รถไฟใต้ดิน ตอนที่ 2 รถไฟใต้ดิน เก้าอี้ดนตรี
ตอนเช้า ๆ จะเป็นเวลาเร่งรีบ(prime time) โดยเฉพาะหนุ่มสาว office ซึ่งส่วนใหญ่ ต้องการประหยัดค่าเช่าบ้าน เค้าจะย้ายบ้านไปอยู่ไกล ๆ แถบชานเมือง หรือ New Jersey แล้วนั่งรถไฟเข้ามา ที่นี้ รถไฟใต้ดินที่นี่เค้าเก๋ค่ะ มีทั้งแบบ Local คือต๊ะต่อนยอน จอดทุกป้าย กับ Express คือจอดบางป้าย กางแผนที่รถไฟใต้ดินออกมาค่ะ ไอ่จุดดำ ๆ ทึบ ๆ คือกรุจอดทุกป้าย อีจุดวงกลมขาวๆ กลวง ๆ คือป้าย Express และป้าย express ส่วนใหญ่จะ สถานีใหญ่ มี ลิฟท์ สำหรับคนพิการ โดยจะมีรูปคนนั่งรถเข็นบอกค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น สาย B-D-F-M จะเห็นว่าตรง mid town เค้าวิ่งเส้นทางเดียวกัน F-M เป็น local จอดทุกป้าย B-D เป็น Express จอดเฉพาะป้ายใหญ่ ๆ

ถ้าบ้านไกลมาก เราควรหาที่ ที่มีรถไฟ Express นั่งค่ะ จะ local express 2.50 เหรียญเท่ากัน คราวนี้พอใกล้ๆ จะถึงปลายทาง มันจะมีเทคนิคพิเศษ พร้อมแล้ว ไปกันเลยค่ะ
1. รถไฟมันมีหลายตู้ (bogie) ใช่มั๊ยคะ เล็งค่ะ เราต้องเล็งว่า จุดหมายปลายทางที่เราจะไปมันอยู่ใกล้ทางออกไหนที่สุด แล้วนับตู้ค่ะ ว่าเราควรจะไปอยู่ตู้ไหน เมื่อถึงเวลาลงจะได้วิ่งไปถึงทางออกนั้นเป็นคนแรก เย้ ชนะ เฮ้ย ไม่ใช่ค่ะ ก็จะได้ไม่ติดลูกเด็กเล็กแดง ลุงป้าน้าอา ที่เค้าเดินช้าค่ะ
2. ถ้ามาไม่ทันตู้ที่จะขึ้นทำยังงัยคะ? อ้อไม่ยากค่ะ ขึ้นไปก่อน แล้วก็ขยันค่ะ คือ ระหว่างที่รถแล่นอยู่ก็ค่อย ๆ กระดื๊บไป ทางหัวหรือ ท้ายตู้ที่ใกล้กะตู้ที่เราต้องการค่ะ (ถ้าคนเยอะอย่าทำน้า) พอรถจอดที เราก็ลงแล้ววิ่งไปขึ้นตู้ถัดไปที่ใกล้จุดหมายปลายทาง แต่ต้องรีบๆ นะคะ อย่าโลภค่ะ ค่อย ๆ ไปทีละตู้ เดี๋ยวประตูปิด ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ตู้ที่ต้องการค่ะ ไม่ต้องกลัวจะเขินนะ เพื่อนเยอะมาก เดินตามกันเป็นลูกเป็ดเลย
แล้วมันเก้าอี้ดนตรีตรงไหนคะ? ก็บางคนชั่วโมงบินสูงเดินข้ามตู้มากกว่าทีละ 1 ตู้ แต่เค้าก็จะคอยเดินเฉียดประตูเรื่อยๆ นะคะ จนได้ยินคำว่า "stand clear of the closing door please" ก็จะกระโดดขึ้นประตูที่ใกล้ที่สุดก่อนประตูปิดนั่นเอง

ข้อห้าม ห้ามเปิดประตูระหว่างตู้ค่ะ ถึงรถจะจอดอยู่ก็ตาม เราเคยเห็นคนโดนปรับมาแล้ว
3. มีวิธีที่เร็วกว่านี้มั๊ยคะ? มีค่ะ ถ้ารถเราเป็น local แต่ระหว่างทางมี express ให้ไปเปลี่ยนเป็น express ค่ะ บางสาย cross line กัน เปลี่ยนสายเลยก็ได้ค่ะ ลองแอพ google map ค่ะ มันจะแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุด (แต่ใต้ดินไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะคะ ต้องดูให้เรียบร้อยก่อนลงค่ะ)
4. บางทีตอนเช้า มันจะมีรางไม่พอให้วิ่ง ต้องวิ่งรางเดียว เค้าก็สับรางมาให้ express กะ local วิ่งรางเดียวกันค่ะ อันนี้ต้องลุ้นเอาว่า เค้าจะตกลงให้คันไหนไปก่อน ไม่จำเป็นว่า express จะได้ไปก่อน หรือ first come first serve ตาดีได้ไป ตาร้ายรอค่ะ ฟังประกาศให้ดี ๆ ว่าเค้าจะ Hold คันไหน ปล่อยคันไหน แล้วหลับหูหลับตาวิ่งเปลี่ยนคันเลยค่ะ ยิ่ง ใกล้ ๆ Times Square ตอนเช้านี้ เห็นคนวิ่งเปลี่ยนคันกันเป็นว่าเล่นเลย ป้ายเดียว กรูก็เอา (รวมทั้งเราด้วย) ตลกดี พอเปลี่ยนแล้วไม่ได้ไป นางทำหน้าเซ็งสุดขีด
5. ตู้ไหนโล่งๆ ทั้งๆ ที่เวลานั้นไม่ควรจะโล่ง ให้เรามีลางสังหรณ์ เหมือนเจนจิตสัมผัสค่ะ ว่าไม่ควรขึ้น เพราะอาจจะมีพี่ homeless เค้าขออาศัยรถไฟเที่ยวนั้น นอนหลับ แต่พี่เค้าไม่ค่อยมีโอกาสได้อาบน้ำ กลิ่นมันก็เลยไม่เป็นที่ประสงค์ คนเลยเผ่นกันหมด
เราเคยอ่านบทความเกี่ยวกับ คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วเค้าแนะนำว่า ช่วง Prime time วันธรรมดาคนไปทำงานกันเยอะ ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าว และอย่าเสียงดัง ถามเรา นิวยอร์กไม่ Serious ค่ะ ไม่อย่างนั้นเพลงพี่ เจ ซี จะบอกว่า “There is nothing you can’t do New Yorkkkkk” กรุณาลากเสียงยาว โหยหวน แต่ถ้าสัมภาระเยอะ หอบหิ้วมาจากสนามบิน เราเลี่ยงช่วง 7-9 โมงเช้าวันธรรมดา จะสะดวกกว่า ไม่ต้องไปแย่งลิฟท์กะเค้าด้วย สบาย
สวัสดีค่ะ
ปล. รถไฟใต้ดินเมืองนี้รับทานอาหารได้นะคะ แม้จะแลดูสกปรกไปหน่อย แต่ถ้าเราชิน ก็กินอร่อยอยู่ดี
[new york] นิวยอร์ก บอกไรให้ ตอน รถไฟใต้ดิน เก้าอี้ดนตรี
ตอนเช้า ๆ จะเป็นเวลาเร่งรีบ(prime time) โดยเฉพาะหนุ่มสาว office ซึ่งส่วนใหญ่ ต้องการประหยัดค่าเช่าบ้าน เค้าจะย้ายบ้านไปอยู่ไกล ๆ แถบชานเมือง หรือ New Jersey แล้วนั่งรถไฟเข้ามา ที่นี้ รถไฟใต้ดินที่นี่เค้าเก๋ค่ะ มีทั้งแบบ Local คือต๊ะต่อนยอน จอดทุกป้าย กับ Express คือจอดบางป้าย กางแผนที่รถไฟใต้ดินออกมาค่ะ ไอ่จุดดำ ๆ ทึบ ๆ คือกรุจอดทุกป้าย อีจุดวงกลมขาวๆ กลวง ๆ คือป้าย Express และป้าย express ส่วนใหญ่จะ สถานีใหญ่ มี ลิฟท์ สำหรับคนพิการ โดยจะมีรูปคนนั่งรถเข็นบอกค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น สาย B-D-F-M จะเห็นว่าตรง mid town เค้าวิ่งเส้นทางเดียวกัน F-M เป็น local จอดทุกป้าย B-D เป็น Express จอดเฉพาะป้ายใหญ่ ๆ
ถ้าบ้านไกลมาก เราควรหาที่ ที่มีรถไฟ Express นั่งค่ะ จะ local express 2.50 เหรียญเท่ากัน คราวนี้พอใกล้ๆ จะถึงปลายทาง มันจะมีเทคนิคพิเศษ พร้อมแล้ว ไปกันเลยค่ะ
1. รถไฟมันมีหลายตู้ (bogie) ใช่มั๊ยคะ เล็งค่ะ เราต้องเล็งว่า จุดหมายปลายทางที่เราจะไปมันอยู่ใกล้ทางออกไหนที่สุด แล้วนับตู้ค่ะ ว่าเราควรจะไปอยู่ตู้ไหน เมื่อถึงเวลาลงจะได้วิ่งไปถึงทางออกนั้นเป็นคนแรก เย้ ชนะ เฮ้ย ไม่ใช่ค่ะ ก็จะได้ไม่ติดลูกเด็กเล็กแดง ลุงป้าน้าอา ที่เค้าเดินช้าค่ะ
2. ถ้ามาไม่ทันตู้ที่จะขึ้นทำยังงัยคะ? อ้อไม่ยากค่ะ ขึ้นไปก่อน แล้วก็ขยันค่ะ คือ ระหว่างที่รถแล่นอยู่ก็ค่อย ๆ กระดื๊บไป ทางหัวหรือ ท้ายตู้ที่ใกล้กะตู้ที่เราต้องการค่ะ (ถ้าคนเยอะอย่าทำน้า) พอรถจอดที เราก็ลงแล้ววิ่งไปขึ้นตู้ถัดไปที่ใกล้จุดหมายปลายทาง แต่ต้องรีบๆ นะคะ อย่าโลภค่ะ ค่อย ๆ ไปทีละตู้ เดี๋ยวประตูปิด ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ตู้ที่ต้องการค่ะ ไม่ต้องกลัวจะเขินนะ เพื่อนเยอะมาก เดินตามกันเป็นลูกเป็ดเลย
แล้วมันเก้าอี้ดนตรีตรงไหนคะ? ก็บางคนชั่วโมงบินสูงเดินข้ามตู้มากกว่าทีละ 1 ตู้ แต่เค้าก็จะคอยเดินเฉียดประตูเรื่อยๆ นะคะ จนได้ยินคำว่า "stand clear of the closing door please" ก็จะกระโดดขึ้นประตูที่ใกล้ที่สุดก่อนประตูปิดนั่นเอง
ข้อห้าม ห้ามเปิดประตูระหว่างตู้ค่ะ ถึงรถจะจอดอยู่ก็ตาม เราเคยเห็นคนโดนปรับมาแล้ว
3. มีวิธีที่เร็วกว่านี้มั๊ยคะ? มีค่ะ ถ้ารถเราเป็น local แต่ระหว่างทางมี express ให้ไปเปลี่ยนเป็น express ค่ะ บางสาย cross line กัน เปลี่ยนสายเลยก็ได้ค่ะ ลองแอพ google map ค่ะ มันจะแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุด (แต่ใต้ดินไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะคะ ต้องดูให้เรียบร้อยก่อนลงค่ะ)
4. บางทีตอนเช้า มันจะมีรางไม่พอให้วิ่ง ต้องวิ่งรางเดียว เค้าก็สับรางมาให้ express กะ local วิ่งรางเดียวกันค่ะ อันนี้ต้องลุ้นเอาว่า เค้าจะตกลงให้คันไหนไปก่อน ไม่จำเป็นว่า express จะได้ไปก่อน หรือ first come first serve ตาดีได้ไป ตาร้ายรอค่ะ ฟังประกาศให้ดี ๆ ว่าเค้าจะ Hold คันไหน ปล่อยคันไหน แล้วหลับหูหลับตาวิ่งเปลี่ยนคันเลยค่ะ ยิ่ง ใกล้ ๆ Times Square ตอนเช้านี้ เห็นคนวิ่งเปลี่ยนคันกันเป็นว่าเล่นเลย ป้ายเดียว กรูก็เอา (รวมทั้งเราด้วย) ตลกดี พอเปลี่ยนแล้วไม่ได้ไป นางทำหน้าเซ็งสุดขีด
5. ตู้ไหนโล่งๆ ทั้งๆ ที่เวลานั้นไม่ควรจะโล่ง ให้เรามีลางสังหรณ์ เหมือนเจนจิตสัมผัสค่ะ ว่าไม่ควรขึ้น เพราะอาจจะมีพี่ homeless เค้าขออาศัยรถไฟเที่ยวนั้น นอนหลับ แต่พี่เค้าไม่ค่อยมีโอกาสได้อาบน้ำ กลิ่นมันก็เลยไม่เป็นที่ประสงค์ คนเลยเผ่นกันหมด
เราเคยอ่านบทความเกี่ยวกับ คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วเค้าแนะนำว่า ช่วง Prime time วันธรรมดาคนไปทำงานกันเยอะ ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าว และอย่าเสียงดัง ถามเรา นิวยอร์กไม่ Serious ค่ะ ไม่อย่างนั้นเพลงพี่ เจ ซี จะบอกว่า “There is nothing you can’t do New Yorkkkkk” กรุณาลากเสียงยาว โหยหวน แต่ถ้าสัมภาระเยอะ หอบหิ้วมาจากสนามบิน เราเลี่ยงช่วง 7-9 โมงเช้าวันธรรมดา จะสะดวกกว่า ไม่ต้องไปแย่งลิฟท์กะเค้าด้วย สบาย
สวัสดีค่ะ
ปล. รถไฟใต้ดินเมืองนี้รับทานอาหารได้นะคะ แม้จะแลดูสกปรกไปหน่อย แต่ถ้าเราชิน ก็กินอร่อยอยู่ดี