รถรุ่นปู่เที่ยวชายแดนพม่ากับรถรุ่นหลาน ( No club )

     สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆชาวพันทิปนะครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองของผมยังงัยก็ขอฟากเนื้อ ฟากตัวด้วยนะครับ พอดีมีโอกาศได้ออกทริปไปด่านเจดีย์สามองค์มาครับ เลยอยากบอกเล่าความรู้สึกกับการเดินทางครั้งนี้ ทริปนี้เป็นทริปที่ร่วมเรื่องราวทั้งสนุก ตื่นเต้น เหนื่อยแต่มันมาก มาฟากนะครับ ลองติดตามอ่านกันนะครับ
         ต้องขอกริ่นนำหน่อยนะครับความเป็นไปของการเดินทางทริปนี้ เริ่มจากวันหนึ่งเมื่อ4-5เดือนที่แล้วขณะอู้งานแอบเปิดเน็ตที่บริษัทดูทริปท่องเที่ยวแล้วไปเจอกลุ่มคนที่รักการท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ใช้มอไซค์ขี่ไปท่องเที่ยว ดูอยู่หลายวัน เกิดความชอบในคนกลุ่มนี้มากเลยแต่ยังไม่หลงรักนะ 555 เพราะของอย่างงี้จะให้มาหลงรักเลยไม่ได้ต้องขอสัมผัสกันก่อนให้มันถึงเนื้อถึงตัวกันหน่อย เพื่ออยากรู้ว่าคนกลุ่มนี้จะสามารถทำให้เราหลงรกได้ไหม เลยจัดการสมัครเป็นสมาชิก และขอลงชื่อออกทริปเสียเลย อยากรู้ว่าถ้าเอารถรุ่นปู่ไปออกทริปกับรุ่นหลาน กับคนรักการท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะได้ความรู้สึกไหนกลับมา
    และหลังจากสัมผัสคนกลุ่มนี้แล้วพวกคุณทำให้ผมหลงรักหัวปักหัวปรำเลย ถ้าคุณอ่านกระทู้นี้แล้วคุณจะเข้าใจผมว่าทำไมผมถึงหลงรัก  ไม่มีไรมากแค่อยากจะบอกว่า..........
                     ผมหลงรักพวกคุณเข้าแล้ว No club

     เริ่มต้นกันเลยล่ะกันนะครับ เริ่มจากลงชื่อก่อนเลยสมัครชื่อออกทริปครับ แอบหนักใจตั่งแต่ลงชื่อล่ะ เอ๊ะๆทำไมต้องลงรุ่นรถกันด้วย แต่ไหนๆก็ๆไหนๆล่ะ ลงไปก่อน (คิดในใจว่าจะมีใครรู้จักรุ่นนี้ไหมนะ)อาจมีบ้างคนอาจจะต้องค้นในอากู๋ เพราะมันนานมากๆล่ะคันนี้ 5555 เพื่อนๆพันทิปลองท้ายดูว่าผมคือคนไหน ???


     คงทายกันไม่ยากใช่ไมไหมครับ เพราะดูจากรายชื่อแล้วมีแต่รถยอดฮิตทั้งนั้น เอาล่ะเมื่อลงชื่อแล้วเราก็แอบเงียบในความมืดไว้ แล้วเราค่อยเปิดตัววันออกทริปเลย เอาว่ะตื่นเต้นๆ ก่อนวันเดินทางก็ได้มีการเตรียมรถเองคับ ก่อนไปก็มีเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เช็ตเบรค ตั้งโซ่ เช็คยาง ตรวจคันน็อตตามจุด เราก็คิดว่ารถเราพร้อมแล้วนะเตรียมตัวลุยพม่าได้ล่ะ

     คืนก่อนวันเดินทางเตรียมเสื้อผ้าเตรียมของใช้นู้ นี่ นั้น ที่สำคัญติดเครื่องมือซ่อมรถไปด้วย (ในส่วนเสื้อผ้ายุค60ผมก็เตรียมไปนะครับพี่ๆแต่ไม่ได้ใส่เพราะสาเหตุใดมีคำตอบให้ อิ อิ)ต่อกันเลย  ดูจากกระเป๋าแล้วเพื่อนๆคงคิดในใจว่ามันต้องไปเที่ยวเป็นเดือนแน่นๆ แต่ไม่ใช้ครับไปแค่ 2วัน1คืน จะหนักไปทางเครื่องมือ ขี่รถรุ่นปู่ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน

     เช้าวันเดินทาง ตื่นตั้งแต่ตี3 อาบน้ำแต่งตัว ไหว้พระสวดมนต์ขอให้เดินทางปลอดภัย เตรียมตัวออกจากบ้านตี3ครึ่ง กะว่าเข้ามาในเมืองตี 4พอดี ลืมบอกนัดเจอกันสายใต้ใหม่ประมาณตี 5 พอขับใกล้ถึงสายใต้แวะจอดปั๊มซื้อเครื่องดื่มบำรุงกำลังกันหน่อย และทำใจเตรียมพร้อมเจอกับเพื่อนกลุ่มใหม่ พอขี่ถึงสายใต้ก็มาเจอทหารกลุ่มหนึ่ง อ้าวล่ะว่ะจะโดนทหารจับไหมเนี่ยแต่ก็ไม่มีอะไร ขับมาข้างในสายใต้เจอ คนกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มนึงพร้อมกับมีรถมอไซค์จอดอยู่เลยขี่เข้าไป  ใช่แล้วกลุ่มนี้เอง ก็ลงไปทักทายเริ่มพูดคุยสนทนากันเล็กน้อย ตอนนั้นอาจจะยังไม่คุยมากเท่าไรยังเกร็งๆกันอยู่ (ดูรถกันล่ะมีเราคันเดียวที่มาแนวนี้)  แต่เราก็มั่นใจในศักยภาพรถเรานะ แล้วคนกลุ่มนี้ไม่ได้เลือกว่าคุณขับรถรุ่นไหน ccแค่ไหน เค้าให้ความสำคัญกับการขี่รถเที่ยวมากกว่า (ที่ผมชอบก็ตรงนี้ส่วนนึงครับ)

     เอาล่ะได้เวลาเดินทางออกจากสายใต้ เริ่มจากแอตมินให้จัดแถวรถเป็นขบวน เริ่มตื่นเต้นออกทริปเป็นกลุ่มครั้งแรกไม่เคยขี่เป็นขบวนเลย แอตมินกลุ่มก็จะจัดให้เราอยู่กลางๆมาด้านหน้าหน่อย คนกลุ่มนี้เข้าจะให้รถที่ccเยอะๆอยู่ข้างหลัง เพื่อคอยดูแล รถccน้อยๆ แอตมินก็จะบอกว่า เปรียบสเหมือนเหมือนพี่ที่โตกว่าค่อยดูแลน้องที่เด็กกว่าและก็สอนวิธีขี่เป็นขบวน การให้สัญญาลักษณ์เวลาขี่ ตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าคนกลุ่มนี้อบอุ่นดูแลกันดีมากๆครับ ออกเดินทางจุดหมายแรก ปั๊ม ปตท ตรงนครชัยศรีแวะเติมน้ำมัน

     แล้วก็ออกมาแวะกินข้าวที่กาญ ร้านแม่บัวคำ แนะนำตัวกันที่นี้ การแนะนำตัวของกลุ่มนี้ต้องบอกชื่อกับอายุ แอตมินบอกว่าเราจะได้รู้ว่าใครพี่ใครน้องจะได้ยกมือไหว้กันถูก (ผมว่าจุดนี้ดีมากๆ รักษาวัฒนธรรมไทยดีครับ)

     แวะปั๊มในตัวเมืองกาญและยิงยาวขึ้นไทรโยค-ทองผาภูมิแวะเติมอีกทีและจอดพักเครื่องรถและรอสมาชิกที่มาจากที่อื่นและสมาชิกที่รถเสีย นะจุดๆนี้ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้อยู่กันแบบครอบครัวเป็นพี่เป็นน้อง และไม่มีคำว่าทิ้งกัน ชอบมากๆ พอสมาชิกครบทุกคนแล้วก็ออกเดินทางขึ้นสังขะกันครับทางช่วงนี้ขึ้นเขาลงเขาตลอดต้องขี่ด้วยความระมัดระวังจริงๆ
บรรยกาศระหว่างทาง


ด่านตรวจของทหารครับ อิงกระแสตอนนี้นิดนึง 5555
และบรรยากาศที่พัก


เอาของเก็บที่พักเสร็จก็ออกไปด่านเจดีย์ สามองค์ขับ แต่รู้พอเก็บของเสร็จขี่สบายขึ้นเยอะ ถึงแล้วครับชายแดนพม่า


     กับมาอาบน้ำกินข้าวและพี่ๆเพื่อนก็แต่งตัวกันในยุค60


     เพราะเหตุนี้ผมเลยแต่งสู้พวกพี่ๆไม่ไหวจิงๆต้องยอมครับ ตอนกินข้าวกันก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนกินกับครอบครัวเลย สนุก ฮา กินเสร็จก็เข้านอนตอนนี้ก็อยากจะบอกว่าเกรงใจพวกพี่ๆมาก เพราะผมนอนกรน แต่ช่วงโมงนี้ต้องขอนอนก่อนล่ะไม่ไหวเหนื่อยจิงๆ ส่วนคนเขียนกระทู้ขอพักแป๊บนะครับ เดียวมาต่อ