ใครเป็นแอร์โฮสเตสบ้างคะ คุณนอนน้อยและไม่เป็นเวลา ทำไมคุณถึงยังดูสวยกันจัง????

เวลาที่แอร์มีบินไฟล์ทเช้า ก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี4 มาแต่งหน้าทำผม
หรือบินไฟล์ทดึก กว่าจะเสิร์ฟอาหารเสร็จจนผู้โดยสารนอน แอร์ถึงจะได้เริ่มพักผ่อนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน ตี1
เช้ายังต้องตื่นก่อนผู้โดยสาร เรายังเห็นแอร์ด้วยหน้าตาที่สดใส สดชื่น แต่งหน้าสวยสด งดงาม
บางคนอาจจะบอกว่า แต่งหน้าช่วยได้ พอลงเครื่องแล้วนอนเป็นตาย

แต่เรากำลังจะหมายถึง feeling ของเค้า ที่ยังดูกระฉับกระเฉง ไม่มีท่าทีของคนที่อดนอน นอนน้อย เรียกรวมๆว่า
อาการของคนพักผ่อนไม่เพียงพอให้เห็นเลย

เค้ากินอะไรบำรุง ถึงได้แข็งแรง สดชื่น ยังดูดีกันมากๆ สวยๆกันทุกคน นอนน้อยๆอย่างนี้
เวียนหัว มึนศีรษะกันบ้างมั้ย แล้วอดนอนเป็นอาชีพอย่างนี้ไม่เห็นโทรมกันเลย แอร์สวยแทบทุกคน
ใครรู้ช่วยบอกเคล็ดลับที

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
เป็นแอร์โฮสเตสค่ะ

ถ้าถามเรื่องความสดใส ที่ดูกระฉัยกระเฉง ดูร่าเริง ดู Fresh ตลอดเวลา
ต้องบอกว่า มันเป็นเรื่องจิตวิญญาณจริงๆ ด้วยอาชีพของเราที่ต้องบริการ การใส่ยูนิฟอร์มถือว่าเป็นตัวแทนของบริษัท หรือบางครั้งก็เป็นตัวแทนของประเทศ ในกรณีที่ไปต่างประเทศแล้วเค้ารู้ว่าสายการบินนี้ของประเทศไหน สำหรับเรา สิ่งหนึ่งที่คิดตลอดเวลา เราได้ข้อคิดนี้มาจากการบินไฟลท์ เจดด้า ประเทศซาอุดิอารเบีย ที่มุสลิมทุกคนต้องไปเยือน 1 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่เก็บเงินมาทั้งชีวิต คือ ผู้โดยสารที่คุณเจอ เค้าอาจจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เค้ามีความหวังที่จะเห็นแอร์โฮสเตสสวยๆ ยิ้มเก่ง บริการดี เพียงสักครั้งในชีวิต เราเลยยิ้มทุกครั้งที่ขึ้นไฟลท์ เก็บเรื่องราวแย่ๆไว้ข้างใน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าเรายิ้มมาจากข้างใน เราเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกยิ้มไปกับเรา ทำให้แอร์ที่คุณเห็นดูเฟรซ ตลอดเวลา พวกเราทุกคนผ่านการสอบทัศนคติก่อนจะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ค่ะ

ส่วนเรื่องการดูแลตัวเอง เราจะบอกวิธีของเรา และคนรอบตัวนะคะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การพึ่งอาหารเสริม และแพทย์ความงามเป็นเรื่องสำคัญที่แพร่หลาย แต่การดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะอาชีพเรา เรียกได้ว่าเป็นอาชีพทำลายสุขภาพ การนอนไม่เป็นเวลา การข้ามไทม์โซน การยกของหนัก การต้องเจอความกดอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ทุกอย่างทำให้เสียสุขภาพค่ะ ทานอาหารให้ถูกต้อง พวกเราโชคดีที่ได้ทานอาหารที่หลากหลาย จากต่างประเทศ หรือแม้แต่จากโรงแรมที่ไปพักเอง ก็ล้วนต้องเลือกสรรค์ เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ นอกจากนี้ เรายังโชคดีที่เวลาว่างเราไม่ต้องเก็บงานไปเครียด ลงจากเครื่องบิน เราก็ไปเที่ยวอปปิ้ง นวด เข้าสปา อ่านหนังสือ เป็นการพักผ่อน ผ่อนคลายอีกทางค่ะ

เรื่องเครื่องสำอาง และอาหารเสริม
ด้วยอาชีพที่ได้ไปที่ต่างๆ ทำให้เราสามารถเลือกซื้อเครื่องสำอางและอาหารเสริมที่กล่าวขานว่าดีที่สุดจากทั่วมุมโลกได้ (หรือไม่ได้ไปก็ฝากเพื่อนหิ้ว) งานเราต้องใช้หน้าตา เรื่องพวกนี้ต้องลงทุนค่ะ อะไรที่เค้าว่าดีก็ใช้ก็ซื้อไป เคล็บลับเหมือนคนทั่วไปแหละค่ะ อาหารเสริมส่วนตัว ทานวิตามินซีวันละ 1000mg วิตามินรวม คอลลาเจน อีพนิ่งพริมโรส Q10 grape seed ศึกษาเราค่ะว่าเราขาดด้านอะไร ต้องการเสริมด้านอะไรก็ทำตามนั้นค่ะ

สรุปให้เลยดีกว่า อย่างแรกคือทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ การอออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ บินกลางคืนก็นอนกลางวันให้หลับ ตื่นมาอีกทีเตรียมตัวรีพอร์ท อาหารหลัก อาหารเสริม เคล็ดลับสำคัญคือดื่มน้ำเยอะๆ เพราะทำงานในที่ O2 น้อย ผัก ผลไม้ ดูแลตัวเอง เรื่องโบทอกซ์ เลเซอร์ อะไรไม่ปฏิเสธอยู่แล้วค่ะ ทำแล้วสวยก็ทำ  เราว่าไม่ต่างกับคนทั่วไปเท่าไรหรอกค่ะ อยู่ที่ความใส่ใจมากกว่า เรามีเรื่องที่ฉุดลงมากกว่าคนอื่น  ก็ต้องพยายามมากขึ้นอีกเท่านึงค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 44
ของแบบนี้มันก็แล้วแต่คนนะคะ แอร์แต่ละคนสุขภาพก็แตกต่างกันไปคะ บางคนถึก ทน ไม่นอน ทำไฟลท์เสร็จ ลุยเที่ยวต่อได้เลย บางคน โดยเฉพาะอิชั้น รุ้ตัวเลยว่า เริ่มแก่แล้ว ดัชนี วัดจากการที่แลนด์หลังไฟลท์แล้วลุยเที่ยวต่อเลยเนี่ย พักหลังๆ ทำไม่ค่อยได้ มันเปลี้ยคะ หมดแรง อยากจะนอนและกินอย่างเดียว โดยเฉพาะไฟลท์กลางคืนแลนด์ตอนเช้า จริงๆถ้าไม่ได้แต่งหน้า จะเห็นชัดค่ะว่าทั้งเหี่ยวทั้งเบ้าตาคล้ำ แต่เครื่องสำอางค์ฉาบไว้ค่ะ ไอ่ความกระปรี้กระเปร่านี่ ต้องมา ต้องทำ แต่บางไฟลท์ก็ทำไม่ไหว ก็อดทนทำแต่อาจจะไม่ได้อะไรมากนัก คือมันรีบ มันเร่ง มันไม่ได้กระปรี้กระเปร่าหรอก แต่ต้องรีบทำรีบเสริฟ เพราะเวลาของไฟลท์สั้นบ้าง หรือกำหนดเวลาแล้วพอทำจริงๆ บางทีมีปัญหานู่นนี่เสียเวลาไปเลยต้องมารีบเอาก่อนจะแลนด์

เรื่องสุขภาพ บางคน พอมาเริ่มเป็นแอร์ ปรับตัวไม่ได้ สุขภาพย่ำแย่ ทนไม่ไหว ก็ต้องลาออกกันไป เหลือแต่พวกที่ทนๆได้ โดยเฉพาะสายตะวันออกกลาง ถึกและทนงานหนักอย่างที่สุด บางที minimum rest + minimum crew (คือเวลาพักระหว่างไฟลท์น้อยที่สุดและจำนวนลูกเรือในไฟลท์จำนวนน้อยที่สุด) ก็โหดสิคะ ทนได้ทนไป เวลาว่างคือ นอนอย่างเดียว ออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแรงให้ไปออกแล้วคะ นอนอย่างเดียว ไปออกกำลังกายกันในไฟลท์เอา เสริฟเดินขาขวิดชนิดที่พูดกันเล่นๆว่า ไม่ได้บินไปลอนดอน แต่เดินไปลอนดอน เดินมันแปดเก้าชั่วโมงไม่ได้นั่งเลยคะ นั่นแหล่ะ ได้ออกกำลังกายแล้ว คิดในทางเชิงบวก แลนด์แล้ว สลบในรถบัสไปโรงแรมเลย ถึงแล้ว ช่วยกู้ซากลงจากรถด้วย..

เรื่องอาหารเสริม it's a must ค่ะ เพราะเรากินแต่อาหาร freeze บนเครื่อง กล่าวคือ อาหารทำสำเร็จรูปแล้วแช่แข็ง เอามาอุ่นกิน ก็ซากอาหารคะ วิตามินไม่ต้องพูดถึง มันตายไปตั้งแต่โดนฟรีสและโดนอุ่นให้ร้อนอีกทีแล้ว เหลือแต่คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ที่ไม่เสื่อม และสะสมตามพุงแขนขาหน้าแก้ม..เด็กใหม่ที่เพิ่งบิน จะรู้สึกตื่นเต้นกับอาหารพวกนี้มาก เหลือจากเสริฟ ก็สวาปามกันเข้าไป จน..ยูนิฟอร์มปลิ้น..ส่วนพวกแก่ๆ หุ่นดีๆ ที่รอดมาได้เพราะ ไม่กินอาหารบนเครื่องเลยคะ ก็กินบ้าง แค่กันตาย กันหิว แต่จะไม่สวาปามแบบพุงปลิ้น ไม่งั้นก็ต้องมาเหนื่อยลดน้ำหนักให้ได้ตามเกณฑ์ของบริษัทอีก ส่วนใหญ่ พกอาหารมาเอง มีผลไม้ให้บนเครื่องบ้าง พยายาม healthy เวลาหยุดพักที่เบส(บ้าน) หรือตาม out station layover ต่างประเทศ ก็จะพยายามหาอะไรที่มัน healthy กินเอา ไม่กินฟาสต์ฟู้ด กลับมาเรื่องอาหารเสริม โดยมาก วิตามินC อย่าให้ขาด 1,000 mg จัดไปวันละเม็ด นอกจากจะช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันต่อหวัด ไซนัส ภูมิแพ้แล้ว ก็ยังช่วยสร้างคอลลาเจนในผิวหนังเราอีกด้วย ที่เหลือก็เรื่องของใครว่าขาดอะไร กินครบห้าหมู่ไหม ส่วนใหญ่ centrum เม็ดเดียวจบ หรือไม่ก็ บำรุงเลือดกันมั่ง เพราะว่า บินแบบนี้ เสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจาง ป.ล. ไม่ใช่ว่า แอร์ทุกคนจะต้องกินเหมือนกัน แล้วแต่ว่าร่างกายขาดอะไร หรือทนอะไรได้ก็ไม่ต้องกิน แอบอิจฉาพวกสุขภาพดี จะนอนน้อย จะกินอะไรก็ได้ มันยังหน้าตึง มันไม่ป่วย มันน่าอิจฉาที่สุด

เรื่องความสวยงาม..cosmetics is a girl's best friend ไม่สิ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งกว่าโทรศัพท์มือถือ นอกจากอวัยวะครบ 32 แล้ว การแต่งหน้าเป็นสิ่งที่ 33 เพราะ หนังหน้าเป็นไปตามกรรมค่ะ กล่าวคือ ยิ่งนอนน้อย หรือ นอนดึก ตื่นเช้า  หรือนอนกลางวัน ตื่นกลางคืนไปบิน อะไรก็แล้วแต่ มันเยินค่ะ รองพื้น คอนซีลเลอร์ จัดมา จัดเต็ม ที่เห็นสวยๆนี่ ก็ฉาบเอาไว้ทั้งนั้น หน้าสด ไม่มีใครกล้าเผยให้เห็นตอนไปบินหรอกค่ะ ดิชั้นท้า แอร์ทุกคนแต่งหน้าไวมากค่ะ เพราะ บางทีเราโดนเรียกจาก standby กะทันหัน มีเวลาแค่สิบห้านาที ก็แต่งเอาในรถ (แต่งไว ไม่ได้หมายความว่า แต่งเก่งนะ บางคนหน้าเค้าดี ผิวดี นิดหน่อยก็สวยแล้ว) บางสายฯ ไม่ได้สอนแต่งหน้า ไปหาวิธีโบกกันเอง เพื่อนสอนมั่ง ดูยูทูปมั่ง ตามๆเทรนด์กันนี่แหล่ะคะ ป.ล.แอร์ทุกคน ไม่ได้มีผิวดี บางคน ผิวแพ้ง่าย หรือสิวเบิม พยายามรักษากันสุดๆ ไปคลีนิก ไปเลเซอร์หรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องพยายามรักษาหน้ากันสุดๆ เพราะบางคน แพ้เครื่องสำอางค์ ก็ต้องตามล่าตามหายี่ห้อใหม่ที่ไม่แพ้ แพ้ทีก็กลบด้วยคอนซีลเลอร์รองพื้น อะไรกันไป ยิ่งทำให้หน้าพังเข้าไปอีกก็มี บางคนโดนพักงานเพราะเรื่อง grooming issue คือเรื่องผิวนี่ก็มี เราจึงต้องระวังและใส่ใจมากกับหนังหน้าของเรา ตอนแรก ไม่รู้ความแตกต่างระหว่าง ครีมบำรุงทั่วไปตามเคาน์เตอร์ซุปเปอร์ต่างๆ กับเคาน์เตอร์หรูในห้าง..ตอนนี้รู้แล้ว และยอมที่จะเสียตังค์จ่ายแพงกับครีมที่คิดว่าจะรักษาความเหี่ยวย่นไม่ให้มันเพิ่มมากขึ้นจากการบิน เนื่องจาก เวลาบิน บนเครื่อง อากาศแห้งมาก ดื่มน้ำมากๆก็ช่วยได้ระดับนึง แต่ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลงมาที จะเห็นเลยว่าใต้ตาเหี่ยว แม้จะดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ตาม ดังนั้น ครีมต้องช่วยอีกระดับ ไม่งั้น เหี่ยวย่น มาก่อนวัยแน่นอน เราจึงไม่ลังเล ใครบอกครีมไหนดี เป็นซื้อมาลองหมด แล้วก็หาไปเรื่อยๆจนเจอว่าอันไหนเวิร์กกับเรา

เรื่องสุดท้าย มึนบ้างไหม นอนไม่พอ โทรมหรืออะไร...มึนสิคะ โทรม และสุขภาพก็ย่ำแย่ด้วยคะ แต่ที่บอกมาตั้งแต่ต้น คือ เราต้องเตรียมตัวให้ดี ให้พร้อม ให้ร่างกาย fit ที่สุดเพื่องาน เขาถึงให้แอร์ มีวันหยุดค่อนข้างมาก หรือต้องมีอย่างน้อย 8-10 วันต่อเดือน หรือ ตารางบิน  บินติดต่อกันได้มากที่สุดไม่เกิน 5-7 วัน หรือในระหว่างที่บิน ต้องมีเวลาพักกี่ชั่วโมงเป็นต้น (แล้วแต่สายฯ กฏใครกฏมัน ไม่เหมือนกัน แต่คล้ายๆกัน) เราก็ต้องคอยไปหาหมอตรวจสุขภาพร่างกาย และก็ยังต้องมีการต่อใบอนุญาตบินที่ต้องมีการตรวจร่างกายด้วยว่าพร้อมบินไหม fit ไหม บางคนก็ไม่ไหว ไม่ fit ก็ต่อใบอนุญาตไม่ได้ ก็บินต่อไม่ได้ เราจึงต้องพยายามทำทุกอย่างให้สุขภาพเราดี ออกกำลังกายหากเป็นไปได้ทุกวันหยุดที่มี นอนให้มากที่สุด การนอนเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ร่างกายมันซ่อมแซมตัวเองได้ก็เพราะการนอน ปัญหาการนอน มีกันทุกคน ถึงเวลานอน ดันไม่นอน หรือนอนไม่หลับ แล้วจะทำไฟลท์ไหวยังไงนี่ ก็ต้องทนทำ ถามว่า are u fit to fly ในห้อง briefing room ทุกไฟลท์ไหม ตอบเลยว่า yes (แต่จริงๆ no.. แต่สปิริต ต้องตอบว่า yes และแบกร่างอันโหยๆไปบิน อดทนไว้ ๆ กี่ชั่วโมงนะ ซัดกาแฟเข้าไปซะ) บางคนก็อาจจะหา melatonin (สารที่ทำให้ง่วง เลียนแบบสารที่ร่างกายหลั่งเวลาง่วงหรือเวลานอนตอนกลางคืน) มาทานก่อนนอนเพื่อให้หลับก็มี บางคนหนักกว่านั้น หาพวกยาแก้หวัดแก้แพ้พวกที่ผสมคลอเฟนนิรามีน ทานเข้าไป หวังผลความง่วงของมันเพื่อจะได้หลับได้ง่ายๆ เพราะแพทเทิร์นการบินไม่เหมือนกัน บางทีได้ไฟลท์เช้าติดกันสองสามวันและหักฉึกเป็นไฟลท์ดึกแลนด์เช้าติดกันอีกสองสามวันเป็นต้น ตัวใครตัวเผือก หาทางนอนเอาเองละกันดั่งที่ว่า บางคนน่าอิจฉา แม้งนอนได้นอนดี วางมันที่ไหนก็หลับได้ทุกที่ บางคนนอนยากนอนเย็น กินอะไรก็แล้ว ก็นอนไม่ได้ ก็ทนตาโหลโบกคอนซีลเลอร์โปะรองพื้นซัดกาแฟแล้วไปบิน หรือจะออกกำลังกายให้กะปรี้กะเปร่าก่อนทำไฟลท์ก็ได้ แต่บางคน กลายเป็นยิ่งเหนื่อย ทำไฟลท์ไม่ไหว ต้องไปลองดูว่า ออกกำลังกายแล้วได้ผลลัพธ์แบบไหน เรื่องอาหาร ก็ต้องพยายามทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และอาหารวิตามินเสริมอะไรก็ว่าไป พยายามคุมอาหารด้วย ไม่ให้น้ำหนักตัวเกิน เพราะยูนิฟอร์ม ใครใส่ ก็ทำให้ดูดี ดูสวย คุณจึงเห็นว่า แอร์เขาสวย สดใสอยู่เสมอ ดูดีตลอดเวลา ก็เพราะยูนิฟอร์มเป็นส่วนนึง ยูนิฟอร์มบางสาย โดยเฉพาะพวกที่ใส่เป็นชุดเดรสยาวอะ อ้วนไม่ได้เลยนะ พุงต้องห้ามมี สิ่งสุดท้าย ดื่มน้ำให้มากๆ ถึงมากที่สุด อันนี้ไม่ต้องบอกใช่มะว่าดียังไง

สุดท้ายสุดๆ positive thinking อยากจะเป็นอาชีพนี้ รู้ว่ามันเหนื่อย มันไม่ดีกับสุขภาพ แต่เราก็ต้องพยายาม เราต้องรักอาชีพเรา ถ้าเราไม่รักอาชีพเรา เราก็ทนทำกันไม่ได้หรอก ต้องเห็นใจ แอร์เป็นเหมือนด่านสุดท้ายของผู้โดยสารเวลาเดินทาง เขาผ่านมาตั้งแต่การจองไฟลท์ การเช็คอิน บางคนไม่ได้เดินทางบ่อย เขาเก็บเงินนานมากกว่าจะได้ซื้อตั๋วกลับบ้าน บางคนเจอเรื่องร้ายๆก่อนไฟลท์ บางคนไม่ได้เห็นครอบครัวมานานมาก บางคนขอให้ได้เยือนบางสถานที่สักครั้งในชีวิต เราจึงเป็นด่านสุดท้ายในการเจอพวกเขา บริการให้เขาด้วยใจ เราเลือกผู้โดยสารไม่ได้ เราต้องอดทนต่อลักษณะงานที่หนักทั้งทางกายภาพ(ออกแรง ใช้แรง เป็นกรรมกร) และด้านจิตใจ (อดทน อดกลั้นต่อความรู้สึก เป็นที่รองรับอารมณ์ของผู้โดยสาร, เพื่อนร่วมงานไม่ดี มีปัญหากัน, คิดถึงบ้าน อกหัก สูญเสียบุคคลในครอบครัว, ปัญหาด้านการเงิน ฯลฯ) เราไม่สามารถแสดงความรู้สึกที่ไม่พึงประสงค์ออกไปสู่ผู้โดยสารและเพื่อนร่วมงานได้ คุณจึงเห็นเรายิ้มแลดูสดใสตลอดเวลา เพราะมันเป็นหน้าที่ของเรา ต้อง professional กันตลอดเวลา จะให้คนอื่นมาเห็นอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรในเครื่องแบบไม่ได้ เรื่องอื่น เก็บไว้ก่อน หลังงานค่อยระเบิด หรือเม้ามอยนินทาผู้โดยสาร,เพื่อนร่วมงานถึงความเสื่อมความชั่วอะไรก็ตาม  สำหรับแอร์เบสต่างประเทศ การมีเพื่อน เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนที่ดี ให้กำลังใจกัน เข้าอกเข้าใจให้ความช่วยเหลือกัน ถึงจะอยู่กันรอดในต่างแดนอันแสนโหดร้าย.. บินกันได้นานเท่าไหร่ ก็อยู่ได้เพราะมีเพื่อนดี บางคน ไม่เจอเพื่อนที่ดี ไม่ส่งเสิรมชีวิต ก็ทนได้ไม่นาน กลับไทยไปก็มี ยิ่งดีไปกว่านั้น คือการมีแฟนหรือคู่คิดชีวิตที่เข้าใจและเป็นกำลังใจ อันนี้ เห็นหลายคน กำลังตามหากันอยู่ หรืออยากหาใหม่ก็มี อิอิ

หมดละ จบ หวังว่า จะช่วยให้ใครอีกหลายคน เข้าใจว่าแอร์เป็นแบบนี้ ต้องเจอไรบ้าง และสำหรับใครอีกหลายคนที่ฝันอยากเป็นแอร์ อาชีพนี้ ต้องมาทำเองว่าชอบหรือไม่ชอบ ทุกอาชีพมีดีมีเสีย เหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา ก็ต้องลองมาทำเอง สู้ๆนะจ๊ะแอร์กี่ทุกโค้นนน
ความคิดเห็นที่ 33
เป็นแอร์ค่ะ เป็นทั้งเบสเมืองนอกและเมืองไทย สมัยเบสต่างประเทศบินไฟล์ทยาว ก็มีเหนื่อย แต่มีการกำหนดการนอนเลยว่าก่อนบินต้องนอนอย่างน้อยหกถึงแปดชม. ห้ามอดนอนไปบิน ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ดื่มน้ำเยอะๆ เข้าสปาบ้าง เลเซอร์บ้าง เลือกใช้เครื่องสำอางค์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องแพง ปัจจุบันชอบสมุนไพรไทย มะขามเปียกเอย ขมิ้นเอย มีกำหนดการเล็มผม หาหมอฟัน ทำเล็บ และอื่นๆอีก และไม่ค่อยแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน เพราะอยากพักผิว

มีงอแงก่อนไปบินบ้าง แต่พอแต่งหน้าเสร็จ ใส่ชุดยูนิฟอร์ม ไฟในการทำงานจะมา และส่วนตัวเป็นคนผิวคล้ำ ไม่ได้พยายามจะขาว แต่หาแนวทางในการแต่งหน้าให้ดูดี ดูสะอาด ไปบินก็มีเซตเครื่องสำอางค์เล็กๆ น้ำหอม ครีมทามือ แปรงสีฟัน ก่อนผู้โดยสารตื่นก็เติมหน้า แปรงฟัน ฉีดน้ำหอม อากาศบนเครื่องแห้ง ก็ฉีดสเปรย์น้ำแร่ ทาแฮนด์ครีม

เรื่องนอน ถ้าต้องบินเที่ยงคืน จะตื่นเช้าและซักบ่ายสี่โมงจะงีบ ตื่นมาซักสามทุ่มจะสดชื่นพร้อมบิน คิดว่าตอบให้หมดแล้วนะคะ เพราะเพื่อนๆส่วนใหญ่ก็ทำคล้ายๆกัน ^_____^
ความคิดเห็นที่ 58
พอดีไม่ได้เป็นแอร์แต่เป็นนักบิน ขอตอบบ้างน่ะครับ สงสัยกันมั้ยครับว่าทำไมพวกนักบินไม่ได้แต่งหน้า แต่ยังดูกระฉับกระเฉงสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
เคล็ดลับของพวกเราจะต่างจากแอร์ครับ

  เนื่องจากนักบินในบัจจุบันโชคดี ที่เครื่องบินสมัยนี้มีระบบการบินแบบออโต ฉนั้นถึงจะบินบ่อย บินนาน บินข้ามไทม์โซน พวกผมก็ไม่หวั่น เพราะในค็อกพิทเราไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว เรายังมีโค-ไพลอตไว้คุยแก้เหงา หรือไม่ก็ผลัดกันนงีบ
  แต่ถ้าคราวซวยมาเยือน ดันเกิดง่วงขึ้นพร้อมๆกัน ก็อาศัยกาแฟเข้มๆ ยกระดับอีกนิดก็กระทิงแดง + ยาทัมใจ  หนักขึ้นไปอีกก็ล่อม้าซักขานึง ที่นี้แหล่ะ ตาสว่างกันตลอดไฟท์
  บางครั้งพวกเราแก้ง่วงกันโดยวิธีที่ตื่นเต้นเร้าใจนิดนึง คือ เราจะชลอเครื่องบินให้ช้าลง จนกระทั่งเครื่องลำหลัง บินมาทันและบินตีคู่กัน จากนั้นต่างก็จะเบิ้ลไอพ่นส่งสัญญาณท้าแข่งกัน ก็แข่งกันแบบสนุกๆไม่ซีเรียสครับ แค่พอแก้ง่วงไปได้ ผู้โดยสารบางท่านอาจจะเคยนั่งเครื่องบิน แล้วรู้สึกเครื่องกระตึกๆ เดี๋ยวเร่ง เดี๋ยวผ่อน นั่นแสดงว่าม้ากำลังดีดนักบินอยู่ครับ ไม่ต้องกังวลครับ เรามีวิธีแก้ไขโดยการล้วงน้ำแข็งจากกระติกลายสก็อตมาเคี้ยว เพื่อเรียกคืนสติครับ

   มีคนเคยถามว่าทำไมพวกเราไม่ต้องแต่งหน้าแต่ก็ยังดูดี เรามีเคล็ดลับครับ แต่ไม่ใช่การกินเด็กอย่างที่แอร์บางคนทำ เนื่องจากนักบินเป็นอาชีพที่มีเกียรติและแอร์ก็มีเกียรติเช่นกัน พวกเรานักบินก็จะไม่ไปยุ่งกับแอร์ ต่างคนต่างอยู่ แต่นักบินอย่างพวกเราจะกินสจ๊วตหรือไม่ก็นักบินด้วยกันองครับ ยิ่งได้กินบ่อยยิ่งดูเด็กลงๆ โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมอย่างอื่นเลย

  พอช่วงที่แลนด์ บางครั้งพวกเราจะไม่เข้าไปเช็คอินนอนตามโรงแรม แต่เราจะเอาเปลยวนมาผูกใต้ท้องเครื่องบินนอนกัน ประหยัดตังและไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแอบขโมยเครื่องของเราไป โปรดมั่นใจได้ว่า ถึงเครื่องบินของเราจะเก่าขนาดไหน แต่พวกเรานักบินทุกคนล้วนเพิ่มสอบใบขับขี่ได้มาใหม่เลย ฉนั้นความรู้ของพวกเรามีเพียบครับ
ความคิดเห็นที่ 67
เป็นแอร์ค่ะ แต่เป็นแอร์หลุดคอนเซป ไม่สวยเหมือนคนอื่น หุ่นบึกบึนมาก

แต่เท่าที่สังเกตจากทุกๆคนที่บินด้วยกันนะคะ จะพบว่าทุกคนออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งค่ะ น้อยมากเลยค่ะที่จะไม่ออกกำลังกาย
บางคนวิ่งมาราทอน บางคนต่อยมวยเอาจริงเอาจัง บางคนเล่นโยคะทุกรูปแบบ บางคนเข้าฟิตเน็ตจริงจัง ปัจจุบันขี่จักรยานก็ฮิตค่ะ ข้างรัยเวย์นั่นแล
เท่าที่ทราบ ทุกวันที่ไม่มีบิน แอร์จะนอน กับออกกำลังกาย บางคนเที่ยวกลางคืน แต่คนเหล่านี้ก็เห็นออกกำลังกายอยู่ตลอดนะคะ
ส่วนเราเองก็ว่ายน้ำเอาค่ะ ว่ายเอาจริงเอาจังมากค่ะ เป็น 1000 เมตรเป็นอย่างต่ำ สามารถพบกันได้ที่ กกท หัวหมากค่ะ ว่ายทุกวันที่ไม่บิน

เรื่องอาหารเสริม คนเป็นแอร์ทานอาหารเสริมเกือบทุกคนค่ะ อย่างน้อยก็ วิตามินซีค่ะ สารพัดแบรนด์ แล้วแต่คนชอบแบรนด์ไหน ที่เห็นทานกันมากๆ ก็ของออสเตรเลียค่ะ
คอนลาเจน หลายคนทานค่ะ แต่ละคนก็ต่างแบรนด์ ต้องสังเกตว่าแบีนด์ไหนถูกกับตัวเองค่ะ ไม่ใช่ว่าทานแต่แพงๆนะคะ
Q10 อันนี้มีคุณหมอท่านนึงแนะนำให้ทาน ก็เลยทานมาตลอด และแอร์หลายคนก็ทานกัน
Melatonin คุณหมอท่านเดิมแนะนำให้ทานเหมือนกัน เมลาโทนิน เป็นอาหารเสริมที่ทำให้หลับลึก ทำให้เรานอนได้อย่างมีคุณภาพค่ะ ไม่ใช่ยาที่ช่วยให้หลับนะคะ
วิตามินรวม เป็นสิ่งสำคัญมากมาย หลายคนทานกันจริงจัง
Fish oil กับ evening primrose oil ก็สำคัญ อย่าง fish oil ทุกคนคงทราบกันดี
แต่หลายคนคงไม่ทราบว่า การทีเรานอนไม่เป็นเวลา ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงมันแปลปรวนค่ะ evening primrose เป็นตัวช่วยที่ดีมากตัวหนึ่ง
และอีกมากมายค่ะ แล้วแต่คน ถ้าคิดว่าขาดตัวไหนก็เสริมตัวนั้นค่ะ

นอนค่ะ หลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ ก่อนไปทำงานต้องนอนให้พอ หลังจบงานแล้ว ถ้ามีโอกาสก็นอนชดเชยส่วนที่เสียไปค่ะ
ถึงแม้ว่าเราจะมีที่นอนบนเครื่องบิน เราก็อาจจะนอนไม่หลับ ไม่ใช่แอร์ทุกคนที่หัวถึงหมอนหลับได้ทันที
บางครั้งไฟท์ยาว 12 ชั่วโมงไม่ได้หลับเลย เพราะตอนพักตาค้างนอนไม่หลับ ก็มีค่ะ พยายามยิ้มสู้ เดี๋ยวเครื่องลงกลับบ้านนอนละนะ
หรือเครื่องบอนบางแบบไม่มีที่นอนค่ะ เราก็นั่งพักตรงเก้าอี้ผู้โดยสารนั่นแหละค่ะ ซึ่งบางทีก็ไม่หลับค่ะ
ดังนั้นเมื่ออยู่บ้าน การนอนสำคัญมาก ห้องนอนของแอร์ที่บ้าน มักจะเงียบและมืดเป็นพิเศษ ลองถามเพื่อนๆที่เป็นแอร์ดูค่ะ
บางทีถ้ามีปัญหาในการนอนมากๆ ก็ต้องแก้กันไปค่ะ บางคนนอนไม่หลับก็ดื่มชาคาโมมายด์ หรือทาน sleeping aids ก็แล้วแต่ค่ะ
การนอนสำตัญมาก ต้องพยายามหลับให้เพียงพอค่ะ  เพราะร่างกายจะประท้วงเมื่อมันขาด
โดยส่วนตัว ถ้านอนไม่พอมากๆ จะเกิดอาการjetlag ทันที ปวดหัวคลื่นไส้ รู้เลยค่ะนอนไม่พอ ต้องห่มผ้าคลุมโปงนอนต่อไป

เครื่องสำอางค์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยส่วนตัวแล้ว ไม่อยากให้ผู้โดยสารตื่นมาตกใจคิดว่าเห็นผี
เมื่อเจอแอร์โทรมๆ ปากซีดๆ เดินอยู่บนเครื่องบิน ดังนั้น แอร์ทั้งหลายก็จะมีการเติมหน้ากันอยู่ตลอดค่ะ  
ก็เวลาเพื่อหยิบเครื่องสำอางค์ขึ้นมาเติม ก็เป็นไรไม่รู้ ต้องหยิบมาเติมบ้าง ทุกทีไป
แต่ละสายการบินก็มีเทรนการแต่งหน้าของตัวเองค่ะ ประมาณว่า แต่งให้ถูกระเบียบน่ะค่ะ
เพราะฉะนั้นถ้าพบแอร์สายการบินไหนแต่งหน้าแก่ หรือโบราณ หรือไม่แนว ขอบอกเลยว่า เป็นนโยบายสายการบินค่ะ
บางทีก็คิดเหมือนกันว่า เมื่อไหร่จะเปลี่ยนแนวสักที แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนค่ะ แต่งแก่กันต่อไป
บางที่จะมี BA มาสอนแต่งหน้าให้เมื่อตอนที่เข้ามาใหม่ๆ พออยู่ไปอยู่ไปทุกคนก็พบทางสว่างของตัวเองค่ะ
เพราะฉะนั้น แอร์ทุกๆคนจะแต่งหน้าฉ่ำสวยงามตลอดเวลา
แต่ถ้าหมดเวลางานแล้ว บางคนอยู่บ้านไม่แต่งหน้าด้วยซ้ำค่ะ พักผิว

เครื่องบำรุงผิวนั้น ทุกคนก็จัดไปค่ะ บอกตามตรงว่า เราไม่ค่อยจะทาครีมเท่าไหร่ เป็นคนขี้เกียจ อาศัยว่าชอบมาร์กหน้าเอา เลยยมาร์กบ่อยๆ
ตัวเครื่องสำอางค์แต่ละคนก็ใช้ต่างแบรนด์ ไม่ได้หมายความว่า ต้องแพงถึงจะดี แต่ละคนผิวต่างกัน เพราะฉะนั้นแบรนด์ไม่สำคัญ ขอให้ถูกกับผิวเป็นพอ
บางคนใช้พอนด์ก็หน้าเด้งมาก ก็เค้าถูกกัน บางคนใช้ SKII อย่างที่บอกค่ะ แบรนด์ไม่สำคัญ สำคัญที่ถูกกับผิวเราหรือเปล่า
ครีมกันแดด ห้ามลืมค่ะ โบกเข้าไปค่ะ เราอยู่ในที่สูงค่ะ

ตั้งแต่เข้าทำงานมา เทรนเนอร์ที่เป็นคนสอนมากับมือ ท่านพร่ำบอกตลอดว่า อย่าลืมทาครีมหลังอาบน้ำ  ท่านย้ำมากๆ เพราะเราอยู่ในที่ที่อาดาศแห้งกว่าปกติ ต้องดูแล
ดังนั้นแอร์ทุกคนจะดูแลผิวพรรณของตัวเองเป็นอย่างมาก ผิวหน้าด้วยนะคะ บางที่เห็นเป็นสิวปุ๊ป ให้กลับบ้านทันที วันนี้ไม่ต้องบิน เพราะฉะนั้นทุกคนจัดเต็มค่ะ

น้ำค่ะ ดื่มน้ำมากๆค่ะ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวพรรณ ระบบต่างๆของร่างกายค่ะ เวลาอยู่บนเครื่องจะทานแต่น้ำเปล่า เพราะอากาศมันแห้งค่ะ
น้ำผลไม้น้ำอัดลม เลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่บางทีก็นะ ความอยากเข้าแทรก ก็มีทานน้ำอัดลมบ้าง
แอร์บางคนพกแก้วมาเอง กำหนดเลย วันนี้ต้องทานกี่แก้วๆ ก็ตวงๆกันไปค่ะ ผู้โดยสารก็ควรดื่มน้ำให้มากๆเมื่ออยู่บนเครื่องนะคะ

อาหารค่ะ ต้องเลือกทานค่ะ แต่ละคนชอบต่างกันออกไป แต่ผักผลไม้ต้องห้ามขาด บางคนไม่ทานผักผลไม้ก็ต้องเสริมวิตามินค่ะ

ทัศนคติเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอาชีพค่ะ ทัศนคติดี ทุกอย่างดีค่ะ ไม่ว่าจะพบเหตุการณ์ใดใด เราก็สามารถคิดในทางบวกได้ค่ะ
อผู้โดยสารมีมากมาย หลายแบบ เราก็ยินดีที่มีพวกท่านนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราพร้อมเสมอ
เรามองโลกในทางที่ดี คิดบวก ใครจะบอกว่าโลกสวยก็ไม่เป็นไร บางอย่างไม่ควรค่าแต่การเศร้าเสียใจ

ด้วยลักษณะงานที่จบในตัวเอง เราจึงไม่ต้องเอากลับมาทำที่บ้านค่ะ เวลานอกเวลางานค่อนข้างส่วนตัว
เรื่องที่เกิดบนเครื่องก็ปล่อยมันผ่านไป ผู้โดยสารcomplain เราก็รับฟังและช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ในขอบข่ายของเรา กลับมาก็ปล่อยวาง
ผู้โดยสารอารมณ์เสีย เราก็พยายามทำให้ท่านอารมณ์ดีขึ้น ของหายก็ช่วยหากันไปตามเนื้องาน ให้ความช่วยเหลือตามที่เราสามารถทำได้ค่ะ

สรุปว่า ทานอาหารที่มีประโยชน์  นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานอาหารเสริม และคิดบวกค่ะ

มีคนบอกว่า ผู้หญิงทุกคนสวย เราเชื่อแบบนั้นค่ะ  สู้ๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่