
แต่น่าแปลก ที่พอข่าวยืนยันออกมาช่วงคนจะนอนกันแล้ว ตื่นเช้ามามีแต่ feed ข่มขื่น = ประหาร โชว์ hashtag โพสรูปต่างๆนานา จะเกิด viral เป็นกระแสสังคมขึ้นมาก็ไม่แปลกหรอกแต่นี่นอนแล้วตื่นมาเจอคนทำเลียนแบบไวไปรึเปล่า มันดูคล้ายกับการปั่น viral เทียมเพื่อกระตุ้นความคิดมวลชนให้มุ่งประเด็นการแก้ปัญหาหลักไปที่เรื่องการเพิ่มโทษข่มขืนให้ประหารแทน โอเคคุณเกลียดสัตว์นรกตัวนั้นมาก คุณอยากให้มันตาย แต่โดยปกติแล้วคดีข่มขืนคุณอยากให้ประหารมันตายให้หมดทุกคนเท่านั้นจริงๆเหรอ พวกเขารับสื่อ inception ให้ข่มขืนเป็นประหารโดยหลงลืมประเด็นว่าที่อยากให้มันตายคือพนักงานรถไฟที่ฆ่าข่มขืนคนนั้นรึเปล่า เมื่อเดือนก่อนอยากให้ใครตายบ้างยังไม่รู้เลย ปฏิกิริยาที่ไม่มีการกระตุ้นน่าจะเป็นความเคียดแค้นต่อผู้กระทำผิดและความปลอดภัยที่หละหลวมรถไฟไทยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้มากกว่าหรือเปล่า
แปลกที่สองคือหลังจากเกิดคดีร้ายแรงแบบนี้ได้รับการยืนยันและรายงานข่าวแล้ว นักข่าวก็มุ่งประเด็นไปที่โทษข่มขืน กฎหมายและโทษต่างๆรวมถึงเรื่องประเด็นการประหาร ประเด็นเรื่องปัญหาของรถไฟกลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ พูดถึงแบบผ่านๆแมวดมเลยก็ว่าได้ ไม่มีการเจาะลึกตีแผ่ข้อมูลการบริหารของรถไฟไทยแต่อย่างใด สุดท้ายก็ปลดคนใหญ่ๆในนั้นสักคนแล้วหวังว่าเรื่องมันจะจบ ปล่อยให้เป็นองค์กรล้าหลังและลึกลับมีชายชุดดำคอยทำงานอยู่ลับๆต่อไปล่าสุดมีข่าวมีคนดูต้นทางก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไปเหมือนกัน
แปลกที่สามคือมีคนมาโพส์แชร์ๆกันมามีแต่ hate speech แสดงอารมณ์โหดร้ายกับโชว์ง่าวต่างๆนานา ไม่รู้เป็นเพราะอยากดังจนลืมไตร่ตรองหรือเปล่า บางคนก็เป็นถึงดอกเตอร์ แต่กลับไม่มีข้อความที่วิเคราะห์ถึงรากเหง้าปัญหาที่แท้จริงให้คนไทยเราตาสว่างถึงปัญหาในการบริหารรถไฟไทยออกมาแชร์กันเยอะๆเลย อ่าน comment ที่แชร์ๆไปก็ไม่มีใครเจาะลึกลงในประเด็นนี้ ที่พอจะเห็นก็มีแต่เพื่อนผมไม่กี่คนที่สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ไม่เอาอารมณ์ไปอินกับกระแสสังคมจนมองภาพรวมไม่ออก แต่กลับไม่ค่อย go viral กันนัก เพื่อนผมหลายคนคิดได้แต่ทำไมกลับไม่มีใครคิดแบบนั้นออกสื่อมาช่วยประเทศไทยหาทางออกบ้างล่ะครับ
ต่อไปนี้ผมจะขอไล่ลำดับปัญหา สาเหตุของปัญหาเป็นลำดับไปจนถึงแนวทางที่จะพอแก้ไขปัญหานี้ได้โดยสันติและอหิงสาไม่ใช่อารมณ์หรือปล่อยคำผรุสวาสแต่อย่างใดนะครับ
1. ปัญหาที่สังคมรับรู้คือพนักงานรถไฟฆ่าข่มขืนเด็กในห้องโดยสารเวลาค่ำคืน
2. ปัจจัยที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมมีดังนี้
1) พนักงานไม่ได้รับการคัดกรองและสอบประวัติมาดีพอ
2) ขาดงบที่จะจ้างกำลังคนที่จะตรวจตราในทุกโบกี้
3) มีการดื่มสุราในเวลาทำงาน
4) ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นหละหลวม
5) การปล่อยให้เด็กนอนชั้นล่างไปเข้าห้องน้ำคนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับวัยที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้
3. เมื่อรวบรวมปัจจัยที่เกิดขึ้นเสร็จ การที่จะไม่ให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นได้อีกนั้น เราก็ต้องทำให้ปัจจัยที่นำไปสู่เหตุการณ์นั้นหายไปเสีย
1) ปรับปรุงมาตราการคัดเลือกคน ตรวจสอบประวัติและประเมินทัศนคติว่าเหมาะสมกับงานจริง ผู้ก่อคดีนั้นทำงานที่ท้องที่ไหน ก็ต้องไปตรวจสอบการรับคนของท้องที่นั้นว่ามีปัญหาอะไรและวิเคราะห์แก้ไขไป ถ้า HR ทำงานหละหลวมก็เปลี่ยนหน่วยงานคัดคนไป ถ้าคนบริหารบกพร่องในการประเมินงานก็รับผิดชอบเสีย
2) ถ้างบไม่พอมาโดยตลอดก็ต้องประเมินการแบ่งงบประมาณใหม่ ไล่ลำดับความสำคัญและกระจายงบไปตามความเหมาะสม ณ จุดนี้ผมจะไม่พูดถึงปัญหาคอรัปชั่นที่พูดไปแล้วก็แก้ไขอะไรกับระบบไม่ได้นะครับ การที่งบไม่พอมาโดยตลอดจนเกิดปัญหาใหญ่โตได้แบบนี้แปลว่าหน่วยงานนี้จัดลำดับความสำคัญของความปลอดภัยต่ำเกินไป ควรจะไล่ระดับความสำคัญใหม่แล้วแบ่งงบประมาณจากส่วนอื่นๆมาชดเชยแทน การจะแก้ไขปัญหาเรื่องงบนี้ได้ก็ต้องมีการประเมินงบและตรวจสอบในแต่ละท้องที่ ถ้างบตรงท้องที่นี่ไม่พอก็ต้องทำอย่างที่บอกเมื่อกี้ไป คราวนี้คุณก็ต้องมาไล่บี้ดูแล้วว่าใครบริหารงบประมาณเหล่านี้ในท้องที่นั้น ทำไมถึงหละหลวมปล่อยให้มีความเสี่ยงสูงจนเกิดเรื่องแบบนี้ได้
3) เนื่องจากรถไฟนั่นใช้เวลาเดินทางยาวนาน ก็บางช่วงที่ว่างยาวไม่มีอะไรทำแล้วมีดื่มเหล้าคุยกันฆ่าเวลาซึ่งตรงจุดนี้ตามมาตราฐานสังคมไทยแล้วห้ามพนักงานทุกคนดื่มเหล้าไม่ได้หรอก แต่ถ้าลดเวลาการทำงานของแต่ละคนบนขบวนลงได้ แบ่งกะดีๆก็ลดโอกาสที่คนจะดื่มเหล้าลงได้เหมือนกัน แต่นั่นก็คงติดประเด็นเรื่องงบอีกอยู่ดี หน่วยงานก็ขาดทุนทุกปีๆ ไม่รู้ว่าจะเจ๊งเมื่อไหร่เหมือนกันเพราะไม่เคยมีกำไรเลย
4) เนื่องจากขาดงบจึงทำให้การรักษาความปลอดภัยนั้นหละหลวมลง แต่ความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นสามารถเพิ่มได้โดยไม่ต้องใช้งบมากมายก็ได้ เช่นติดป้ายเตือนผู้โดยสารว่าอย่าปล่อยเด็กทิ้งไว้ตามลำพังแทนที่จะเป็นป้ายห้ามดื่ม/จำหน่ายเหล้า จัดแบ่งกะโดยสุ่มอย่าให้จับกลุ่มกันเองและแบ่งเวลาตรวจตราดูให้ดี เช่นแบ่งกะเป็นสองฝั่ง ให้เดินข้ามฝั่งทุก 30-60 นาทีสลับกัน ใช้แค่สองคนแต่ให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมาตรวจตราบ่อยเพราะดูเป็นการเดินทางไปกลับ ยกเว้นฆาตกรจะวางแผนคำนวนเวลามาเป็นอย่างดีแบบในการ์ตูนนักสืบ เรื่องแค่นี้ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรมากมายเลย หรือถ้ามีงบหน่อยจะติดกล้องเพิ่มโบกี้ละกล้องก็ได้
5) เหมือนที่บอกในข้อ 4 คือเตือนผู้ปกครองให้ดูแลเด็กให้ดี ติดป้ายเตือนดูแลก็ช่วยได้เยอะแล้ว ปัญหาที่อาจเกิดและข้อระวังหลักๆก็เขียนให้อ่านง่ายจำง่าย
ผมก็ไม่ได้ทำงานรถไฟ ไม่ได้นั่งบ่อยนัก ก็คงคิดคร่าวๆได้พอสังเขปเท่านี้ล่ะครับ เรื่องเกิดไปแล้ว เอาปัญหามาวิเคราะห์หาทางออกมันก็พูดดูง่ายดีแบบนี้แหละครับ คนที่คิดทำเรื่องพวกนี้ก่อนเกิดปัญหาได้นั้นน่านับถือในวิสัยทัศน์ของพวกเขาจริงๆ แต่ที่ออกในสื่อนั้นคืออะไร ไปสัมภาษณ์ผู้ว่าการรถไฟแกก็บอกว่าจะดูแลแบบนั้นแบบนี้ สักพักก็ปลดแกออก แก้ปัญหาโดยการห้ามขายเหล้าไป คือให้คนใหญ่คนโตออกมาแสดงวิธีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา แล้วก็ปลดเขาออกไป นโยบายที่เคยบอกก็กลายเป็นของเก่าไปแล้ว เหลือแต่นโยบายงงๆให้คุณมานั่งด่านั่งวิจารณ์แล้วก็ลืมๆกันไปอย่างห้ามดื่มเหล้าบนรถไฟ มีพนักงานรถไฟมาฆ่าข่มขืนเด็กก็แก้ปัญหาโดยการห้ามดื่มเหล้าเสีย สบายๆ แล้วประชาชนก็อยู่กับระบบเดิมๆไม่ไปโดนตรวจสอบถอนรากถอนโคนอะไร แล้วสื่อก็ไม่ว่าอะไรกับรฟทต่อไป เอาประเด็นเรื่องฆ่า ข่มขืน ประหาร ห้ามดื่มเหล้าบนรถไฟกับคนดังเม้นท์โง่ๆออกมาวิเคราะห์วิพากวิจารณ์กันต่อไป ประเด็นที่ควรจะไล่บี้จริงๆเกี่ยวกับระบบการจัดการของรถไฟไทยกลับนิ่งนองใจ ขนาดอดีตผู้ว่าเองยังไม่กล้าให้ลูกขึ้นรถไฟไทยแล้ว อยากให้สื่อช่วยทำหน้าที่ของสื่อในการไขความลับของวงจรอันโบราณเก่าแก่นี้เสียทีครับ เพื่อคุณภาพชีวิตและเงินภาษีของประชาชนพวกเราด้วยกัน
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าที่ผมพยายามคิด วิเคราะห์ หาหนทางเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันเลวร้ายแบบนี้ขึ้นมาอีกนั้น ท่านผู้มีอำนาจทั้งหลายจะมีวิสัยทัศน์และเห็นอกเห็นใจประชาชนที่ใช้บริการพื้นๆแบบนี้แค่ไหนกัน ผมได้แต่หวังว่าคุณประยุทธ์หรือใครที่มีอำนาจในการพัฒนาบ้านเมืองจะเห็นข้อความที่ผมพิมพ์มานี้หรือมีคนที่คิดวิเคราะห์แก้ปัญหาอย่างจริงจังช่วยหาทางออกให้พวกท่านได้บ้างครับ
tag สถานีโทรทัศน์ กับ ผู้ประกาศข่าว เพราะอยากให้คนเสพสื่อและผู้ประกาศข่าวใส่ใจในประเด็นเหล่านี้
tag การเมือง เผื่อจะมีใครที่อยากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงโทรคมนาคมเห็นแล้วนำไปพิจารณาบ้าง
tag ปัญหาสังคม เพราะมันเป็นมายาวนานหลายทศวรรษแล้ว เข้าใจตรงกันนะ
tag เรื่องเล่าสยองขวัญ เพราะข่าวนี้มันสยองมาก กดส่งแล้วผมรู้สึกสยองจริงๆ แก้แล้วแก้อีกเพื่อเน้นส่งสารหลักโดยไม่สุ่มเสี่ยงต่อการโจมตีผู้คนหรือหน่วยงานใด