
เรื่องทั้งเรื่อง เป็นเรื่องราวของคนแก่ชายขอบประเทศ 6 คน ที่อยากไปเมืองนอกแบบ Bag Pack (ไม่ได้ไปแบบ Back Pack นะ) ก่อนที่กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ติดตาม EP 1>>
http://pantip.com/topic/32204850
EP 2>>
http://pantip.com/topic/32205719
EP 3>>
http://pantip.com/topic/32215392
EP 4>>
http://pantip.com/topic/32223484
: ) อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ไม่ได้อยากอวด ก็รู้ตัวว่าพวกเราหน้าตาไม่ดี แก่ แถมถ่ายรูปไม่สวย : ) แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ใช้ประกอบการตัดสินใจ เที่ยวเวียดนามได้ง่ายๆ สำหรับเพื่อนๆ


EP.5 มาแล้วครับ >> ดาลัด วันฝนพร่ำ ชุ่มฉ่ำหัวใจ <3
Good Morning Dalat ครับ 6.30 น. ตามนัด เมื่อคืนหลับสบายมาก เปิดหน้าต่าง นอน อากาศเย็นสบาย สายลม พริ้วๆๆๆๆ เม็ดฝนพรำ ๆๆๆๆ แดดเริ่มออก (ตกลงฤดูไรวะ?)
เราเริ่มต้นด้วยการเช่ามอไซค์คันเดิมครับ 3 คัน เพระเราเริ่มชินกับมันแล้ว ไม่อยากเปลี่ยน จองไว้เมื่อคืนตอนจะเอากุญแจไปคืน เค้าเลยบอกไม่ต้อง ให้เก็บกุญแจไว้เลย น้ำมันไม่ต้องเติม เพราะเมื่อวานเราเติมไปหลายหมื่น !!!!

พร้อมมากค่ะ สำหรับวันที่ 2 ในดาลัด
เริ่มต้น เราบึ่งไปที่ตลาดเช้าดาลัดครับ เราก็ขับงม ถามทางเค้ามาเรื่อย ๆๆๆ ชื่อตลากเจาะดาลัดครับ ตลาดเช้าที่นี่ แบ่งเป็น 2 โซน บริเวณรอบวงเวียน เป็นโซนดอกไม้ ต้นไม้ และพวกอาหาร ผักพื้นเมือง ที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ครับ เดินกว่าจะทั่วตลาด เดี๋ยว ก็ดอก เดี๋ยวก็ดอก ดีออก !!! เนาะ

บริเวณวงเวียนเจาะดาลัด ช่วงที่ไป ยังเช้าอยู่ พ่อค้าแม่ค้า เริ่มนำของออกมาวาง

แคคตัสสีสันสวยงาม ราคาเบาๆ

อันนี้ลูกอะไรไม่รู้ คล้ายมะขามป้อมบ้านเรา

แวะซื้อสตอร์เบอร์รี่ แต่ไม่ได้กินทันที เก็บใส่ใต้ท้องรถครับ กว่าจะได้กิน เดี๋ยวเรามาดูกันช่วงบ่าย ว่ากินยังไง

นั่งเถียงกันอยู่ ว่ามันใช่อะโวคาโดจริงหรือเปล่า แต่ไม่มีใครเดินไปดูใกล้ๆ

ลูกทุเรียนเทศในบ้านเรา บางถิ่นเรียกทุเรียนฝรั่ง เนื้อคล้ายน้อยหน่า หลายท่านบอกว่ามีสรรพคุณต้านเซลล์มะเร็ง

หญิงงามย่อมคู่กับมวลหมู่พฤกษา

ดอกอาทิโช ครับ ที่นี่เป็นพืชสมุนไพรอย่างนึง นำไปทำชาอาทิโช เป็นชาที่ขึ้นชื่อของดาลัด มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ หัวใจเดาะ หัวใจหัก มาดามได้ที่ดาลัดอีกโซน เป็นส่วนตลาดสด ต้องเดินไปด้านหลัง
ตลาดสด ขายพวกเนื้อสัตว์ เดินเข้าไป เลือดไหลเป็นทาง มาจากแผลขายเนื้อต่างๆ กลิ่นคาวคลุ้งไปหมด

ก่อนออกจากตลาดเจาะดาลัด เราได้อาหารมา 1 อย่างครับ ราคา 30 บาท ดูหน้าตากันเอาเอง อร่อยครับ ข้าวเหนียวเป็นแบบข้าวมัน
ก็เริ่มวันใหม่อย่างจริงจัง หาเสบียงถ่วงท้องก่อนนะ ความจริงก็ยังอิ่มๆ กันอยู่นั่นแหล่ะ แต่ด้วยแสงแดดยามเช้า กับต้องการได้ฟิลลิ่ง ของความเป็นดาลัดยามเช้า ก็เลยหาอะไรกินกันริมถนน

ปาท๋องโก๋กะซาลาเปาหวานที่นี่ลูกใหญ่มาก ลูกนึงกินได้ทั้งบ้าน แต่เธอกินได้คนเดียวหมด !!!~
ของคู่กันคือ กาแฟเวียดนามใส่นม หวานหอม อิ่มกันไปเลยทีเดียว

มื้อเช้าเสร็จ เราก็บึ่งรถกลับโรงแรมครับ เพื่อเตรียมตัวตะลุยกันเต็มที่ในวันนี้ ก่อนที่ฝนจะตกในช่วงบ่าย ซึ่งเราได้ข่าวมาว่าตกทุกวันช่วงบ่าย
ทราบมาว่า เงินกองกลางเริ่มหมดครับ เลยต้องเก็บเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท นั่นงะ !!!!! งบบานปลาย นี่ขนาดไม่ค่อยได้ซื้ออะไรกินนะ อิ อิ

ตามที่เราได้ตั้งเป้าไว้เมื่อวาน 10 กว่าแห่ง เราต้องตะลุยเที่ยวให้หมด
เริ่มที่แรกครับ เราต้องไปนั่งรถไฟดาลัดชมวิวกันซะหน่อย เตรียมตัวเสร็จ เราก็บึ่งไปสถานีรถไฟ ออกไปถึงสถานีประมาณ 8 โมงครึ่ง ไปดูเที่ยวรถไฟ ปรากฎว่ามีรอบ 9 โมง กับ 11.55 น. โมง รอบ 9 โมงเต็ม ก็เลยต้องเป็นรอบ 11 .55 น. เราเลยซื้อตั๋วไว้ก่อน เพราะที่นี่คนมาเที่ยวกันเยอะพอสมควร แต่เท่าที่สังเกต ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามเองนี่แหล่ะ !!!~

เค้าว่ากันว่า ถ้าจะลง Pantip ต้องมีรูปกระโดด !!! สูงได้แค่นี้นะ ด้านหน้าของสถานีรถไฟครับ

ด้านใน ประดับด้วยกระจกสีสัน สวยงาม ไม่ทิ้งคอนเซบของเมืองดาลัดเลย

ช่องขายตั๋วรถไฟ

คนละ 124,000 ดอง เหลือเวลาอีก 2 -3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราวางแผนไปที่อื่นก่อนแล้วค่อยย้อนกับมานั่งรถไฟ
ก็เลยทำการเก็บภาพให้เสร็จเลยทีเดียว กลับมาจะได้ขึ้นรถไฟเลย
สังเกตว่าที่นี่มีคนมาถ่าย pre - wedding เยอะ จัดเป็นสถานที่ยอดนิยมเลยก็ว่าได้
เห็นเค้า Pre wed กัน นี่เอามั่ง ตาร้อน อยากได้มั่ง


เอ่ออออ !!!! เจ๊ค่ะ เค้า pre wed กันต้องมีคู่นะ

เพลียแทน

นานๆ จะมีรูปครบองค์ซะทีเนาะ !!!!!
เราวางแผนไว้จะไปพิพิธภัณฑ์ Lam Dong Museum เพื่อรอเวลาขึ้นรถไฟในรอบเที่ยงครับ
ขี่รถออกมานิดเดียวครับ กลับมาทางเดิม

ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ครับ เสียค่าเข้าชม คนละไม่กี่บาท แต่ได้ความรู้เพียบ
ด้านในจะแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเวียดนามในทุกด้านเลยครับ ทั้งประวัติศาสตร์ สังคม ศิลปะ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีส่วนที่แสดงประวัติศาสตร์ของดาลัดด้วยครับ จากพื้นที่ป่าที่เป็นหุบเขา มีทะเลสาป ถูกพัฒนาโดยชาวฝรั่งเศส จนเจริญมากขึ้นในปัจจุบัน นับว่าเป็นความเจริญแบบมีการวางแผนและมีศิลปะที่น่าทึ่งมาครับ ใช้เวลาเดินด้านในประมาณ 30 นาที ครับ เพราะเราเป็นพวกเสพศิลปะ แบบตาผ่าน และจดจำอยู่ในสมองแบบเลือนลาง

สองชิ้นหลัง ไม่ใช่วัตถุโบราณครับ แต่เป็นวัตถุหายากและตายยาก
เสียดาย เก็บรูปด้านในพิพิธภัณฑ์ ด้านในมาให้ชมน้อยไปหน่อย แต่เก็บกด้านนอกมาเยอะ ด้านข้างจะเป็นเนินเขา ที่เป็นป่าสน รู้สึกว่าจะเป็นวัง หรือที่พักอะไรสักอย่าง แต่เราไม่ได้ขึ้นไปจนสุด เพราะปวดหัวเข่า จากภาวะไขข้อเสื่อม ++++

มีฆ้องขนาดใหญ่มากก อยู่ป่าด้านนอก

ที่นี่ ไม่ว่ามุมไหน ซอกหลืบตรงไหน ก็เต็มไปด้วยสีสัน

ฉันรอพี่มากอยู่ตรงป่ามะขามทุกวันเลย !!!!

บางทีก็อายเนาะ ไอ้ท่ากระโดด กับปล่อยพลังเนี่ย !!! แต่ก็อยาก เพราะแก่ไปกว่านี้ คงโดดกันไม่ขึ้นแล้ว

ใช้เวลาอยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่า แม่เจ้า ครึ่งวัน ได้มาที่เดียว แล้ว 9 แห่งที่เหลือล่ะ
ใกล้เวลารถไฟออก รีบแว๊นกลับสถานีรถไฟครับ !!!

ลืมบอกว่าที่นี่ เป็นถนนของศิลปินนะ ทั้งงานเขียน งานถ่ายและแฟชั่นโชว์

สภาพบนรถไฟที่เราจะนั่งไปเที่ยวครับ พวกเรา 6 เหมา 1 ตู้ เพราะเที่ยวนี้ คนน้อย ไม่มีใครกล้านั่งกับรถ

รถด่วนขบวนสุดท้าย กำลังจะออกจากชานชาลามนะฮับบบ

ระหว่างทางผ่านสวนดอกไม่เป็นระยะครับ ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 นาที โดยจุดหมายของเรา เป็นสถานีรถไฟอันนี้ ชื่อไรไม่รู้ เส้นทางนี้มีสถานีเดียวและสุดทางแล้วครับ เพราะเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ครับ ไม่ใช่เส้นทางโดยสาร

ที่นี่ เค้าให้เราเดินเที่ยววัดจีน ครับ ภายในวัดมี Linh Phuoc Pagoda เป็นเจดีย์ที่อยู่ในวัด เป็นเจดีย์ที่ทำจากกระเบื้อง หลากสีไม่รู้ว่าเค้าเรียก โมเสสหรือป่าวนะ แบบนี้

ต่อด้านล่างนะครับ VVVVVVVVVVVVVV
[CR] Viet ^^Dream (EP.5)
เรื่องทั้งเรื่อง เป็นเรื่องราวของคนแก่ชายขอบประเทศ 6 คน ที่อยากไปเมืองนอกแบบ Bag Pack (ไม่ได้ไปแบบ Back Pack นะ) ก่อนที่กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ติดตาม EP 1>> http://pantip.com/topic/32204850
EP 2>> http://pantip.com/topic/32205719
EP 3>> http://pantip.com/topic/32215392
EP 4>> http://pantip.com/topic/32223484
: ) อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ไม่ได้อยากอวด ก็รู้ตัวว่าพวกเราหน้าตาไม่ดี แก่ แถมถ่ายรูปไม่สวย : ) แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ใช้ประกอบการตัดสินใจ เที่ยวเวียดนามได้ง่ายๆ สำหรับเพื่อนๆ
EP.5 มาแล้วครับ >> ดาลัด วันฝนพร่ำ ชุ่มฉ่ำหัวใจ <3
Good Morning Dalat ครับ 6.30 น. ตามนัด เมื่อคืนหลับสบายมาก เปิดหน้าต่าง นอน อากาศเย็นสบาย สายลม พริ้วๆๆๆๆ เม็ดฝนพรำ ๆๆๆๆ แดดเริ่มออก (ตกลงฤดูไรวะ?)
เราเริ่มต้นด้วยการเช่ามอไซค์คันเดิมครับ 3 คัน เพระเราเริ่มชินกับมันแล้ว ไม่อยากเปลี่ยน จองไว้เมื่อคืนตอนจะเอากุญแจไปคืน เค้าเลยบอกไม่ต้อง ให้เก็บกุญแจไว้เลย น้ำมันไม่ต้องเติม เพราะเมื่อวานเราเติมไปหลายหมื่น !!!!
พร้อมมากค่ะ สำหรับวันที่ 2 ในดาลัด
เริ่มต้น เราบึ่งไปที่ตลาดเช้าดาลัดครับ เราก็ขับงม ถามทางเค้ามาเรื่อย ๆๆๆ ชื่อตลากเจาะดาลัดครับ ตลาดเช้าที่นี่ แบ่งเป็น 2 โซน บริเวณรอบวงเวียน เป็นโซนดอกไม้ ต้นไม้ และพวกอาหาร ผักพื้นเมือง ที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ครับ เดินกว่าจะทั่วตลาด เดี๋ยว ก็ดอก เดี๋ยวก็ดอก ดีออก !!! เนาะ
บริเวณวงเวียนเจาะดาลัด ช่วงที่ไป ยังเช้าอยู่ พ่อค้าแม่ค้า เริ่มนำของออกมาวาง
แคคตัสสีสันสวยงาม ราคาเบาๆ
อันนี้ลูกอะไรไม่รู้ คล้ายมะขามป้อมบ้านเรา
แวะซื้อสตอร์เบอร์รี่ แต่ไม่ได้กินทันที เก็บใส่ใต้ท้องรถครับ กว่าจะได้กิน เดี๋ยวเรามาดูกันช่วงบ่าย ว่ากินยังไง
นั่งเถียงกันอยู่ ว่ามันใช่อะโวคาโดจริงหรือเปล่า แต่ไม่มีใครเดินไปดูใกล้ๆ
ลูกทุเรียนเทศในบ้านเรา บางถิ่นเรียกทุเรียนฝรั่ง เนื้อคล้ายน้อยหน่า หลายท่านบอกว่ามีสรรพคุณต้านเซลล์มะเร็ง
หญิงงามย่อมคู่กับมวลหมู่พฤกษา
ดอกอาทิโช ครับ ที่นี่เป็นพืชสมุนไพรอย่างนึง นำไปทำชาอาทิโช เป็นชาที่ขึ้นชื่อของดาลัด มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ หัวใจเดาะ หัวใจหัก มาดามได้ที่ดาลัดอีกโซน เป็นส่วนตลาดสด ต้องเดินไปด้านหลัง
ตลาดสด ขายพวกเนื้อสัตว์ เดินเข้าไป เลือดไหลเป็นทาง มาจากแผลขายเนื้อต่างๆ กลิ่นคาวคลุ้งไปหมด
ก่อนออกจากตลาดเจาะดาลัด เราได้อาหารมา 1 อย่างครับ ราคา 30 บาท ดูหน้าตากันเอาเอง อร่อยครับ ข้าวเหนียวเป็นแบบข้าวมัน
ก็เริ่มวันใหม่อย่างจริงจัง หาเสบียงถ่วงท้องก่อนนะ ความจริงก็ยังอิ่มๆ กันอยู่นั่นแหล่ะ แต่ด้วยแสงแดดยามเช้า กับต้องการได้ฟิลลิ่ง ของความเป็นดาลัดยามเช้า ก็เลยหาอะไรกินกันริมถนน
ปาท๋องโก๋กะซาลาเปาหวานที่นี่ลูกใหญ่มาก ลูกนึงกินได้ทั้งบ้าน แต่เธอกินได้คนเดียวหมด !!!~
ของคู่กันคือ กาแฟเวียดนามใส่นม หวานหอม อิ่มกันไปเลยทีเดียว
มื้อเช้าเสร็จ เราก็บึ่งรถกลับโรงแรมครับ เพื่อเตรียมตัวตะลุยกันเต็มที่ในวันนี้ ก่อนที่ฝนจะตกในช่วงบ่าย ซึ่งเราได้ข่าวมาว่าตกทุกวันช่วงบ่าย
ทราบมาว่า เงินกองกลางเริ่มหมดครับ เลยต้องเก็บเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท นั่นงะ !!!!! งบบานปลาย นี่ขนาดไม่ค่อยได้ซื้ออะไรกินนะ อิ อิ
ตามที่เราได้ตั้งเป้าไว้เมื่อวาน 10 กว่าแห่ง เราต้องตะลุยเที่ยวให้หมด
เริ่มที่แรกครับ เราต้องไปนั่งรถไฟดาลัดชมวิวกันซะหน่อย เตรียมตัวเสร็จ เราก็บึ่งไปสถานีรถไฟ ออกไปถึงสถานีประมาณ 8 โมงครึ่ง ไปดูเที่ยวรถไฟ ปรากฎว่ามีรอบ 9 โมง กับ 11.55 น. โมง รอบ 9 โมงเต็ม ก็เลยต้องเป็นรอบ 11 .55 น. เราเลยซื้อตั๋วไว้ก่อน เพราะที่นี่คนมาเที่ยวกันเยอะพอสมควร แต่เท่าที่สังเกต ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามเองนี่แหล่ะ !!!~
เค้าว่ากันว่า ถ้าจะลง Pantip ต้องมีรูปกระโดด !!! สูงได้แค่นี้นะ ด้านหน้าของสถานีรถไฟครับ
ด้านใน ประดับด้วยกระจกสีสัน สวยงาม ไม่ทิ้งคอนเซบของเมืองดาลัดเลย
ช่องขายตั๋วรถไฟ
คนละ 124,000 ดอง เหลือเวลาอีก 2 -3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราวางแผนไปที่อื่นก่อนแล้วค่อยย้อนกับมานั่งรถไฟ
ก็เลยทำการเก็บภาพให้เสร็จเลยทีเดียว กลับมาจะได้ขึ้นรถไฟเลย
สังเกตว่าที่นี่มีคนมาถ่าย pre - wedding เยอะ จัดเป็นสถานที่ยอดนิยมเลยก็ว่าได้
เห็นเค้า Pre wed กัน นี่เอามั่ง ตาร้อน อยากได้มั่ง
เอ่ออออ !!!! เจ๊ค่ะ เค้า pre wed กันต้องมีคู่นะ
นานๆ จะมีรูปครบองค์ซะทีเนาะ !!!!!
เราวางแผนไว้จะไปพิพิธภัณฑ์ Lam Dong Museum เพื่อรอเวลาขึ้นรถไฟในรอบเที่ยงครับ
ขี่รถออกมานิดเดียวครับ กลับมาทางเดิม
ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ครับ เสียค่าเข้าชม คนละไม่กี่บาท แต่ได้ความรู้เพียบ
ด้านในจะแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเวียดนามในทุกด้านเลยครับ ทั้งประวัติศาสตร์ สังคม ศิลปะ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีส่วนที่แสดงประวัติศาสตร์ของดาลัดด้วยครับ จากพื้นที่ป่าที่เป็นหุบเขา มีทะเลสาป ถูกพัฒนาโดยชาวฝรั่งเศส จนเจริญมากขึ้นในปัจจุบัน นับว่าเป็นความเจริญแบบมีการวางแผนและมีศิลปะที่น่าทึ่งมาครับ ใช้เวลาเดินด้านในประมาณ 30 นาที ครับ เพราะเราเป็นพวกเสพศิลปะ แบบตาผ่าน และจดจำอยู่ในสมองแบบเลือนลาง
สองชิ้นหลัง ไม่ใช่วัตถุโบราณครับ แต่เป็นวัตถุหายากและตายยาก
เสียดาย เก็บรูปด้านในพิพิธภัณฑ์ ด้านในมาให้ชมน้อยไปหน่อย แต่เก็บกด้านนอกมาเยอะ ด้านข้างจะเป็นเนินเขา ที่เป็นป่าสน รู้สึกว่าจะเป็นวัง หรือที่พักอะไรสักอย่าง แต่เราไม่ได้ขึ้นไปจนสุด เพราะปวดหัวเข่า จากภาวะไขข้อเสื่อม ++++
มีฆ้องขนาดใหญ่มากก อยู่ป่าด้านนอก
ที่นี่ ไม่ว่ามุมไหน ซอกหลืบตรงไหน ก็เต็มไปด้วยสีสัน
ฉันรอพี่มากอยู่ตรงป่ามะขามทุกวันเลย !!!!
บางทีก็อายเนาะ ไอ้ท่ากระโดด กับปล่อยพลังเนี่ย !!! แต่ก็อยาก เพราะแก่ไปกว่านี้ คงโดดกันไม่ขึ้นแล้ว
ใช้เวลาอยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่า แม่เจ้า ครึ่งวัน ได้มาที่เดียว แล้ว 9 แห่งที่เหลือล่ะ
ใกล้เวลารถไฟออก รีบแว๊นกลับสถานีรถไฟครับ !!!
ลืมบอกว่าที่นี่ เป็นถนนของศิลปินนะ ทั้งงานเขียน งานถ่ายและแฟชั่นโชว์
สภาพบนรถไฟที่เราจะนั่งไปเที่ยวครับ พวกเรา 6 เหมา 1 ตู้ เพราะเที่ยวนี้ คนน้อย ไม่มีใครกล้านั่งกับรถ
รถด่วนขบวนสุดท้าย กำลังจะออกจากชานชาลามนะฮับบบ
ระหว่างทางผ่านสวนดอกไม่เป็นระยะครับ ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 นาที โดยจุดหมายของเรา เป็นสถานีรถไฟอันนี้ ชื่อไรไม่รู้ เส้นทางนี้มีสถานีเดียวและสุดทางแล้วครับ เพราะเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ครับ ไม่ใช่เส้นทางโดยสาร
ที่นี่ เค้าให้เราเดินเที่ยววัดจีน ครับ ภายในวัดมี Linh Phuoc Pagoda เป็นเจดีย์ที่อยู่ในวัด เป็นเจดีย์ที่ทำจากกระเบื้อง หลากสีไม่รู้ว่าเค้าเรียก โมเสสหรือป่าวนะ แบบนี้
ต่อด้านล่างนะครับ VVVVVVVVVVVVVV