ผมมีครอบครัว และกำลังจะมีลูกที่น่ารักอยู่ในท้องภรรยาได้ประมาณ 6 เดือน
ภรรยาผมมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก ชอบดูหมอ
จนได้รู้จัก กับพระ รูปหนึ่ง ซึ่งผม ไม่อยากจะเรียกว่า พระ เดี๋ยวจะมีเหตุผลในตอนท้ายๆๆครับ
กิจการของผม เพิ่งเปิด ดำเนินการได้ประมาณ 8 เดือน กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ order กับ บริษัทที่ทำ Contact กันอยู่
แฟนผมเป็นเลขา ของบริษัทที่ทำ Contact ครับ เลยมาเปิดบริษัทลูกรับงานต่อ
จึง มีแนวคิดเสนอ นาย(ชาวต่างชาติ) ให้ทำการสร้าง ศาลพระภูมิ ขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ พนง.
ซึ่งผมก็รู้สึก เฉยๆ นะครับ อันนี้ตามความเชื่อ ผมไม่ขัด ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไป
และภรรยาผมก็ ส่งงานให้ผม คือ มีหน้าที่รับพระรูปนี่ ไปที่ บริษัท ระยะทางขับรถประมาณ 3 ชม.
มี ลูกน้องผม และ ผม และ พระ และ น่าจะเป็น ลูกศิษย์พระรูปนี้อีก 1 คน รวมเป็น 4 คน
ระหว่างทางขับรถ ก็มีบทสนทนากันในรถ พูดคุยกันทั่วไป
ผมก็ชวนคุยโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ต่อไปนี้ คือ บทสนทนาระหว่างผมกับพระ
- หลวงพ่อ บวชมากี่พรรษาแล้วครับ
* 27 พรรษาแล้วโยม แล้วตอนนี้หลวงพ่ออายุเท่าไหร่แล้วครับ 55 แล้วจ้า
แล้วระหว่างทางขับรถ ลูกศิษย์พระ ได้พลั้งปากพูดชื่อ ของเด็กคนหนึ่ง
ผมเลยกระซิบถามเบาๆว่า(ผมนั่งเบาะหลังคู่กับลูกศิษย์) เด็กคนนี้ คือ ใคร ? ลูกศิษย์พระก็เลยตอบว่า ลูกชายหลวงพ่อ
อายุเท่าไหร่แล้วครับลุง 5 ขวบ ผมเลยถามต่อว่า ลูกจริงๆๆเหรอ ลุงตอบว่า ใช่
นี่คือ 1 ประเด็นที่ผม เริ่มสงสัย 27 พรรษา กับ เด็ก 5 ขวบ
-ระหว่างทาง ผมได้ถามต่ออีก หลวงพ่อดูหมอ ดูอย่างไรครับ (นึกว่าดูแบบ ลายมือ ว/ด/ป เกิด)
*หลวงพ่อใช้วิธีดูหน้าเอาก็รู้แล้ว ป๊าดๆๆๆๆ ผม งง เลยครับ(แต่ก็เก็บความรู้สึกไว้ แต่สมองส่วนค้นหาและจับผิดเริ่มทำงาน)
-พอมาถึง บริษัท เริ่มทำพิธีกรรม ผมก็เห็นคนมาดูหมอ พนง. แม่บ้าน แม่ครัว มาให้ดูหมอกันเต็มเลย
ผมก็เข้าไป ฟัง อยากรู้ว่า ทายอะไรกันบ้าง มีสิ่งหนึ่งที่ผมจับผิดได้
*หลวงพ่อถามว่า ที่บ้านอยู่ 4 คนใช่มั้ย
-พนง.สาว ตอบว่า ไม่ใช่คะ อยู่กัน 3 คน (หลวงพ่อทายผิด เงิบ)
*หลวงพ่อถามต่ออีกว่า ดูดีๆๆ ไม่ใช่ 3 นะ มี 4 คน คือ ลูกกรอก ไง (แหม เอาลูกรอกมาเติม ทายกี่ครั้งก็ถูก เวง)
ซึ่ง ทุกๆคนที่มาให้ดูหมอ จะทายผิดและให้ลูกกรอกมาเติมตลอด
-พอพิธีกรรมเสร็จ หลวงพ่อเอาใบเสร็จที่เตรียมมาจากวัด ดูจากสิ่งของที่เตรียมมา ไม่เกิน 3 พัน
เรียกเก็บบริษัท 11000 บาท และบริษัทใส่ซองให้อีก 5000 (อืมๆๆไม่ใช่เงินผม ผมไม่สนใจ แต่ผมคิดว่า คงเหลือเยอะ)
ระหว่างทางกลับวัด ไปส่ง หลวงพ่อ จอดติดไฟแดงอยู่ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพิการ ตัวเตี้ย เดินข้ามทางม้าลาย
หลวงพ่อ ชี้ให้ทุกคนในรถดูผู้หญิงคนนั้น พร้อมกับหัวเราะว่า จะหากางเกงที่ไหนใส่เนี่ย เตี้ยซะขนาดนี้ ทุกคนในรถ ขำ กันหมด
ยกเว้นผมคนเดียว ที่ไม่ขำ และพูดออกมาว่า ผมกำลังมีน้อง ไม่ออก คห.ดีกว่า (แต่ในใจเริ่มอยากจะสวนคำพูดแรงๆออกไปแล้ว)
ขับรถไปได้ ครึ่งทาง ผมกับลูกน้อง อยากกินทุเรียน (เวลาประมาณบ่าย2ละ)
เลยลงไปซื้อทุเรียน หลวงพ่อลงตามมา เดี๋ยวซื้อไปกินพรุ่งนี้บ้างดีกว่า
ผมก็ไม่สนใจ พอจะจ่ายเงิน เรียกชื่อผม จ่ายให้หน่อย ป๊าด (คิดในใจ พระส้นทรีนอะไรว่ะ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ขอยังกับขอทานเลย เริ่มเดือด)
ก่อนจะถึงวัด ผมเลยพูดไปหลายคำเลยประมาณว่า
*ผมเป็นคนไม่ขวางทางใคร 18มงกุฎเจอกัน บางครั้งเค้าก็ต้องหลบให้กัน มันเป็นจรรยาบรรณของเซียน*
เรื่องผี ไม่ต้องมาคุยกับผม ผมไม่เคยกลัว และอยากเจอมากๆๆ
หลวงพ่อว่า บริษัทผมจะดีขึ้น ร่ำรวย มีเงินให้ผมยืมซัก 1 แสนไหมครับ ไหนๆๆก็รวยอยู่แล้ว ผมคืน หลวงพ่อแน่นอน
ในความคิดของผม ผมว่า หลวงพ่อคงไม่พอใจในท่าทีของผมแน่นอน
วันนี้ ได้คุยกับแฟน ก็คุยกัน ปกติ
พอเลิกงานระหว่างคุยกันมีสายเรียกซ้อน แฟนเลยรับเพราะเป็นสายจากหลวงพ่อที่เค้านับถือ ก็วางสายไป ผมก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้เค้าฟังเรื่องหลวงพ่อ
พอกลางคืน ผมโทรไป แล้วเธอร้องให้ แต่ไม่พูดอะไร
ผมคิดในใจว่า หลวงพ่อมาวุ่นวายกับชีวิตผมแล้ว คงพูดอะไร ให้แฟนผมเข้าใจผิดในตัวผมแน่นอน
** แฟนผมเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้มาก ถ้าพระบอกให้เลิกกับผม ผมว่า เธอเชื่อพระแน่ๆๆ **
เพื่อนๆ ช่วยหาทางออกเรื่องนี้ ให้ผมทีครับ ผมเบื่อเต็มทน
แต่ถ้าแฟนผมจะเลิกกับผมเพราะเรื่องแบบนี้ ผมไม่โทษพระนะ ผมจะโทษแฟนผมมากกว่า ที่ เห็นคนอื่นดีกว่าผม
ผมเครียดครับ ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
+++ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ ฟังผมได้ระบาย+++
ความเชื่อเรื่องหมอดูกำลังจะทำลายชีวิตครอบครัวผม
ภรรยาผมมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก ชอบดูหมอ
จนได้รู้จัก กับพระ รูปหนึ่ง ซึ่งผม ไม่อยากจะเรียกว่า พระ เดี๋ยวจะมีเหตุผลในตอนท้ายๆๆครับ
กิจการของผม เพิ่งเปิด ดำเนินการได้ประมาณ 8 เดือน กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ order กับ บริษัทที่ทำ Contact กันอยู่
แฟนผมเป็นเลขา ของบริษัทที่ทำ Contact ครับ เลยมาเปิดบริษัทลูกรับงานต่อ
จึง มีแนวคิดเสนอ นาย(ชาวต่างชาติ) ให้ทำการสร้าง ศาลพระภูมิ ขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ พนง.
ซึ่งผมก็รู้สึก เฉยๆ นะครับ อันนี้ตามความเชื่อ ผมไม่ขัด ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไป
และภรรยาผมก็ ส่งงานให้ผม คือ มีหน้าที่รับพระรูปนี่ ไปที่ บริษัท ระยะทางขับรถประมาณ 3 ชม.
มี ลูกน้องผม และ ผม และ พระ และ น่าจะเป็น ลูกศิษย์พระรูปนี้อีก 1 คน รวมเป็น 4 คน
ระหว่างทางขับรถ ก็มีบทสนทนากันในรถ พูดคุยกันทั่วไป
ผมก็ชวนคุยโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ต่อไปนี้ คือ บทสนทนาระหว่างผมกับพระ
- หลวงพ่อ บวชมากี่พรรษาแล้วครับ
* 27 พรรษาแล้วโยม แล้วตอนนี้หลวงพ่ออายุเท่าไหร่แล้วครับ 55 แล้วจ้า
แล้วระหว่างทางขับรถ ลูกศิษย์พระ ได้พลั้งปากพูดชื่อ ของเด็กคนหนึ่ง
ผมเลยกระซิบถามเบาๆว่า(ผมนั่งเบาะหลังคู่กับลูกศิษย์) เด็กคนนี้ คือ ใคร ? ลูกศิษย์พระก็เลยตอบว่า ลูกชายหลวงพ่อ
อายุเท่าไหร่แล้วครับลุง 5 ขวบ ผมเลยถามต่อว่า ลูกจริงๆๆเหรอ ลุงตอบว่า ใช่
นี่คือ 1 ประเด็นที่ผม เริ่มสงสัย 27 พรรษา กับ เด็ก 5 ขวบ
-ระหว่างทาง ผมได้ถามต่ออีก หลวงพ่อดูหมอ ดูอย่างไรครับ (นึกว่าดูแบบ ลายมือ ว/ด/ป เกิด)
*หลวงพ่อใช้วิธีดูหน้าเอาก็รู้แล้ว ป๊าดๆๆๆๆ ผม งง เลยครับ(แต่ก็เก็บความรู้สึกไว้ แต่สมองส่วนค้นหาและจับผิดเริ่มทำงาน)
-พอมาถึง บริษัท เริ่มทำพิธีกรรม ผมก็เห็นคนมาดูหมอ พนง. แม่บ้าน แม่ครัว มาให้ดูหมอกันเต็มเลย
ผมก็เข้าไป ฟัง อยากรู้ว่า ทายอะไรกันบ้าง มีสิ่งหนึ่งที่ผมจับผิดได้
*หลวงพ่อถามว่า ที่บ้านอยู่ 4 คนใช่มั้ย
-พนง.สาว ตอบว่า ไม่ใช่คะ อยู่กัน 3 คน (หลวงพ่อทายผิด เงิบ)
*หลวงพ่อถามต่ออีกว่า ดูดีๆๆ ไม่ใช่ 3 นะ มี 4 คน คือ ลูกกรอก ไง (แหม เอาลูกรอกมาเติม ทายกี่ครั้งก็ถูก เวง)
ซึ่ง ทุกๆคนที่มาให้ดูหมอ จะทายผิดและให้ลูกกรอกมาเติมตลอด
-พอพิธีกรรมเสร็จ หลวงพ่อเอาใบเสร็จที่เตรียมมาจากวัด ดูจากสิ่งของที่เตรียมมา ไม่เกิน 3 พัน
เรียกเก็บบริษัท 11000 บาท และบริษัทใส่ซองให้อีก 5000 (อืมๆๆไม่ใช่เงินผม ผมไม่สนใจ แต่ผมคิดว่า คงเหลือเยอะ)
ระหว่างทางกลับวัด ไปส่ง หลวงพ่อ จอดติดไฟแดงอยู่ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพิการ ตัวเตี้ย เดินข้ามทางม้าลาย
หลวงพ่อ ชี้ให้ทุกคนในรถดูผู้หญิงคนนั้น พร้อมกับหัวเราะว่า จะหากางเกงที่ไหนใส่เนี่ย เตี้ยซะขนาดนี้ ทุกคนในรถ ขำ กันหมด
ยกเว้นผมคนเดียว ที่ไม่ขำ และพูดออกมาว่า ผมกำลังมีน้อง ไม่ออก คห.ดีกว่า (แต่ในใจเริ่มอยากจะสวนคำพูดแรงๆออกไปแล้ว)
ขับรถไปได้ ครึ่งทาง ผมกับลูกน้อง อยากกินทุเรียน (เวลาประมาณบ่าย2ละ)
เลยลงไปซื้อทุเรียน หลวงพ่อลงตามมา เดี๋ยวซื้อไปกินพรุ่งนี้บ้างดีกว่า
ผมก็ไม่สนใจ พอจะจ่ายเงิน เรียกชื่อผม จ่ายให้หน่อย ป๊าด (คิดในใจ พระส้นทรีนอะไรว่ะ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ขอยังกับขอทานเลย เริ่มเดือด)
ก่อนจะถึงวัด ผมเลยพูดไปหลายคำเลยประมาณว่า
*ผมเป็นคนไม่ขวางทางใคร 18มงกุฎเจอกัน บางครั้งเค้าก็ต้องหลบให้กัน มันเป็นจรรยาบรรณของเซียน*
เรื่องผี ไม่ต้องมาคุยกับผม ผมไม่เคยกลัว และอยากเจอมากๆๆ
หลวงพ่อว่า บริษัทผมจะดีขึ้น ร่ำรวย มีเงินให้ผมยืมซัก 1 แสนไหมครับ ไหนๆๆก็รวยอยู่แล้ว ผมคืน หลวงพ่อแน่นอน
ในความคิดของผม ผมว่า หลวงพ่อคงไม่พอใจในท่าทีของผมแน่นอน
วันนี้ ได้คุยกับแฟน ก็คุยกัน ปกติ
พอเลิกงานระหว่างคุยกันมีสายเรียกซ้อน แฟนเลยรับเพราะเป็นสายจากหลวงพ่อที่เค้านับถือ ก็วางสายไป ผมก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้เค้าฟังเรื่องหลวงพ่อ
พอกลางคืน ผมโทรไป แล้วเธอร้องให้ แต่ไม่พูดอะไร
ผมคิดในใจว่า หลวงพ่อมาวุ่นวายกับชีวิตผมแล้ว คงพูดอะไร ให้แฟนผมเข้าใจผิดในตัวผมแน่นอน
** แฟนผมเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้มาก ถ้าพระบอกให้เลิกกับผม ผมว่า เธอเชื่อพระแน่ๆๆ **
เพื่อนๆ ช่วยหาทางออกเรื่องนี้ ให้ผมทีครับ ผมเบื่อเต็มทน
แต่ถ้าแฟนผมจะเลิกกับผมเพราะเรื่องแบบนี้ ผมไม่โทษพระนะ ผมจะโทษแฟนผมมากกว่า ที่ เห็นคนอื่นดีกว่าผม
ผมเครียดครับ ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
+++ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ ฟังผมได้ระบาย+++