ผมเป็นคนที่ไม่ได้หล่อเลือกได้ หรือคารมดี จีบสาวเก่งอย่างใครๆเขา แต่ผมเป็นคนจริงใจ รักใครรักคนเดียวจริงๆนะครับ แอบโง่เล็กน้อย(ไม่น้อยหรอก โง่มากๆเลยด้วย)
คือผมแอบชอบผญ. คนนึงครับซึ่งเขาเป็นคนน่ารัก ขยัน และนิสัยดีมากๆครับ(นามสมมุติว่า ผญ ล.) คือผมอยากจะเล่าตอนก่อนที่จะมาชอบผญ ล.คนนี้ครับ ซึ่ง 4 ปี ก่อนหน้านั้น ผมชอบผญ.คนนึง (นามสมมุติว่า ผญ ม.) ซึ่งเขาเป็นผญ. ที่น่ารักแต่ไม่ถึงกับแบบนางฟ้าหรืออะไร เขาเป็นคนเข้ากับคนง่าย (ละมั้ง 555) ผมเจอเขาครั้งแรก เขาคุยกับผม ผมก็เริ่มปิ๊งเขาไปโดยไม่ทราบสาเหตุ (จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ชอบเขา ) ผมก็ได้แค่มองเขา เพราะตอนนั้นเขาก็มีแฟน และอยู่คนละห้องกันด้วยแถมผมเป็นขี้อาย จีบใครไม่เป็นเลย แต่พอผมจบ ม.3 ขึ้น ม.4 ก็เป็นความบังเอิญที่อยู่ดีๆ ผมก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกับเขาก็คือผญ ม. ซึ่ง ม.4 ซึ่งผญ ล. ก็เข้ามาใหม่ด้วย แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนเขาอะไร แต่เขาเป็นที่น่ารักแทบจะที่สุดในห้องเลย แต่สายตาผมคงจะต่ำไปตอนนั้นผมคงไม่ได้มองผญ ล. เลยสักนิด
พอ รร.เปิดไปได้สักอาทิตย์ ผมก็เริ่มปฎิบัติการ จีบผญ ม. ทันที โดยไม่รีรอ เริ่มจากทำเป็นคุยด้วย ตีสนิท ขอกลับบ้านด้วยกัน (บ้านอยู่ใกล้กันด้วย) ผมไม่รู้ว่าจะจีบยังไง ผมไม่มีถ้อยคำที่หวานซะขนาดนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมทำได้คือ เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมพยายามเล่นกีต้าร์เพื่อที่จะจีบเขาให้ติด ผมไม่เคยตั้งใจขนาดนี้มาก่อน แต่ในขณะนั้นเอง ผญ ล. ซึ่งเขาก็ได้เป็นเพื่อนกับผม พอสนิทกันอยู่บ้างและเขาก็ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผม (ที่ยืมตังค์ที่ดี555) ผมเคยยืมตังค์เขาเพื่อที่จะซื้อตุ๊กตา ตัวนึงซึ่ง ณ ตอนนั้น ผมก็กระเป๋าแบน ผมก็เลยเบิกตังค์สักนิดหน่อยจากผญ ล. เพื่อจะซื้อให้กับผญ ม.เพราะผมจะเอาตุ๊กตามาบอกรัก (เชื่อเลยว่าผมซื่อจริงๆ ผมยอมรับจริงๆ ว่าผมนะโง่และเด็กมาก) แล้วเขาก็ให้ผมยืมแต่สิ่งที่ตามมาคือ การเป็นหนี้ ซึ่งตัวนี้นำมาซึ่งการเป็น คนรับใช้ ของ ผญ ล.ไปซักพักแล้วผมก็ค่อยๆทยอยจ่ายคืน จนครบ (กุเป็นอิสระแล้วเว้ยยยย) แต่การบอกรักด้วยตุ๊กตาเหมือนจะไม่สำเร็จเพราะ ผญ ม.เขาก็ยังไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด ซึ่งใน ม.4 ผมบอกรักเขาไปทั้งหมด 2 ครั้ง และแห้ว-ไป 2 ครั้งเช่นกัน
พอขึ้น ม.5 ผมก็ไม่ท้อถอยง่ายๆ ผมก็เลยจีบเขามาเรื่อยๆ (แต่ผมขออธิบายช่วงเวลาน้ำท่วม ซึ่งทำให้ผญ ม. ต้องย้ายบ้านไป เพราะดูเหมือนมันคงโทรมมากเกินไปหลังจากโดนน้ำท่วม ทำให้ผมไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันอีก) ซึ่งในวีรกรรมในการจีบครั้งนี้ผมก็ได้ซื้อเค้กมาเป็นของขวัญวันเกิดให้ ก็เขินอายอยู่เหมือนกว่าจะให้ได้ ตัวนี้บิดๆเบี้ยวๆกันเลยทีเดียว (หมายถึงตัวผมนะ) แต่ผมก็ไม่ได้บอกรักเขาแต่แค่อยากสร้างความประทับใจเล็กๆน้อยๆ แต่หลังจากนั้นมาไม่กี่อาทิตย์ ผมก็เลยบอกรักเขาแต่คราวนี้เป็นดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งก็คงยังไม่สำเร็จ อยู่ดี เซ็งจิตกันไปเลย ตอนนั้นเองผมก็เริ่มท้อถอยละ และในจังหวะเดียวกัน ตอนเข้าเทอม 2 ผมมีเหตุที่จะต้องไปเรียนที่อเมริกา เพื่อที่จะไปเรียนภาษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ประมาณ 4 เดือน หรือจบ 1 เทอมพอดีนั้นหมายความว่าผมต้องจาก ผญ ม.ไป แต่มันก็คือจังหวะเดียวกันในการที่จะตัดใจทิ้งเขาไปพอดี ผมก็เลยไม่รู้สึกอะไรมากมาย ในขณะที่ผมอยู่ที่อเมริกา ผญ ล. ก็โทรผ่านอินเตอร์เน็ตกันอยู่หลายรอบ (ผมขออธิบายว่า เขาไม่ได้ชอบผม และผมก็ยังไม่ได้ชอบเขา แต่แค่เป็นเพื่อนกันเฉยๆ และเขาก็มีแฟนแล้ว )คือเขาชอบโทรมากวนส้น_น มากกว่า เพราะผมกับเขาก็สนิทถึงขั้นด่ากันอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร ด่ากันเล่นๆ เขาก็ถามนู้นถามนี้สบายดีไหม ก็แค่นั้นแหละ และหลังจากผ่านไป 4 เดือน ซึ่งก็คือถึงเวลากลับพอดี ผมไม่ได้บอกเพื่อนว่าจะกลับมาตอนไหน
ซึ่งพอผมกลับไป ผมก็ไปเซอไพรส์ เพื่อนๆ แต่ผมก็เตรียมการก่อนโดยการบอกผญ ล. เพราะเขาคุยกับผมตลอด แต่ในวันที่ผมไปเซอไพรส์ผมก็ไม่ได้คุยกับ ผญ ม.เลยสักนิด เขาไม่คุยกับผม ผมก็ไม่ได้คุยกับเขา เหมือนต่างคนต่างอยู่ และหลังจากนั้นก็ได้เวลาที่ผมจะต้องเหนื่อยที่สุดแล้ว คือ พอขึ้น ม.6 คะแนน ม.5 เทอม 2 ผมก็ไม่มีเลยสักกะตัว นั้นก็หมายความว่า ตามเก็บงานเก็บคะแนน ให้ขี้หดตดหายกันเลยทีเดียว TT ในขณะนั้นเอง ม.6 เทอม 1 เริ่มจากต้นเทอมแรกๆ ผมก็ยังไม่ได้คุยกับผญ ม. อยู่ดี แต่แค่แบบพอมีอะไรสำคัญก็จะคุยกันบ้างคำสองคำ แค่นี้เอง พอกลางๆเทอม ความรู้สึกผมเหมือนค่อยๆ กลับมาหลังจากที่ท้อถอยมาจาก ตอน ม.5 นั้นทำให้ผมเริ่มจีบใหม่อีกที ซึ่งขอบอกเลยว่าคราวนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาเริ่มมีใจกับผม แต่ผมก็ยังไม่บอกรักเพราะแค่กลัวว่ามันจะออกมาคำตอบเดิมอีกครั้งนึง
แต่มันมีอยู่มาวันนึงซึ่งวันนั้นเหมือน มีอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไป ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม (ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่แค่รู้สึกดีกันระหว่างสองฝ่าย) เขาเริ่มถอยจากผม หนีจากผม ปล่อยวางจากผม คือเหมือนเขาเงียบไป คุยน้อยลงกว่าทุกครั้งแต่ผมก็ยังที่จะลองดูต่อไป เป็นยังงี้มาประมาณ 1 เดือน ซึ่งก่อนหน้าวันเกิดของเพื่อน 1 วัน ผมก็ทำเป็นไม่คุยกับเขา เพราะผมเห็นเขาชอบเล่นหรือแหย่กับผช. คนอื่นทั้งๆที่ผมไม่เคยยุ่งผญ. คนอื่นเลยเพราะผมเห็นยังงี้มาหลายรอบแล้วหลังจากที่เขาเปลี่ยนไป (แม้กระทั่งผญ. ล ที่เป็นเพื่อนสนิทผม)
พอมาถึงวันเกิดของเพื่อน ซึ่งเพื่อนเขาได้จัดงานเลี้ยงฉลองกัน ผมก็ไปกินกับเพื่อนหลายๆ พร้อมผญ. ม ด้วย ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คุย ซึ่งวันนั้นพอเขารู้ว่าผมไม่คุยด้วย เขาก็เลยไม่ได้แคร์ผมเดินผ่านผม เล่นกับผช. คนอื่นแบบไม่สน แล้วคราวนี้เหมือนประชดประชันผม ผมเลยทนไม่ไหว ผมก็เลยกลับบ้านเลย ซึ่งระหว่างทางที่ผมกลับบ้านผมก็ได้แต่นั่งร้องไห้ไปตลอดทาง ว่าทำไมทั้งๆที่ทุ่มเท่ไปเต็มที่แล้วแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย (ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเพราะ เขาคิดว่าผมมีคนอื่น และที่เขาคิดยังงี้เพราะเพื่อนผมเคยปั่นข้อความใส่ผมในเฟส ว่าผมมีสาวอื่น ก็เลยทำให้เขาไม่มั่นใจในตัวผมและไม่ได้รักผมเต็มร้อย เพื่อนเขาบอกผมมาหลังจากวันเกิดของเพื่อนที่ผ่านประมาณ 3-4เดือนได้แล้ว แต่ซึ่งตอนนั้นผมก็ตัดใจจากเขาไปแล้ว) ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร แต่ผมก็ยังมีเพื่อนที่เป็นผญ ล. คอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอดเวลา จากที่แต่ก่อนผมนั่งข้างผญ ม . ผมเลยเปลี่ยนมานั่งกับเพื่อนผมก็คือผญ ล. ซึ่งเขาคนนี้เป็นคนสร้างความสุขให้ผม และคอยช่วยเหลือผมในการตามเก็บคะแนนจาก ม.5 เทอม 2 กลับบ้านเป็นเพื่อนผมตลอด เพราะบ้านเขาอยู่ทางเดียวกับผม ไปไหนผมก็ไปด้วยตลอด (เพราะเวลาเขาเดินเที่ยวห้างชอบมีผชเข้ามาจีบหรือขอเบอตลอด เพราะเขาไม่ชอบ ผมก็เลยต้องไปเป็นเพื่อนเขาตลอด) แต่ผมก็ยังไม่ได้รักเขาและตอนนั้นเขาก็ยังมีแฟนอยู่ด้วย เวลาที่เขากับแฟนมีปัญหาอะไร ผมก็ต้องคอยมานั่งเป็นที่ปรึกษาให้เขาและคอยรับฟังอยู่ตลอดเวลา
ผมเป็นยังงี้มาเรื่อยๆ จนจบ ม.6 เชื่อเลยว่าผมยิ่งรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่แต่ก่อนผมไม่เคยรู้สึกเลยสักนิด แต่ผมก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าผมชอบเขาโดยปกติแล้วตอนที่ผมยังไม่ชอบผมจะชอบด่าเขา เขาก็ด่าผม ผมก็กวนตีนใส่ เขาก็กวนตีนใส่ผม(เขาเป็นผญ.คนแรก เลยที่ผมด่าเขาอย่างแรงแต่ด่าเล่นๆกันเฉยๆ) และผมก็ยังคงทำยังงั้นแม้ว่าผมจะชอบเขาเข้าไปแล้วก็ตาม ผมก็เก็บมาตลอด จนกระทั่งอยู่มาวันนึง เขาก็ได้เลิกกับแฟนของเขาซึ่งเขาร้องไห้อย่างหนัก ผมก็รับฟังเขาระบายมาอย่างเดียว ถึงเขาจะเลิกกับแฟนผมก็ไม่เคยบอกสักคำเดียวว่าผมรักเขามาก หรือ แม้แต่จะพูดดีๆก็ตาม ผมรู้นิสัยเขาดี เพราะผมอยู่กับเขามานานแล้ว ถ้ามีคนมาบอกรักทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้สึกยังงั้น แม้จะเป็นเพื่อนก็ตามเขาก็จะเริ่มปล่อยตัวห่างๆ จนให้ผช. เลิกชอบไปเอง ผมเลยกลัวว่าจะเป็นอย่างงั้น และอีกอย่างคือผมไม่อยากทำลายความไว้ใจที่เขาให้กับผม ผมก็เลยเก็บเงียบมาตลอดจนถึงปัจจุบันเลย เขาก็ยังปรึกษา เรื่องผช.ที่เข้ามาจีบ อยู่ตลอด ว่าคนนี้ดีไหม เชื่อผมเลย ถึงผมจะไม่สามารถรักเขาได้ หรือเป็นคนรักกันได้ แต่ผมก็อยากให้เขาได้เจอคนที่ดี คนที่จะดูแลเขาได้ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะเข้าไปขัดขวางเขาเลย ผมคงเป็นได้แค่นี้จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครเลยสักคน หรือปรึกษาใครสักคนว่าผมรักผญ. คนนี้มาก เพราะผมกลัวว่าถ้าผมบอกใครไปสักคน กลัวว่าเขาจะรู้แล้วห่างผมไป
แต่ผมก็ยังอยากจะบอกเขาว่า “กุรักเมิงมากนะ กุอยากดูแลเมิงมากๆ อยากที่จะมีเวลามากกว่านี้ กูไม่เคยเบื่อเมิงเลย กูไม่เคยคิดอยากจะด่าเมิงจริงๆเลย กูแค่ไม่อยากเสียเมิงไปก็แค่นั้นจริงๆ กูขอบใจเมิงมากๆที่คอยช่วยเหลือกุตลอด กูก็อยากเปลี่ยนนิสัยตัวเองเหมือนกัน กุไม่ได้อยากทำตัวติ่งต๊อง ปัญญาอ่อนหรือไร้สาระหรอก กุแค่เก็บอาการไม่อยากให้มันออกไปให้เมิงรู้ว่ากุรู้สึกยังไง เวลาที่กุทำผิดกับเมิง กุอยากจะขอโทษเมิงจริงๆ กุรู้สึกผิดตลอดเวลาเลย กุขอโทษเมิงมากๆนะ และขอบคุณมากๆสำหรับทุกอย่างที่เคยให้กันมานะ มันเป็นเวลาที่กุมีความสุขมากๆตลอดเวลาที่กุกับเมิงเป็นเพื่อนกันมา ทำไมกุถึงไม่เลือกตั้งแต่แรก ? รักนะ ไ..า ”
ผมขอที่ระบายหน่อยนะครับ ผมรู้สึกอึดอัดมาตลอดครับ มันเป็นเรื่องของความรักของผมครับ
คือผมแอบชอบผญ. คนนึงครับซึ่งเขาเป็นคนน่ารัก ขยัน และนิสัยดีมากๆครับ(นามสมมุติว่า ผญ ล.) คือผมอยากจะเล่าตอนก่อนที่จะมาชอบผญ ล.คนนี้ครับ ซึ่ง 4 ปี ก่อนหน้านั้น ผมชอบผญ.คนนึง (นามสมมุติว่า ผญ ม.) ซึ่งเขาเป็นผญ. ที่น่ารักแต่ไม่ถึงกับแบบนางฟ้าหรืออะไร เขาเป็นคนเข้ากับคนง่าย (ละมั้ง 555) ผมเจอเขาครั้งแรก เขาคุยกับผม ผมก็เริ่มปิ๊งเขาไปโดยไม่ทราบสาเหตุ (จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ชอบเขา ) ผมก็ได้แค่มองเขา เพราะตอนนั้นเขาก็มีแฟน และอยู่คนละห้องกันด้วยแถมผมเป็นขี้อาย จีบใครไม่เป็นเลย แต่พอผมจบ ม.3 ขึ้น ม.4 ก็เป็นความบังเอิญที่อยู่ดีๆ ผมก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกับเขาก็คือผญ ม. ซึ่ง ม.4 ซึ่งผญ ล. ก็เข้ามาใหม่ด้วย แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนเขาอะไร แต่เขาเป็นที่น่ารักแทบจะที่สุดในห้องเลย แต่สายตาผมคงจะต่ำไปตอนนั้นผมคงไม่ได้มองผญ ล. เลยสักนิด
พอ รร.เปิดไปได้สักอาทิตย์ ผมก็เริ่มปฎิบัติการ จีบผญ ม. ทันที โดยไม่รีรอ เริ่มจากทำเป็นคุยด้วย ตีสนิท ขอกลับบ้านด้วยกัน (บ้านอยู่ใกล้กันด้วย) ผมไม่รู้ว่าจะจีบยังไง ผมไม่มีถ้อยคำที่หวานซะขนาดนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมทำได้คือ เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมพยายามเล่นกีต้าร์เพื่อที่จะจีบเขาให้ติด ผมไม่เคยตั้งใจขนาดนี้มาก่อน แต่ในขณะนั้นเอง ผญ ล. ซึ่งเขาก็ได้เป็นเพื่อนกับผม พอสนิทกันอยู่บ้างและเขาก็ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผม (ที่ยืมตังค์ที่ดี555) ผมเคยยืมตังค์เขาเพื่อที่จะซื้อตุ๊กตา ตัวนึงซึ่ง ณ ตอนนั้น ผมก็กระเป๋าแบน ผมก็เลยเบิกตังค์สักนิดหน่อยจากผญ ล. เพื่อจะซื้อให้กับผญ ม.เพราะผมจะเอาตุ๊กตามาบอกรัก (เชื่อเลยว่าผมซื่อจริงๆ ผมยอมรับจริงๆ ว่าผมนะโง่และเด็กมาก) แล้วเขาก็ให้ผมยืมแต่สิ่งที่ตามมาคือ การเป็นหนี้ ซึ่งตัวนี้นำมาซึ่งการเป็น คนรับใช้ ของ ผญ ล.ไปซักพักแล้วผมก็ค่อยๆทยอยจ่ายคืน จนครบ (กุเป็นอิสระแล้วเว้ยยยย) แต่การบอกรักด้วยตุ๊กตาเหมือนจะไม่สำเร็จเพราะ ผญ ม.เขาก็ยังไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด ซึ่งใน ม.4 ผมบอกรักเขาไปทั้งหมด 2 ครั้ง และแห้ว-ไป 2 ครั้งเช่นกัน
พอขึ้น ม.5 ผมก็ไม่ท้อถอยง่ายๆ ผมก็เลยจีบเขามาเรื่อยๆ (แต่ผมขออธิบายช่วงเวลาน้ำท่วม ซึ่งทำให้ผญ ม. ต้องย้ายบ้านไป เพราะดูเหมือนมันคงโทรมมากเกินไปหลังจากโดนน้ำท่วม ทำให้ผมไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันอีก) ซึ่งในวีรกรรมในการจีบครั้งนี้ผมก็ได้ซื้อเค้กมาเป็นของขวัญวันเกิดให้ ก็เขินอายอยู่เหมือนกว่าจะให้ได้ ตัวนี้บิดๆเบี้ยวๆกันเลยทีเดียว (หมายถึงตัวผมนะ) แต่ผมก็ไม่ได้บอกรักเขาแต่แค่อยากสร้างความประทับใจเล็กๆน้อยๆ แต่หลังจากนั้นมาไม่กี่อาทิตย์ ผมก็เลยบอกรักเขาแต่คราวนี้เป็นดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งก็คงยังไม่สำเร็จ อยู่ดี เซ็งจิตกันไปเลย ตอนนั้นเองผมก็เริ่มท้อถอยละ และในจังหวะเดียวกัน ตอนเข้าเทอม 2 ผมมีเหตุที่จะต้องไปเรียนที่อเมริกา เพื่อที่จะไปเรียนภาษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ประมาณ 4 เดือน หรือจบ 1 เทอมพอดีนั้นหมายความว่าผมต้องจาก ผญ ม.ไป แต่มันก็คือจังหวะเดียวกันในการที่จะตัดใจทิ้งเขาไปพอดี ผมก็เลยไม่รู้สึกอะไรมากมาย ในขณะที่ผมอยู่ที่อเมริกา ผญ ล. ก็โทรผ่านอินเตอร์เน็ตกันอยู่หลายรอบ (ผมขออธิบายว่า เขาไม่ได้ชอบผม และผมก็ยังไม่ได้ชอบเขา แต่แค่เป็นเพื่อนกันเฉยๆ และเขาก็มีแฟนแล้ว )คือเขาชอบโทรมากวนส้น_น มากกว่า เพราะผมกับเขาก็สนิทถึงขั้นด่ากันอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร ด่ากันเล่นๆ เขาก็ถามนู้นถามนี้สบายดีไหม ก็แค่นั้นแหละ และหลังจากผ่านไป 4 เดือน ซึ่งก็คือถึงเวลากลับพอดี ผมไม่ได้บอกเพื่อนว่าจะกลับมาตอนไหน
ซึ่งพอผมกลับไป ผมก็ไปเซอไพรส์ เพื่อนๆ แต่ผมก็เตรียมการก่อนโดยการบอกผญ ล. เพราะเขาคุยกับผมตลอด แต่ในวันที่ผมไปเซอไพรส์ผมก็ไม่ได้คุยกับ ผญ ม.เลยสักนิด เขาไม่คุยกับผม ผมก็ไม่ได้คุยกับเขา เหมือนต่างคนต่างอยู่ และหลังจากนั้นก็ได้เวลาที่ผมจะต้องเหนื่อยที่สุดแล้ว คือ พอขึ้น ม.6 คะแนน ม.5 เทอม 2 ผมก็ไม่มีเลยสักกะตัว นั้นก็หมายความว่า ตามเก็บงานเก็บคะแนน ให้ขี้หดตดหายกันเลยทีเดียว TT ในขณะนั้นเอง ม.6 เทอม 1 เริ่มจากต้นเทอมแรกๆ ผมก็ยังไม่ได้คุยกับผญ ม. อยู่ดี แต่แค่แบบพอมีอะไรสำคัญก็จะคุยกันบ้างคำสองคำ แค่นี้เอง พอกลางๆเทอม ความรู้สึกผมเหมือนค่อยๆ กลับมาหลังจากที่ท้อถอยมาจาก ตอน ม.5 นั้นทำให้ผมเริ่มจีบใหม่อีกที ซึ่งขอบอกเลยว่าคราวนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาเริ่มมีใจกับผม แต่ผมก็ยังไม่บอกรักเพราะแค่กลัวว่ามันจะออกมาคำตอบเดิมอีกครั้งนึง
แต่มันมีอยู่มาวันนึงซึ่งวันนั้นเหมือน มีอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไป ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม (ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่แค่รู้สึกดีกันระหว่างสองฝ่าย) เขาเริ่มถอยจากผม หนีจากผม ปล่อยวางจากผม คือเหมือนเขาเงียบไป คุยน้อยลงกว่าทุกครั้งแต่ผมก็ยังที่จะลองดูต่อไป เป็นยังงี้มาประมาณ 1 เดือน ซึ่งก่อนหน้าวันเกิดของเพื่อน 1 วัน ผมก็ทำเป็นไม่คุยกับเขา เพราะผมเห็นเขาชอบเล่นหรือแหย่กับผช. คนอื่นทั้งๆที่ผมไม่เคยยุ่งผญ. คนอื่นเลยเพราะผมเห็นยังงี้มาหลายรอบแล้วหลังจากที่เขาเปลี่ยนไป (แม้กระทั่งผญ. ล ที่เป็นเพื่อนสนิทผม)
พอมาถึงวันเกิดของเพื่อน ซึ่งเพื่อนเขาได้จัดงานเลี้ยงฉลองกัน ผมก็ไปกินกับเพื่อนหลายๆ พร้อมผญ. ม ด้วย ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คุย ซึ่งวันนั้นพอเขารู้ว่าผมไม่คุยด้วย เขาก็เลยไม่ได้แคร์ผมเดินผ่านผม เล่นกับผช. คนอื่นแบบไม่สน แล้วคราวนี้เหมือนประชดประชันผม ผมเลยทนไม่ไหว ผมก็เลยกลับบ้านเลย ซึ่งระหว่างทางที่ผมกลับบ้านผมก็ได้แต่นั่งร้องไห้ไปตลอดทาง ว่าทำไมทั้งๆที่ทุ่มเท่ไปเต็มที่แล้วแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย (ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเพราะ เขาคิดว่าผมมีคนอื่น และที่เขาคิดยังงี้เพราะเพื่อนผมเคยปั่นข้อความใส่ผมในเฟส ว่าผมมีสาวอื่น ก็เลยทำให้เขาไม่มั่นใจในตัวผมและไม่ได้รักผมเต็มร้อย เพื่อนเขาบอกผมมาหลังจากวันเกิดของเพื่อนที่ผ่านประมาณ 3-4เดือนได้แล้ว แต่ซึ่งตอนนั้นผมก็ตัดใจจากเขาไปแล้ว) ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร แต่ผมก็ยังมีเพื่อนที่เป็นผญ ล. คอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอดเวลา จากที่แต่ก่อนผมนั่งข้างผญ ม . ผมเลยเปลี่ยนมานั่งกับเพื่อนผมก็คือผญ ล. ซึ่งเขาคนนี้เป็นคนสร้างความสุขให้ผม และคอยช่วยเหลือผมในการตามเก็บคะแนนจาก ม.5 เทอม 2 กลับบ้านเป็นเพื่อนผมตลอด เพราะบ้านเขาอยู่ทางเดียวกับผม ไปไหนผมก็ไปด้วยตลอด (เพราะเวลาเขาเดินเที่ยวห้างชอบมีผชเข้ามาจีบหรือขอเบอตลอด เพราะเขาไม่ชอบ ผมก็เลยต้องไปเป็นเพื่อนเขาตลอด) แต่ผมก็ยังไม่ได้รักเขาและตอนนั้นเขาก็ยังมีแฟนอยู่ด้วย เวลาที่เขากับแฟนมีปัญหาอะไร ผมก็ต้องคอยมานั่งเป็นที่ปรึกษาให้เขาและคอยรับฟังอยู่ตลอดเวลา
ผมเป็นยังงี้มาเรื่อยๆ จนจบ ม.6 เชื่อเลยว่าผมยิ่งรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่แต่ก่อนผมไม่เคยรู้สึกเลยสักนิด แต่ผมก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าผมชอบเขาโดยปกติแล้วตอนที่ผมยังไม่ชอบผมจะชอบด่าเขา เขาก็ด่าผม ผมก็กวนตีนใส่ เขาก็กวนตีนใส่ผม(เขาเป็นผญ.คนแรก เลยที่ผมด่าเขาอย่างแรงแต่ด่าเล่นๆกันเฉยๆ) และผมก็ยังคงทำยังงั้นแม้ว่าผมจะชอบเขาเข้าไปแล้วก็ตาม ผมก็เก็บมาตลอด จนกระทั่งอยู่มาวันนึง เขาก็ได้เลิกกับแฟนของเขาซึ่งเขาร้องไห้อย่างหนัก ผมก็รับฟังเขาระบายมาอย่างเดียว ถึงเขาจะเลิกกับแฟนผมก็ไม่เคยบอกสักคำเดียวว่าผมรักเขามาก หรือ แม้แต่จะพูดดีๆก็ตาม ผมรู้นิสัยเขาดี เพราะผมอยู่กับเขามานานแล้ว ถ้ามีคนมาบอกรักทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้สึกยังงั้น แม้จะเป็นเพื่อนก็ตามเขาก็จะเริ่มปล่อยตัวห่างๆ จนให้ผช. เลิกชอบไปเอง ผมเลยกลัวว่าจะเป็นอย่างงั้น และอีกอย่างคือผมไม่อยากทำลายความไว้ใจที่เขาให้กับผม ผมก็เลยเก็บเงียบมาตลอดจนถึงปัจจุบันเลย เขาก็ยังปรึกษา เรื่องผช.ที่เข้ามาจีบ อยู่ตลอด ว่าคนนี้ดีไหม เชื่อผมเลย ถึงผมจะไม่สามารถรักเขาได้ หรือเป็นคนรักกันได้ แต่ผมก็อยากให้เขาได้เจอคนที่ดี คนที่จะดูแลเขาได้ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะเข้าไปขัดขวางเขาเลย ผมคงเป็นได้แค่นี้จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครเลยสักคน หรือปรึกษาใครสักคนว่าผมรักผญ. คนนี้มาก เพราะผมกลัวว่าถ้าผมบอกใครไปสักคน กลัวว่าเขาจะรู้แล้วห่างผมไป
แต่ผมก็ยังอยากจะบอกเขาว่า “กุรักเมิงมากนะ กุอยากดูแลเมิงมากๆ อยากที่จะมีเวลามากกว่านี้ กูไม่เคยเบื่อเมิงเลย กูไม่เคยคิดอยากจะด่าเมิงจริงๆเลย กูแค่ไม่อยากเสียเมิงไปก็แค่นั้นจริงๆ กูขอบใจเมิงมากๆที่คอยช่วยเหลือกุตลอด กูก็อยากเปลี่ยนนิสัยตัวเองเหมือนกัน กุไม่ได้อยากทำตัวติ่งต๊อง ปัญญาอ่อนหรือไร้สาระหรอก กุแค่เก็บอาการไม่อยากให้มันออกไปให้เมิงรู้ว่ากุรู้สึกยังไง เวลาที่กุทำผิดกับเมิง กุอยากจะขอโทษเมิงจริงๆ กุรู้สึกผิดตลอดเวลาเลย กุขอโทษเมิงมากๆนะ และขอบคุณมากๆสำหรับทุกอย่างที่เคยให้กันมานะ มันเป็นเวลาที่กุมีความสุขมากๆตลอดเวลาที่กุกับเมิงเป็นเพื่อนกันมา ทำไมกุถึงไม่เลือกตั้งแต่แรก ? รักนะ ไ..า ”