กสทช.เตรียมเสนอคสช.ปลดล็อกประมูลความถี่ 1800/900 MHz สัปดาห์หน้า

กระทู้สนทนา
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าสำนักงานกสทช. จะทำหนังสือรายงานเหตุผลความจำเป็นเกี่ยวกับ การเปิดประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz กับ900 MHz และโครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งก่อนหน้านี้ให้ชะลอการประมูลออกไป โดย สำนักงานกสทช.จะชี้แจงรายละเอียดทุกอย่าง เพื่อหวังให้คสช.อนุญาตให้ดำเนินโครงการต่อไปได้เช่นเดียวกับอนุญาตให้ กสทช.ดำเนินการแจกคูปองตามโครงการสนับสนุนประชาชน ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลไปแล้ว
       
       ทั้งนี้ รายละเอียดหนังสือที่จะชี้แจงคสช.นั้น จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบข้อดี จากการผลประโยชน์ที่ประเทศได้รับหลังจากประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz ว่าหากมีการเปิดประมูลคลื่น 1800 MHzจำนวน 2 ใบอนุญาต ตามแผนเดิมภายในเดือนส.ค.นี้ ราคาใบอนุญาตละ 11,600 ล้านบาท และการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHzราคา 8,445 ล้านบาท จำนวนความถี่ 7.5 MHz 1ใบอนุญาต และ 11,260 ล้านบาทจำนวนความถี่ 10 MHz 1 ใบอนุญาตนั้นแล้ว ประเทศจะได้รับประโยชน์อื่นๆนอกจากรายรับจากการประมูลใบอนุญาต ยังมีผลต่อเนื่องจากการลงทุนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมมูลค่าตลาดรวมของเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
       
       'ตามจริงสำนักงานกสทช.จะเร่งทำหนังสือเอกสารรายละเอียดทุกอย่างให้เสร็จภายใน สัปดาห์นี้แต่ก็ไม่ทัน ดังนั้นจึงตั้งใจว่าภายในสัปดาห์หน้าเอกสารทั้งหมดจะแล้วเสร็จและหวังว่าคสช.จะเห็นความสำคัญในการเปิดประมูลคลื่นความถี่ทั้ง 2 ย่านและโครงการ USOด้วย เพื่อให้คสช.ปลดล็อกเหมือนกับที่ให้กสทช.เดินหน้าการแจกคูปองทีวีดิจิตอลได้แล้ว'
       
       *** ผลงานประมูล 3G 2.1GHz ภาพรวมศก.โตกว่าแสนล้าน
       
       นอกจากนี้สำนักงานกสทช.ได้รายงานผลประโยชน์ที่ได้รับจากการประมูลใบอนุญาต 3G 2.1 GHzโดยแบ่งเป็นผลประโยชน์ทางตรงคือ มีรายได้จากการประมูลคลื่นและส่งเข้ากระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 41,000 กว่าล้านบาท และมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 3Gดังกล่าวปีละ 3,000 ล้านบาท ส่วนผลประโยชน์ทางอ้อมมีการลงทุนในการวางโครงข่าย สถานีฐาน การสร้างสายเคเบิลในช่วง 3-5 ปีมากกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี มูลค่าตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ เติบโตขึ้นปีละ 30% จากช่วงก่อนการประมูลคิดเป็น 60,000 ล้านบาท มูลค่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเติบโตขึ้น 26% จากปีก่อนคิดเป็น 15,000 ล้านบาท มูลค่าการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ โมบาย แบงก์กิ้ง เช่นการโอนเงิน และการชำระค่าบริการมากกว่า 7 แสนล้านบาท และ มูลค่าตลาดของอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ขยายตัวขึ้น 20% คิดเป็น 2,000 ล้านบาท

ที่มา manager.co.th 25 มิ.ย.57 18.15 น.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่