เมื่อ ปปช. ชี้ความผิดนายก ในเรื่องจำนำข้าวในวันนี้ อยากจะถาม ปปช.บ้างว่า
1.การโกงที่เกิดขึ้นมันมาจากนโยบายที่ผิดจริงหรือ??
ในข้อนี้ เมื่อ ปปช. บอกว่า นายกรัฐมนตรีจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ เพราะไม่บริหารงานให้เป็นไปตามนโยบายที่จะต่อต้านการทุจริตที่ได้แถลงไว้ต่อสภาฯ คำถามคือทำไม? หรือมองแค่การสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ???
ลองมาดูโครงการต่างๆ ของรัฐบาลก่อนๆ เช่น การสร้างถนน ปรับปรุงบริการสาธารณะ รัฐสูญเสียงบประมาณโดยได้ผลกำไรตอบแทนจากสิ่งเหล่านี้บ้างหรือเปล่า?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับการใช้จ่ายของรัฐคือ ไม่ได้เพื่อแสวงหากำไรเหมือนธุรกิจเอกชน แต่เพื่อให้บริการสาธารณะ, ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, การสร้างความเท่าเทียม/ลดช่องว่างในกลุ่มประชาชน, การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโดยรวมผ่านการใช้จ่าย ทั้งในรูปเงินเดือน-เงินลงทุนต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเรากลับมามองดูหลักการของนโยบายรับจำนำข้าวแล้วคิดว่าเข้ากับข้อไหนบ้างครับ???
ก็เช่นกันกับนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งถ้ามองในเชิงเศรษฐศาสตร์แล้วนโยบายนี้ก็มีประโยชน์ในแง่กระตุ้นพลังการบริโภคจากบุคคลระดับรากหญ้าให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยและให้เงินเหล่านั้นหมุนไปในตลาดเศรษฐกิจ เท่านี้ยังไม่เพียงพออีกหรือสำหรับงบประมาณที่ลงไปที่ใครๆ ว่ารัฐขาดทุนจากนโยบายนี้ เพราะเมื่อบุคคลในระดับล่างของระบบเศรษฐกิจไทยปัจจุบันมีเงินจับจ่ายใช้สอย ใช้หนี้ ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้แล้ว เขาเหล่านั้นก็ยังพอมีเงินเหลือซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือยบางอย่างได้อีก เหล่านี้ไม่ทำให้กลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐสามารถขับเคลื่อนได้และส่งผลให้มีเงินกลับมาสู่รัฐในรูปอื่นมากขึ้นหรือ?? ส่วนจะคุ้มค่ากับทุนหรืองบประมาณที่ลงทุนไปหรือไม่คงต้องมีการพิสูจน์แต่อย่างไรก็ตามเมื่อให้กลับไปที่คำถามที่ว่างบประมาณที่รัฐลงไปนั้นเป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุหรือไม่??? ข้อความข้างต้นน่าจะตอบคำถามได้ดีพอแล้ว
2.นายกมีส่วนร่วมในการโกงในระดับนโยบายหรือไม่??
การตัดสินความผิดนายกรัฐมนตรีในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กลับปล่อยให้มีการทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีความเหมาะสมและเป็นธรรมหรือไม่??
สำหรับคำถามนี้ต้องถาม ปปช. กลับไปว่า มีการตัดสิน หรือพิสูจน์ความผิดในระดับปฏิบัติการหรือยัง???
ก็ในเมื่อยังไม่มีการตัดสินหรือพิสูจน์ความผิดในระดับปฏิบัติการ การจะมาชี้มูลความผิดผู้ดูแลโครงการในระดับนโยบายมันก็ไม่น่าที่จะมีความชอบธรรมและก็ดูพิลึกพิลั่นพอสมควร เพราะสมมติว่าเมื่อชี้ความผิดผู้ดูแลโครงการในระดับนโยบายแล้ว ต่อมาเมื่อพิสูจน์ไปแล้วว่าไม่มีการทุจริตในระดับปฏิบัติการ มัน"มีความเป็นธรรม"กับผู้กำกับดูแลระดับนโยบายหรือไม่เมื่อไปตัดสินว่าผิดไปก่อนแล้วในความผิดที่ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ยอมยับยั้งโครงการแม้ว่าจะมีผู้แนะนำว่า"อาจจะ"มีการทุจริต
หรือว่าถึงตอนนั้นก็ออกมาขอโทษแบบเงียบๆ ว่าเมื่อไม่มีการทุจริตระดับปฏิบัติการ ความผิดอันเกิดจากการไม่ยับยั้งโครงการเป็นอันสิ้นสุด??? คงตลกดีนะครับ ^^
เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากตำรวจเวลาจับแพะ เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากหมอเวลาทำผิดพลาดโดยสุจริตจากการให้การรักษาคนไข้ เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากวิศวกรเวลาตึกถล่ม
แล้วเราเคยถามหาความรับผิดชอบจากองค์กรอิสระที่ไม่ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่บกพร่อง หรือการทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามครรลองอันเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเท่าเทียมกันหรือไม่ หรือเพราะว่าองค์กรเหล่านี้ไม่เคยมีความรับผิดชอบต่องาน ต่อประชาชน เพราะว่าองค์กรเหล่านี้ไม่เคยถูกตรวจสอบไม่เคยผูกมัดหรือถูกสร้างให้มีความรู้สึกรับผิดชอบต่อประชาชน ต่อคนในสังคมเลย เพราะว่าสุดท้ายที่มาของคนเหล่านี้ไม่เคยผูกโยงกับประชาชน และไม่เคยต้องถูกประชาชนตรวจสอบ
ท่านเหล่านี้ภูมิใจกับการกระทำของท่านกันบ้างไหม วันหนึ่งข้างหน้าท่านจะบอกกับลูกหลานของท่านอย่างไร เมื่อวันนึงถ้าเขาถามท่านว่า ทำไมปู่/ย่า ไปตัดสินความผิดอธิบดีโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าลูกน้องในกรมมีการทุจริตหรือเปล่า หรือท่านจะตอบแค่ว่า ก็ตัดสินไปก่อน ถ้าลูกน้องไม่ทุจริตจริงก็โทรไปขอโทษอธิบดี แค่นี้ก็จบแล้ว คนไทยลืมง่าย แล้วก็เป็นสังคมแห่งการให้อภัย???
เราต้องยอมรับกับความบิดเบี้ยวในประเทศที่เราอยู่กันจริงๆ หรือ???
1.การโกงที่เกิดขึ้นมันมาจากนโยบายที่ผิดจริงหรือ??
ในข้อนี้ เมื่อ ปปช. บอกว่า นายกรัฐมนตรีจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ เพราะไม่บริหารงานให้เป็นไปตามนโยบายที่จะต่อต้านการทุจริตที่ได้แถลงไว้ต่อสภาฯ คำถามคือทำไม? หรือมองแค่การสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ???
ลองมาดูโครงการต่างๆ ของรัฐบาลก่อนๆ เช่น การสร้างถนน ปรับปรุงบริการสาธารณะ รัฐสูญเสียงบประมาณโดยได้ผลกำไรตอบแทนจากสิ่งเหล่านี้บ้างหรือเปล่า?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับการใช้จ่ายของรัฐคือ ไม่ได้เพื่อแสวงหากำไรเหมือนธุรกิจเอกชน แต่เพื่อให้บริการสาธารณะ, ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, การสร้างความเท่าเทียม/ลดช่องว่างในกลุ่มประชาชน, การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโดยรวมผ่านการใช้จ่าย ทั้งในรูปเงินเดือน-เงินลงทุนต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเรากลับมามองดูหลักการของนโยบายรับจำนำข้าวแล้วคิดว่าเข้ากับข้อไหนบ้างครับ???
ก็เช่นกันกับนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งถ้ามองในเชิงเศรษฐศาสตร์แล้วนโยบายนี้ก็มีประโยชน์ในแง่กระตุ้นพลังการบริโภคจากบุคคลระดับรากหญ้าให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยและให้เงินเหล่านั้นหมุนไปในตลาดเศรษฐกิจ เท่านี้ยังไม่เพียงพออีกหรือสำหรับงบประมาณที่ลงไปที่ใครๆ ว่ารัฐขาดทุนจากนโยบายนี้ เพราะเมื่อบุคคลในระดับล่างของระบบเศรษฐกิจไทยปัจจุบันมีเงินจับจ่ายใช้สอย ใช้หนี้ ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้แล้ว เขาเหล่านั้นก็ยังพอมีเงินเหลือซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือยบางอย่างได้อีก เหล่านี้ไม่ทำให้กลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐสามารถขับเคลื่อนได้และส่งผลให้มีเงินกลับมาสู่รัฐในรูปอื่นมากขึ้นหรือ?? ส่วนจะคุ้มค่ากับทุนหรืองบประมาณที่ลงทุนไปหรือไม่คงต้องมีการพิสูจน์แต่อย่างไรก็ตามเมื่อให้กลับไปที่คำถามที่ว่างบประมาณที่รัฐลงไปนั้นเป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุหรือไม่??? ข้อความข้างต้นน่าจะตอบคำถามได้ดีพอแล้ว
2.นายกมีส่วนร่วมในการโกงในระดับนโยบายหรือไม่??
การตัดสินความผิดนายกรัฐมนตรีในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กลับปล่อยให้มีการทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีความเหมาะสมและเป็นธรรมหรือไม่??
สำหรับคำถามนี้ต้องถาม ปปช. กลับไปว่า มีการตัดสิน หรือพิสูจน์ความผิดในระดับปฏิบัติการหรือยัง???
ก็ในเมื่อยังไม่มีการตัดสินหรือพิสูจน์ความผิดในระดับปฏิบัติการ การจะมาชี้มูลความผิดผู้ดูแลโครงการในระดับนโยบายมันก็ไม่น่าที่จะมีความชอบธรรมและก็ดูพิลึกพิลั่นพอสมควร เพราะสมมติว่าเมื่อชี้ความผิดผู้ดูแลโครงการในระดับนโยบายแล้ว ต่อมาเมื่อพิสูจน์ไปแล้วว่าไม่มีการทุจริตในระดับปฏิบัติการ มัน"มีความเป็นธรรม"กับผู้กำกับดูแลระดับนโยบายหรือไม่เมื่อไปตัดสินว่าผิดไปก่อนแล้วในความผิดที่ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ยอมยับยั้งโครงการแม้ว่าจะมีผู้แนะนำว่า"อาจจะ"มีการทุจริต
หรือว่าถึงตอนนั้นก็ออกมาขอโทษแบบเงียบๆ ว่าเมื่อไม่มีการทุจริตระดับปฏิบัติการ ความผิดอันเกิดจากการไม่ยับยั้งโครงการเป็นอันสิ้นสุด??? คงตลกดีนะครับ ^^
เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากตำรวจเวลาจับแพะ เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากหมอเวลาทำผิดพลาดโดยสุจริตจากการให้การรักษาคนไข้ เราเคยถามหาความรับผิดชอบจากวิศวกรเวลาตึกถล่ม
แล้วเราเคยถามหาความรับผิดชอบจากองค์กรอิสระที่ไม่ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่บกพร่อง หรือการทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามครรลองอันเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเท่าเทียมกันหรือไม่ หรือเพราะว่าองค์กรเหล่านี้ไม่เคยมีความรับผิดชอบต่องาน ต่อประชาชน เพราะว่าองค์กรเหล่านี้ไม่เคยถูกตรวจสอบไม่เคยผูกมัดหรือถูกสร้างให้มีความรู้สึกรับผิดชอบต่อประชาชน ต่อคนในสังคมเลย เพราะว่าสุดท้ายที่มาของคนเหล่านี้ไม่เคยผูกโยงกับประชาชน และไม่เคยต้องถูกประชาชนตรวจสอบ
ท่านเหล่านี้ภูมิใจกับการกระทำของท่านกันบ้างไหม วันหนึ่งข้างหน้าท่านจะบอกกับลูกหลานของท่านอย่างไร เมื่อวันนึงถ้าเขาถามท่านว่า ทำไมปู่/ย่า ไปตัดสินความผิดอธิบดีโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าลูกน้องในกรมมีการทุจริตหรือเปล่า หรือท่านจะตอบแค่ว่า ก็ตัดสินไปก่อน ถ้าลูกน้องไม่ทุจริตจริงก็โทรไปขอโทษอธิบดี แค่นี้ก็จบแล้ว คนไทยลืมง่าย แล้วก็เป็นสังคมแห่งการให้อภัย???