สวัสดีคะ เขียนไปเขียนมา มันส์มือ มากคะ ตกใจ มี หลังไมค์ถามเกี่ยวกับร้านมาเยอะมากๆๆๆๆๆ
มาตอบให้คะ มันส์มือ 55555 วันนี้ ต้องไปเปิดร้าน แต่คันไม้คันมือแต่เช้าคะ 55555 หลังจาก เหนูได้โพสกระทู้ เล่าประสบการ์ณเปิดร้านเค้ก ร้านอาหารไทยที่เดนมาร์คนะคะ ก็มีหลังไมค์มาหลายคน มาถามหนูว่า จะต้องเปิดอย่างไร ทำอย่างไรบ้างคะ อาจจะไม่ละเอียดมาก แต่ขอเล่าจากประสบการ์ณละกันนะคะ
เรื่องแรกที่สำคัญคือว่า อยู่ประเทศอะไร มีใบอยู่หรือเปล่า ของหนูง่ายเพราะว่าเป็นลูกครึ่ง ไทย-เดนมาร์ค มีสองพาสปอร์ต เลยง่ายคะ เพราะเค้าถือว่าเป็นบุคคลของประเทศเขา ถ้าอยู่ประเทศไทย อันนี้ ต้องศึกษาดีดีคะ ว่าจะทำเรืองขอมาอย่างไร
ถ้าอยู่ประเทศนั้นๆเเล้ว มีใบอยู่เเล้ว เอกสารต้องครบคะ สำคัญที่สุดเลย จะเปิดร้านมั่วๆไม่ได้ ทุกคนต้องเสียภาษีเท่ากันเนอะ ที่นี่เค้าทำไว้เป็นขั้นเป็นตอนมากๆคะ ทำตามขั้นตอบรับรองไม่มีปัญหา
ถ้ารูว่าตัวเองชอบทำธุรกิจ เเล้ว คิดว่า อดทนได้ ชอบงานบริการ ทำงานซ้ำไปซ้ำมาน่าเบื่อทุกๆวันได้ แนะนำให้เปิดร้านเเล้วอยู่เอง ประหยัดงบคะ
ถ้าไฮเปอร์อย่างหนู 555 อยู่ร้านไม่ค่อยติด ทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาไม่ค่อยได้ อาจจะเหนื่อยหน่อย ได้เงินน้อยหน่อย แต่สนุก จ้างคนเเล้วบริหารคะ
หลังจากพิจรณาเเล้ว ไตร่ตรองเเล้ว คิดว่าดีเเล้ว
ก่อนอื่นต้อง หาที่หาทางก่อนคะ วิธีการพิจรณาว่าร้านเราจะดีได้ไหม ต้องดูที่ ว่า
- วัฒนธรรม ของคนประเทศนั้นๆเป็นอย่างไร
-เค้าชอบทานอาหารรสชาติแบบไหน
-ลูกค้ามีความรู้เกี่ยวกับอาหารของเรามากน้อยเพียงใด
-วิธีการจับจ่ายสินค้าของคนในเมืองนั้นเป็นแบบไหน
-Menu
-ทีมร้าน THEME
-หาโลเคชั่น
-การแต่งร้าน ฟังชั่น เครื่องครัว
-ที่นี่ เรื่อง ไฮจีน สำคัญมากๆๆๆ ความสะอาด การจัดร้าน การเก็บของ อุณภูมิ การล้างของ
-ระบบการจัดการ
-เอกสาร
-การจ้างงาน
-โฆษณา
-ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น
ตอนที่ทำเนี่ย มันก็มั่วๆๆๆๆ กันไป 5555 แต่หนูจะลองเรียบเรียงดูนะคะ
ถ้าจะมาทำร้านที่ต่างประเทศเนี่ย ถ้าเรียนมาตามหนังสือ Markting ก็จะคล้ายๆกัน แต่คะแต่ หนูว่า สำคัญจริงๆ คือ วัฒนธรรม ของคนในเมืองนั้นๆ คน กทม กับคนเชียงใหม่ ก็ต่างกันและ อันนี้ สำคัญคะ คุณต้องรู้จักคนในเมือง ลองดูว่าประชากร ส่วนมากเป็นใคร เป็นเมืองนักเรียนรึป่าว เมืองอุตสาหกรรม กำลังการซื้อของคนในเมืองมีมากแค่ไหน นิสัยของผู้บริโภคเป็นอย่างไร ยกตัวอย่าง คนเดนมาร์คเนี่ย ถ้าเมืองที่หนูอยู่เนี่นะคะ เป็นคนที่ กลัว ของใหม่ๆ ของความโคซี่ ไม่ชอบของแพง ของทำกินกันเองมากกว่า ถ้าแบบนี้ ยากคะ ต้องมีวิธีทำให้เค้าออกมาซื้อของเรา โปรโมชั่นบ้าง ส่งฟรีบ้าง จนกว่าจะหาจุดเจอคะ ถ้าไปเมืองนักเรียน นี่ คู่แข่งเยอะ คุณต้องหาจุดต่าง
คนที่เดนมาร์ค ชอบรับประทานอาหารเค็มคะ การวางรสชาติอาหารของร้านสำคัญมาก ฟรั่งบางคนเค้าไม่รู้ว่า เผ็ดมากเผ็ดน้อยเป็นอย่างไร คนแต่ละคน สไตล์การกินต่างกันเวอร์ บางคนเข้ามา ขอเผ็ดแบบไทยๆ เอาแบบไหนละ หนูคนไทยยังกินไม่เผ็ดเล้ย ตัดปัญหาคะ ทำออกมาให้รสชาติ mild ที่สุด เเล้วใครจะกินเผ็น เอาพริกสด พริกป่นไปเติมเองคะ อย่าทำเด็ดขาดเลยนะคะ เอา ความเผ็ดเป็น เลเวล 1-15 เพราะพริกแต่ละครั้งความเผ็ดไม่เหมือนกัน สมมติเค้ามาเเล้ว บอกว่า ครั้งที่เเล้วเอาเผ็ด ระดับ8 พอกินเเล้วเผ็ดกว่าเดิมเยอะ คือมารตฐานมันไม่มี อย่าทำคะ
ถ้าไปทางเบเกอรี่ พวกเค้กนุ่มๆ อย่าหวังว่าจะได้ขายที่นี่คะ 555 เค้าชอบแน่นๆ กัน อันนี้ ต้องดู ตลาด ทำการบ้านดีดีคะ
ลูกค้าบางคนที่ไปประเทศไทย กินเขียวหวานที่นึงเเล้วติดใจ แต่อย่าลืมว่า เขียวหวานรสชาติมันไม่เหมือนกันทั้งประเทศ รสชาติก็แตกต่างเเล้วคะ เพราะชนั้น รสชาติที่ออกมา จะต้องทำออกมาให้เป็นกลางมากที่สุดคะ ถ้าอยู่ประเทศไหน นี่สำคัญมาก อย่าไปเขียนใน เมนู Yam nuar, Tom kar kai, เขียนเป็น วงเล็ปได้คะ แต่ แปลเป็นภาษาเขาหน่อย สมมุติว่าแพนง ที่ร้านจะไม่เขียน Pa-nang kai จะเขียน Curry with peanut sauce เขียนรายละเอียด วัตถุดิบคร่าวๆ ให้ชัดเจน คนที่นี่ เค้าอยากรู้ว่า มีอะไร เอาหลักๆพอ ถ้าละเอียดเกิน เดี๋ยวเรื่องมาก เอานี่ออก เอานั้นแทน เยอะะะะะะ
วิธีการจับจ่าย ดูว่า เค้าชอบทานข้าวนอกบ้านไหม ถ้าชอบก็เปิดเป็นร้านอาหาร ถ้าชอบกินที่บ้านก็ เทคอเวย์ จบ ง่าย ไม่ต้องจ้างคนล้างจาน ไม่ต้องจ้างคนเสริฟ ค่าบำรุง ค่าไฟ บานคะ ถ้าเค้า out going ค่าจ้างถูก จัดคะจัด ร้านอาหาร จะได้คนเยอะกว่า ได้ขายเครื่องดื่มด้วย อีกปัจจัยที่ไม่ทำร้านอาหารเพราะว่า สัญญา ตั้งสัจจะไว้ว่าจะไม่ดื่มเหล้า ดื่มแอลกอฮอล์ เเล้วจะไม่ขายไม่ยุ่งเกี่ยว อันนี้ ความเห็นส่วนตัวนะคะ
เมนู คะ จัดเมนู ที่ ง่ายต่อการเลือก ง่ายต่อการอ่าน มีรูปภาพได้ยิ่งดี ยิ่งอาหารไทย คนไม่รู้จักคะชื่อต่างๆ เค้าจะจำได้ว่าน่าตาเป็นแบบไหน อย่าไปก๊อปจากอินเตอร์เน็ทนะคะ ลูกค้าจะคาดหวังว่า อาหารจะเหมือนในรูป อย่าเอาอาหารมาใส่เยอะจนเกินไปลูกค้าเลือกไม่ถูกคะ
โลเคชั่น วิธีการเลือกโลเคชั่นที่ดีนั้นก็ดู ว่า มีคนพลุกพล่านไหม ใกล้สถานที่กินที่อื่นไหม มีที่จอดรถรึป่าว มีอยู่อย่างนึงนะคะ ถ้าร้านคุณอร่อย ที่ไหนเค้าก็ไป ตระเวนกิน
ทีมของร้าน สำคัญนะ ต้องมีธีมเเล้ว ต้องทำตาม สี การจัดวาง บรรยากาศ สร้างเเล้วต้องรักษาให้ได้ มันมีช่วงหนึ่งที่ คนในร้านแบบว่าสนิทสนม เอากระปุกออมสินรูปหมูมาวางเพื่อขอเงินทิป เอานั่นเอานี่มาแต่ง เราเลยบอกห้ามเด็ดขาด มันต้องมี มารตฐาน คะ
การแต่งร้าน ฟั่งชั่นของร้าน ต้องสอดคล้องกับ ทีม เเละโลเคชั่น ดูว่าร้านเป็นอย่างไร ฟั่งชั่น ระบบ ทำอาหารตรงไหน วางตรงไหน แพคตรงไหน ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ มากที่สุดนะคะ ถ้าร้านเป็นระบบ ทำงานจะคล่อง ไฟจะเขียวตลอด สำคัญที่สุด
เครื่องครัว ต้องมีครบครัน ถ้าไม่มีห้องแช่ไม่เป็นไร อย่างน้อย ตู้เย็นต้องสามตู้ ตู้หนึ่งไว้เก็บผักที่เราได้มาจากตลาด เพื่อมาเก็บวัตถุดิบ ง่ายต่อการเชค อีกอันไว้เก็ผักที่หั่นเเล้ว น้ำแกง ง่ายต่อการเชค คะ อีกตู้เป็นที่เก็บเนื้อสัตว์คะ มีฟรีเซอร์ เอาไว้สำหรับ เก็บของ ที่นี่ ของส่วนมากจะต้อง ฟรีซ เพราะเป็นการฆ่าเชื้อโรค คะ มีเตา มีที่เตรียมอาหาร ชั่นวางของ อันนี้ เเล้วแต่เลยคะ ว่าจะจัดการร้านอย่างไร ถามได้คะ
ที่นี่ เรื่องความสะอาด การจัดเก็บร้านสำคัญมากๆคะ ต้องเชคอุณหถูมิ ตู้เย็น เนื้อสัตว์ อันนี้ ต้องดูว่าประเทศนั่นๆ มีกฏเกี่ยวกับการเปิดร้านอย่างไรคะ มันไม่ใช้เพื่อการตรวจอย่างเดียวนะคะ มันทำให้ลูกค้ามั่นใจ ว่าของเรา สะอาด เป็นภาพลักษณ์ที่ดีคะ
เอกสาร จริงๆเเล้ว คร่าวๆ ทำ business plan ไว้ก็ดีคะ เอาไว้ไปขอกู้แบงค์ หรือ นายทุน
ต้องจดทะเบียนร้าน นี่ทำให้อินเตอร์เนทก็ได้คะ จะมีเลย ที่เดนมารคเรียกว่า CVR-nr เป็นเลขผู้เสียภาษี จะทำอะไร ก็ต้องพึ่งเลขอันนี้เลยคะ
ตอนที่ไปขอบัญชี บิสเนท ต้องมี บิสเนทแพลนคะ ที่นี่ เปิดบัญชีพร่ำเพรื่อไม่ได้นะคะ โหดดดด
จริงๆ ก่อนจะทำการเปิดร้านหรือตั่งร้าน ถ้าเป็นประเทศเดนมารคแน่นำให้ไป สอบ Owner test อันดับแรก เราจะรู้หมดเลยว่า ขั้นตอ ลำดับ ก่อนหลังเป็นอย่างไร ทุกคนที่จะเปิดร้านต้องสอบนะคะ เค้าจะให้ดาวโหลด เอกสารมาอ่าน เเล้วเอาไปสอบ จะคัดคำถามจาก 150 หน้ากระดาษ มาแค่ 30 คำถาม หนูได้ 29 นะ 555555 ตั้งใจมาก อ่านสามสี่รอบ จนเข้าใจ เข้าใจเเล้ว ใช้ได้ตลอดคะ
อันนี้ สำคัญ หา accountant ที่ดี เชื่อถือได้ เเล้วให้เค้าช่วยเรื่องเอกสารการเสียภาษี ใบเงินเดือน working contract. อย่าทำเองคะ เหนื่อย
ถ้าอยู่เดนมาร์ค อันนี้ สำคัญคะ ไปหา Union เเล้ว ไปเป็นMember ซะ มีปัญหากะลูกน้อง จะไล่ใครออก เค้าทำให้หมดคะ เเล้ว สมัคร A Kasse ไว้เลยคะ หลังจากหนึ่งปีถ้าธุรกิจมีปัญหา จะได้ช่วยไว้ทัน
การจ้างงาน ถ้าในประเทศแถบๆ แสกนดิเนเวียร์ เนี่ ค่าจ้างสูงมาก บางคนจะทำร้านอาหาร ต้องหาพ่ครัว จากไทย แน่นำว่าให้หาที่อยู่ใน EU อยู่เเล้ว หรือ Nordic country ทำงานได้หมดคะ แค่ต้องเสียภาษีที่ปรเทศตัวเองทำงานแค่นั่นเอง เพระาเอาคนไทยไป ไหนคะต้องหาที่อยู่ ค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า เราต้องออก เเล้วมันต้องต่อตลอด ถ้าหาไม่ได้เเล้ว ค่อยเอาคนไทยไปคะ
ถ้าเปิดร้านอาหารไทย ขอแนะนำว่า อย่าจ้างคนไทยทั้งหมด ดราม่าคะ เราจะเหนื่อย คนไทยคิดมาก คิดไปเอง เเล้วมันสร้างปัญหาให้เรา เบื่อ ทำงานไม่สนุก
อย่าเอาคนสองคนทำงานด้วยกันบ่อยๆ ถ้าเค้าสนิทกันมากๆ ดราม่าเกิดทันที
มีเยอะคะ คนที่คิดว่า ตัวเองสำคัญมากๆกับร้าน หนูถึงขั้นมีคนไปบอกกันว่าจะลาออกเพื่อให้หนูมีปัญหา อยากได้ร้านบ้าง ไปพูดกะคนนั้นคนนี้ ให้เราเสียหาย มีคะ ไม่ต้องไปถือสา แต่แน่ะนำ ว่า ต้องเวียนกันทำงาน อย่างเอาคนไทยทั้งหมด อย่าให้มันเกิดระบบที่เรียกว่าครอบครัว ขึ้นมา เพราะมันไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวคะ อย่าให้เขาเคยชินกะเเรา นี่หนูเจอมาเเล้ว วางตัวให้ดีคะ
เป็นตัวอย่างที่ดี คะ เราจะไม่พูด ว่าให้ใคร ไม่ส่อเสียด นินทา ใครให้คนที่เป็นลูกน้องเราได้ยิน เราจะไม่โกงไม่ว่าต่อหน้า และลับหลัง เราจะต้องอ่อนน้อม เราจะต้องซื้อสัตย์ "เป็นให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้สำผัส" จำคำนี้ ไว้คะ
โฆษณา ปากต่อปาก เป็นการโฆษณาที่ดีที่สุดคะ
ต้องชัดเจนกะลูกน้อง ว่า หน้าที่คุณคือการรักษาลูกค้าให้กลับมา ไม่ต้องเรียกลูกค้า ชั้นเรียกเอง ! ระบบอย่าให้เค้าคิดว่า เค้าตัดสินใจได้ จะทำอะไรต้องผ่านเราผู้จัดการ ไม่ใช้จะเปลี่ยนสูตร สุ่มสี่ สุ่มห้าก็ทำ งี้ ไม่ถูกต้องคะ ต้องชัดเจน
ระบบรักษาความปลอดภัย อย่างกล้องวงจรปิดนี่ สำคัญคะ มีเรื่องจะเล่า555
วันนั้นเป็นวันศุกร์เนอะ เเล้วกำลังเปิดร้านจูสคะ เเล้ว มีชายหญิงสองคน เดินเข้ามา พูดจาไม่รุ้เรื่อง เดินมาสั่งน้ำ เเล้ว รีบจ่ายตัง ให้แบงค์พันเรามา ค่าน้ำ สี่สิบ เราก็ทอนให้ เก้าร้อยหกสิบ ชิมิ คือเป็นคนพกเงินสดอยู่เเล้ว พกเยอะด้วย เลยไม่คิดอะไร เเล้วเค้าาก็เบี่ยงเบนความสนใจ ขอแลก ใบสองร้อย ซ่อนเงินแบงค์ห้าร้อย ไว้เเล้วจะขอแลกอีก ก็ฟังม่ายรุเรื่องอะนะ 555 เเล้ว คราวนี้ ชีก็บอกว่า ไม่เอา เทอให้เงินไม่ครบ อีนี่ อย่ามาสิ หนูเป็นคนโหดๆ 5555 เลยบอกว่า เงินชั้นมีไหน อีกห้าร้อย มันบอกไม่มีคะ หนูเลย มันจะออกจากร้าน ขอเรียกว่ามันนะคะ 555 เดินไปดักคะ ค้นตัวเลย 5555กล้ามาก ไม่มีใช้ไม้ ซ่อนเก่งใช้มั้ย บอกไม่เป็นไร เดินไปล๊อกประตู ขังไว้ไม่ให้ออกคะ 55555 บอกชั้นมี กล้องนะ เเล้ว กำลังจะโทรเรียกตำตรวจ มันตกใจ ระหว่างที่เดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ มันหย่อนเงินลง เเล้วบอกว่า ดูในนี่สิ พอดูเห็นเงิน เเล้ว ก็ต้องดูให้ถี่ถ้วนว่ามันเอาอะไรไปเพิ่มรึป่าว เเล้ว บอกว่า กรุณาออกไปจากร้าน เเล้วไม่ต้องมาแถวนี้ให้เห็นอีก รมเสีย! พวกนี่นะ !
เรื่องเครื่องคิดเงิน ขอให้เอาเงินไปซื้อเครื่องดีดี แบบ ระบบสัมผัส เพราะสำคัญมากคะ แบบหนูใช้แบบถูกๆ โดนโกงไปเเล้ว เพระาชนั้น ต้องรอบคอบคะ
เอาเป็นว่าเรื่อง เซตอัพนี่ มันไม่ค่อยหนักหนา สาหัตเท่าไหร่ แต่เรื่องคน ต้องเลือกดีดี คะ ยิ่งคนพูดมาก พูดฉอเลาะ ชอบชมเรานี่ ระวังไว้เลย 5555 อย่าไปพลาดท่าฟังคำหวานนะคะ 55555
อาจจะมีคนถามว่า ลงหนังสือพิมพ์ได้อย่างไร อันนี้เค้ามาเองคะ อัพเดทเฟสบุค รู้จักคนเยอะๆ เค้าก็มาเอง นักข่าวถ้ามีข่าวที่น่าสนใจเค้าจะมาเองคะ
อย่างกรณีหนูนี่ อายุยี่สิบ เรียนด้วย เปิดร้านด้วย มันเลยได้ออกสื่อ คะ
ลองดูนะ หาสตอรี่ที่น่าสนใจ เเล้วเอาเป็นจุดขายคะ
เท่านี่ ก่อน ไม่รุ้จะเขียนอะไรเเล้ว อันนี้ คร่าวๆนะคะ ใครมีคำถามถามได้เลยนะคะ จะมาตอบจ้า
จุบๆ
สำหรับคนที่อยากเปิดร้านที่ต่างประเทศ ต้องทำอย่างไรบ้าง เล่าจากประสบการ์ณคะ
มาตอบให้คะ มันส์มือ 55555 วันนี้ ต้องไปเปิดร้าน แต่คันไม้คันมือแต่เช้าคะ 55555 หลังจาก เหนูได้โพสกระทู้ เล่าประสบการ์ณเปิดร้านเค้ก ร้านอาหารไทยที่เดนมาร์คนะคะ ก็มีหลังไมค์มาหลายคน มาถามหนูว่า จะต้องเปิดอย่างไร ทำอย่างไรบ้างคะ อาจจะไม่ละเอียดมาก แต่ขอเล่าจากประสบการ์ณละกันนะคะ
เรื่องแรกที่สำคัญคือว่า อยู่ประเทศอะไร มีใบอยู่หรือเปล่า ของหนูง่ายเพราะว่าเป็นลูกครึ่ง ไทย-เดนมาร์ค มีสองพาสปอร์ต เลยง่ายคะ เพราะเค้าถือว่าเป็นบุคคลของประเทศเขา ถ้าอยู่ประเทศไทย อันนี้ ต้องศึกษาดีดีคะ ว่าจะทำเรืองขอมาอย่างไร
ถ้าอยู่ประเทศนั้นๆเเล้ว มีใบอยู่เเล้ว เอกสารต้องครบคะ สำคัญที่สุดเลย จะเปิดร้านมั่วๆไม่ได้ ทุกคนต้องเสียภาษีเท่ากันเนอะ ที่นี่เค้าทำไว้เป็นขั้นเป็นตอนมากๆคะ ทำตามขั้นตอบรับรองไม่มีปัญหา
ถ้ารูว่าตัวเองชอบทำธุรกิจ เเล้ว คิดว่า อดทนได้ ชอบงานบริการ ทำงานซ้ำไปซ้ำมาน่าเบื่อทุกๆวันได้ แนะนำให้เปิดร้านเเล้วอยู่เอง ประหยัดงบคะ
ถ้าไฮเปอร์อย่างหนู 555 อยู่ร้านไม่ค่อยติด ทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาไม่ค่อยได้ อาจจะเหนื่อยหน่อย ได้เงินน้อยหน่อย แต่สนุก จ้างคนเเล้วบริหารคะ
หลังจากพิจรณาเเล้ว ไตร่ตรองเเล้ว คิดว่าดีเเล้ว
ก่อนอื่นต้อง หาที่หาทางก่อนคะ วิธีการพิจรณาว่าร้านเราจะดีได้ไหม ต้องดูที่ ว่า
- วัฒนธรรม ของคนประเทศนั้นๆเป็นอย่างไร
-เค้าชอบทานอาหารรสชาติแบบไหน
-ลูกค้ามีความรู้เกี่ยวกับอาหารของเรามากน้อยเพียงใด
-วิธีการจับจ่ายสินค้าของคนในเมืองนั้นเป็นแบบไหน
-Menu
-ทีมร้าน THEME
-หาโลเคชั่น
-การแต่งร้าน ฟังชั่น เครื่องครัว
-ที่นี่ เรื่อง ไฮจีน สำคัญมากๆๆๆ ความสะอาด การจัดร้าน การเก็บของ อุณภูมิ การล้างของ
-ระบบการจัดการ
-เอกสาร
-การจ้างงาน
-โฆษณา
-ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น
ตอนที่ทำเนี่ย มันก็มั่วๆๆๆๆ กันไป 5555 แต่หนูจะลองเรียบเรียงดูนะคะ
ถ้าจะมาทำร้านที่ต่างประเทศเนี่ย ถ้าเรียนมาตามหนังสือ Markting ก็จะคล้ายๆกัน แต่คะแต่ หนูว่า สำคัญจริงๆ คือ วัฒนธรรม ของคนในเมืองนั้นๆ คน กทม กับคนเชียงใหม่ ก็ต่างกันและ อันนี้ สำคัญคะ คุณต้องรู้จักคนในเมือง ลองดูว่าประชากร ส่วนมากเป็นใคร เป็นเมืองนักเรียนรึป่าว เมืองอุตสาหกรรม กำลังการซื้อของคนในเมืองมีมากแค่ไหน นิสัยของผู้บริโภคเป็นอย่างไร ยกตัวอย่าง คนเดนมาร์คเนี่ย ถ้าเมืองที่หนูอยู่เนี่นะคะ เป็นคนที่ กลัว ของใหม่ๆ ของความโคซี่ ไม่ชอบของแพง ของทำกินกันเองมากกว่า ถ้าแบบนี้ ยากคะ ต้องมีวิธีทำให้เค้าออกมาซื้อของเรา โปรโมชั่นบ้าง ส่งฟรีบ้าง จนกว่าจะหาจุดเจอคะ ถ้าไปเมืองนักเรียน นี่ คู่แข่งเยอะ คุณต้องหาจุดต่าง
คนที่เดนมาร์ค ชอบรับประทานอาหารเค็มคะ การวางรสชาติอาหารของร้านสำคัญมาก ฟรั่งบางคนเค้าไม่รู้ว่า เผ็ดมากเผ็ดน้อยเป็นอย่างไร คนแต่ละคน สไตล์การกินต่างกันเวอร์ บางคนเข้ามา ขอเผ็ดแบบไทยๆ เอาแบบไหนละ หนูคนไทยยังกินไม่เผ็ดเล้ย ตัดปัญหาคะ ทำออกมาให้รสชาติ mild ที่สุด เเล้วใครจะกินเผ็น เอาพริกสด พริกป่นไปเติมเองคะ อย่าทำเด็ดขาดเลยนะคะ เอา ความเผ็ดเป็น เลเวล 1-15 เพราะพริกแต่ละครั้งความเผ็ดไม่เหมือนกัน สมมติเค้ามาเเล้ว บอกว่า ครั้งที่เเล้วเอาเผ็ด ระดับ8 พอกินเเล้วเผ็ดกว่าเดิมเยอะ คือมารตฐานมันไม่มี อย่าทำคะ
ถ้าไปทางเบเกอรี่ พวกเค้กนุ่มๆ อย่าหวังว่าจะได้ขายที่นี่คะ 555 เค้าชอบแน่นๆ กัน อันนี้ ต้องดู ตลาด ทำการบ้านดีดีคะ
ลูกค้าบางคนที่ไปประเทศไทย กินเขียวหวานที่นึงเเล้วติดใจ แต่อย่าลืมว่า เขียวหวานรสชาติมันไม่เหมือนกันทั้งประเทศ รสชาติก็แตกต่างเเล้วคะ เพราะชนั้น รสชาติที่ออกมา จะต้องทำออกมาให้เป็นกลางมากที่สุดคะ ถ้าอยู่ประเทศไหน นี่สำคัญมาก อย่าไปเขียนใน เมนู Yam nuar, Tom kar kai, เขียนเป็น วงเล็ปได้คะ แต่ แปลเป็นภาษาเขาหน่อย สมมุติว่าแพนง ที่ร้านจะไม่เขียน Pa-nang kai จะเขียน Curry with peanut sauce เขียนรายละเอียด วัตถุดิบคร่าวๆ ให้ชัดเจน คนที่นี่ เค้าอยากรู้ว่า มีอะไร เอาหลักๆพอ ถ้าละเอียดเกิน เดี๋ยวเรื่องมาก เอานี่ออก เอานั้นแทน เยอะะะะะะ
วิธีการจับจ่าย ดูว่า เค้าชอบทานข้าวนอกบ้านไหม ถ้าชอบก็เปิดเป็นร้านอาหาร ถ้าชอบกินที่บ้านก็ เทคอเวย์ จบ ง่าย ไม่ต้องจ้างคนล้างจาน ไม่ต้องจ้างคนเสริฟ ค่าบำรุง ค่าไฟ บานคะ ถ้าเค้า out going ค่าจ้างถูก จัดคะจัด ร้านอาหาร จะได้คนเยอะกว่า ได้ขายเครื่องดื่มด้วย อีกปัจจัยที่ไม่ทำร้านอาหารเพราะว่า สัญญา ตั้งสัจจะไว้ว่าจะไม่ดื่มเหล้า ดื่มแอลกอฮอล์ เเล้วจะไม่ขายไม่ยุ่งเกี่ยว อันนี้ ความเห็นส่วนตัวนะคะ
เมนู คะ จัดเมนู ที่ ง่ายต่อการเลือก ง่ายต่อการอ่าน มีรูปภาพได้ยิ่งดี ยิ่งอาหารไทย คนไม่รู้จักคะชื่อต่างๆ เค้าจะจำได้ว่าน่าตาเป็นแบบไหน อย่าไปก๊อปจากอินเตอร์เน็ทนะคะ ลูกค้าจะคาดหวังว่า อาหารจะเหมือนในรูป อย่าเอาอาหารมาใส่เยอะจนเกินไปลูกค้าเลือกไม่ถูกคะ
โลเคชั่น วิธีการเลือกโลเคชั่นที่ดีนั้นก็ดู ว่า มีคนพลุกพล่านไหม ใกล้สถานที่กินที่อื่นไหม มีที่จอดรถรึป่าว มีอยู่อย่างนึงนะคะ ถ้าร้านคุณอร่อย ที่ไหนเค้าก็ไป ตระเวนกิน
ทีมของร้าน สำคัญนะ ต้องมีธีมเเล้ว ต้องทำตาม สี การจัดวาง บรรยากาศ สร้างเเล้วต้องรักษาให้ได้ มันมีช่วงหนึ่งที่ คนในร้านแบบว่าสนิทสนม เอากระปุกออมสินรูปหมูมาวางเพื่อขอเงินทิป เอานั่นเอานี่มาแต่ง เราเลยบอกห้ามเด็ดขาด มันต้องมี มารตฐาน คะ
การแต่งร้าน ฟั่งชั่นของร้าน ต้องสอดคล้องกับ ทีม เเละโลเคชั่น ดูว่าร้านเป็นอย่างไร ฟั่งชั่น ระบบ ทำอาหารตรงไหน วางตรงไหน แพคตรงไหน ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ มากที่สุดนะคะ ถ้าร้านเป็นระบบ ทำงานจะคล่อง ไฟจะเขียวตลอด สำคัญที่สุด
เครื่องครัว ต้องมีครบครัน ถ้าไม่มีห้องแช่ไม่เป็นไร อย่างน้อย ตู้เย็นต้องสามตู้ ตู้หนึ่งไว้เก็บผักที่เราได้มาจากตลาด เพื่อมาเก็บวัตถุดิบ ง่ายต่อการเชค อีกอันไว้เก็ผักที่หั่นเเล้ว น้ำแกง ง่ายต่อการเชค คะ อีกตู้เป็นที่เก็บเนื้อสัตว์คะ มีฟรีเซอร์ เอาไว้สำหรับ เก็บของ ที่นี่ ของส่วนมากจะต้อง ฟรีซ เพราะเป็นการฆ่าเชื้อโรค คะ มีเตา มีที่เตรียมอาหาร ชั่นวางของ อันนี้ เเล้วแต่เลยคะ ว่าจะจัดการร้านอย่างไร ถามได้คะ
ที่นี่ เรื่องความสะอาด การจัดเก็บร้านสำคัญมากๆคะ ต้องเชคอุณหถูมิ ตู้เย็น เนื้อสัตว์ อันนี้ ต้องดูว่าประเทศนั่นๆ มีกฏเกี่ยวกับการเปิดร้านอย่างไรคะ มันไม่ใช้เพื่อการตรวจอย่างเดียวนะคะ มันทำให้ลูกค้ามั่นใจ ว่าของเรา สะอาด เป็นภาพลักษณ์ที่ดีคะ
เอกสาร จริงๆเเล้ว คร่าวๆ ทำ business plan ไว้ก็ดีคะ เอาไว้ไปขอกู้แบงค์ หรือ นายทุน
ต้องจดทะเบียนร้าน นี่ทำให้อินเตอร์เนทก็ได้คะ จะมีเลย ที่เดนมารคเรียกว่า CVR-nr เป็นเลขผู้เสียภาษี จะทำอะไร ก็ต้องพึ่งเลขอันนี้เลยคะ
ตอนที่ไปขอบัญชี บิสเนท ต้องมี บิสเนทแพลนคะ ที่นี่ เปิดบัญชีพร่ำเพรื่อไม่ได้นะคะ โหดดดด
จริงๆ ก่อนจะทำการเปิดร้านหรือตั่งร้าน ถ้าเป็นประเทศเดนมารคแน่นำให้ไป สอบ Owner test อันดับแรก เราจะรู้หมดเลยว่า ขั้นตอ ลำดับ ก่อนหลังเป็นอย่างไร ทุกคนที่จะเปิดร้านต้องสอบนะคะ เค้าจะให้ดาวโหลด เอกสารมาอ่าน เเล้วเอาไปสอบ จะคัดคำถามจาก 150 หน้ากระดาษ มาแค่ 30 คำถาม หนูได้ 29 นะ 555555 ตั้งใจมาก อ่านสามสี่รอบ จนเข้าใจ เข้าใจเเล้ว ใช้ได้ตลอดคะ
อันนี้ สำคัญ หา accountant ที่ดี เชื่อถือได้ เเล้วให้เค้าช่วยเรื่องเอกสารการเสียภาษี ใบเงินเดือน working contract. อย่าทำเองคะ เหนื่อย
ถ้าอยู่เดนมาร์ค อันนี้ สำคัญคะ ไปหา Union เเล้ว ไปเป็นMember ซะ มีปัญหากะลูกน้อง จะไล่ใครออก เค้าทำให้หมดคะ เเล้ว สมัคร A Kasse ไว้เลยคะ หลังจากหนึ่งปีถ้าธุรกิจมีปัญหา จะได้ช่วยไว้ทัน
การจ้างงาน ถ้าในประเทศแถบๆ แสกนดิเนเวียร์ เนี่ ค่าจ้างสูงมาก บางคนจะทำร้านอาหาร ต้องหาพ่ครัว จากไทย แน่นำว่าให้หาที่อยู่ใน EU อยู่เเล้ว หรือ Nordic country ทำงานได้หมดคะ แค่ต้องเสียภาษีที่ปรเทศตัวเองทำงานแค่นั่นเอง เพระาเอาคนไทยไป ไหนคะต้องหาที่อยู่ ค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า เราต้องออก เเล้วมันต้องต่อตลอด ถ้าหาไม่ได้เเล้ว ค่อยเอาคนไทยไปคะ
ถ้าเปิดร้านอาหารไทย ขอแนะนำว่า อย่าจ้างคนไทยทั้งหมด ดราม่าคะ เราจะเหนื่อย คนไทยคิดมาก คิดไปเอง เเล้วมันสร้างปัญหาให้เรา เบื่อ ทำงานไม่สนุก
อย่าเอาคนสองคนทำงานด้วยกันบ่อยๆ ถ้าเค้าสนิทกันมากๆ ดราม่าเกิดทันที
มีเยอะคะ คนที่คิดว่า ตัวเองสำคัญมากๆกับร้าน หนูถึงขั้นมีคนไปบอกกันว่าจะลาออกเพื่อให้หนูมีปัญหา อยากได้ร้านบ้าง ไปพูดกะคนนั้นคนนี้ ให้เราเสียหาย มีคะ ไม่ต้องไปถือสา แต่แน่ะนำ ว่า ต้องเวียนกันทำงาน อย่างเอาคนไทยทั้งหมด อย่าให้มันเกิดระบบที่เรียกว่าครอบครัว ขึ้นมา เพราะมันไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวคะ อย่าให้เขาเคยชินกะเเรา นี่หนูเจอมาเเล้ว วางตัวให้ดีคะ
เป็นตัวอย่างที่ดี คะ เราจะไม่พูด ว่าให้ใคร ไม่ส่อเสียด นินทา ใครให้คนที่เป็นลูกน้องเราได้ยิน เราจะไม่โกงไม่ว่าต่อหน้า และลับหลัง เราจะต้องอ่อนน้อม เราจะต้องซื้อสัตย์ "เป็นให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้สำผัส" จำคำนี้ ไว้คะ
โฆษณา ปากต่อปาก เป็นการโฆษณาที่ดีที่สุดคะ
ต้องชัดเจนกะลูกน้อง ว่า หน้าที่คุณคือการรักษาลูกค้าให้กลับมา ไม่ต้องเรียกลูกค้า ชั้นเรียกเอง ! ระบบอย่าให้เค้าคิดว่า เค้าตัดสินใจได้ จะทำอะไรต้องผ่านเราผู้จัดการ ไม่ใช้จะเปลี่ยนสูตร สุ่มสี่ สุ่มห้าก็ทำ งี้ ไม่ถูกต้องคะ ต้องชัดเจน
ระบบรักษาความปลอดภัย อย่างกล้องวงจรปิดนี่ สำคัญคะ มีเรื่องจะเล่า555
วันนั้นเป็นวันศุกร์เนอะ เเล้วกำลังเปิดร้านจูสคะ เเล้ว มีชายหญิงสองคน เดินเข้ามา พูดจาไม่รุ้เรื่อง เดินมาสั่งน้ำ เเล้ว รีบจ่ายตัง ให้แบงค์พันเรามา ค่าน้ำ สี่สิบ เราก็ทอนให้ เก้าร้อยหกสิบ ชิมิ คือเป็นคนพกเงินสดอยู่เเล้ว พกเยอะด้วย เลยไม่คิดอะไร เเล้วเค้าาก็เบี่ยงเบนความสนใจ ขอแลก ใบสองร้อย ซ่อนเงินแบงค์ห้าร้อย ไว้เเล้วจะขอแลกอีก ก็ฟังม่ายรุเรื่องอะนะ 555 เเล้ว คราวนี้ ชีก็บอกว่า ไม่เอา เทอให้เงินไม่ครบ อีนี่ อย่ามาสิ หนูเป็นคนโหดๆ 5555 เลยบอกว่า เงินชั้นมีไหน อีกห้าร้อย มันบอกไม่มีคะ หนูเลย มันจะออกจากร้าน ขอเรียกว่ามันนะคะ 555 เดินไปดักคะ ค้นตัวเลย 5555กล้ามาก ไม่มีใช้ไม้ ซ่อนเก่งใช้มั้ย บอกไม่เป็นไร เดินไปล๊อกประตู ขังไว้ไม่ให้ออกคะ 55555 บอกชั้นมี กล้องนะ เเล้ว กำลังจะโทรเรียกตำตรวจ มันตกใจ ระหว่างที่เดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ มันหย่อนเงินลง เเล้วบอกว่า ดูในนี่สิ พอดูเห็นเงิน เเล้ว ก็ต้องดูให้ถี่ถ้วนว่ามันเอาอะไรไปเพิ่มรึป่าว เเล้ว บอกว่า กรุณาออกไปจากร้าน เเล้วไม่ต้องมาแถวนี้ให้เห็นอีก รมเสีย! พวกนี่นะ !
เรื่องเครื่องคิดเงิน ขอให้เอาเงินไปซื้อเครื่องดีดี แบบ ระบบสัมผัส เพราะสำคัญมากคะ แบบหนูใช้แบบถูกๆ โดนโกงไปเเล้ว เพระาชนั้น ต้องรอบคอบคะ
เอาเป็นว่าเรื่อง เซตอัพนี่ มันไม่ค่อยหนักหนา สาหัตเท่าไหร่ แต่เรื่องคน ต้องเลือกดีดี คะ ยิ่งคนพูดมาก พูดฉอเลาะ ชอบชมเรานี่ ระวังไว้เลย 5555 อย่าไปพลาดท่าฟังคำหวานนะคะ 55555
อาจจะมีคนถามว่า ลงหนังสือพิมพ์ได้อย่างไร อันนี้เค้ามาเองคะ อัพเดทเฟสบุค รู้จักคนเยอะๆ เค้าก็มาเอง นักข่าวถ้ามีข่าวที่น่าสนใจเค้าจะมาเองคะ
เท่านี่ ก่อน ไม่รุ้จะเขียนอะไรเเล้ว อันนี้ คร่าวๆนะคะ ใครมีคำถามถามได้เลยนะคะ จะมาตอบจ้า
จุบๆ