พุธ ลั้ลลา .... อาโลฮา มวลมหาประชาชวนชิม สวัสดีชาวก้นครัวทุกท่านคะ
บ่งบ๊งศรี มาาาา แล้วววววววว ไม่ทราบคนก้นครัวจะจำบ่งบ๊งกันได้ไหมหนอ ??
ด้วยภารกิจออกเดินสาย ประกอบสัมมาอาชีพ ห่างหายห้องก้นครัวไปชั่วขณะ
ช่วงนี้พอมีเวลาให้หยุดพักผ่อนลมหายใจได้บ้าง ถึงเวลาเข้าครัวทำกินอีกครา
วันนี้บ่งบ๊งมีเมนูเด็ดชามโปรดมาฝาก เป็นแกงน้ำใสที่ไม่ได้รับประทานนานมาก
นานจนลืมเลือนไปจากรายการอาหารประจำบ้าน นึกได้เมื่อได้เห็นมาวางตรงหน้า
น้องเขยไปซื้อมาจากร้านดัง ซึ่งเราชิมแล้วรู้สึกเฉย ๆ ไม่อร่อยเหมือนที่เคยกินนะ
ที่บอกว่าเคยกินเจ้าอร่อย ถ้าเป็นสมัยโน้นก็ต้องร้านข้าวต้มร้านดังหน้าวัดบวรฯ
แต่ที่โดนใจมากก็เป็นร้านข้าวแกงเจ้าประจำตั้งอยู่หน้าสถานีโทรทัศน์ช่องหลายสี
แต่เขาก็ไม่ได้ทำบ่อยนะ เพราะปลาช่อนที่ค่อนข้างมีราคาแพง ราคาสูงขึ้นทุกวัน
เค้าทำได้ถูกใจเรามาก สีสันสวยงาม หน้าตาดี กลิ่นสะอาด รับประทานแล้วฟินสุด ๆ
อยากเห็นหน้าตาแกงโบราณกันแล้วใช่หรือไม่คะ งั้นอย่ามัวพล่ามน้ำลายแตกฟอง
มารับชมแกงโบราณที่นับวันจะหารับประทานยาก และวันนี้มีคนทำการบ้านมาส่งด้วย
ต้มน้ำใส ๆ ใสแหนวแบบนี้ ถูกใจที่สุด
ปลาช่อนต้มเต้าเจี้ยว-เกี่ยมฉ่าย
ส่วนประกอบ
ปลาช่อน น้ำหนักประมาณ 500 กรัม
ใจผักกาดดอง 1 หัว [ไม่เอาส่วนใบ]
รากผักชีทุบ 3 ราก [ถ้ารากเล็กเพิ่มปริมาณได้]
พริกไทยขาวบุบ 10 เม็ด
กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ
เต้าเจี้ยวดำ ชนิดเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป หรือ น้ำเปล่า 2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
ขิงแก่ซอย 2 แว่น
น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
ปลาช่อนนา ล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักเอาไส้ออก
หั่นชิ้นตามขวาง หนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
รากผักชี ล้างทำความสะอาด เอาดินออกให้หมด แล้วทุบไม่ต้องแหลก
กระเทียมกลีบเล็ก ปลอกเปลือก ล้างทำความสะอาด แล้วทุบพอแตก
หัวผักกาดดอง แกะออกเป็นก้าน ๆ ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นท่อน
ใครชอบใบผักก็จัดกันไป แต่เราว่าแกงแบบนี้ก้านผักถูกใจมากกว่านะ
วิธีทำ
ใส่น้ำมันในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อน นำปลาที่พักลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
นำก้านผักกาดที่หั่น เรียงลงก้นหม้อ ตามด้วยเนื้อปลาช่อนทอด
ใส่รากผักชี, พริกไทยบุบ, กระเทียมทุบ, เต้าเจี้ยว, ซีอิ้วขาว, ซีอิ้วดำ
ซื้อปลาช่อนมาจากโฮมเฟรชมาร์ท เดอะมอลล์ ปลาช่อนนาตามธรรมชาติ
ห้างเดอะมอลล์เค้าสนับสนุนสินค้าจากชุมชน/ชาวบ้าน โดยเฉพาะสินค้า OTOP
ใส่เครื่องและเครื่องปรุงทั้งหมดแล้ว เติมน้ำเปล่าให้ท่วมชิ้นปลา
ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนผักกาดดองนิ่ม การคนบ่อยจะทำให้เนื้อปลาเละ
การต้มตุ๋นอาหารทุกชนิด อย่าลืมปิดฝาหม้อด้วยนะคะ
ระหว่างต้มตุ๋นก็กลับชิ้นผักและชิ้นปลาไปด้วย พลิกกลับแบบเบามือ อย่าให้เนื้อปลาเละ
แล้วชิมรสชาติให้ออกรสเปรี้ยวนำ หวานตาม อย่าให้เค็ม แกงเค็มแล้วจะแก้ไขยากนะคะ
ชิมรสชาติถูกใจแล้วดับไฟเตา ตักใส่ชาม ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าเหลือง หรือแดง นำเสริฟ
จริงแล้วสูตรโบราณขนานแท้ ไม่ใส่ขิงซอย แต่เราชอบกลิ่นของขิงก็ใส่เข้าไปด้วย
แล้วต้องเป็นขิงแก่ด้วยนะคะ ขิงอ่อนจะไม่หอม ขิงแก่จัด ๆ ใส่นิดเดียวก็หอมแล้ว
แกงชนิดนี้ควรรับประทานขณะที่ยังร้อน ๆ ซดน้ำแกงร้อน ๆ โอ้ววว ได้อรรถรสมาก
ผักกาดดองควรเป็นผักกาดดองชนิดเปรี้ยว แต่ครั้งหน้าจะลองใช้ผักดองแบบเค็ม
แล้วเอามาแช่น้ำนาน ๆ เพื่อให้ความเค็มลดลง เราว่าน่าจะอร่อยกว่าชนิดเปรี้ยว
หลังจากที่ลงในแฟนเพจ มีสมาชิกถามว่า แกงชนิดนี้รสชาติต้องเป็นแบบใด
เราก็ตอบไม่ถูก ถ้าใครเคยทานจะทราบว่าแกงแบบนี้มันต้องเป็นรสชาติแบบใด
แต่ถ้าไม่เคย บ่งบ๊งก็ตอบไม่ถูกนะคะ บอกไม่ได้ว่ารสมันคล้ายแกงชนิดใด??
บ่งบ๊งว่ารสมันไม่เหมือนต้มผักกาดดองทั่วไป แต่บ่งบ๊งก็ไม่ทานต้มผักกาดดอง
รสชาติคล้ายปลาช่อนแป๊ะซ๊ะ บวกกับต้มผักกาดกระป๋องใส่ไก่ที่เคยทำ ใช่นะ
เอิ่มมม เน๊อะ โอ้ววว อย่างไรดีหล่ะ มันอธิบายยาก ลำบากใจจัง ต้องลองทำคะ
ปกติชอบทานใบผักมากกว่าก้าน แต่ใจผักกาดไร้ใบแบบนี้ ชอบคะ อร่อยมาก
รสชาติเป๊ะเหมือนร้านข้าวแกงเจ๊ติ๋มหน้าช่องหลายสี แบบไม่ง้อร้านเจ๊ติ๋มแล้วคะ
ต่อไปนี้ถ้าอยากทานแกงแบบนี้ เราจะต้มตุ๋นทำเองกับมือ เพราะถูกปากถูกใจแล้ว
ลองทำรับประทานกันนะคะ ซื้อเขาแพง บางร้านต้มมีกลิ่นคาวปลา เลิกกันเลย
ทำไม่ยาก ใช้เวลานิดหน่อยก็ได้รับประทานของอร่อย ๆ อิ่มจังกะตังค์อยู่ครบ

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นกำลังใจ
พบกันยามเมื่อชาติต้องการ ขอให้มีความสุขกับการเข้าครัว ได้ทานของอร่อย

[CR] +*""*+ บ่งบ๊งชวนทำ > ปลาช่อนต้มเต้าเจี้ยว-เกี่ยมฉ่าย < หอเจี๊ยะ - โห่วเส็ก +*""*+
พุธ ลั้ลลา .... อาโลฮา มวลมหาประชาชวนชิม สวัสดีชาวก้นครัวทุกท่านคะ
บ่งบ๊งศรี มาาาา แล้วววววววว ไม่ทราบคนก้นครัวจะจำบ่งบ๊งกันได้ไหมหนอ ??
ด้วยภารกิจออกเดินสาย ประกอบสัมมาอาชีพ ห่างหายห้องก้นครัวไปชั่วขณะ
ช่วงนี้พอมีเวลาให้หยุดพักผ่อนลมหายใจได้บ้าง ถึงเวลาเข้าครัวทำกินอีกครา
วันนี้บ่งบ๊งมีเมนูเด็ดชามโปรดมาฝาก เป็นแกงน้ำใสที่ไม่ได้รับประทานนานมาก
นานจนลืมเลือนไปจากรายการอาหารประจำบ้าน นึกได้เมื่อได้เห็นมาวางตรงหน้า
น้องเขยไปซื้อมาจากร้านดัง ซึ่งเราชิมแล้วรู้สึกเฉย ๆ ไม่อร่อยเหมือนที่เคยกินนะ
ที่บอกว่าเคยกินเจ้าอร่อย ถ้าเป็นสมัยโน้นก็ต้องร้านข้าวต้มร้านดังหน้าวัดบวรฯ
แต่ที่โดนใจมากก็เป็นร้านข้าวแกงเจ้าประจำตั้งอยู่หน้าสถานีโทรทัศน์ช่องหลายสี
แต่เขาก็ไม่ได้ทำบ่อยนะ เพราะปลาช่อนที่ค่อนข้างมีราคาแพง ราคาสูงขึ้นทุกวัน
เค้าทำได้ถูกใจเรามาก สีสันสวยงาม หน้าตาดี กลิ่นสะอาด รับประทานแล้วฟินสุด ๆ
อยากเห็นหน้าตาแกงโบราณกันแล้วใช่หรือไม่คะ งั้นอย่ามัวพล่ามน้ำลายแตกฟอง
มารับชมแกงโบราณที่นับวันจะหารับประทานยาก และวันนี้มีคนทำการบ้านมาส่งด้วย
ต้มน้ำใส ๆ ใสแหนวแบบนี้ ถูกใจที่สุด
ปลาช่อนต้มเต้าเจี้ยว-เกี่ยมฉ่าย
ส่วนประกอบ
ปลาช่อน น้ำหนักประมาณ 500 กรัม
ใจผักกาดดอง 1 หัว [ไม่เอาส่วนใบ]
รากผักชีทุบ 3 ราก [ถ้ารากเล็กเพิ่มปริมาณได้]
พริกไทยขาวบุบ 10 เม็ด
กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ
เต้าเจี้ยวดำ ชนิดเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป หรือ น้ำเปล่า 2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
ขิงแก่ซอย 2 แว่น
น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
ปลาช่อนนา ล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักเอาไส้ออก
หั่นชิ้นตามขวาง หนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
รากผักชี ล้างทำความสะอาด เอาดินออกให้หมด แล้วทุบไม่ต้องแหลก
กระเทียมกลีบเล็ก ปลอกเปลือก ล้างทำความสะอาด แล้วทุบพอแตก
หัวผักกาดดอง แกะออกเป็นก้าน ๆ ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นท่อน
ใครชอบใบผักก็จัดกันไป แต่เราว่าแกงแบบนี้ก้านผักถูกใจมากกว่านะ
วิธีทำ
ใส่น้ำมันในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อน นำปลาที่พักลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
นำก้านผักกาดที่หั่น เรียงลงก้นหม้อ ตามด้วยเนื้อปลาช่อนทอด
ใส่รากผักชี, พริกไทยบุบ, กระเทียมทุบ, เต้าเจี้ยว, ซีอิ้วขาว, ซีอิ้วดำ
ซื้อปลาช่อนมาจากโฮมเฟรชมาร์ท เดอะมอลล์ ปลาช่อนนาตามธรรมชาติ
ห้างเดอะมอลล์เค้าสนับสนุนสินค้าจากชุมชน/ชาวบ้าน โดยเฉพาะสินค้า OTOP
ใส่เครื่องและเครื่องปรุงทั้งหมดแล้ว เติมน้ำเปล่าให้ท่วมชิ้นปลา
ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนผักกาดดองนิ่ม การคนบ่อยจะทำให้เนื้อปลาเละ
การต้มตุ๋นอาหารทุกชนิด อย่าลืมปิดฝาหม้อด้วยนะคะ
ระหว่างต้มตุ๋นก็กลับชิ้นผักและชิ้นปลาไปด้วย พลิกกลับแบบเบามือ อย่าให้เนื้อปลาเละ
แล้วชิมรสชาติให้ออกรสเปรี้ยวนำ หวานตาม อย่าให้เค็ม แกงเค็มแล้วจะแก้ไขยากนะคะ
ชิมรสชาติถูกใจแล้วดับไฟเตา ตักใส่ชาม ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าเหลือง หรือแดง นำเสริฟ
จริงแล้วสูตรโบราณขนานแท้ ไม่ใส่ขิงซอย แต่เราชอบกลิ่นของขิงก็ใส่เข้าไปด้วย
แล้วต้องเป็นขิงแก่ด้วยนะคะ ขิงอ่อนจะไม่หอม ขิงแก่จัด ๆ ใส่นิดเดียวก็หอมแล้ว
แกงชนิดนี้ควรรับประทานขณะที่ยังร้อน ๆ ซดน้ำแกงร้อน ๆ โอ้ววว ได้อรรถรสมาก
ผักกาดดองควรเป็นผักกาดดองชนิดเปรี้ยว แต่ครั้งหน้าจะลองใช้ผักดองแบบเค็ม
แล้วเอามาแช่น้ำนาน ๆ เพื่อให้ความเค็มลดลง เราว่าน่าจะอร่อยกว่าชนิดเปรี้ยว
หลังจากที่ลงในแฟนเพจ มีสมาชิกถามว่า แกงชนิดนี้รสชาติต้องเป็นแบบใด
เราก็ตอบไม่ถูก ถ้าใครเคยทานจะทราบว่าแกงแบบนี้มันต้องเป็นรสชาติแบบใด
แต่ถ้าไม่เคย บ่งบ๊งก็ตอบไม่ถูกนะคะ บอกไม่ได้ว่ารสมันคล้ายแกงชนิดใด??
บ่งบ๊งว่ารสมันไม่เหมือนต้มผักกาดดองทั่วไป แต่บ่งบ๊งก็ไม่ทานต้มผักกาดดอง
รสชาติคล้ายปลาช่อนแป๊ะซ๊ะ บวกกับต้มผักกาดกระป๋องใส่ไก่ที่เคยทำ ใช่นะ
เอิ่มมม เน๊อะ โอ้ววว อย่างไรดีหล่ะ มันอธิบายยาก ลำบากใจจัง ต้องลองทำคะ
ปกติชอบทานใบผักมากกว่าก้าน แต่ใจผักกาดไร้ใบแบบนี้ ชอบคะ อร่อยมาก
รสชาติเป๊ะเหมือนร้านข้าวแกงเจ๊ติ๋มหน้าช่องหลายสี แบบไม่ง้อร้านเจ๊ติ๋มแล้วคะ
ต่อไปนี้ถ้าอยากทานแกงแบบนี้ เราจะต้มตุ๋นทำเองกับมือ เพราะถูกปากถูกใจแล้ว
ลองทำรับประทานกันนะคะ ซื้อเขาแพง บางร้านต้มมีกลิ่นคาวปลา เลิกกันเลย
ทำไม่ยาก ใช้เวลานิดหน่อยก็ได้รับประทานของอร่อย ๆ อิ่มจังกะตังค์อยู่ครบ
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นกำลังใจ
พบกันยามเมื่อชาติต้องการ ขอให้มีความสุขกับการเข้าครัว ได้ทานของอร่อย