ที่ผ่านมา ได้รับบทเรียนกันมาเยอะ
ซึ่งคำตอบก็เห็นกันอยู่ว่า มันไม่มี
อะไรดีขึ้น ประเทศชาติ ไม่ได้อะไร
มีแต่ความแตกแยก ไม่รู้จบ
ไม่มีใครมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้
สุดท้าย ทุกอย่างก็จบลงด้วยการเจรจา
ประนีประนอม ซึ่งยังไงเสีย มันก็ต้องมา
ลงตัวที่จุดนี้
ดังนั้น ก้าวต่อไป ก็หวังว่า ทุกฝ่าย จะ
หาโอกาสเริ่มต้นเพื่อเดินทางไปตาม
ถนนสายเดียวกัน ไม่แยกกันเดินเหมือน
อดีตที่ผ่านมา
สำหรับผม ผมไม่เห้นด้วยกับ การทำงาน
ปปช ในช่วงนี้ ที่พยายามช่วงชิงโอกาส
ที่จะทำลายศัตรูของตัวเอง ทั้งที่ บรรญากาศ
ณ ตอนนี้ ทุกฝ่ายต่างพยายามหันหน้าเข้าหากัน
ทางที่ดี ปปช ควรหยุดทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อ
ให้การปฎิรูปได้เดินหน้ากันต่อไป ยิ่งแสงดออกถึง
ความแข้งกร้าว ก็ยิ่งทำลายความเชื่อมั่นที่ประชาชน
กำลังสนใจและเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับการปรองดอง
และสานความแตกแยกของสังคม
หรือ ปปช คิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำ นี่คิอการสร้างความสามัคคี
ให้ประเทศชาติ อีกทางหนี่ง ฝากให้ไปคิดด้วยครับ ว่า
สิ่งที่ตัวเองทำ มันจะไปส่งเสริมการทำงานของ คสช หรือ
จะฉุดรั้งเจตนาที่ดี ของ คสช กันแน่
คงเป็นเพราะเราได้บทเรียนจากอดีตมามากมาย ทั้งเรื่อง ผกค เรื่องแบ่งแยกดินแดน จึงทำให้การเดินทางต่อไป เดินอยู่บนสายกลาง
ซึ่งคำตอบก็เห็นกันอยู่ว่า มันไม่มี
อะไรดีขึ้น ประเทศชาติ ไม่ได้อะไร
มีแต่ความแตกแยก ไม่รู้จบ
ไม่มีใครมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้
สุดท้าย ทุกอย่างก็จบลงด้วยการเจรจา
ประนีประนอม ซึ่งยังไงเสีย มันก็ต้องมา
ลงตัวที่จุดนี้
ดังนั้น ก้าวต่อไป ก็หวังว่า ทุกฝ่าย จะ
หาโอกาสเริ่มต้นเพื่อเดินทางไปตาม
ถนนสายเดียวกัน ไม่แยกกันเดินเหมือน
อดีตที่ผ่านมา
สำหรับผม ผมไม่เห้นด้วยกับ การทำงาน
ปปช ในช่วงนี้ ที่พยายามช่วงชิงโอกาส
ที่จะทำลายศัตรูของตัวเอง ทั้งที่ บรรญากาศ
ณ ตอนนี้ ทุกฝ่ายต่างพยายามหันหน้าเข้าหากัน
ทางที่ดี ปปช ควรหยุดทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อ
ให้การปฎิรูปได้เดินหน้ากันต่อไป ยิ่งแสงดออกถึง
ความแข้งกร้าว ก็ยิ่งทำลายความเชื่อมั่นที่ประชาชน
กำลังสนใจและเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับการปรองดอง
และสานความแตกแยกของสังคม
หรือ ปปช คิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำ นี่คิอการสร้างความสามัคคี
ให้ประเทศชาติ อีกทางหนี่ง ฝากให้ไปคิดด้วยครับ ว่า
สิ่งที่ตัวเองทำ มันจะไปส่งเสริมการทำงานของ คสช หรือ
จะฉุดรั้งเจตนาที่ดี ของ คสช กันแน่