ปัจจุบัน..ผมเพิ่งอายุ 21 ปี
จะเกริ่นก่อนเลยนะครับว่า ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็เรียกปู่กับย่าแท้ๆ ว่า "พ่อ แม่" มาจนถึงทุกวันนี้ ปู่ย่าส่งผมเรียนตั้งแต่อนุบาลยืนจบปวส. ผมอาศัยกับแกมาตั้งแต่เด็กด้วยฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก เพราะว่าพ่อกับแม่แท้ๆเอาผมมาให้ปู่ย่าเลี้ยง พอเอาผมมาให้แกเลี้ยงได้สักช่วงหนึ่ง พ่อกับแม่แท้ๆผมหย่าร้างกันเพราะเหตุผลใดผมก็ไม่รู้ (อันนี้ย่าเล่าให้ฟัง) จนทุกวันนี้ผมไม่เคยเจอหน้าแม่แท้ๆเลย จนผมอายุ 12 ปีคือตอนนั้นผมเรียนอยู่ป.6ละ พ่อแท้ๆผมติดต่อมาหาปู่ย่าว่าผมกำลังจะแต่งงาน(แกได้เมียแม่แล้วครับ)อยู่ที่ อุบลฯ นั่นน่ะครับผมมีแม่เลี้ยงแล้ว พ่อแท้ๆกับเมียใหม่แกมีลูกสาวด้วยกันอยู่คนนึงครับ น้องสาวผมคนนี้แม้จะมีแม่คนละแม่คนกัน ผมก็รักน้องสาวคนนี้มากผมมีโอกาสไปหาน้องทุกช่วงปิดเทอมใหญ่ ตอนผมจะจบปวส.น้องผมจะเข้า ม.1 คือช่วงจะจบป.6อ่ะครับ แม่เลี้ยงโทรหาย่าแล้วเล่าวีรกรรมน้องสาวคนนี้ในแต่ล่ะวันให้ย่าฟังว่า ติดเพื่อน กลับบ้านดึก หนีเรียน ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าบ้านบ้าง คือผิดกับผมอ่ะครับ ตั้งแต่ผมเป็นเด็กปู่ย่าเลี้ยงดูผมด้วยความโบราณและความลำบากผิดกับน้องสาวผมคนนี้ แม่เลี้ยงผมค่อนข้างมีฐานะเวลาเลี้ยงน้องสาวคนนี้เนี้ยะจะตามใจทุกอย่าง(ผมว่าเสียคนแล้วล่ะครับ) แม่เลี้ยงทนกับพฤติกรรมลูกคนนี้ไม่ไหวเลยตัดสินส่งมาเรียนอยู่กับปู่ย่าที่บ้านเกิดผม กะว่าจะให้เปลี่ยนสังคมเปลี่ยนเพื่อนเปลี่ยนให้ปู่ย่ามาเลี้ยงดูเผื่อจะเป้นผู่เป็นคนเหมือนผมบ้าง พอส่งมาเท่านั้นล่ะครับ ตอนแรกก่ะยังไม่สำแดงเดชอะไรออกมา เพราะเค้ามาส่งตอนผมกำลังจะมาทำงานที่ต่างจังหวัด เพราะที่ยังไม่สมแดงเดชก็เพราะว่าผมยังอยู่ที่บ้านปู่ย่า น้องคนนี้กลัวผมมากจนไม่กล้าดื้อจะรุนแรงแต่ตอนที่ผมไม่อยู่ที่บ้าน บ้างออกมาทำธุระบ้าง เย็นกลับบ้านไปปู่ย่าก็เล่าให้ฟังว่ามันเกเรมากคำหยาบถึงขั้นพูดคำว่า "หุบปาก" ตอนที่ย่าผมสั่งสอน เลยทีเดียว พอผมรู้เท่านั้นล่ะผมด่าชุดใหญ่เลย มันได้แค่ก้มหน้ารับฟัง หลังจากนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรทำนองนี้อีก จนกระทั่งผมได้เดินทางมาทำงานประจำที่ต่างจังหวัด เป็นเรื่องธรรมดาที่ผมจะคิดถึง ปู่ย่า ก็มีติดต่อเป็นประจำทุกวัน แต่...ล่าสุด ย่าโทรมาหาผม แกเล่าว่า ถ้าเป็นแบบนี้อีกแม่เลี้ยงมันไม่ได้หรอก เมื่อเช้ามันไม่ไปโรงเรียนมันกับบอกกับแม่ว่า.. "ไปบอกพ่อกูให้เอารถมอไซค์มาให้เลยไม่งั้นก็ไม่ไป ถ้าไม่งั้น ไม่พอใจจะเลี้ยงกูก็บอกให้พ่อมารับกลับเลย" ผมได้ยินเท่านั้นล่ะสั่นไปหมด
ถ้าผมอยู่ที่บ้านนะ ผมอยากจะตบปากน้องสาวคนนี้จริงๆ ไม่ใช่ที่น้องเป็นแบบนี้เพราะปู่ย่านะครับ ย่าผมเจอหลานคนนี้ไม่กี่ครั้งอีก เจอแค่ตอนไปเยี่ยมที่อุบลตอนปิดเทอมกับผมแค่นั้นล่ะ
มีน้องสาว(คนละแม่)แบบนี้ควรทำไงดีครับ (เป็นผมอยากจะตบให้เลือดกลบปากเลย!!) ช่วยขอคำแนะนำหน่อยนะครับ
จะเกริ่นก่อนเลยนะครับว่า ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็เรียกปู่กับย่าแท้ๆ ว่า "พ่อ แม่" มาจนถึงทุกวันนี้ ปู่ย่าส่งผมเรียนตั้งแต่อนุบาลยืนจบปวส. ผมอาศัยกับแกมาตั้งแต่เด็กด้วยฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก เพราะว่าพ่อกับแม่แท้ๆเอาผมมาให้ปู่ย่าเลี้ยง พอเอาผมมาให้แกเลี้ยงได้สักช่วงหนึ่ง พ่อกับแม่แท้ๆผมหย่าร้างกันเพราะเหตุผลใดผมก็ไม่รู้ (อันนี้ย่าเล่าให้ฟัง) จนทุกวันนี้ผมไม่เคยเจอหน้าแม่แท้ๆเลย จนผมอายุ 12 ปีคือตอนนั้นผมเรียนอยู่ป.6ละ พ่อแท้ๆผมติดต่อมาหาปู่ย่าว่าผมกำลังจะแต่งงาน(แกได้เมียแม่แล้วครับ)อยู่ที่ อุบลฯ นั่นน่ะครับผมมีแม่เลี้ยงแล้ว พ่อแท้ๆกับเมียใหม่แกมีลูกสาวด้วยกันอยู่คนนึงครับ น้องสาวผมคนนี้แม้จะมีแม่คนละแม่คนกัน ผมก็รักน้องสาวคนนี้มากผมมีโอกาสไปหาน้องทุกช่วงปิดเทอมใหญ่ ตอนผมจะจบปวส.น้องผมจะเข้า ม.1 คือช่วงจะจบป.6อ่ะครับ แม่เลี้ยงโทรหาย่าแล้วเล่าวีรกรรมน้องสาวคนนี้ในแต่ล่ะวันให้ย่าฟังว่า ติดเพื่อน กลับบ้านดึก หนีเรียน ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าบ้านบ้าง คือผิดกับผมอ่ะครับ ตั้งแต่ผมเป็นเด็กปู่ย่าเลี้ยงดูผมด้วยความโบราณและความลำบากผิดกับน้องสาวผมคนนี้ แม่เลี้ยงผมค่อนข้างมีฐานะเวลาเลี้ยงน้องสาวคนนี้เนี้ยะจะตามใจทุกอย่าง(ผมว่าเสียคนแล้วล่ะครับ) แม่เลี้ยงทนกับพฤติกรรมลูกคนนี้ไม่ไหวเลยตัดสินส่งมาเรียนอยู่กับปู่ย่าที่บ้านเกิดผม กะว่าจะให้เปลี่ยนสังคมเปลี่ยนเพื่อนเปลี่ยนให้ปู่ย่ามาเลี้ยงดูเผื่อจะเป้นผู่เป็นคนเหมือนผมบ้าง พอส่งมาเท่านั้นล่ะครับ ตอนแรกก่ะยังไม่สำแดงเดชอะไรออกมา เพราะเค้ามาส่งตอนผมกำลังจะมาทำงานที่ต่างจังหวัด เพราะที่ยังไม่สมแดงเดชก็เพราะว่าผมยังอยู่ที่บ้านปู่ย่า น้องคนนี้กลัวผมมากจนไม่กล้าดื้อจะรุนแรงแต่ตอนที่ผมไม่อยู่ที่บ้าน บ้างออกมาทำธุระบ้าง เย็นกลับบ้านไปปู่ย่าก็เล่าให้ฟังว่ามันเกเรมากคำหยาบถึงขั้นพูดคำว่า "หุบปาก" ตอนที่ย่าผมสั่งสอน เลยทีเดียว พอผมรู้เท่านั้นล่ะผมด่าชุดใหญ่เลย มันได้แค่ก้มหน้ารับฟัง หลังจากนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรทำนองนี้อีก จนกระทั่งผมได้เดินทางมาทำงานประจำที่ต่างจังหวัด เป็นเรื่องธรรมดาที่ผมจะคิดถึง ปู่ย่า ก็มีติดต่อเป็นประจำทุกวัน แต่...ล่าสุด ย่าโทรมาหาผม แกเล่าว่า ถ้าเป็นแบบนี้อีกแม่เลี้ยงมันไม่ได้หรอก เมื่อเช้ามันไม่ไปโรงเรียนมันกับบอกกับแม่ว่า.. "ไปบอกพ่อกูให้เอารถมอไซค์มาให้เลยไม่งั้นก็ไม่ไป ถ้าไม่งั้น ไม่พอใจจะเลี้ยงกูก็บอกให้พ่อมารับกลับเลย" ผมได้ยินเท่านั้นล่ะสั่นไปหมด