วิเคราะห์ // เกมแรง “ปัดกวาดประเทศ” : กองทัพพร้อมเข้าฮอส

http://www.peopleunitynews.com/web02/2014/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A7/

สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - ระเบิดเอ็ม 79 และห่ากระสุนปืนเอ็ม 16 ที่กราดยิงคร่าชีวิตผู้ชุมนุม กปปส. เมื่อกลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคม กลายเป็น “ปฏิกิริยาเร่ง” ให้กองทัพต้องออกมาคำรามลั่นอีกครั้ง

3 ชีวิตที่สูญเสีย และผู้บาดเจ็บอีก 20 กว่าคนเท่ากับเป็นการ “ลูบคม” กองทัพที่แสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า จะปกป้องดูแลประชาชนและผู้ชุมนุม

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กองทัพต้องออกโรงอีกครั้ง โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. แถลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ตอนหนึ่งว่า “ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขอให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้

เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็นต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม

หรือหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในขั้นนั้น

หากมีผู้หนึ่งผู้ใดหรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้นหรือกลุ่มบุคคลนั้นจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆได้

เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที

กองทัพเป็นของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชน เมื่อมีความจำเป็นอย่างเต็มความสามารถ”

จากแถลงการณ์ดังกล่าวของกองทัพบกแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้ใกล้เข้าสู่จุดที่ล่อแหลมอย่างที่สุดแล้ว

มิเช่นนั้น กองทัพบก โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่เก็บตัวเงียบและระมัดระวังท่าทีมาตลอดในระยะหลัง คงไม่ส่งรองโฆษก ทบ.ออกมาส่งสัญญาณสีเขียวเข้มขนาดนี้

น่าสนใจว่า ท่าทีอันแข็งกร้าวดังกล่าวของกองทัพนั้นสอดรับกับการเดินเกมการเมืองผ่าน “มาตรา 7” ของ กปปส. ที่ไม่น่าจะมีทางเกิดขึ้นได้ในความเป็นจริงแล้ว เนื่องจาก

1.ความเป็นไปได้ในเชิงข้อกฎหมาย ไม่เปิดช่องให้มาตรา 7 แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้

2.หากมีการนำความขึ้นกราบบังคมทูลจริงก็จะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอย่างยิ่ง

ดังนั้น การประกาศ “เดดไลน์” ครั้งแล้วครั้งเล่าของกำนันสุเทพทำท่าว่าจะกลายเป็น “เดดล็อก” ที่มัดตัวเองจนดิ้นไม่หลุดมากกว่า เพราะเป็นการเสนอเงื่อนไขที่ไม่อาจจะทำได้จริง

เว้นเสียแต่ว่า คนที่จะมาปิดเกมแทน กปปส. คือ “กองทัพ” ที่มีภารกิจดูแลความมั่นคงของประเทศ

โดยเฉพาะในภาวะที่ ศอ.รส. แปรสภาพเป็นองค์กรทางการเมืองที่เล่นการเมืองรายวัน และยังมีคำถามด้วยว่ากรรมการ ศอ.รส.หลายคนที่พ้นสภาพพร้อมนายกฯยิ่งลักษณ์ เอาเข้าจริงแล้วยังมีอำนาจสั่งการหรือไม่ และถ้ามีการสั่งการไปแล้วเจ้าหน้าที่จะซวยไปด้วยหรือเปล่า

แม้แต่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ยังถูกตั้งคำถามโดยทหารใน กอ.รมน.ว่า มีอำนาจรักษาราชการแทน ผอ.รมน.หรือไม่

ความสำคัญของประเด็นนี้ก็คือ หากนายนิวัฒน์ธำรงไม่มีอำนาจเต็มในฐานะ ผอ.รมน. การปฏิบัติงานภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็จะไม่มีกฎหมายมารองรับทันที

ดังนั้น เมื่อมาตรา 7 ทำท่าจะกลายเป็นเดดล็อก ขณะที่ ศอ.รส.ก็ไม่ต่างจากผีหัวขาด “กองทัพ” จึงกลายเป็นเพียงองค์กรเดียวที่จะเข้ามาผ่าทางตันของประเทศได้ ท่ามกลางสภาวะที่ไม่มีใครยอมใคร โดยต่างตั้งเงื่อนไขไว้สุดโต่ง และแทบจะไม่มีวันเวียนมาบรรจบกันได้เลย

คำว่า ผู้ที่กระทำผิดอาจ “ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆได้” ย่อมหมายถึงการใช้ “กฎอัยการศึก” ที่ให้อำนาจเต็มกับทหาร และผู้ได้รับผลกระทบไม่สามารถฟ้องร้องทหารได้

แปลว่า ถ้าใช้อำนาจตามกรอบกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ทหารมีความชอบธรรมที่จะใช้กฎอัยการศึก หากสถานการณ์นำไปสู่การจลาจลนองเลือด ซึ่งตอนนี้ใกล้ภาวะนั้นเต็มทีแล้ว

กองทัพเล่นตีหน้ายักษ์ในสถานการณ์แบบนี้จะเรียกว่า “ขู่” หรือหงายหน้าไพ่เล่นก็ได้ เพราะเล่นบทนักการทูตมา 5 เดือนก็ไม่เห็นมรรคผลว่า จะนำไปสู่ทางออกของประเทศได้

ตอนนี้จึงเหลือเพียง “สถานการณ์” ที่สุกงอมเท่านั้น เพราะ “เงื่อนไข” พร้อมสรรพแล้ว และไอ้ที่ขู่ทหารรายวันว่า จะเจอนรกหลังปฏิวัติแน่นั้น

วันที่รถถังเคลื่อนออกจากกรมเมื่อใด..ขออย่าให้เห็นว่าโกยอ้าวลงจากเวทีก็แล้วกัน!!

โดย – เสมา พิทักษ์ราชัน

16 พฤษภาคม 2557
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่