คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เรียนอย่างนี้ครับ เจ้าสาร BPA หรือ Bisphenol-A เนี่ย
เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์พลาสติกหลายชนิดด้วยกัน
แต่มีชนิดนึงที่นิยมใช้งาน ก็คือ PC หรือ Polycarbonate
ซึ่งมีคุณสมบัตินึงที่สังเกตุได้ง่ายๆคือ แข็งแรง เหนียว ใส เล็บขูดไม่เป็นรอย
สำหรับพลาสติกชนิดใดๆที่มีการใช้เจ้า BPA เป็นสารตั้งต้น
จะมีรหัสในการ recycle คือ 07
ส่วนใหญ่แล้ว PC มักนำไปทำเป็นเป็นขวดน้ำดื่มนักกีฬาแบบที่ใช้ซ้ำ
ขวดนมทารก ถังน้ำใสๆที่เทคว่ำตามตู้น้ำเย็นทั่วไป ฯลฯ
ทีนี้การ leach ของ BPA นั้น มีปริมาณที่น้อยมากๆ
แม้จะกรอกน้ำเดือดใส่ลงไปในขวดโดยตรงเลยก็ตาม
ซึ่งวัดค่าการ leach ได้ประมาณ 30 นาโนกรัม/ชม.
ซึ่งมากกว่าอัตราการ leach ทั่วไป 50 เท่า
แต่อย่างไรก็ตามปริมาณดังกล่าว ยังน้อยกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่
หน่วยงานควบคุมสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ที่กำหนดไว้
ที่ 1000 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัวในหน่วยกิโลกรัมอยู่มากเลยทีเดียว
รวมถึงประเด็นเรื่แงความเป็นพิษของ BPA ต่อร่างกายมนุษย์ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
เพราะงานวิจัยหลายๆงาน ทำการทดลองความเป็นพิษของ BPA กับสัตว์ตระกูลหนู
ในขณะที่อีกหลายงานวิจัยก็แย้งว่าร่างกายของมนุษย์นั้นสามารถกำจัด BPAได้
ซึ่งแตกต่างจากสัตว์จำพวกหนูที่กำจัด BPA ได้ช้ากว่า
ผมยืนยันว่าพลาสติกที่ได้รับการรับรองทั้งหมดที่ใช้ๆกันอยู่
มีความปลอดภัยต่อการใช้งานจริงๆ
หรือหากยังกังวล ผมแนะนำให้ใช้พลาสติกอีกประเภทคือ HDPE
ให้มองหารหัส recycle เลข 2 หรือไม่ก็ใช้พวกขวดสเตนเลสไปเลย
เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์พลาสติกหลายชนิดด้วยกัน
แต่มีชนิดนึงที่นิยมใช้งาน ก็คือ PC หรือ Polycarbonate
ซึ่งมีคุณสมบัตินึงที่สังเกตุได้ง่ายๆคือ แข็งแรง เหนียว ใส เล็บขูดไม่เป็นรอย
สำหรับพลาสติกชนิดใดๆที่มีการใช้เจ้า BPA เป็นสารตั้งต้น
จะมีรหัสในการ recycle คือ 07
ส่วนใหญ่แล้ว PC มักนำไปทำเป็นเป็นขวดน้ำดื่มนักกีฬาแบบที่ใช้ซ้ำ
ขวดนมทารก ถังน้ำใสๆที่เทคว่ำตามตู้น้ำเย็นทั่วไป ฯลฯ
ทีนี้การ leach ของ BPA นั้น มีปริมาณที่น้อยมากๆ
แม้จะกรอกน้ำเดือดใส่ลงไปในขวดโดยตรงเลยก็ตาม
ซึ่งวัดค่าการ leach ได้ประมาณ 30 นาโนกรัม/ชม.
ซึ่งมากกว่าอัตราการ leach ทั่วไป 50 เท่า
แต่อย่างไรก็ตามปริมาณดังกล่าว ยังน้อยกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่
หน่วยงานควบคุมสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ที่กำหนดไว้
ที่ 1000 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัวในหน่วยกิโลกรัมอยู่มากเลยทีเดียว
รวมถึงประเด็นเรื่แงความเป็นพิษของ BPA ต่อร่างกายมนุษย์ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
เพราะงานวิจัยหลายๆงาน ทำการทดลองความเป็นพิษของ BPA กับสัตว์ตระกูลหนู
ในขณะที่อีกหลายงานวิจัยก็แย้งว่าร่างกายของมนุษย์นั้นสามารถกำจัด BPAได้
ซึ่งแตกต่างจากสัตว์จำพวกหนูที่กำจัด BPA ได้ช้ากว่า
ผมยืนยันว่าพลาสติกที่ได้รับการรับรองทั้งหมดที่ใช้ๆกันอยู่
มีความปลอดภัยต่อการใช้งานจริงๆ
หรือหากยังกังวล ผมแนะนำให้ใช้พลาสติกอีกประเภทคือ HDPE
ให้มองหารหัส recycle เลข 2 หรือไม่ก็ใช้พวกขวดสเตนเลสไปเลย
แสดงความคิดเห็น
" จริงหรือ " กรมวิทย์ฯยันตรวจขวดน้ำพลาสติกในรถไม่พบสารก่อมะเร็ง
แต่ด้วยความที่เป็นแม่ ก็พอรู้มาบ้างว่าขวดพลาสติกใส มีสาร BPA (bisphenol-a) ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิต
มันมีอยู่ทุกที่ รอบตัว "แม้กระทั่ง ขวดนมเด็ก" จึงต้องมีขวดนมปราศจากสาร (bisphenol-a) ออกมาวางจำหน่าย
เราเคยไปรับฟอเวิร์ดข้อความนีเช่นกันค่ะ "ทิ้งขวดน้ำพลาสติกให้เจอความร้อนสูงจะเป็นอันตราย" (เพราะเจ้าสาารตัวนี้มันละลายออกมาเมื่อเจอความร้อน มากกว่าความเย็นหลายเท่า)
มันนี้หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวหัวข้อว่า "กรมวิทย์ฯ ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกในรถไม่พบสารก่อมะเร็ง"
เนื้อหาดังนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลยแปลกใจว่า ในเนื้อหาข่าวไม่ได้พูดถึงเจ้าสาร BPA ตัวนี้เลย ซึ่งยืนยัน ชัดเจนว่ามนุษย์ดื่มได้
รบกวนผู้รู้ตอบให้หน่อยค่ะว่ากรมวิทย์ยืนยันมาอย่างนี้ ยังมีสารตัวอื่นที่เขาไม่ได้ตรวจ หรือตรวจไม่พบอีกหรือไม่
------------------------
จขกท ขออภัยที่โปรยหัวกระทู้แรงไป เราสงสัยสารตัวหนึ่งที่เคยได้ยินมาเท่านั้น
ไม่ได้ตั้งใจ