Naturally Sweet Mango Pudding
ช่วงนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงเลยนะคะ กระแสความนิยม Clean & Raw Food เพิ่มขึ้นไวและมีคนให้ความสนใจเยอะมากๆ ตัวจขกท.เองก็สนใจและศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ค่อยๆเก็บข้อมูลแล้วเอามาปรับใช้กับตัวเอง ให้เหมาะกับ Life Style ด้วย ^^ ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบทำขนม (แล้วก็ชอบทาน) หลังๆมานี้เลยเน้นทำขนมแบบ Healthy และ Clean ให้ที่บ้านทาน อย่างขนมปังโฮลวีท มัลติเกรน
แต่วันนี้หลังจากสำรวจวัตถุดิบในบ้าน(คุ้ยตู้เย็น) แล้วก็เจอะมะม่วงลูกโต (ไม่รู้พันธุ์อะไรแต่ลูกนึงหนักราวๆ 1 - 2 กก.ได้ค่ะ) สภาพหง่อม คือสุกและงอมมากปอกกินนี่คงเละคามือแน่นอน มะม่วงพันธุ์นี้หอมนวลรสชาติหวานนุ่มๆไม่หวานแหลมค่ะ ทำเรื่องดื่มและของหวานอร่อยดี เมื่อวานเเละวันก่อนเพิ่งจับไปปั่นกับน้ำแข็งทำสมูทตี้มา จะทำอีกก็กลัวเบื่อกันแล้ว เลยทำพุดดิ้งมะม่วงแบบ healthy ตามคอนเซปต์ Clean & Raw Food Good Taste เพราะที่บ้านมีผู้สูงวัยที่ต้องงดอาหารหวานมัน
คือใช้ความหวานธรรมชาติ (ไม่เพิ่มน้ำตาล) จากสูตรเดิมใช้กะทิหรือวิปครีมกับนม เราก็เปลี่ยนเป็นนมไขมัน 0% หรือน้ำเต้าหู้กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ได้เป็นพุดดิ้งมะม่วงเพื่อสุขภาพแบบเน้นเนื้อมะม่วง แบบนี้ถ้ากินแล้วยังอ้วนให้มันรู้ไป!!!
สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับใครที่ลดความอ้วนอยู่แต่แอบอยากทานของหวานที่แคลอรี่และไขมันไม่สูง จขกท.ว่ารสชาติดีไม่ต่างจากสูตรที่ใส่ครีมสดหรือกะทิเลยค่ะ สำหรับสูตรเราใช้วิธีค้นจากอากู๋ค่ะ แอบดูบล๊อคนั้นบล๊อคนี้ แล้วจำจำเอามาปนกันตามที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเวิร์ค แล้วพอดีรอบนี้ทำแล้วเวิร์คซะด้วย เลยขอแชร์ไว้สำหรับใครที่สนใจนะคะ เกริ่นมานานเข้าเรื่องเลยดีกว่า ^^
ส่วนประกอบ
มะม่วงสุก 1 กก. (1 ลูกโต)
นมสดไขมัน 0% 500 ml (สำหรับชาว Raw Vegan เปลี่ยนเป็นนมอัลมอนด์หรือน้ำเต้าหู้แทนได้ค่ะ)
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เจลาตินแบบแผ่น 6 แผ่น ถ้ามีแบบผงใช้ 1 ชต.(สำหรับชาว Vegan ใช้คาราจีแนนแทนได้ค่ะ)
เกลือ
วิธีทำ (ไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนการทำไว้ค่ะเพราะง่ายมากๆ ไว้คราวหน้าจะปรับปรุงนะ)
1.ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกมะม่วงแบ่งครึ่งลูกไว้ทำพุดดิ้ง อีกครึ่งหนึ่งหั่นเนื้อมะม่วงเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆเอาไว้ใส่เป็นไคลแมกซ์ในเนื้อพุดดิ้ง(ใครชอบทานพุดดิ้งเนียนๆไม่ต้องมีเนื้อก็ข้ามขั้นนี้ไปได้เลยค่ะ)
2. Bloom เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น (Bloom เจลาติน คือการทำให้เจลาตินดูดน้ำเข้าไปให้อิ่ม ทำให้ละลายง่าย ถ้าเป็นเจลาตินแผ่น จะต้องแช่ในน้ำเย็นจัด ถ้าเป็นเจลาตินผง จะแช่ด้วยน้ำธรรมดาแทน แช่จนเจลาตินแผ่นนุ่มแล้ว บีบน้ำออกให้มากที่สุดแล้วนำไปผสมในส่วนผสมได้เลยค่ะ)
3. ละลายนมสดกับเจลาตินเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
4. เอาเนื้อมะม่วงที่แบ่งไว้ปั่นในเครื่องปั่นจนเนื้อเนียน แล้วจึงเทนมสดที่ผสมเจลาตินแล้วและโยเกิร์ตลงไปปั่นรวมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมรสเติมเกลือตามชอบ(ถ้าชอบหวานก็เติมน้ำผึ้งหรือผลอินทผลัมลงไปเพิ่มได้ค่ะ)
5.เทน้ำพุดดิ้งที่ได้ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ ถ้าอยากให้เนื้อพุดดิ้งออกมาเนียนๆให้เทผ่านตาข่ายกรองหรือผ้าขาวบางเพื่อกรองไล่ฟองอากาศออกไป ตักเนื้อมะม่วงที่หั่นไว้ลงไป เอาพุดดิ้งแช่ตู้เย็นไว้ 1 - 2 ชม.จนเซ็ตตัวดี ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
เมื่อเช้าทานเป็นมื้อเช้าสดชื่นดีค่ะ ที่บ้านชอบกันมาก
**เสริมจากคำแนะนำในคห.1 นะคะ : มะม่วงสุกเป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำแต่น้ำตาลสูงค่ะ ถ้าเป็นชาว Raw food หรือ Fruitarian ที่ทานผลไม้เป็นอาหารหลักจะบอกว่าน้ำตาลที่ได้รับเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติซึ่งทานได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายและไม่ทำให้อ้วนลงพุง(อันนี้ใครสนใจลองศึกษาเพิ่มเติมนะคะ) แต่เค้าทานกันเป็นมื้อหลักรับพลังงานจากผลไม้ตรงๆเลยไม่อ้วนค่ะ สำหรับคนทั่วไปที่ทานอาหารปกติแล้วทานผลไม้เป็นอาหารว่าง หรือทานหลังอาหาร จขกท.ก็แนะนำให้ทานแต่พอดีค่ะ เพราะน้ำตาลที่ได้จะกลายเป็นน้ำตาลส่วนเกิน ถ้าทานมากไปถึงแม้จะเป็นผลไม้ก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน และถ้าหากว่าเป็นผู้ป่วยเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงหรือทานแต่พอดีจะดีที่สุดค่ะ
ขอให้ทำสนุก สุขภาพดีกันนะค้าา ใครทำแล้วอร่อยอย่าลืมเอามาแชร์กันนะคะ
แชร์สูตรพุดดิ้งมะม่วงเพื่อสุขภาพ ลดแคลอรี่แบบ Raw Food Good Taste ค่ะ :)
ช่วงนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงเลยนะคะ กระแสความนิยม Clean & Raw Food เพิ่มขึ้นไวและมีคนให้ความสนใจเยอะมากๆ ตัวจขกท.เองก็สนใจและศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ค่อยๆเก็บข้อมูลแล้วเอามาปรับใช้กับตัวเอง ให้เหมาะกับ Life Style ด้วย ^^ ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบทำขนม (แล้วก็ชอบทาน) หลังๆมานี้เลยเน้นทำขนมแบบ Healthy และ Clean ให้ที่บ้านทาน อย่างขนมปังโฮลวีท มัลติเกรน
แต่วันนี้หลังจากสำรวจวัตถุดิบในบ้าน(คุ้ยตู้เย็น) แล้วก็เจอะมะม่วงลูกโต (ไม่รู้พันธุ์อะไรแต่ลูกนึงหนักราวๆ 1 - 2 กก.ได้ค่ะ) สภาพหง่อม คือสุกและงอมมากปอกกินนี่คงเละคามือแน่นอน มะม่วงพันธุ์นี้หอมนวลรสชาติหวานนุ่มๆไม่หวานแหลมค่ะ ทำเรื่องดื่มและของหวานอร่อยดี เมื่อวานเเละวันก่อนเพิ่งจับไปปั่นกับน้ำแข็งทำสมูทตี้มา จะทำอีกก็กลัวเบื่อกันแล้ว เลยทำพุดดิ้งมะม่วงแบบ healthy ตามคอนเซปต์ Clean & Raw Food Good Taste เพราะที่บ้านมีผู้สูงวัยที่ต้องงดอาหารหวานมัน
คือใช้ความหวานธรรมชาติ (ไม่เพิ่มน้ำตาล) จากสูตรเดิมใช้กะทิหรือวิปครีมกับนม เราก็เปลี่ยนเป็นนมไขมัน 0% หรือน้ำเต้าหู้กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ได้เป็นพุดดิ้งมะม่วงเพื่อสุขภาพแบบเน้นเนื้อมะม่วง แบบนี้ถ้ากินแล้วยังอ้วนให้มันรู้ไป!!!
สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับใครที่ลดความอ้วนอยู่แต่แอบอยากทานของหวานที่แคลอรี่และไขมันไม่สูง จขกท.ว่ารสชาติดีไม่ต่างจากสูตรที่ใส่ครีมสดหรือกะทิเลยค่ะ สำหรับสูตรเราใช้วิธีค้นจากอากู๋ค่ะ แอบดูบล๊อคนั้นบล๊อคนี้ แล้วจำจำเอามาปนกันตามที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเวิร์ค แล้วพอดีรอบนี้ทำแล้วเวิร์คซะด้วย เลยขอแชร์ไว้สำหรับใครที่สนใจนะคะ เกริ่นมานานเข้าเรื่องเลยดีกว่า ^^
ส่วนประกอบ
มะม่วงสุก 1 กก. (1 ลูกโต)
นมสดไขมัน 0% 500 ml (สำหรับชาว Raw Vegan เปลี่ยนเป็นนมอัลมอนด์หรือน้ำเต้าหู้แทนได้ค่ะ)
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เจลาตินแบบแผ่น 6 แผ่น ถ้ามีแบบผงใช้ 1 ชต.(สำหรับชาว Vegan ใช้คาราจีแนนแทนได้ค่ะ)
เกลือ
วิธีทำ (ไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนการทำไว้ค่ะเพราะง่ายมากๆ ไว้คราวหน้าจะปรับปรุงนะ)
1.ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกมะม่วงแบ่งครึ่งลูกไว้ทำพุดดิ้ง อีกครึ่งหนึ่งหั่นเนื้อมะม่วงเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆเอาไว้ใส่เป็นไคลแมกซ์ในเนื้อพุดดิ้ง(ใครชอบทานพุดดิ้งเนียนๆไม่ต้องมีเนื้อก็ข้ามขั้นนี้ไปได้เลยค่ะ)
2. Bloom เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น (Bloom เจลาติน คือการทำให้เจลาตินดูดน้ำเข้าไปให้อิ่ม ทำให้ละลายง่าย ถ้าเป็นเจลาตินแผ่น จะต้องแช่ในน้ำเย็นจัด ถ้าเป็นเจลาตินผง จะแช่ด้วยน้ำธรรมดาแทน แช่จนเจลาตินแผ่นนุ่มแล้ว บีบน้ำออกให้มากที่สุดแล้วนำไปผสมในส่วนผสมได้เลยค่ะ)
3. ละลายนมสดกับเจลาตินเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
4. เอาเนื้อมะม่วงที่แบ่งไว้ปั่นในเครื่องปั่นจนเนื้อเนียน แล้วจึงเทนมสดที่ผสมเจลาตินแล้วและโยเกิร์ตลงไปปั่นรวมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมรสเติมเกลือตามชอบ(ถ้าชอบหวานก็เติมน้ำผึ้งหรือผลอินทผลัมลงไปเพิ่มได้ค่ะ)
5.เทน้ำพุดดิ้งที่ได้ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ ถ้าอยากให้เนื้อพุดดิ้งออกมาเนียนๆให้เทผ่านตาข่ายกรองหรือผ้าขาวบางเพื่อกรองไล่ฟองอากาศออกไป ตักเนื้อมะม่วงที่หั่นไว้ลงไป เอาพุดดิ้งแช่ตู้เย็นไว้ 1 - 2 ชม.จนเซ็ตตัวดี ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
เมื่อเช้าทานเป็นมื้อเช้าสดชื่นดีค่ะ ที่บ้านชอบกันมาก
**เสริมจากคำแนะนำในคห.1 นะคะ : มะม่วงสุกเป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำแต่น้ำตาลสูงค่ะ ถ้าเป็นชาว Raw food หรือ Fruitarian ที่ทานผลไม้เป็นอาหารหลักจะบอกว่าน้ำตาลที่ได้รับเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติซึ่งทานได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายและไม่ทำให้อ้วนลงพุง(อันนี้ใครสนใจลองศึกษาเพิ่มเติมนะคะ) แต่เค้าทานกันเป็นมื้อหลักรับพลังงานจากผลไม้ตรงๆเลยไม่อ้วนค่ะ สำหรับคนทั่วไปที่ทานอาหารปกติแล้วทานผลไม้เป็นอาหารว่าง หรือทานหลังอาหาร จขกท.ก็แนะนำให้ทานแต่พอดีค่ะ เพราะน้ำตาลที่ได้จะกลายเป็นน้ำตาลส่วนเกิน ถ้าทานมากไปถึงแม้จะเป็นผลไม้ก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน และถ้าหากว่าเป็นผู้ป่วยเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงหรือทานแต่พอดีจะดีที่สุดค่ะ
ขอให้ทำสนุก สุขภาพดีกันนะค้าา ใครทำแล้วอร่อยอย่าลืมเอามาแชร์กันนะคะ