คิดใหม่วันอาทิตย์ โดย อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
ในที่สุดคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)
ได้อนุมัติมูลค่า"คูปองส่วนลด" สำหรับแลกซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลและเสาอากาศในมูลค่า 1,000 บาทต่อครัวเรือน จำนวน 25 ล้านคูปองคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท ท่ามกลางข้อขัดแย้งที่ยังไม่ได้เห็นพ้องกันทุกฝ่ายที่ล้วนแต่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ผมขอเล่าบรรยากาศก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯหรือกทปส.เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า
ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 24 ช่อง ยังไม่ได้เห็นพ้องเป็นเสียงเดียวทุกช่องว่า"เห็นด้วย"กับการกำหนดให้คูปองส่วนลดนำไปแลกซื้ออุปกรณ์ได้ทั้ง 4 ประเภท คือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน( DVB-T2 ), โทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์ติดตั้งภายในเครื่อง( i-DTV ) , กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม( DVB-S2 ) และกล่องรับสัญญาณเคเเบิลทีวี( DVB-C )
เพราะ
คุณจำนรรค์ ศิริตัน นายกฯสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ฯได้นำสมาชิกสมาพันธ์และสมาชิกชมรมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้พูดสรุปในทำนอง 24 ช่องทีวีดิจิทัลเห็นพ้องกันแล้ว ระหว่างการเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ที่เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนด้วย
ในขณะที่นอกห้องประชุมยังมีคุณสารี อ๋องสมหวัง มูลนิธิผู้บริโภค รอเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.อ.ธเรศเช่นเดียวกัน เพื่อคัดค้านการนำคูปองส่วนลดไปแลกอุปกรณ์ได้ทั้ง 4 ประเภท กลุ่มผู้บริโภคเห็นว่าควรให้แลกได้เฉพาะกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินและยังเสนอต่อไปว่าอยากให้แจกกล่องรับสัญญาณแทนการแจกคูปองให้ไปถึงมือผู้บริโภคเลย
ผมในฐานะผู้บริหารช่อง Nation TV และตัวแทนช่อง NOW ที่เป็น 2 ช่องที่ประมูลทีวีดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน จึงขอสงวนสิทธิ์แสดงความคิดเห็นต่อหน้าพล.อ.อ.ธเรศเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่ได้เห็นด้วยกับการนำคูปองส่วนลดไปแจกกับกล่องทีวีดาวเทียมด้วย แล้วเสนอวิธีลดข้อขัดแย้งที่กำลังจะบานปลายไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองที่อาจจะทำให้การแจกคูปองทีวีดิจิทัลล่าช้าออกไปอีกนาน
อยากจะให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ
ลองพิจารณาความเร่งด่วนในลำดับแรกเพื่อลดข้อขัดแย้ง-ลดความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง แจก"คูปองส่วนลด"สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินไปก่อนสักประมาณ 6 เดือนเพราะทุกฝ่ายเห็นพ้องกันอยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถทำได้ทันทีไม่มีใครโต้แย้งและเป็นการบรรเทาความเสียหายที่กำลังเกิดขึ้นจากความล่าช้าในการแจกคูปองส่วนลดทีวีดิจิทัลที่ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลไม่มีผู้ลงโฆษณา
ส่วนข้อขัดแย้งที่ยังไม่เห็นด้วยกันให้มีการจัดทำประชาพิจารณ์ใน 2-3 ประเด็น เช่น มูลค่าคูปองที่เหมาะสม , การแลกซื้อกล่องทีวีดาวเทียม , การแลกซื้อกล่องเคเบิล , กระบวนการแจกคูปองหรือกล่อง ฯลฯ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขออภัยที่จำเป็นต้องรื้อฟื้นเรื่องราวความขัดแย้งในอดีตร่วม 10 ปีมาแล้ว ในการเสนอชื่อสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ฯ(กสช.)ในอดีตที่มีการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มทุนสื่อ,กองทัพและนักวิชาการสื่อกับองค์กรพัฒนาเอกชน การดึงดันไม่ยอมรับฟังเสียงขององค์กรพัฒนาเอกชนและนักวิชาการสื่อที่ทักท้วงเรื่องกระบวนการสรรหาและเสนอชื่อบุคคลให้เข้ามาเป็นกสช.ที่มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง จนกระทั่งนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองแล้วทำให้การสรรหาเป็นโมฆะไป จนทำให้การจัดตั้งองค์กรอิสระกสช.ล่าช้าไปไม่เกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2540
หากสมาพันธ์ฯยังดึงดันและไม่ฟังเสียงทักท้วงต่างๆ ของกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีผลประโยชน์ได้เสียโดยตรงจากการประมูลทีวีดิจิทัล ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งนี้จะบานปลายจะซ้ำรอยอย่างแน่นอนคือกสทช.และกปทส.จะกลายเป็นจำเลยในศาลปกครองจากการฟ้องร้องของกลุ่มผู้บริโภค,กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ต้องการขอใบอนุญาตทีวีชุมชน ฯลฯ
รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลอีกหลายรายที่ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยว่าไม่เห็นด้วยกับสมาพันธ์ฯที่รวบรัดแบบมัดมือชกว่าทุกช่องเห็นด้วยกับการแลกกล่องทีวีดาวเทียม เพราะผู้ประกอบการเหล่านั้นอยู่ในภาวะ"จำยอม"จำเป็นเร่งด่วนคือแจกคูปองอะไรออกมาก่อนก็ได้ มิเช่นนั้นจะไม่มีคนดูและบริษัทโฆษณาใช้เป็นข้ออ้างยังไม่ลงโฆษณาก็จะล้มหายตายกันไปก่อน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าหากกระบวนการแจกคูปองล่าช้าออกไปอีกจากกำหนดเดิมในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่เลยมาแล้ว คงจะมีทีวีดิจิทัลบางรายจำเป็นต้องยื่นฟ้องกสทช.ที่ล้มเหลวในการบริหารงาน จนทำให้เกิดผลเสียหายกับธุรกิจ ขอให้ศาลบังคับกสทช.เยียวยาให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
ยังไม่รวมไปถึงอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ฟ้องกสทช.ต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ขอให้เพิกถอนมติกสท.เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2557 ที่ให้ความเป็นโทรทัศน์บริการทั่วไปของช่อง 3 สิ้นสุดลง หลังจากการออกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 30 วันที่มีผลให้โครงข่ายโทรทัศน์บอกรับสมาชิกและโครงข่ายจานดาวเทียมไม่สามารถนำช่อง 3 ในระบบอนาล็อกไปออกอากาศได้เช่นเดิมเพราะช่อง 3 ไม่มีใบอนุญาตทีวีดาวเทียมและทีวีแบบบอกรับสมาชิกที่มีโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมง
หากอ่านคำฟ้องของช่อง 3 อย่างละเอียดแล้วค่อนข้างชัดเจนว่าช่อง 3 มีโอกาสชนะกสทช.ค่อนข้างมาก นั่นหมายถึงว่าศาลปกครองจะคุ้มครองสิทธิ์ของช่อง 3 ต่อไปจนครบอายุสัมปทานในปี 2563 หรือจนกว่าสัญญาณสัมปทานจะสิ้นสุดตามความต้องการของบริษัทอสมท.จำกัด(มหาชน) การเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลจะล่าช้าออกไปอีก ผลเสียหายจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 24 ช่องโดยตรง
ยิ่งถ้าหากกสทช.ยังดึงดันแล้วไปเชื่อสมาพันธ์ฯว่าไม่มีข้อขัดแย้งในการแจกคูปองแลกได้ทุกกล่องทุกประเภท กลุ่มผู้บริโภคคงจะตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลฟ้องกสทช.ให้ระงับการแจกคูปองเพราะจะส่งผลให้ชุมชนที่ต้องการขอใบอนุญาตทีวีชุมชนได้รับความเสียหายมีคนดูได้จากกล่องภาคพื้นดินน้อยลงมาก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้บริโภคส่วนใหญ่คงจะนำคูปองไปแลกซื้อกล่องทีวีดาวเทียมที่สามารถดูจำนวนช่องโทรทัศน์ได้มากกว่า 200 ช่องที่รวมทีวีดิจิทัล36 ช่องแบบ Must Carry ที่รวมแล้วมากกว่ากล่องทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน 48 ช่องและอาจจะเป็นไปได้ว่าผู้บริโภคที่ติดตั้งจานดาวเทียมอยู่แล้วจะนำคูปองไปแลกกล่องมาใหม่ แล้วโยนกล่องเก่าทิ้งไปเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะทุกรายจะต้องทำแคมเปญให้นำคูปองมาแลกกล่องใหม่ สุดท้าย"จำนวนคนดู"ทีวีดิจิทัลผ่านระบบ Must Carry บนจานดาวเทียมคงไม่ได้เพิ่มเลย
มองในเชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจมีความชัดเจนว่าคูปองส่วนลดแลกซื้อกล่องดาวเทียมจะเอื้อประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจแพลทฟอร์มโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีอยู่ไม่ถึง 10 ราย ซึ่งจะเป็นการลดภาระลงทุนผลิตกล่องล่วงหน้าที่เดิมไม่รู้ความต้องการแท้จริง เสมือนกสทช.ออกคูปองแจกกล่องรับให้ฟรีๆ ในขณะที่จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายกำลังเร่งทำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกรณีกสท.อ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติอนุญาตให้โทรทัศน์ดาวเทียมออกอากาศได้เฉพาะโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
ประเภทใบอนุญาตโทรทัศน์ดาวเทียมแบบไม่บอกรับสมาชิกหรือ Free to Air จะไม่มีอีกต่อไป เพราะกำลังถูกบังคับให้แปลงเป็นโทรทัศน์ดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกเพื่อแลกกับการได้รับอนุญาตให้ออกอากาศใหม่
ต่อไปผู้ถือใบอนุญาตโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกทั้งแบบคิดเงินจริงๆ หรือคิดเงิน"ศูนย์"บาท"จะทรงอิทธิพลขึ้นมาก ช่องรายการโทรทัศน์รายเล็กๆ ที่เป็น Content จะกลายเป็นเบี้ยล่างของแพลทฟอร์มเรียก"ค่าแรกเข้า"และ"ค่าเช่ารายเดือน"ในการคงอยู่บนโครงข่ายแพลทฟอร์มนั้นๆ
ทางออกของผู้ประกอบการโทรทัศน์ดาวเทียมที่ไม่ต้องเป็นแบบบอกรับสมาชิกแล้วเข้ารหัสก็จะหาหนทางเอาตัวรอด ด้วยการหลบหลีกไปอัพลิงก์บนดาวเทียมต่างประเทศ แล้วกล่องรับทีวีดาวเทียมแบบไม่เข้ารหัสจะกลับมาระบาดอีก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเปิดโอกาสให้คูปองส่วนลด 25 ล้านใบหรือ 1 ใบต่อครัวเรือน 25 ล้านครัวเรือนมีโอกาสนำไปแลกซื้อกล่องรับสัญญาณดาวเทียมได้ด้วย นอกเหนือจากกล่องทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน
ย่อมจะกลายเป็นส่งเสริมให้ธุรกิจประเภทโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกแทบไม่ต้องลงทุนแพลทฟอร์มเองเลย ส่วนผู้ลงทุนโครงข่ายทีวีดิจิทัลอาจจะเสียหายด้วยเมื่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลอยู่ไม่ได้ไม่มีเงินไปชำระค่าโครงข่าย
เปรียบเสมือนกสทช.เปิดประมูลสร้างศูนย์การค้าระดับพรีเมี่ยมเสร็จแล้ว ผู้ประมูล 17 บริษัท 24 ช่องได้ยอมเสียเงินประมูลกว่า 50,000 ล้านบาทเพื่อจับจองทำเลทองในศูนย์การค้าระดับพรีเมี่ยม แต่เมื่อประมูลเสร็จยังไม่ทันก่อสร้างหรือประชาสัมพันธ์ให้คนมาเข้าศูนย์การค้าเลย กสทช.เปิดพื้นที่ข้างๆ ศูนย์การค้าให้ร้านค้าย่อยๆ มาจับจองพื้นที่แบบไม่จำกัดจำนวน ร้านค้าเหล่านี้ไม่ต้องลงทุนประมูลหรือจ่ายค่าทำเลเลยทำให้สามารถขายสินค้าหรือโฆษณาในราคาถูกกว่าทีวีดิจิทัลที่ลงทุนประมูล แล้วอย่างนี้จะมีความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้อย่างไร
ขอเสนอทางออก"แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง"และ"ลดความเสี่ยง"กสทช.ถูกฟ้องร้องจนทำให้ทุกฝ่ายเสียหาย
อยากให้กสทช.ชุดใหญ่ที่จะมีการประชุมวันที่ 13 มิ.ย.ลดข้อขัดแย้ง ด้วยการอนุมัติหลักเกณฑ์คูปองส่วนลดเฉพาะ 2 ประเภทแรกคือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน( DVB-T2 )กับเสาอากาศและโทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์ติดตั้งมาในเครื่อง( iDTV )ที่ทุกฝ่ายเห็นด้วยอยู่แล้ว แล้วเปิดกระบวนการประชาพิจารณ์อย่างเร่งด่วนเฉพาะประเด็นข้อขัดแย้งคือกล่องทีวีดาวเทียมและเคเบิลว่าเหมาะสมหรือไม่
ที่มา :
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/re-think/20140608/587044/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%87.html
แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง เสี่ยงถูกฟ้อง"ดองเค็มคูปอง" (คูปองทีวีดิจิตอล)
ในที่สุดคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)
ได้อนุมัติมูลค่า"คูปองส่วนลด" สำหรับแลกซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลและเสาอากาศในมูลค่า 1,000 บาทต่อครัวเรือน จำนวน 25 ล้านคูปองคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท ท่ามกลางข้อขัดแย้งที่ยังไม่ได้เห็นพ้องกันทุกฝ่ายที่ล้วนแต่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ผมขอเล่าบรรยากาศก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯหรือกทปส.เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 24 ช่อง ยังไม่ได้เห็นพ้องเป็นเสียงเดียวทุกช่องว่า"เห็นด้วย"กับการกำหนดให้คูปองส่วนลดนำไปแลกซื้ออุปกรณ์ได้ทั้ง 4 ประเภท คือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน( DVB-T2 ), โทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์ติดตั้งภายในเครื่อง( i-DTV ) , กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม( DVB-S2 ) และกล่องรับสัญญาณเคเเบิลทีวี( DVB-C )
เพราะคุณจำนรรค์ ศิริตัน นายกฯสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ฯได้นำสมาชิกสมาพันธ์และสมาชิกชมรมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้พูดสรุปในทำนอง 24 ช่องทีวีดิจิทัลเห็นพ้องกันแล้ว ระหว่างการเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ที่เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนด้วย
ในขณะที่นอกห้องประชุมยังมีคุณสารี อ๋องสมหวัง มูลนิธิผู้บริโภค รอเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.อ.ธเรศเช่นเดียวกัน เพื่อคัดค้านการนำคูปองส่วนลดไปแลกอุปกรณ์ได้ทั้ง 4 ประเภท กลุ่มผู้บริโภคเห็นว่าควรให้แลกได้เฉพาะกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินและยังเสนอต่อไปว่าอยากให้แจกกล่องรับสัญญาณแทนการแจกคูปองให้ไปถึงมือผู้บริโภคเลย
ผมในฐานะผู้บริหารช่อง Nation TV และตัวแทนช่อง NOW ที่เป็น 2 ช่องที่ประมูลทีวีดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน จึงขอสงวนสิทธิ์แสดงความคิดเห็นต่อหน้าพล.อ.อ.ธเรศเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่ได้เห็นด้วยกับการนำคูปองส่วนลดไปแจกกับกล่องทีวีดาวเทียมด้วย แล้วเสนอวิธีลดข้อขัดแย้งที่กำลังจะบานปลายไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองที่อาจจะทำให้การแจกคูปองทีวีดิจิทัลล่าช้าออกไปอีกนาน
อยากจะให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯลองพิจารณาความเร่งด่วนในลำดับแรกเพื่อลดข้อขัดแย้ง-ลดความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง แจก"คูปองส่วนลด"สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินไปก่อนสักประมาณ 6 เดือนเพราะทุกฝ่ายเห็นพ้องกันอยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถทำได้ทันทีไม่มีใครโต้แย้งและเป็นการบรรเทาความเสียหายที่กำลังเกิดขึ้นจากความล่าช้าในการแจกคูปองส่วนลดทีวีดิจิทัลที่ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลไม่มีผู้ลงโฆษณา
ส่วนข้อขัดแย้งที่ยังไม่เห็นด้วยกันให้มีการจัดทำประชาพิจารณ์ใน 2-3 ประเด็น เช่น มูลค่าคูปองที่เหมาะสม , การแลกซื้อกล่องทีวีดาวเทียม , การแลกซื้อกล่องเคเบิล , กระบวนการแจกคูปองหรือกล่อง ฯลฯ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขออภัยที่จำเป็นต้องรื้อฟื้นเรื่องราวความขัดแย้งในอดีตร่วม 10 ปีมาแล้ว ในการเสนอชื่อสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ฯ(กสช.)ในอดีตที่มีการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มทุนสื่อ,กองทัพและนักวิชาการสื่อกับองค์กรพัฒนาเอกชน การดึงดันไม่ยอมรับฟังเสียงขององค์กรพัฒนาเอกชนและนักวิชาการสื่อที่ทักท้วงเรื่องกระบวนการสรรหาและเสนอชื่อบุคคลให้เข้ามาเป็นกสช.ที่มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง จนกระทั่งนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองแล้วทำให้การสรรหาเป็นโมฆะไป จนทำให้การจัดตั้งองค์กรอิสระกสช.ล่าช้าไปไม่เกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2540
หากสมาพันธ์ฯยังดึงดันและไม่ฟังเสียงทักท้วงต่างๆ ของกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีผลประโยชน์ได้เสียโดยตรงจากการประมูลทีวีดิจิทัล ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งนี้จะบานปลายจะซ้ำรอยอย่างแน่นอนคือกสทช.และกปทส.จะกลายเป็นจำเลยในศาลปกครองจากการฟ้องร้องของกลุ่มผู้บริโภค,กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ต้องการขอใบอนุญาตทีวีชุมชน ฯลฯ
รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลอีกหลายรายที่ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยว่าไม่เห็นด้วยกับสมาพันธ์ฯที่รวบรัดแบบมัดมือชกว่าทุกช่องเห็นด้วยกับการแลกกล่องทีวีดาวเทียม เพราะผู้ประกอบการเหล่านั้นอยู่ในภาวะ"จำยอม"จำเป็นเร่งด่วนคือแจกคูปองอะไรออกมาก่อนก็ได้ มิเช่นนั้นจะไม่มีคนดูและบริษัทโฆษณาใช้เป็นข้ออ้างยังไม่ลงโฆษณาก็จะล้มหายตายกันไปก่อน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าหากกระบวนการแจกคูปองล่าช้าออกไปอีกจากกำหนดเดิมในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่เลยมาแล้ว คงจะมีทีวีดิจิทัลบางรายจำเป็นต้องยื่นฟ้องกสทช.ที่ล้มเหลวในการบริหารงาน จนทำให้เกิดผลเสียหายกับธุรกิจ ขอให้ศาลบังคับกสทช.เยียวยาให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
ยังไม่รวมไปถึงอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ฟ้องกสทช.ต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ขอให้เพิกถอนมติกสท.เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2557 ที่ให้ความเป็นโทรทัศน์บริการทั่วไปของช่อง 3 สิ้นสุดลง หลังจากการออกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 30 วันที่มีผลให้โครงข่ายโทรทัศน์บอกรับสมาชิกและโครงข่ายจานดาวเทียมไม่สามารถนำช่อง 3 ในระบบอนาล็อกไปออกอากาศได้เช่นเดิมเพราะช่อง 3 ไม่มีใบอนุญาตทีวีดาวเทียมและทีวีแบบบอกรับสมาชิกที่มีโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมง
หากอ่านคำฟ้องของช่อง 3 อย่างละเอียดแล้วค่อนข้างชัดเจนว่าช่อง 3 มีโอกาสชนะกสทช.ค่อนข้างมาก นั่นหมายถึงว่าศาลปกครองจะคุ้มครองสิทธิ์ของช่อง 3 ต่อไปจนครบอายุสัมปทานในปี 2563 หรือจนกว่าสัญญาณสัมปทานจะสิ้นสุดตามความต้องการของบริษัทอสมท.จำกัด(มหาชน) การเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลจะล่าช้าออกไปอีก ผลเสียหายจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 24 ช่องโดยตรง
ยิ่งถ้าหากกสทช.ยังดึงดันแล้วไปเชื่อสมาพันธ์ฯว่าไม่มีข้อขัดแย้งในการแจกคูปองแลกได้ทุกกล่องทุกประเภท กลุ่มผู้บริโภคคงจะตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลฟ้องกสทช.ให้ระงับการแจกคูปองเพราะจะส่งผลให้ชุมชนที่ต้องการขอใบอนุญาตทีวีชุมชนได้รับความเสียหายมีคนดูได้จากกล่องภาคพื้นดินน้อยลงมาก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้บริโภคส่วนใหญ่คงจะนำคูปองไปแลกซื้อกล่องทีวีดาวเทียมที่สามารถดูจำนวนช่องโทรทัศน์ได้มากกว่า 200 ช่องที่รวมทีวีดิจิทัล36 ช่องแบบ Must Carry ที่รวมแล้วมากกว่ากล่องทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน 48 ช่องและอาจจะเป็นไปได้ว่าผู้บริโภคที่ติดตั้งจานดาวเทียมอยู่แล้วจะนำคูปองไปแลกกล่องมาใหม่ แล้วโยนกล่องเก่าทิ้งไปเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะทุกรายจะต้องทำแคมเปญให้นำคูปองมาแลกกล่องใหม่ สุดท้าย"จำนวนคนดู"ทีวีดิจิทัลผ่านระบบ Must Carry บนจานดาวเทียมคงไม่ได้เพิ่มเลย
มองในเชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจมีความชัดเจนว่าคูปองส่วนลดแลกซื้อกล่องดาวเทียมจะเอื้อประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจแพลทฟอร์มโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีอยู่ไม่ถึง 10 ราย ซึ่งจะเป็นการลดภาระลงทุนผลิตกล่องล่วงหน้าที่เดิมไม่รู้ความต้องการแท้จริง เสมือนกสทช.ออกคูปองแจกกล่องรับให้ฟรีๆ ในขณะที่จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายกำลังเร่งทำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกรณีกสท.อ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติอนุญาตให้โทรทัศน์ดาวเทียมออกอากาศได้เฉพาะโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
ประเภทใบอนุญาตโทรทัศน์ดาวเทียมแบบไม่บอกรับสมาชิกหรือ Free to Air จะไม่มีอีกต่อไป เพราะกำลังถูกบังคับให้แปลงเป็นโทรทัศน์ดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกเพื่อแลกกับการได้รับอนุญาตให้ออกอากาศใหม่
ต่อไปผู้ถือใบอนุญาตโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกทั้งแบบคิดเงินจริงๆ หรือคิดเงิน"ศูนย์"บาท"จะทรงอิทธิพลขึ้นมาก ช่องรายการโทรทัศน์รายเล็กๆ ที่เป็น Content จะกลายเป็นเบี้ยล่างของแพลทฟอร์มเรียก"ค่าแรกเข้า"และ"ค่าเช่ารายเดือน"ในการคงอยู่บนโครงข่ายแพลทฟอร์มนั้นๆ
ทางออกของผู้ประกอบการโทรทัศน์ดาวเทียมที่ไม่ต้องเป็นแบบบอกรับสมาชิกแล้วเข้ารหัสก็จะหาหนทางเอาตัวรอด ด้วยการหลบหลีกไปอัพลิงก์บนดาวเทียมต่างประเทศ แล้วกล่องรับทีวีดาวเทียมแบบไม่เข้ารหัสจะกลับมาระบาดอีก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเปิดโอกาสให้คูปองส่วนลด 25 ล้านใบหรือ 1 ใบต่อครัวเรือน 25 ล้านครัวเรือนมีโอกาสนำไปแลกซื้อกล่องรับสัญญาณดาวเทียมได้ด้วย นอกเหนือจากกล่องทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน ย่อมจะกลายเป็นส่งเสริมให้ธุรกิจประเภทโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกแทบไม่ต้องลงทุนแพลทฟอร์มเองเลย ส่วนผู้ลงทุนโครงข่ายทีวีดิจิทัลอาจจะเสียหายด้วยเมื่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลอยู่ไม่ได้ไม่มีเงินไปชำระค่าโครงข่าย
เปรียบเสมือนกสทช.เปิดประมูลสร้างศูนย์การค้าระดับพรีเมี่ยมเสร็จแล้ว ผู้ประมูล 17 บริษัท 24 ช่องได้ยอมเสียเงินประมูลกว่า 50,000 ล้านบาทเพื่อจับจองทำเลทองในศูนย์การค้าระดับพรีเมี่ยม แต่เมื่อประมูลเสร็จยังไม่ทันก่อสร้างหรือประชาสัมพันธ์ให้คนมาเข้าศูนย์การค้าเลย กสทช.เปิดพื้นที่ข้างๆ ศูนย์การค้าให้ร้านค้าย่อยๆ มาจับจองพื้นที่แบบไม่จำกัดจำนวน ร้านค้าเหล่านี้ไม่ต้องลงทุนประมูลหรือจ่ายค่าทำเลเลยทำให้สามารถขายสินค้าหรือโฆษณาในราคาถูกกว่าทีวีดิจิทัลที่ลงทุนประมูล แล้วอย่างนี้จะมีความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้อย่างไร
ขอเสนอทางออก"แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง"และ"ลดความเสี่ยง"กสทช.ถูกฟ้องร้องจนทำให้ทุกฝ่ายเสียหาย อยากให้กสทช.ชุดใหญ่ที่จะมีการประชุมวันที่ 13 มิ.ย.ลดข้อขัดแย้ง ด้วยการอนุมัติหลักเกณฑ์คูปองส่วนลดเฉพาะ 2 ประเภทแรกคือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน( DVB-T2 )กับเสาอากาศและโทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์ติดตั้งมาในเครื่อง( iDTV )ที่ทุกฝ่ายเห็นด้วยอยู่แล้ว แล้วเปิดกระบวนการประชาพิจารณ์อย่างเร่งด่วนเฉพาะประเด็นข้อขัดแย้งคือกล่องทีวีดาวเทียมและเคเบิลว่าเหมาะสมหรือไม่
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/re-think/20140608/587044/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%87.html