จาตุรนต์′ ออกโรงอัด"คำแถลงศาลรธน."สับสน ชี้เป็นองค์กรต้นเหตุความขัดแย้ง ป้อง"ศอ.รส."ทำตามหน้าที่
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ปฏิบัติหน้าที่รมว.ศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้
วิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
เห็นคำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้วรู้สึกว่าเป็นคำแถลงที่สับสน สืบเนื่องมาจากบทบาทที่สับสนของศาลรัฐธรรมนูญเองในการวินิจฉัยเรื่องสำคัญๆหลายเรื่องที่ผ่านมา คำแถลงนี้ยังสะท้อนปัญหาการไม่เข้าใจว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเสียเองและตั้งตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เลือกข้างเลือกฝ่ายทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้งต่อเนื่องกันมานั้นมีผลต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคมมากเพียงใด
ความจริงคำแถลงของศอ.รส.ก็เป็นเพียงความเห็นเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ฝ่ายต่างๆช่วยกันป้องกันไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งบานปลายยิ่งขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาความสงบเรียบร้อยของประเทศคือถ้าตัดสินไม่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม บ้านเมืองก็ยิ่งไม่สงบเรียบร้อย
ดูแล้วศอ.รส.ก็ทำตามหน้าที่ของเขาอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่เห็นจะเป็นการคุกคามหรือก้าวล่วงอย่างที่สำนักงานศาลฯแถลงชี้แจงแต่อย่างใด
ความจริงปัญหาความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ต้นเหตุสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกๆก็มาจากบทบาทและการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญนี่เอง
ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเรื่องสำคัญๆแบบถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูกเต็มไปหมด การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภากลายเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ขณะที่การล้มล้างการปกครองของสุเทพกับพวกกลายเป็นการใช้เสรีภาพโดยชอบตามรัฐธรรมนูญเป็นต้น
ล่าสุดเมื่อสุเทพประกาศจะตั้งตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมีความหมายว่าจะอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือศาลรัฐธรรมนูญ จะสั่งให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญเสียก็ได้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นว่าอะไร จึงน่าสงสัยว่ากับการที่ศอ.รส.ออกมาวิจารณ์ตักเตือนตามหน้าที่กลับทำเป็นทุกข์ร้อนฟูมฟายไปทำไม
ต้องช่วยกันบอกศาลรัฐธรรมนูญว่าหากตัดสินอะไรออกมาในทางที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและไม่ชอบธรรมอีก บ้านเมืองจะยิ่งเสียหาย ระบบยุติธรรมจะยิ่งเสื่อมทรามลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเองนั่นแหละจะยิ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่ทำลายประชาธิปไตยและสร้างความแตกแยกเสียหายให้แก่ประเทศไทยมากที่สุดองค์กรหนึ่งในหลายปีมานี้
ต่อมานายจาตุรนต์โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า ...
มาถึงขณะนี้คิดว่าฝ่ายองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายคงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยที่ยังไม่สามารถหาทางล้มรัฐบาลให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อสร้างสุญญากาศทางการเมืองและตั้งนายกฯนอกรัฐธรรมนูญดังที่ตั้งใจไว้
ที่เป็นเช่นนี้เพราะถ้าพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้วจะพบว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีทางที่จะวินิจฉัยให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองไปได้ ถึงจะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยให้นายกฯพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัว แต่ครม.ทั้งคณะก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป หรือถึงแม้จะวินิจฉัยให้ครม.พ้นไปทั้งคณะทั้งๆที่ครม.พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ครม.ก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 จนกว่าจะมีครม.ใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ารับหน้าที่
ยังไม่เห็นมีช่องทางใดที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระจะทำให้ครม.ทั้งคณะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรืออยู่ในสภาพไม่มีครม.อีกต่อไป ถ้าใครไปตีความกันไปเองว่าครม.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็คงได้เห็นปรากฏการณ์แปลกๆเกิดขึ้น คือที่ตีความอย่างนั้นก็ตีไป แต่ครม.ทั้งคณะก็จะยังทำหน้าที่ต่อไป รัฐมนตรีทั้งหลายก็จะยังคงไปทำงานกันตามกระทรวงต่างๆต่อไป ใครจะให้หยุดก็คงต้องไปเอาทหารหรือตำรวจมาจับรัฐมนตรีไปขังกันละครับ
ก็ให้รู้กันไปว่าเวลากปปส.ไปยึดกระทรวงต่างๆ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังมียึดกันอยู่ในบางกระทรวง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถจัดการอะไรได้เพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร แต่พอถึงเวลาครม.ยังทำหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 181 แล้ว กลับมีเจ้าหน้าที่เข้าไปจับตัวรัฐมนตรีออกจากกระทรวง
ยังไงก็ต้องยืนยันครับว่าครม.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรนูญมาตรา 181 เท่านั้น ปฏิบัติเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ใครว่าอะไรต่างจากนี้ก็คือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่างไปจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ฝ่าฝืนรัฐธรรนูญเสียเอง(อีกแล้ว
...
โปรดระวัง...บ้านเมืองจะวอดวาย ด้วยน้ำมือองค์กรอิสระทั้งหลาย
จาตุรนต์′ ออกโรงอัด"คำแถลงศาลรธน."สับสน ชี้เป็นองค์กรต้นเหตุความขัดแย้ง ป้อง"ศอ.รส."ทำตามหน้าที่
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ปฏิบัติหน้าที่รมว.ศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้
วิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
เห็นคำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้วรู้สึกว่าเป็นคำแถลงที่สับสน สืบเนื่องมาจากบทบาทที่สับสนของศาลรัฐธรรมนูญเองในการวินิจฉัยเรื่องสำคัญๆหลายเรื่องที่ผ่านมา คำแถลงนี้ยังสะท้อนปัญหาการไม่เข้าใจว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเสียเองและตั้งตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เลือกข้างเลือกฝ่ายทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้งต่อเนื่องกันมานั้นมีผลต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคมมากเพียงใด
ความจริงคำแถลงของศอ.รส.ก็เป็นเพียงความเห็นเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ฝ่ายต่างๆช่วยกันป้องกันไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งบานปลายยิ่งขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาความสงบเรียบร้อยของประเทศคือถ้าตัดสินไม่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม บ้านเมืองก็ยิ่งไม่สงบเรียบร้อย
ดูแล้วศอ.รส.ก็ทำตามหน้าที่ของเขาอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่เห็นจะเป็นการคุกคามหรือก้าวล่วงอย่างที่สำนักงานศาลฯแถลงชี้แจงแต่อย่างใด
ความจริงปัญหาความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ต้นเหตุสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกๆก็มาจากบทบาทและการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญนี่เอง
ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเรื่องสำคัญๆแบบถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูกเต็มไปหมด การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภากลายเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ขณะที่การล้มล้างการปกครองของสุเทพกับพวกกลายเป็นการใช้เสรีภาพโดยชอบตามรัฐธรรมนูญเป็นต้น
ล่าสุดเมื่อสุเทพประกาศจะตั้งตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมีความหมายว่าจะอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือศาลรัฐธรรมนูญ จะสั่งให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญเสียก็ได้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นว่าอะไร จึงน่าสงสัยว่ากับการที่ศอ.รส.ออกมาวิจารณ์ตักเตือนตามหน้าที่กลับทำเป็นทุกข์ร้อนฟูมฟายไปทำไม
ต้องช่วยกันบอกศาลรัฐธรรมนูญว่าหากตัดสินอะไรออกมาในทางที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและไม่ชอบธรรมอีก บ้านเมืองจะยิ่งเสียหาย ระบบยุติธรรมจะยิ่งเสื่อมทรามลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเองนั่นแหละจะยิ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่ทำลายประชาธิปไตยและสร้างความแตกแยกเสียหายให้แก่ประเทศไทยมากที่สุดองค์กรหนึ่งในหลายปีมานี้
ต่อมานายจาตุรนต์โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า ...
มาถึงขณะนี้คิดว่าฝ่ายองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายคงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยที่ยังไม่สามารถหาทางล้มรัฐบาลให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อสร้างสุญญากาศทางการเมืองและตั้งนายกฯนอกรัฐธรรมนูญดังที่ตั้งใจไว้
ที่เป็นเช่นนี้เพราะถ้าพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้วจะพบว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีทางที่จะวินิจฉัยให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองไปได้ ถึงจะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยให้นายกฯพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัว แต่ครม.ทั้งคณะก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป หรือถึงแม้จะวินิจฉัยให้ครม.พ้นไปทั้งคณะทั้งๆที่ครม.พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ครม.ก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 จนกว่าจะมีครม.ใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ารับหน้าที่
ยังไม่เห็นมีช่องทางใดที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระจะทำให้ครม.ทั้งคณะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรืออยู่ในสภาพไม่มีครม.อีกต่อไป ถ้าใครไปตีความกันไปเองว่าครม.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็คงได้เห็นปรากฏการณ์แปลกๆเกิดขึ้น คือที่ตีความอย่างนั้นก็ตีไป แต่ครม.ทั้งคณะก็จะยังทำหน้าที่ต่อไป รัฐมนตรีทั้งหลายก็จะยังคงไปทำงานกันตามกระทรวงต่างๆต่อไป ใครจะให้หยุดก็คงต้องไปเอาทหารหรือตำรวจมาจับรัฐมนตรีไปขังกันละครับ
ก็ให้รู้กันไปว่าเวลากปปส.ไปยึดกระทรวงต่างๆ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังมียึดกันอยู่ในบางกระทรวง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถจัดการอะไรได้เพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร แต่พอถึงเวลาครม.ยังทำหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 181 แล้ว กลับมีเจ้าหน้าที่เข้าไปจับตัวรัฐมนตรีออกจากกระทรวง
ยังไงก็ต้องยืนยันครับว่าครม.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรนูญมาตรา 181 เท่านั้น ปฏิบัติเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ใครว่าอะไรต่างจากนี้ก็คือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่างไปจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ฝ่าฝืนรัฐธรรนูญเสียเอง(อีกแล้ว
...