"บวรศักดิ์" ซัด"ศอ.รส." เอาใจ “นาย” โดยไร้สำนึก ตัดต่อคำปาฐกถาใส่ร้าย! / สำนักข่าวอิศรา (แปะข่าวดึก)


"บวรศักดิ์" โต้เดือด! ศอ.รส. ออกแถลงการณ์ฉบับ 3 พาดพิงใส่ร้าย ยันถูก "ตัดต่อ-บิดเบือน" คำปาฐกถาเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ  ซัด การกระทำมิใช่วิสัยหน่วยงานรัฐที่ดี  เป็นผู้ก่อให้เกิดความไม่สงบเสียเอง ทำตัวระราน ข่มขู่ศาล-ผู้อื่นไปทั่ว แสดงออกเอาใจ “นาย” โดยไร้ความสานึกรับผิดชอบ หวังผลทางการเมือง!

จากกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรียกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มผู้สนับสนุนกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย โดยมีข้อห่วงใยและข้อวิตกกังวลต่อการวินิจฉัยขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญซึ่งได้มีการพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่จะทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยไม่อาจบรรลุผลได้ และมีเนื้อหาบางส่วนพาดพิง คำปาฐกถาเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ของศาสตราจารย์ ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า รวมอยู่ด้วยนั้น
  
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา  www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้จัดทำคำชี้แจงแถลงการณ์ ของ ศอ.รส. ฉบับที่ 3 ดังกล่าว

โดยระบุว่า "ตามที่มีแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ของ ศอ.รส. เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งรับฟังคำพยานในคำร้องขอให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง เพราะกระทำการก้าวก่ายและแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี"

"แถลงการณ์ดังกล่าวมีลักษณะชี้นำ และก้าวล่วงกดดันศาล ซึ่งมิใช่วิสัยที่หน่วยงานของรัฐที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยกลับเป็นผู้ก่อให้เกิดความไม่สงบเสียเอง ด้วยการทำตัวระราน ข่มขู่ศาลและผู้อื่นไปทั่ว"

"ยิ่งกว่านั้น แถลงการณ์ดังกล่าวมีข้อความบางส่วนเป็นเท็จ และกล่าวหาในลักษณะที่ทำให้เข้าใจว่า ข้าพเจ้ากล่าวแสดงปาฐกถาเรื่อง “การปฏิรูปการเมืองภายใต้หลักนิติธรรม” เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 เพื่อ “....สถาปนาอำนาจตุลาการ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฏฐาธิปัตย์...เป็นการปูทางไปสู่คำวินิจฉัยที่จะสร้างสูญญากาศทางการเมืองตามที่กลุ่ม กปปส. และกลุ่มเคลื่อนไหวบางกลุ่มต้องการ เพื่อนำไปสู่การทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งมีการอ้างมาตรา 3 และมาตรา 7 ....”

"ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่เคยพูดข้อความในเครื่องหมายคำพูดนั้นในการแสดงปาฐกถา หรือในที่ใดเลย เป็นการที่ ศอ.รส. คิดเอาเอง พูดเอง ใส่ความผู้อื่นให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่มีความเป็นปกติไม่กระทำกัน"

ศาสตราจารย์ ดร. บวรศักดิ์ ยังระบุว่า "การกล่าวหาความผิดผู้อื่นโดยไม่มีมูล แต่ละเว้นที่จะพิจารณาความผิดของพวกตนเองว่าอาจเข้าข่าย “จงใจใช้อานาจขัดรัฐธรรมนูญ” นั้น มิใช่วิสัยของหน่วยงานของรัฐที่ดี และเป็นกลาง แต่แสดงออกซึ่งการเอาใจ “นาย” โดยไร้ความสานึกรับผิดชอบ"

ศาสตราจารย์ ดร. บวรศักดิ์ ยังระบุว่า การที่ ศอ.รส.นำความเพียงบางส่วนของคำปาฐกถาของข้าพเจ้ามาอ้างก็ดี นำคำบรรยายเรื่อง “เขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งข้าพเจ้าไปบรรยายให้ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 18 กันยายน 2541 และมีการถอดเทปคำบรรยายมาลงพิมพ์ในวารสารศาลรัฐธรรมนูญ ปี ที่1. ม.ค.-เม.ย. 2542 หน้า30-47 มาอ้างก็ดี เป็นการ “ตัดต่อ” ข้อความทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

"ความเป็นฝักฝ่ายทางการเมืองของ ศอ.รส.และบรรดาผู้สนับสนุนเสียงข้างมาก และต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญนี้เอง ทำให้ปาฐกถาทางวิชาการแท้ๆของข้าพเจ้าที่ไม่มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองใดๆ ไปจี้จุดในใจของเขาเหล่านั้นให้กรูกันออกมารุมวิพากษ์วิจารณ์ข้าพเจ้าอย่างกราดเกรี้ยวไม่สมฐานะของหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อย แต่กลับไปละม้ายคล้ายเสียงวิจารณ์ของฝูงชนที่ชุมนุมกันมากกว่า ทำให้เนื้อหาและถ้อยคำของแถลงการณ์แต่ละฉบับไม่ใช่สิ่งที่เป็นระเบียบแบบแผนที่ดีของทางราชการ" ศาสตราจารย์ ดร. บวรศักดิ์ ระบุ

http://www.isranews.org/เรื่องเด่น-สำนักข่าวอิศรา/item/29225-pp_29225.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่