ผมเป็นคนหนึ่งที่อ้วนมาตั้งแต่เด็กครับ ตอนแรกเกิดคุณแม่บอกว่าน้ำหนักแรกเกิดผม 3,900 กรัม
ซึ่งนับตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัยผมก็อ้วนมาโดยตลอด ด้วยความที่ชอบเล่นคอมพิวเตอร์ เรียนทางด้านคอมพิวเตอร์
ชีวิตส่วนใหญ่จึงอยู่ที่หน้าจอคอมแทบตลอดเวลา จึงไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย กินข้าว ขนม และอื่นๆก็แทบจะกินอยู่หน้าจอคอมตลอด
น้ำหนักจึงเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหนักสูงสุดที่ 98 kg
สาเหตุของการลดความอ้วน
ผมคิดที่จะลดความอ้วนมาตลอดแต่ก็ไม่เคยทำได้เลย จนมีอยู่วันหนึ่งคนรู้จักของผมบอกว่าถ้าลดน้ำหนักได้ 10 kg เขาจะพาไปเที่ยว ประกอบกับเวลาผมไปเดินซื้อเสื้อผ้าแล้วพอเวลาเจอเสื้อผ้าที่ถูกใจผมกลับใส่ไม่ได้เลยรู้สึกว่าอยากลดความอ้วนขึ้นมาแล้วคิดเอาไว้ว่าซักวันนึง ผมจะใส่เสื้อตัวนี้ให้ได้ครับ
วิธีการลดความอ้วนของผม
ผมลองวิธีการลดความอ้วนมาหลายวิธีครับ มีทั้งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง โดยศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆ และในพันทิปนี่แหละครับ
1. ผมเลิกกินน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ และอื่นๆ จะกินแต่น้ำเปล่าเป็นหลักครับ ผมเป็นคนติดกาแฟมาก ต้องกินทุกวัน เลยหันมากินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลแทนครับ ตอนแรกๆกินแทบไม่ได้ แต่นานๆไปก็ชินครับ เดี๋ยวนี้กินได้สบายเลย ระหว่างวันอาจจะจิบชาร้อนลิปตันด้วยก็ได้ครับ
2. ผมเคยลองทานอาหารตามสูตรปรับสมดุลร่างกาย 13 วัน แล้วพบว่าร่างกายไม่ค่อยมีแรงทำงาน ตื่นเช้ามาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ น้ำหนักที่ลดลงมาก็เป็นน้ำในร่างกายซะส่วนใหญ่ พอครบ 13 วันก็เลิกครับก็ลดลงมา ประมาณ 7 kg.
3. ผมลองวิธีการนับแคลอรี่ที่ทานเข้าไปในแต่ละวันโดยจะทานไม่เกินวันละ 1,200 แคลอรี่ครับ ก็ทำได้มาซักพักนึง ก็มีหลุดบ้าง จนถึงตอนนี้ก็เอาวิธีนี้มาปรับใช้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้จำกัดว่าต้องกินไม่เกิน 1,200 แคลอรี่แล้วครับ คือกินเกือบปกติแต่เลี่ยงของผัด ทอด มัน และเลือกทานมากขึ้นครับ โดยผมจะแบ่งกินเป็น 4 มื้อ คือ เช้า กลางวัน ก่อนซ้อม และหลังซ้อมครับ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง พวกอกไก่ ไข่ต้ม ทูน่า และข้าวกล้อง ขนมปังโฮวีทครับ ผมกินคลีนบ้างแต่ไม่ 100% ครับ
4. เริ่มต้นออกกำลังกาย ผมเริ่มคิดที่จะออกกำลังกายครับ จำได้ว่าวันแรกที่ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน วิ่งได้ 2 km ก็เลิกครับพอวันรุ่งขึ้นปวดขามากจนต้องไปนวด แล้วคิดว่าจะไม่ไปวิ่งอีกแล้ว แต่นอนเล่นไปมาซักพักก็คิดว่าถ้าไม่ฝืนเราก็จะไม่ผอม ตอนเย็นวันนั้นก็ออกไปวิ่งอีก จาก 2 km ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวิ่งสลับกับเดินเร็วได้ประมาณวันละ 8 km ครับวิ่งได้ประมาณ 2 เดือนจึงเริ่มเข้าฟิตเนสครับ ทุกวันนี้ผมเวท 3 วัน คาดิโอ 3 วันสลับกันครับ
เคยท้อบ้างไหม? แล้วมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่เคยรู้สึกท้อกับการลดความอ้วน จนเลิกไปก็มี ผมก็เช่นเดียวกันครับ ด้วยอะไรหลายๆอย่างโดยเฉพาะคำพูดจากบางคนที่มักจะพูดว่าจะทนไปได้ซักเท่าไหร่ มันเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของเรามากเหมือนกันครับ แต่ผมก็มีวิธีการจัดการความรู้สึกเหล่านี้และให้ตัวเองมีกำลังใจในการลดความอ้วนต่อไปครับ
1. จัดให้มีวัน Free day 1 วัน คือจะกินอะไรก็ได้ที่อยากกินในวันนี้ครับแต่ก็จะมีลิมิทในการกิน
2. หาแรงบันดาลใจในการลดความอ้วน โดนเฉพาะในพันทิปนี่แหละครับ เข้ามาอ่านกระทู้ของหลายๆท่านก็จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้เป็นอย่างดี เขาทำได้ เราก็ทำได้ จริงไหมครับ
3. ซื้อเสื้อผ้ากางเกงที่ size เล็กกว่าตัวเราประมาณ 1size ผมชอบซื้อเสื้อผ้าครับและจะชอบซื้อเสื้อตัวเล็กกว่าตัวเองเอามาไว้และคิดว่าจะต้องใส่มันให้ได้ครับโดยเฉพาะกางเกง ผมเคยรอบเอว 38 ครับตอนนี้ลดลงเหลือ 32 แล้ว
เป้าหมายต่อไป
ปัจจุบันผมอายุ 26 ปี สูง 176 cm หนัก 71 kg ตอนนี้ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่แล้วครับ แต่เป้าหมายของผมที่ตั้งเป้าไว้คือเปอร์เซ็นไขมันในร่างกายที่ 15% ซึ่งตอนนี้ผมอยู่ที่ 21 % ครับ
สุดท้ายนี้อยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกๆคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นะครับ การลดน้ำหนักอยู่ที่ใจของเราล้วนๆครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วสุดท้าย ในที่สุดเราก็จะสามารถทำได้และทำได้ดีด้วยครับ
เวลาเปลี่ยนคนเราก็ต้องเปลี่ยน จากน้ำหนัก 98 ถึง 71 ในเวลา 8 เดือน
ซึ่งนับตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัยผมก็อ้วนมาโดยตลอด ด้วยความที่ชอบเล่นคอมพิวเตอร์ เรียนทางด้านคอมพิวเตอร์
ชีวิตส่วนใหญ่จึงอยู่ที่หน้าจอคอมแทบตลอดเวลา จึงไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย กินข้าว ขนม และอื่นๆก็แทบจะกินอยู่หน้าจอคอมตลอด
น้ำหนักจึงเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหนักสูงสุดที่ 98 kg
สาเหตุของการลดความอ้วน
ผมคิดที่จะลดความอ้วนมาตลอดแต่ก็ไม่เคยทำได้เลย จนมีอยู่วันหนึ่งคนรู้จักของผมบอกว่าถ้าลดน้ำหนักได้ 10 kg เขาจะพาไปเที่ยว ประกอบกับเวลาผมไปเดินซื้อเสื้อผ้าแล้วพอเวลาเจอเสื้อผ้าที่ถูกใจผมกลับใส่ไม่ได้เลยรู้สึกว่าอยากลดความอ้วนขึ้นมาแล้วคิดเอาไว้ว่าซักวันนึง ผมจะใส่เสื้อตัวนี้ให้ได้ครับ
วิธีการลดความอ้วนของผม
ผมลองวิธีการลดความอ้วนมาหลายวิธีครับ มีทั้งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง โดยศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆ และในพันทิปนี่แหละครับ
1. ผมเลิกกินน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ และอื่นๆ จะกินแต่น้ำเปล่าเป็นหลักครับ ผมเป็นคนติดกาแฟมาก ต้องกินทุกวัน เลยหันมากินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลแทนครับ ตอนแรกๆกินแทบไม่ได้ แต่นานๆไปก็ชินครับ เดี๋ยวนี้กินได้สบายเลย ระหว่างวันอาจจะจิบชาร้อนลิปตันด้วยก็ได้ครับ
2. ผมเคยลองทานอาหารตามสูตรปรับสมดุลร่างกาย 13 วัน แล้วพบว่าร่างกายไม่ค่อยมีแรงทำงาน ตื่นเช้ามาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ น้ำหนักที่ลดลงมาก็เป็นน้ำในร่างกายซะส่วนใหญ่ พอครบ 13 วันก็เลิกครับก็ลดลงมา ประมาณ 7 kg.
3. ผมลองวิธีการนับแคลอรี่ที่ทานเข้าไปในแต่ละวันโดยจะทานไม่เกินวันละ 1,200 แคลอรี่ครับ ก็ทำได้มาซักพักนึง ก็มีหลุดบ้าง จนถึงตอนนี้ก็เอาวิธีนี้มาปรับใช้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้จำกัดว่าต้องกินไม่เกิน 1,200 แคลอรี่แล้วครับ คือกินเกือบปกติแต่เลี่ยงของผัด ทอด มัน และเลือกทานมากขึ้นครับ โดยผมจะแบ่งกินเป็น 4 มื้อ คือ เช้า กลางวัน ก่อนซ้อม และหลังซ้อมครับ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง พวกอกไก่ ไข่ต้ม ทูน่า และข้าวกล้อง ขนมปังโฮวีทครับ ผมกินคลีนบ้างแต่ไม่ 100% ครับ
4. เริ่มต้นออกกำลังกาย ผมเริ่มคิดที่จะออกกำลังกายครับ จำได้ว่าวันแรกที่ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน วิ่งได้ 2 km ก็เลิกครับพอวันรุ่งขึ้นปวดขามากจนต้องไปนวด แล้วคิดว่าจะไม่ไปวิ่งอีกแล้ว แต่นอนเล่นไปมาซักพักก็คิดว่าถ้าไม่ฝืนเราก็จะไม่ผอม ตอนเย็นวันนั้นก็ออกไปวิ่งอีก จาก 2 km ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวิ่งสลับกับเดินเร็วได้ประมาณวันละ 8 km ครับวิ่งได้ประมาณ 2 เดือนจึงเริ่มเข้าฟิตเนสครับ ทุกวันนี้ผมเวท 3 วัน คาดิโอ 3 วันสลับกันครับ
เคยท้อบ้างไหม? แล้วมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่เคยรู้สึกท้อกับการลดความอ้วน จนเลิกไปก็มี ผมก็เช่นเดียวกันครับ ด้วยอะไรหลายๆอย่างโดยเฉพาะคำพูดจากบางคนที่มักจะพูดว่าจะทนไปได้ซักเท่าไหร่ มันเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของเรามากเหมือนกันครับ แต่ผมก็มีวิธีการจัดการความรู้สึกเหล่านี้และให้ตัวเองมีกำลังใจในการลดความอ้วนต่อไปครับ
1. จัดให้มีวัน Free day 1 วัน คือจะกินอะไรก็ได้ที่อยากกินในวันนี้ครับแต่ก็จะมีลิมิทในการกิน
2. หาแรงบันดาลใจในการลดความอ้วน โดนเฉพาะในพันทิปนี่แหละครับ เข้ามาอ่านกระทู้ของหลายๆท่านก็จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้เป็นอย่างดี เขาทำได้ เราก็ทำได้ จริงไหมครับ
3. ซื้อเสื้อผ้ากางเกงที่ size เล็กกว่าตัวเราประมาณ 1size ผมชอบซื้อเสื้อผ้าครับและจะชอบซื้อเสื้อตัวเล็กกว่าตัวเองเอามาไว้และคิดว่าจะต้องใส่มันให้ได้ครับโดยเฉพาะกางเกง ผมเคยรอบเอว 38 ครับตอนนี้ลดลงเหลือ 32 แล้ว
เป้าหมายต่อไป
ปัจจุบันผมอายุ 26 ปี สูง 176 cm หนัก 71 kg ตอนนี้ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่แล้วครับ แต่เป้าหมายของผมที่ตั้งเป้าไว้คือเปอร์เซ็นไขมันในร่างกายที่ 15% ซึ่งตอนนี้ผมอยู่ที่ 21 % ครับ
สุดท้ายนี้อยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกๆคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นะครับ การลดน้ำหนักอยู่ที่ใจของเราล้วนๆครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วสุดท้าย ในที่สุดเราก็จะสามารถทำได้และทำได้ดีด้วยครับ