สวัสดีครับ
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1146
อุ่นเครื่องกันก่อนจะดู “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5: ยุทธหัตถี” คอลัมน์ “ม็อคค่าปาท่องโก๋” ฉบับนี้อาสาพาไปกระทบไหล่พระเอกแถวหน้าแห่งยุค “ปีเตอร์” นพชัย ชัยนาม กับเรื่องราวในวงการภาพยนตร์ไทย
Mr. Coffee : ถามถึงเทคนิคในการแสดงกันก่อน
ปีเตอร์ : จริงๆ ผมว่าก็คงเหมือนนักแสดงทุกคนนะครับ คือเมื่อตกลงรับเล่นหนัง ผมต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน ทุกคำตอบ หมายความว่า ถ้าผมอ่านบทแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ ผมต้องตอบทุกคำถามที่ติดค้างในใจได้ให้หมด เช่น ถ้าผมไม่รู้ว่าอดีตของตัวละครตัวนั้นนั้นเป็นอย่างไร ผมต้องถามผู้กำกับก่อนแสดง คือทุกคำตอบมันต้องถูกคลี่คลาย ไอ้จะไปลังเลในตอนถ่ายทำ อย่างนั้นคงทำไม่ได้ แล้วผมก็จะไม่ทำด้วย เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการถ่ายทำ อย่างใน “ฝนตกขึ้นฟ้า” อย่างมีอยู่ฉากหนึ่ง ผมติด ผมก็จะถามพี่เป็นเอกตรงนั้น คือบางทีพอเราอ่านบท ทำการบ้าน เตรียมตัวไปก่อนวันถ่าย เราอาจรู้สึกว่า มันใช่แล้ว ประมาณนี้ แต่พอไปกอง เหมือนกับเราไปเจอว่า เอ...มีการเปลี่ยนแปลง เช่น มู้ดบางอย่าง หรือเปลี่ยนมูฟเมนต์ อะไรก็ตาม เราก็จะต้องปรึกษาทีมกันตรงนั้นทันที ว่าทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่ว่าคุยกันมาแล้วจะต้องล็อคว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ตายตัว คืองานหนังมันต้องมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม สำหรับผม ในเบื้องต้น เรื่องทำนองนี้จะต้องคลี่คลายก่อน ดังนั้นเวลาทำงานผมอาจจะถามเยอะหน่อย จนบางครั้งอาจดูน่ารำคาญเล็กน้อย
Mr. Coffee : อยากให้พูดถึงบทใน “แรงดึงดูด”
ปีเตอร์ : ใน “แรงดึงดูด” จะต่างจากเรื่องอื่น เพราะการแสดงออกของตัวละคร รวมถึงสถานการณ์ และลักษณะนิสัยนั้น แตกต่างมาก แต่ตอนถ่ายทำก็สนุกครับ แรกๆ จะเครียดๆ หน่อย เพราะว่าต้องเล่น Comedy ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้น แต่สักพักก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ ตามท้องเรื่องผมรับบทเป็นสิงหาชายหนุ่มผู้ผิดหวังในความรักเลยเลือกที่จะไปใช้ชีวิตบนเกาะร้าง แต่เมื่อเจอกับนางเอกคือมุก ทำให้มุมมองความคิดของสิงหาเปลี่ยนไป เพราะช่วงเวลาสั้นๆ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนเกาะร้าง ทำให้เกิดมิตรภาพและความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้บทสุดท้ายเรื่องของสิงหาและมุกจะไม่ได้จบสมบูรณ์ตามพล็อตหนังไทย แต่เชื่อว่าคนดูจะอิ่มใจ
Mr. Coffee : กลับมาทำงานกับพี่ต้อม เป็นเอกอีกครั้ง
ปีเตอร์ : ผมทำงานกับพี่ต้อมมาหลายเรื่องทำให้สนิทกันอยู่แล้ว พบว่า มุมมองเราใกล้เคียงกัน
Mr. Coffee : “แรงดึงดูด” นี่ถ่ายกันที่ไหน
ปีเตอร์ : เป็นเวิ้งๆ แถวๆ ริมชายหาดค่ายทหารตรงสัตหีบครับ พี่เป็นเอกไปเซ็ตจากไม่มีอะไรเลยตรงนั้น โดยเฉพาะฉากใต้น้ำเชื่อ ว่าทุกคนต้องประทับใจ ในความสวยของ ทะเลไทย
Mr. Coffee : เล่น “แรงดึงดูด” แล้ว อนาคตจะรับบท Romantic comedy อีกไหม
ปีเตอร์ : อืม...ผมว่าตอนแรกๆ เหมือนผมจะกลัวไปเองนะ Comedy แต่ตอนนี้ผมก็พอได้ คืออาจจะทำได้ไม่ดีนัก ก็คงต้องฝึกฝนไป คงต้องฝึกให้มากกว่านี้อีกมันถึงจะเข้าใจวิธีการของ Comedy แบบลงลึกมากขึ้น
Mr. Coffee : แล้วถ้าเทียบกับ Timeline
ปีเตอร์ : มันเหมือนปรับให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คือหมายถึงตัวผมด้วยนะ ให้เป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะจนทำให้ความรักมันเป็นความรักอีกแบบหนึ่งแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะเป็นความรักแบบที่เห็นในหนังไม่ได้ ปรับเรื่องวิธีคิด พยายามสร้างเรื่องว่าตัวละครตัวนี้ผ่านอะไรมา สร้างเรื่องราวว่าทำไมเขาถึงอยู่กันแบบนั้นได้ อะไรทำนองนี้
Mr. Coffee : อยากให้เล่าถึงการต้องมาประชันฝีมือกับนางเอกเจ้าบทบาทที่ผ่านมา
ปีเตอร์ : ของคุณคริส หอวัง เขาจะชัดเจนมากเลย ยิ่งตอนที่มาเล่น “แรงดึงดูด” ด้วยกัน โอ้โห! เหมือนเขาเชี่ยวชาญทางด้าน Comedy มาก ทำให้เราเล่นด้วยง่าย แต่ตอน “ฝนตกขึ้นฟ้า” เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง มีหลุดๆ มาบ้างนิดหน่อยช่วงที่กัดๆ กัน แต่ใน “แรงดึงดูด” นี่แหล่ะ ทางเขาเลย เราก็จะตามเขาไป เขาจะเป็นคนนำเรา แต่อย่างทราย เจริญปุระ ในหนังนเรศวรฯ เขาไม่ได้มาทางนี้ ก็จะไปทาง Drama คนละวิธีการเลยครับ ส่วนพี่ป๊อก ตั้งแต่ตอนที่เล่น Together วันที่รัก แล้วครับ เวลาเรายืนด้วยกัน เขาจะเป็นนักแสดงที่ผมบอกว่า มันทำยากที่จะทำแบบเขา เหมือนกับนอกจากที่เขาจะสามารถ Sync กับอารมณ์ตัวละครได้แล้ว มันเหมือนว่าเขาสามารถจะ Sync กับจังหวะของกล้องขณะถ่ายทำได้ด้วยครับ สำหรับผมนี่ถือว่าเป็นความสามารถที่สุดยอดมาก สมมุติว่า เวลากล้องจะ Dolly เข้ามาหา การแสดงของพี่ป๊อกจะพอดีไปซะทุกอย่างทุกมุม มีอารมณ์ที่เหมาะเจาะทุกครั้ง สำหรับผมมัน มหัศจรรย์มากที่ Timing จะลงตัวได้แบบนี้ตลอด ดูทีไรก็ขนลุกทุกที ในบทเศร้านี่ซึ้งมากครับ
ฝากบทความก่อนๆด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Checker ฟันเฟืองสำคัญของ “หนังไทย”
http://pantip.com/topic/30776136
End Credits กับ “ความโง่” ของ “โรงหนัง”
http://pantip.com/topic/30848998
ว่าด้วย DVD Box Set
http://pantip.com/topic/30862595
ปมร้อนตั๋วหนัง : กรณีศึกษาโรงหนังมาเลเซีย
http://pantip.com/topic/30923730
ยอดเยี่ยมที่สุด
http://pantip.com/topic/30934588
จิบกาแฟกับ “โต้ง 1,000 ล้าน” (ตอนที่ 1) http://pantip.com/topic/30965553
(ตอนที่ 2) http://pantip.com/topic/30968008
“อยากเป็นนักเขียน” ความในใจ “โต้ง 1,000 ล้าน”
http://pantip.com/topic/30972745
เปิดตัวคนดูแล “เฉลิมไทย” (ตอนแรก) http://pantip.com/topic/30999957
(ตอนจบ) http://pantip.com/topic/31004533
“ผี” ในโรงหนัง
http://pantip.com/topic/31023799
4DX เหมือนไก่ได้พลอย
http://pantip.com/topic/31052065
สปอยล์
http://pantip.com/topic/31061926
[CR][SR]หนังไทยระดับ “เทพ” ครึ่งปีที่ผ่านไป
http://pantip.com/topic/31065553
“โรงหนังภูธร” ในยุคเปลี่ยนผ่าน (ตอนแรก) http://pantip.com/topic/31086596
(ตอนจบ) http://pantip.com/topic/31089878
คัน
http://pantip.com/topic/31097039
การ์ตูนไทยกับหนังไทย
http://pantip.com/topic/31112574
กระทบไหล่ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” เจ้าพ่อ 3D คนแรกของไทย (ตอนแรก) http://pantip.com/topic/31126568
(ตอนจบ) http://pantip.com/topic/31133910
อนาคตวงการหนัง {สัมภาษณ์อเล็กซ์และเจซซี่จาก ฮาชิมะ โปรเจกต์}
http://pantip.com/topic/31374314
ผีไทยลงโอ่ง ไปโผล่สิงคโปร์ (ตอนแรก) {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH} http://pantip.com/topic/31390722
(ตอนที่สอง) {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH} http://pantip.com/topic/31395529
คุยกับคนอวดผี {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH}
http://pantip.com/topic/31399883
คุยกับคนอวดผี (ตอนจบ) {สัมภาษณ์ผกก.โอ๋ GTH}
http://pantip.com/topic/31404398
คุยกับ “ยิปโซ ฟัดจังโตะ” (ตอนแรก) http://pantip.com/topic/31522918
(ตอนจบ) http://pantip.com/topic/31570826
บทสรุปหนังไทย 2556
http://pantip.com/topic/31621718
รางวัล “ปาท่องโก๋ทองคำ”
http://pantip.com/topic/31675576
เปิดใจ “แมน ศุภกิจ” “...พระเจ้าให้โอกาสผมกำกับหนังแล้ว...”
http://pantip.com/topic/31675645
ความกดดัน {สัมภาษณ์ เต้ย จรินทร์พร}
http://pantip.com/topic/31686523
กำหนดวันฌาปนกิจฟิล์ม (ตอนแรก)
http://pantip.com/topic/31848289
กำหนดวันฌาปนกิจฟิล์ม (ตอนจบ) {ระบบฉายหนังดิจิตอล}
http://pantip.com/topic/31850667
“จับหัวใจให้อยู่ ก็ทำได้ทุกอย่าง” ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
http://pantip.com/topic/31853552
There's something about เมโกะ {สัมภาษณ์ เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย}
http://pantip.com/topic/31979918
รางวัลหนังไทย 2556 {สรุปรางวัลหนังไทย 2556 จาก 3 รางวัลหลัก}
http://pantip.com/topic/32012517
นางเอกเงินล้าน
http://pantip.com/topic/32055498
แหล่งที่มา “พี่มาก...พระโขนง” {แนะนำหนังสือ The Making of พี่มาก...พระโขนง}
http://pantip.com/topic/32106441
ม็อคค่าปาท่องโก๋ : Gravity Guy {สัมภาษณ์ ปีเตอร์ - นพชัย}
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1146
อุ่นเครื่องกันก่อนจะดู “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5: ยุทธหัตถี” คอลัมน์ “ม็อคค่าปาท่องโก๋” ฉบับนี้อาสาพาไปกระทบไหล่พระเอกแถวหน้าแห่งยุค “ปีเตอร์” นพชัย ชัยนาม กับเรื่องราวในวงการภาพยนตร์ไทย
Mr. Coffee : ถามถึงเทคนิคในการแสดงกันก่อน
ปีเตอร์ : จริงๆ ผมว่าก็คงเหมือนนักแสดงทุกคนนะครับ คือเมื่อตกลงรับเล่นหนัง ผมต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน ทุกคำตอบ หมายความว่า ถ้าผมอ่านบทแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ ผมต้องตอบทุกคำถามที่ติดค้างในใจได้ให้หมด เช่น ถ้าผมไม่รู้ว่าอดีตของตัวละครตัวนั้นนั้นเป็นอย่างไร ผมต้องถามผู้กำกับก่อนแสดง คือทุกคำตอบมันต้องถูกคลี่คลาย ไอ้จะไปลังเลในตอนถ่ายทำ อย่างนั้นคงทำไม่ได้ แล้วผมก็จะไม่ทำด้วย เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการถ่ายทำ อย่างใน “ฝนตกขึ้นฟ้า” อย่างมีอยู่ฉากหนึ่ง ผมติด ผมก็จะถามพี่เป็นเอกตรงนั้น คือบางทีพอเราอ่านบท ทำการบ้าน เตรียมตัวไปก่อนวันถ่าย เราอาจรู้สึกว่า มันใช่แล้ว ประมาณนี้ แต่พอไปกอง เหมือนกับเราไปเจอว่า เอ...มีการเปลี่ยนแปลง เช่น มู้ดบางอย่าง หรือเปลี่ยนมูฟเมนต์ อะไรก็ตาม เราก็จะต้องปรึกษาทีมกันตรงนั้นทันที ว่าทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่ว่าคุยกันมาแล้วจะต้องล็อคว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ตายตัว คืองานหนังมันต้องมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม สำหรับผม ในเบื้องต้น เรื่องทำนองนี้จะต้องคลี่คลายก่อน ดังนั้นเวลาทำงานผมอาจจะถามเยอะหน่อย จนบางครั้งอาจดูน่ารำคาญเล็กน้อย
Mr. Coffee : อยากให้พูดถึงบทใน “แรงดึงดูด”
ปีเตอร์ : ใน “แรงดึงดูด” จะต่างจากเรื่องอื่น เพราะการแสดงออกของตัวละคร รวมถึงสถานการณ์ และลักษณะนิสัยนั้น แตกต่างมาก แต่ตอนถ่ายทำก็สนุกครับ แรกๆ จะเครียดๆ หน่อย เพราะว่าต้องเล่น Comedy ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้น แต่สักพักก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ ตามท้องเรื่องผมรับบทเป็นสิงหาชายหนุ่มผู้ผิดหวังในความรักเลยเลือกที่จะไปใช้ชีวิตบนเกาะร้าง แต่เมื่อเจอกับนางเอกคือมุก ทำให้มุมมองความคิดของสิงหาเปลี่ยนไป เพราะช่วงเวลาสั้นๆ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนเกาะร้าง ทำให้เกิดมิตรภาพและความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้บทสุดท้ายเรื่องของสิงหาและมุกจะไม่ได้จบสมบูรณ์ตามพล็อตหนังไทย แต่เชื่อว่าคนดูจะอิ่มใจ
Mr. Coffee : กลับมาทำงานกับพี่ต้อม เป็นเอกอีกครั้ง
ปีเตอร์ : ผมทำงานกับพี่ต้อมมาหลายเรื่องทำให้สนิทกันอยู่แล้ว พบว่า มุมมองเราใกล้เคียงกัน
Mr. Coffee : “แรงดึงดูด” นี่ถ่ายกันที่ไหน
ปีเตอร์ : เป็นเวิ้งๆ แถวๆ ริมชายหาดค่ายทหารตรงสัตหีบครับ พี่เป็นเอกไปเซ็ตจากไม่มีอะไรเลยตรงนั้น โดยเฉพาะฉากใต้น้ำเชื่อ ว่าทุกคนต้องประทับใจ ในความสวยของ ทะเลไทย
Mr. Coffee : เล่น “แรงดึงดูด” แล้ว อนาคตจะรับบท Romantic comedy อีกไหม
ปีเตอร์ : อืม...ผมว่าตอนแรกๆ เหมือนผมจะกลัวไปเองนะ Comedy แต่ตอนนี้ผมก็พอได้ คืออาจจะทำได้ไม่ดีนัก ก็คงต้องฝึกฝนไป คงต้องฝึกให้มากกว่านี้อีกมันถึงจะเข้าใจวิธีการของ Comedy แบบลงลึกมากขึ้น
Mr. Coffee : แล้วถ้าเทียบกับ Timeline
ปีเตอร์ : มันเหมือนปรับให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คือหมายถึงตัวผมด้วยนะ ให้เป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะจนทำให้ความรักมันเป็นความรักอีกแบบหนึ่งแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะเป็นความรักแบบที่เห็นในหนังไม่ได้ ปรับเรื่องวิธีคิด พยายามสร้างเรื่องว่าตัวละครตัวนี้ผ่านอะไรมา สร้างเรื่องราวว่าทำไมเขาถึงอยู่กันแบบนั้นได้ อะไรทำนองนี้
Mr. Coffee : อยากให้เล่าถึงการต้องมาประชันฝีมือกับนางเอกเจ้าบทบาทที่ผ่านมา
ปีเตอร์ : ของคุณคริส หอวัง เขาจะชัดเจนมากเลย ยิ่งตอนที่มาเล่น “แรงดึงดูด” ด้วยกัน โอ้โห! เหมือนเขาเชี่ยวชาญทางด้าน Comedy มาก ทำให้เราเล่นด้วยง่าย แต่ตอน “ฝนตกขึ้นฟ้า” เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง มีหลุดๆ มาบ้างนิดหน่อยช่วงที่กัดๆ กัน แต่ใน “แรงดึงดูด” นี่แหล่ะ ทางเขาเลย เราก็จะตามเขาไป เขาจะเป็นคนนำเรา แต่อย่างทราย เจริญปุระ ในหนังนเรศวรฯ เขาไม่ได้มาทางนี้ ก็จะไปทาง Drama คนละวิธีการเลยครับ ส่วนพี่ป๊อก ตั้งแต่ตอนที่เล่น Together วันที่รัก แล้วครับ เวลาเรายืนด้วยกัน เขาจะเป็นนักแสดงที่ผมบอกว่า มันทำยากที่จะทำแบบเขา เหมือนกับนอกจากที่เขาจะสามารถ Sync กับอารมณ์ตัวละครได้แล้ว มันเหมือนว่าเขาสามารถจะ Sync กับจังหวะของกล้องขณะถ่ายทำได้ด้วยครับ สำหรับผมนี่ถือว่าเป็นความสามารถที่สุดยอดมาก สมมุติว่า เวลากล้องจะ Dolly เข้ามาหา การแสดงของพี่ป๊อกจะพอดีไปซะทุกอย่างทุกมุม มีอารมณ์ที่เหมาะเจาะทุกครั้ง สำหรับผมมัน มหัศจรรย์มากที่ Timing จะลงตัวได้แบบนี้ตลอด ดูทีไรก็ขนลุกทุกที ในบทเศร้านี่ซึ้งมากครับ
ฝากบทความก่อนๆด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้