[CR] ~o~ พาไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแสนสวยย่านเอกมัย IN the mood for LOVE: ONE ค่ะ ~o~

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้แพรจะพาไปทานอาหารกันที่ร้าน IN the mood for LOVE: ONE นะคะ หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อร้าน IN the mood for LOVE มาบ้างแล้ว ร้านนี้สาขาแรกอยู่ที่สุขุมวิท 36 ถ้าบอกว่าเจ้าของร้านนิยมชมชอบผู้กำกับดัง Wong Kar-wai เป็นชีวิตจิตใจคงไม่แปลกใจเลยใช่มั้ยคะถึงที่มาของชื่อร้าน

IN the mood for LOVE: ONE อยู่ซอยเอกมัย 1 ค่ะ ซอยนี้อยู่ตรงข้ามกับ Healthland สาขาเอกมัย เข้าซอยมาแล้วร้านจะอยู่ซ้ายมือ ที่จอดรถสะดวกกว่าสาขาแรกเยอะเลยค่ะ บรรยากาศในร้านฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายจากหนังเรื่อง In the Mood For Love ร้านกว้าง นั่งสบายกว่าสาขาแรก ...

จริงๆ จะบอกว่าไม่ได้คาดหวังกับอาหารที่นี่มากเท่าไหร่ เพราะครั้งก่อนที่ไปทานที่สาขาแรก แพรเฉยๆ กับ Rolls ร้านนี้มากเลยค่ะ ทั้งๆ ที่สั่งแต่ตัวแนะนำของที่ร้าน (Guilty But Happy ที่เป็นเทมปุระกับครีมชีส และ Sweet 16 ที่เป็นโรลปลาไหล อะโวคาโด และสตรอเบอรี่) ครั้งนี้ พอเดินเข้ามาในร้านปุ๊บ ถึงกับ 'เอ๊ะ' เพราะที่นั่งตรง sushi bar ถูกจองไว้เต็มสำหรับ omakase เรียบร้อยแล้ว . . .

พอเห็นแบบนี้ เลยขอลองกิน nigiri ของร้านนี้ดูซักตั้งค่ะ เพราะถ้าร้านไม่ดีจริงคงไม่ถูกจองที่นั่งสำหรับคอร์ส omakase เต็มแบบนี้ในคืนวันธรรมดา...

เริ่มดีกว่าค่ะ มื้อนี้แพรเริ่มด้วย Horenzo No Gome-ae เป็นผักโขมราดด้วยซอสงาข้นๆ ค่ะ ซอสรสชาติเข้มข้น มีมิติกว่าของ Isao รสชาติใช้ได้ แต่ไม่ถึงยังไงก็ต้องสั่ง

จานถัดมา อันนี้ขอนั่งยัน นอนยัน ยืนยัน ว่าถ้าไปร้านนี้ ยังไงก็ต้องสั่งจานนี้ ...
Skin Salad หรือสลัดหนังปลาแซลมอลค่ะ อันนี้คือที่สุดเลยค่ะ เค้าใช้เนื้อและหนังส่วนท้องของแซลมอนมาทอดกรอบ โรยมาบนผักสลัดที่แช่เย็นมา คลุกมากับน้ำสลัด แล้วก็ท็อปมาด้วยไข่สุดเยิ้ม อันนี้อยากให้ลองสุดๆ อร่อยมาก ...

จานที่ถูกเสิร์ฟที่โต๊ะจานต่อไปก็คือ Raclette Tofuค่ะ อันนี้เป็นเมนูประยุกต์อาหารเอเชียอย่างเต้าหู้ มาทำ Raclette ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของสวิส ออกมาเป็นเต้าหู้เสิร์ฟมากับชีสเยิ้มๆ สำหรับจานนี้เค้าเสิร์ฟ dipping sauce รสออกเปรี้ยวมาให้ทานคู่กันด้วยเพื่อตัดเลี่ยน แต่แพรรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากัน

อีกจานที่อยากให้สั่งคือ Gindara Saikyo Yaki .. เป็นปลา Gindara ย่างมิโสะค่ะ ปลา Gindara กับมิโสะเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ร้านนี้ย่างมาได้พอดิบพอดี ชุ่มฉ่ำดีมาก ทานได้เพลินๆ ไม่รู้จะติอะไร : )

Roll ที่สั่งมาลองคราวนี้คือ Very Salmon .. จะบอกว่า โอ๊ะ มากก ... เป็นแซลมอนห่อแซลมอนค่ะ ส่วนประกอบอื่นก็มี ebiko กับ avocado แล้วก็ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เป็นจานที่หน้าตาธรรมดา แต่พอใส่ปากปุ๊บ มีความสุขทันที เค้าใช้แซลมอนส่วนท้องมาเผาไฟ (aburi) นิดๆ พอให้ไขมันสะดุ้ง ก่อนมาทำโรล อันนี้มาคราวหน้าก็จะสั่งอีกค่ะ อร่อยลืมอ้วน

ปิดท้ายด้วยจานสุดท้ายที่สั่งมา เป็น nigiri platter แบบตามใจฉัน .. อยากกินอะไรเลือกเองสั่งเอง . . .
แพรสั่งมาทั้งหมด 6 คำ ... มี Chutoro, Ika, Ikura, Salmon Aburi, Madai, และ Uni
Ikura, Madai, และ Ika คุณภาพดี แต่กินแล้วก็ธรรมดา ไม่กรี๊ดกร๊าดหลับตาพริ้มแบบเวลาเจอซูชิถูกใจ
แต่ที่ทำหน้ามีความสุขจนเพื่อนหมั่นไส้ ก็ตอนเอามือหยิบ Chutoro, Salmon Aburi, และ Uni ใส่ปากนี่ล่ะค่ะ ... Chutoro ดูจากรูปจะค่อนข้าง lean แต่พอใส่ปากปุ๊บ ไม่ละลายในปากแบบ Otoro แต่แค่กัดเบาๆ ก็ขาดแล้ว รสชาติมันแน่นดีมากเลยค่ะ กินเสร็จนั่งยิ้มจนเพื่อนงง LOL

ส่วน Uni ดูจากรูปก็น่าจะพอบอกได้ เกาะกันมาไม่เละ แถมสีสวยขนาดนี้ ... ใส่ปากปุ๊บนี้ ยังกะกำลังกิน Sea Custard อยู่ ... หวานๆ เย็นๆ มีกลิ่นทะเลบางๆ ไม่คาวซักนิด อร่อยเป็นลม ...

คำสุดท้ายที่ทำให้มีความสุขกับการกระเป๋าแฟบคืนนี้ก็คือ Salmon Aburi Nigiri ค่ะ ฟังดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาเลย ... แพรเป็นคนชอบกินซูชิด้วยมือ พอจับคำนี้ปุ๊บ ตาเป็นประกายทันที เป็นท้องแซลมอนที่ถูกเผาไฟนิดๆ (aburi) จนไขมันสะดุ้งเดือดและผิวเกรียมนิดๆ แต่พอหยิบเข้าปากนี่ละลายหายไปเลยค่ะ โอยย ฟินน์ ฟินน์ ฟินนน์น์น์

อ้อ สำหรับคนชอบดื่ม จะบอกว่าร้านนี้ cocktails อร่อยค่ะ ถ้าชอบหนักแน่นก็ยิ้มหวานบอกไปได้เลย ว่าขอเข้มนะคะ (แพรทำประจำเลยยย ...)