เกือบจะได้นั่งprivate jet,เป็นเมียสุลต่าน แต่ขอเลือกหันกลับมาขายแซนวิชบ้านๆ ลากแตะเดินต่อไป

ปล. ปล. ปล.
เล่าจบครบทุก Part ละนะคะ บางคนหา Partต่อ ไม่เจอ ลองแวะมาอ่านได้  ยิ้ม ลองลากๆ ลงไปดู อยู่ตรงความคิดเห็นล่างๆ นะคะ

Part จบ ความเห็นที่ 285
Part3.1 ความเห็นที่ 187
Part 2   ความเห็นที่ 131
ขอบคุณค่า ^__ ^

มีประสบการณ์ตรงกับชีวิต7ปีในลอนดอนมาฝากกันคะ    ชีวิตเหมือนฝันไปช่วงหนึ่ง เคยมีคนเอาเงินล้านมาเสนอ มาชวนไปนั่ง jet ส่วนตัว ได้สัมผัสมือกะเหล่าดาราฮอลีวู้ด และ เศรษฐีรวยติดอันดับโลกมากมายเลย เหมือนฝันจริงๆ แต่ตอนนี้ดิฉันเลือกกลับมานั่งขายแซนวิชริมฟุตบาทข้างถนนในกทม. หลายคนคงจะงง ที่เลือกทางสายนี้ แต่เดี๋ยวเข้าใจเองพออ่านจนจบเนอะ ปล.มือใหม่หัดเขียนจริงๆ หากพลาดผิด หรือพลาดพิงบุคคล/สถานที่ใด ขออภัยด้วยค่า-/\-

Part1 Survive in London

ฉันก็เหมือนเด็กไทยเชื้อสายจีนครอบครัวใหญ่ทั่วๆไป ป๊า ม๊า อายุมาก เกษียณแล้ว พี่สาวคนโต หาเลี้ยงครอบครัว ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูเอาเสียเลย ฐานะเราก็แค่พอมีพอกินไม่ร่ำรวยอะไร โชคดีไปเจอ เวบ รร แห่งหนึ่ง ที่ Croydon (โซนชาญเมืองลอนดอน) เป็น รร ภาษาที่ถูกมากก ห้องนึงเรียนกันสามสี่สิบคนมั้ง ค่าเรียน ไม่ถึง 400ปอนด์ต่อปี (ช่วงนั้น 1pound=70baht) อัยยะ!!ไม่ถึงสามหมื่นได้เรียนตั้งหนึ่งปี ในไทยรร.ภาษาหลายๆรร.ยังแพงกว่าเลย ตอนนั้นรวบรวมความกล้ามาถามเจ๊ พี่สาวเรา ตอนแรกนึกว่าจะโดนว่า แต่สุดท้ายพี่ก้อไปหยิบเงินมา บอกว่า เป็นเงินเก็บก้อนเดียวที่เค้ามี เค้าบอกลองดู อยากให้เราไป ตอนนั้นเราจบปี4พอดี เค้าบอกได้โอกาสแล้วต้องทำให้เต็มที่นะ เราแบบ น้ำตาไหลเลย พี่เราดีกะเรามากจิงๆ ตั้งแต่เด็กจนวันนี้ เชื่อในตัวเราเสมอ Y Y เค้าบอกเงินที่มีให้มันไม่มากอะไร ไปถึงถ้าไม่รีบหางานก็จบ จะลองเสี่ยงไปมั้ย เราสุดท้ายตัดสินใจเอาก้อเอาวะ เป็นไงเป็นกัน เพราะรู้อยู่แล้วว่า ไม่อยากเดินทางสายออฟฟิต นั่งตรอกบัตร เข้า ออก สรุปตอนนั้นไปกะเพื่อนตุ้ดคนนึง ตอนนั้น หักค่าเครื่องขาไปอย่างเดียว หักค่า รร เหลือเงินติดตัวไป 700 ปอนด์

....6กันยายน 2006 ออกบินจ้าาาาา แต้น แตน แต๊น


ขอไม่เล่าถึงวันแรกนะ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด - -" ลากกระเป๋าเดินทางหลายสิบโล เดินทั้งวัน หลงไปหลงมา เดินหาบ้านที่ รร จัดให้ไว้จนดึกก้อหาไม่เจอ โดนโกง deposit(เงินประกัน) และอีกหลายร้อยเรื่องราวเก้าพันแปด เพราะความที่ โง่ภาษานั่นเอง - -"


ตัดภาพมาที่ วันที่2 ไปขอร้องเจ๊ร้านอาหารไทยร้านนึง รับหนูเถอะ พลีสๆๆ สรุปได้งานล้างจาน (ก็ยังดีฟะ เพราะค่าบ้านมหาโหด ที่ไอ รร มันจัดแจงบ้านไว้ให้เรา วีคละ 120ปอนด์!! ถ้าไม่ได้งานภายในเร็วๆนี้ สงสัยต้องได้ไปนั่งขอทานซะแร้วเรา แหะๆ) สภาพเราเหมือนแรงงานต่างด้าวที่ถูกกดขี่จนยับ ล้างถ้วย หม้อ จาน ชาม โถไห วันละ เป็นร้อยๆใบ กะบะใส่ของ เป็น สิบๆ ล้างคนเดียว เครื่องล้างจาน เจ๊ไม่ซ่อม เจ๊เน้นใช้แรงงานคน เริ่มทำงาน 12.30(เลิกเรียนเที่ยง) เสร็จ คนอื่นเบรค 15.00-17.30 (ช่วงเวลาร้านไทยปิดเบรค) แต่ด้วยความที่งานดิฉันไม่เสร็จ ห่อSpring roll เป๊าะเปี๊ยะ  เสียบสะเต๊ะ ทำถุงทอง เตรียมเครื่องยำ ขนมปังหน้ากุ้ง โอ้ย สิบกว่าอย่าง เลยไม่ได้เบรค ยังดีได้กินข้าวห้านาที พอเตรียมเสร็จ เกือบหกโมงลูกค้าเข้า เป็นแบบนี้หกวัน อกอีแป้นจะแตก เลิกงานถึงบ้านตีสอง เดินกลับบ้านบางที ร้องไห้เรย เหนื่อยสาดดด ทำ6วันแต่เป็นเด็กไทย เด็กใหม่ ได้ค่าแรงเทียบเท่า ทำที่อื่นสองวันครึ่ง - -"
ถึงดิฉันจะมือใหม่  แต่ดิฉันก็ทำงานเต็มที่นะ พี่เชพ คนนึงสอนไว้ว่า ทำงานทำให้เต็มที่ ให้เค้าเสียดายเวลาเราออก ไม่ว่าไปอยู่ไหนก็จงเป็นคนมีค่ากะที่นั้นๆ

อยู่มาหกเดือน โดนลดshift (กะ) อยู่แบบอัตคัต เงินไม่พอเติมบัตรรถเมล์ และภาษาก้อไม่ดีขึ้น เพราะคุยแต่กะชามกะจานที่สูงเท่าหัวทุกวัน 555 เลยตัดสินใจทุบหม้อข้าว ลาออก คะ เป็นไงเป็นกันวะ เตรียมCV (ใบประวัติ) สิบกว่าใบ ร่อนไปทุกร้าน แต่ไม่มีใครเรียก จนมาเจอร้าน Jack's English Breakfast Cafe ติดป้ายต้องการพนง. ด่วน Speak English Fluently แอบฮา ยิ้มใครจะรับตูฟะ พูดได้แต่ yes no ok thank you แต่ก้อยื่นขำๆ ดันเรียกให้ไปลองงาน ซะงั้น บังเอิญวันนั้นร้านยุ่งจนแทบแตก ช้านเรยวิ่งขาขวิด มือระวิงเก็บจาน ไม่ได้รับ order เลย เจ้านายบอก ยูขยันมาก รับเข้าทำงาน เย้ๆๆ
ช่วงแรกเกือบโดนไล่ออกหลายทีเพราะฟังไม่ออก อาศัยขยันเอา งานขัดถูส้วม เก็บโต๊ะ ปิดร้าน ใช้แรง ดิฉันทำหมด ไม่บ่น เพื่อนร่วมงานเรยแฮปปี้ เพราะพวกมานรับออเดอร์อาหารอย่างเดียว ปล.ดิฉันเป็นคนไทยคนเดียวในร้านคะ ที่เหลือ EU คะ

ดิฉันเอาเมนูกลับไปท่องทุกวัน รวมถึงศัพท์ต่างๆ เช่น rare,medium,mind your back บลาๆๆ บางทีท่องจนติด ละเมอ  ลูกค้าลุกไปห้องน้ำดิฉันยิ้มให้พูดเสียงดังฟังชัด Enjoy your meal!!! (ทานให้อร่อยนะคะ)! - -" สองปีแรกมีเรื่องให้ฮาทุกวันพอคิดย้อนไป เคยมีลูกค้าสั่ง Cappuccino กะ lemon cake ใครจะไปรุว่ามีเค้กชื่อ lemon ฟะ ฝรั่งก็พูดเร็วได้ยินแต่คำว่า lemon เลยหยิบมะนาวผ่าฝานไปให้แก วางเสริฟ ข้างแก้ว กาแฟ ลูกค้ามองหน้าแบบจะกินหัว     - -" หลังๆ มั่นใจรับออเดอร์เอง ลูกค้าสั่ง Burger พอเชพทำมา ดิฉันเอา เนื้อตรงกลางออกเลยคะ เพราะในเมนูเขียนว่า Beef burger แต่ลูกค้าสั่ง burger !! ชั้นมั้นใจมาก มันพูดแค่ Burger แปลว่า มันน่าจะอยากได้Burger เฉยๆ ไม่น่าจะอยากได้เนื้อวัวตรงกลาง สรุปตูโดนลูกค้าด่าเละคะ - -" ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายนาน จนทำกาแฟคล่อง ทำแซนวิชอร่อย และสวย ทำสลัดเป็นมืออาชีพ ลูกค้าเริ่มจำฉันได้ จนในที่สุดดิฉันก็ได้โหวตเป็น พนง popular ของลูกค้า และได้รางวัล Employee of the month หลายทีด้วยจนในที่สุดก็ได้กลายเป็น ผจก ร้านค่าา ^ ^ สี่ปีแห่งการรอคอย จะบอกว่า คนเรามันจะมีพลังอะรัยบางอย่าง ซ่อนอยู่ในตัวคุณทุกคน และถ้าคุณมุ่งมั่น คุณจะทำได้ดีกว่าที่คิดเสมอ เป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่โง่อิงค์มากๆแบบดิฉันนะคะ
  

ขอจบPart 1 ก่อน ที่เล่ามายังไม่เกี่ยวกะ หัวข้อกระทู้เลย 555 แค่เกริ่นนำเฉยๆ Part หน้า จะพาไปพบกับอาชีพใหม่ หลังออกจากการเป็น ผจก ร้านอาหาร เป็นอาชีพที่ทำให้ดิฉันชั้นมีเงินเก็บเป็นแสน มีเงินเรียนต่อโท จนจบ จ้าาา ติดตามตอนต่อไปน้า ^ ^



-/\-  ขอบคุณสมาชิกทุกท่านค่า ^___^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่