จาก Flanker ของรัสเซีย สู่เครื่องบินขับไล่ Shenyang J-16

ภาพรวมและข้อจำกัดของข้อมูล
J-16 ได้รับรหัสจาก NATO ว่า ‘Flanker-N’ มีการออกแบบเพื่อเป็นเครื่องบินหลากบทบาทที่เหนือกว่าเครื่องบินอื่นๆ ในตระกูล Flanker ทั้งในแง่การรบทางอากาศและการโจมตีภาคพื้นดิน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นนี้ไม่ได้รับการยืนยันและเป็นการคาดการณ์ เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการรักษาความลับทางการทหารอย่างเข้มงวด ทำให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมีน้อยมาก
การพัฒนา Flanker ของจีน
บทความได้อธิบายถึงการพัฒนาเครื่องบินตระกูล Flanker ของจีนที่ผลิตในประเทศ ซึ่งทั้งหมดผลิตโดย Shenyang Aircraft Corporation โดยไล่เรียงตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน:
J-11: รุ่นแรกที่พัฒนาจาก Su-27UBK โดยอาศัยความร่วมมือจากรัสเซียในช่วงแรก
J-11B: รุ่นที่สองที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีรัสเซีย โดยมีการบูรณาการระบบและเครื่องยนต์ของจีนเองมากขึ้นเรื่อยๆ
J-15: เครื่องบินสำหรับปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินที่พัฒนาจาก Su-33 ของยูเครน
J-15D: รุ่นสองที่นั่งของ J-15 ที่เน้นการสงครามอิเล็กทรอนิกส์
J-16: รุ่นที่ห้าซึ่งเป็นหัวข้อหลัก โดยมีทั้งรุ่นมาตรฐาน J-16A และรุ่นสำหรับการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ J-16D
ความสามารถและเทคโนโลยีที่โดดเด่น
บทความระบุว่าจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนา ระบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับ J-16 เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างอากาศยานและกองกำลังภาคพื้นดินได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้:
การสงครามอิเล็กทรอนิกส์: มีการอ้างว่า J-16D สามารถ ทะลุทะลวงการรบกวนสัญญาณ ของเครื่องบิน EA-18G Growler ของสหรัฐฯ ได้ โดยอาศัยอัลกอริทึม AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเซ็นเซอร์จากหลายแหล่งเพื่อสร้างภาพรวมการรบที่ชัดเจน
ระบบอาวุธ: J-16 มีจุดแข็งที่ อาวุธ ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ผลิตในประเทศหลากหลายชนิด เช่น
PL-10: ขีปนาวุธระยะสั้นที่สามารถล็อกเป้าหมายด้วยความร้อนและใช้ระบบนำวิถีแบบผสมผสาน
PL-15: ขีปนาวุธระยะไกลพิเศษที่อ้างว่ามีพิสัยทำการสูงถึง 200 กม. และอาจมีความสามารถในการ ติดตามเป้าหมายแบบพาสซีฟ (โดยไม่ต้องปล่อยคลื่นเรดาร์จากเครื่องบินที่ยิง) ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ
เครื่องยนต์: J-16 ใช้เครื่องยนต์ WS-10B ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งแม้ในอดีตจะมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ แต่รุ่นใหม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว
เรดาร์: แม้ข้อมูลจะจำกัด แต่มีการคาดการณ์ว่าเรดาร์ AESA ของ J-16 อาจใช้สารประกอบแกลเลียมไนไตรด์ที่ทันสมัย และมีความละเอียดสูง
การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
บทความวิเคราะห์ว่าการพัฒนาเครื่องบินของจีนมีกลยุทธ์ที่แตกต่างจากมหาอำนาจอื่นๆ เนื่องจากขาดประสบการณ์ที่สั่งสมมานานเหมือนสหรัฐฯ หรือรัสเซีย จีนจึงใช้วิธี วิศวกรรมย้อนรอย และ เลียนแบบการออกแบบที่มีอยู่ เพื่อย่นระยะเวลาการพัฒนา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดและยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์จากตะวันตกเพื่อให้ได้เปรียบทางทหาร
สรุปได้ว่า J-16 เป็นเครื่องบินที่น่าประทับใจและอาจดีกว่า Flanker รุ่นอื่นๆ ในด้านความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะด้านระบบดิจิทัลและอาวุธ แต่ความแข็งแกร่งและอายุการใช้งานที่ยาวนานยังคงต้องรอการพิสูจน์ ทั้งนี้ การพัฒนาของจีนในลักษณะนี้ชี้ให้เห็นว่าในอนาคตเราอาจได้เห็นเครื่องบินที่มีโครงสร้างลำตัวแบบรัสเซีย แต่ใช้ระบบภายในแบบอเมริกันมากขึ้น

จาก Flanker ของรัสเซีย สู่เครื่องบินขับไล่ Shenyang J-16
J-16 ได้รับรหัสจาก NATO ว่า ‘Flanker-N’ มีการออกแบบเพื่อเป็นเครื่องบินหลากบทบาทที่เหนือกว่าเครื่องบินอื่นๆ ในตระกูล Flanker ทั้งในแง่การรบทางอากาศและการโจมตีภาคพื้นดิน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นนี้ไม่ได้รับการยืนยันและเป็นการคาดการณ์ เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการรักษาความลับทางการทหารอย่างเข้มงวด ทำให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมีน้อยมาก
การพัฒนา Flanker ของจีน
บทความได้อธิบายถึงการพัฒนาเครื่องบินตระกูล Flanker ของจีนที่ผลิตในประเทศ ซึ่งทั้งหมดผลิตโดย Shenyang Aircraft Corporation โดยไล่เรียงตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน:
J-11: รุ่นแรกที่พัฒนาจาก Su-27UBK โดยอาศัยความร่วมมือจากรัสเซียในช่วงแรก
J-11B: รุ่นที่สองที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีรัสเซีย โดยมีการบูรณาการระบบและเครื่องยนต์ของจีนเองมากขึ้นเรื่อยๆ
J-15: เครื่องบินสำหรับปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินที่พัฒนาจาก Su-33 ของยูเครน
J-15D: รุ่นสองที่นั่งของ J-15 ที่เน้นการสงครามอิเล็กทรอนิกส์
J-16: รุ่นที่ห้าซึ่งเป็นหัวข้อหลัก โดยมีทั้งรุ่นมาตรฐาน J-16A และรุ่นสำหรับการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ J-16D
ความสามารถและเทคโนโลยีที่โดดเด่น
บทความระบุว่าจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนา ระบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับ J-16 เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างอากาศยานและกองกำลังภาคพื้นดินได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้:
การสงครามอิเล็กทรอนิกส์: มีการอ้างว่า J-16D สามารถ ทะลุทะลวงการรบกวนสัญญาณ ของเครื่องบิน EA-18G Growler ของสหรัฐฯ ได้ โดยอาศัยอัลกอริทึม AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเซ็นเซอร์จากหลายแหล่งเพื่อสร้างภาพรวมการรบที่ชัดเจน
ระบบอาวุธ: J-16 มีจุดแข็งที่ อาวุธ ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ผลิตในประเทศหลากหลายชนิด เช่น
PL-10: ขีปนาวุธระยะสั้นที่สามารถล็อกเป้าหมายด้วยความร้อนและใช้ระบบนำวิถีแบบผสมผสาน
PL-15: ขีปนาวุธระยะไกลพิเศษที่อ้างว่ามีพิสัยทำการสูงถึง 200 กม. และอาจมีความสามารถในการ ติดตามเป้าหมายแบบพาสซีฟ (โดยไม่ต้องปล่อยคลื่นเรดาร์จากเครื่องบินที่ยิง) ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ
เครื่องยนต์: J-16 ใช้เครื่องยนต์ WS-10B ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งแม้ในอดีตจะมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ แต่รุ่นใหม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว
เรดาร์: แม้ข้อมูลจะจำกัด แต่มีการคาดการณ์ว่าเรดาร์ AESA ของ J-16 อาจใช้สารประกอบแกลเลียมไนไตรด์ที่ทันสมัย และมีความละเอียดสูง
การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
บทความวิเคราะห์ว่าการพัฒนาเครื่องบินของจีนมีกลยุทธ์ที่แตกต่างจากมหาอำนาจอื่นๆ เนื่องจากขาดประสบการณ์ที่สั่งสมมานานเหมือนสหรัฐฯ หรือรัสเซีย จีนจึงใช้วิธี วิศวกรรมย้อนรอย และ เลียนแบบการออกแบบที่มีอยู่ เพื่อย่นระยะเวลาการพัฒนา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดและยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์จากตะวันตกเพื่อให้ได้เปรียบทางทหาร
สรุปได้ว่า J-16 เป็นเครื่องบินที่น่าประทับใจและอาจดีกว่า Flanker รุ่นอื่นๆ ในด้านความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะด้านระบบดิจิทัลและอาวุธ แต่ความแข็งแกร่งและอายุการใช้งานที่ยาวนานยังคงต้องรอการพิสูจน์ ทั้งนี้ การพัฒนาของจีนในลักษณะนี้ชี้ให้เห็นว่าในอนาคตเราอาจได้เห็นเครื่องบินที่มีโครงสร้างลำตัวแบบรัสเซีย แต่ใช้ระบบภายในแบบอเมริกันมากขึ้น