สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ก็มีโอกาสมากครับ แรกๆ ที่เห็นเยอะตอนนี้คงเป็นครูสอนภาษาจีนที่เรียนภาษาไทย
ที่เห็นพวกเขาเป็นเร็วส่วนหนึ่งเพราะขยัน และอีกส่วนหนึ่งคือภาษาจีนกับไทยนั้น
โครงสร้างคล้ายกันมากพอสมควร ถ้าเรียนจริงจังแค่ 1 ปีก็น่าจะใช้ชีวิตในไทยได้แล้ว
จุดเด่นของคนจีนที่น่ากลัว คือ ใจกล้าหน้าด้านสุดๆ ขยัน อึดถึกทั้งกายทั้งใจ พวกนี้เจอโอกาส
วิ่งใส่เลยนะ ไม่มีอายไม่มีเกรงใจ ซึ่งคนไทยเสียเปรียบ (เฉพาะเรื่องงาน เรื่องมารยาทอย่าให้เอ่ย)
จุดด้อยคือ ขาดความคิดสร้างสรรค์ขั้นรุนแรง ไม่ค่อยริเริ่มคิดอะไรใหม่ๆ ชอบทำตามกัน ชอบทำอะไรซ้ำๆ
ภาษาอังกฤษเขาก็มีปัญหาเหมือนบ้านเราเพราะเรียนแบบท่องจำเหมือนกัน ใช้จริงยังไม่ค่อยได้
ที่เห็นพวกเขาเป็นเร็วส่วนหนึ่งเพราะขยัน และอีกส่วนหนึ่งคือภาษาจีนกับไทยนั้น
โครงสร้างคล้ายกันมากพอสมควร ถ้าเรียนจริงจังแค่ 1 ปีก็น่าจะใช้ชีวิตในไทยได้แล้ว
จุดเด่นของคนจีนที่น่ากลัว คือ ใจกล้าหน้าด้านสุดๆ ขยัน อึดถึกทั้งกายทั้งใจ พวกนี้เจอโอกาส
วิ่งใส่เลยนะ ไม่มีอายไม่มีเกรงใจ ซึ่งคนไทยเสียเปรียบ (เฉพาะเรื่องงาน เรื่องมารยาทอย่าให้เอ่ย)
จุดด้อยคือ ขาดความคิดสร้างสรรค์ขั้นรุนแรง ไม่ค่อยริเริ่มคิดอะไรใหม่ๆ ชอบทำตามกัน ชอบทำอะไรซ้ำๆ
ภาษาอังกฤษเขาก็มีปัญหาเหมือนบ้านเราเพราะเรียนแบบท่องจำเหมือนกัน ใช้จริงยังไม่ค่อยได้
ความคิดเห็นที่ 13
ไทย-จีน มีโครงการแลกเปลี่ยนการศึกษาในระดับป.ตรี แบบ 1:1 ครับ
หมายถึงในแต่ละปี จะมีนักศึกษาของไทย 10,000คน และนักศึกษาของจีน 10,000คน (ตัวเลขสมมติ)
นักศึกษาของไทย จะเรียมหาวิทยาลัยตามสังกัดของตนเอง 2ปี และไปเรียนมหาวิยาลัยที่จีนอีก 2ปี โดยการจับสลากว่าจะได้มหาวิทยาลัยไหน
นักศึกษาของจีนก็เช่นเดียวกันครับ ดังนั้นจะเห็นมีนักศึกษาของจีนกระจายอยู่แทบทุกมหาวิทยาลัยของบ้านเราครับ
...ผมเคยรับพนักงาน ที่เป็นนักศึกษาชาวจีนมาทำงาน 3คน จบจากโครงการนี้
ทำงานดีกว่าคนไทยเยอะมาก พูดไทยชัดเจน เขียนภาษาไทยลายมือสวยมากๆ ภาษาอังกฤษก็ไม่ต่างจากคนไทย
กล้าถาม กล้าพูด กล้าเถียงด้วย ถ้าเขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้อง
...และผมก็เคยติดต่อเรื่องงานกับพนักงานคนไทย (บริษัทคู่ค้า) เคยเป็นนักศึกษาไทย ในโครงการนี้เช่นกันครับ
ใช้ภาษาจีนได้ดีไม่แพ้กันครับ
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนเองก็เยอะนะครับ
ผมกลับดีใจต่างหากที่เขาไว้ใจระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของบ้านเรา
และได้เรียนรู้วัฒนธรรม ภาษา ประเพณีของบ้านเราด้วย
เพราะเวลาที่ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ ไปหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน พอเขารู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาจะรู้สึกว่าเหมือนเป็ฯญาติกันเลย
หลายสิ่งหลายอย่างในบ้านเรา ทำให้คนจีนอยากมาเที่ยว มาเรียนรู้ โดยเฉพาะนิสัยคนไทย เป็นมิตรกับเขา
ผมไม่กังวลเรื่องการแข่งขันด้านการทำงาน
สังคม รูปแบบการแข่งขันมันพัฒนาขึ้นทุกวัน
ถ้าเรามัวแต่ปิดกัน กลัวลูกหลานจะสู้เขาไม่ได้ ก็ต้องยอมรับสภาพว่าเราด้อยกว่าเขาเยอะ ครับ
หมายถึงในแต่ละปี จะมีนักศึกษาของไทย 10,000คน และนักศึกษาของจีน 10,000คน (ตัวเลขสมมติ)
นักศึกษาของไทย จะเรียมหาวิทยาลัยตามสังกัดของตนเอง 2ปี และไปเรียนมหาวิยาลัยที่จีนอีก 2ปี โดยการจับสลากว่าจะได้มหาวิทยาลัยไหน
นักศึกษาของจีนก็เช่นเดียวกันครับ ดังนั้นจะเห็นมีนักศึกษาของจีนกระจายอยู่แทบทุกมหาวิทยาลัยของบ้านเราครับ
...ผมเคยรับพนักงาน ที่เป็นนักศึกษาชาวจีนมาทำงาน 3คน จบจากโครงการนี้
ทำงานดีกว่าคนไทยเยอะมาก พูดไทยชัดเจน เขียนภาษาไทยลายมือสวยมากๆ ภาษาอังกฤษก็ไม่ต่างจากคนไทย
กล้าถาม กล้าพูด กล้าเถียงด้วย ถ้าเขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้อง
...และผมก็เคยติดต่อเรื่องงานกับพนักงานคนไทย (บริษัทคู่ค้า) เคยเป็นนักศึกษาไทย ในโครงการนี้เช่นกันครับ
ใช้ภาษาจีนได้ดีไม่แพ้กันครับ
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนเองก็เยอะนะครับ
ผมกลับดีใจต่างหากที่เขาไว้ใจระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของบ้านเรา
และได้เรียนรู้วัฒนธรรม ภาษา ประเพณีของบ้านเราด้วย
เพราะเวลาที่ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ ไปหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน พอเขารู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาจะรู้สึกว่าเหมือนเป็ฯญาติกันเลย
หลายสิ่งหลายอย่างในบ้านเรา ทำให้คนจีนอยากมาเที่ยว มาเรียนรู้ โดยเฉพาะนิสัยคนไทย เป็นมิตรกับเขา
ผมไม่กังวลเรื่องการแข่งขันด้านการทำงาน
สังคม รูปแบบการแข่งขันมันพัฒนาขึ้นทุกวัน
ถ้าเรามัวแต่ปิดกัน กลัวลูกหลานจะสู้เขาไม่ได้ ก็ต้องยอมรับสภาพว่าเราด้อยกว่าเขาเยอะ ครับ
แสดงความคิดเห็น
นักศึกษาชาวจีน(แผ่นดินใหญ่) เข้ามาเรียนที่เมืองไทยจำนวนมาก ในอนาคตจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือไม่ครับ
http://pantip.com/topic/32271333
ดูท่าทางการสอบและการทำงานในประเทศจีนจะยากมาก
ผมได้อ่านดูพบว่า มี คนจีนบางคนมาเรียนเมืองไทย
อยากถามว่า เนื่องจากคนจีนเข้ามาเรียนที่เมืองไทยจำนวนมาก ในอนาคตจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือไม่ครับ
สอบถามความคิดเห็นครับ คิดกันอย่างไรครับ