หากไม่ได้รับความยุติธรรมจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต คุณสามารถยกเลิกได้ โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ ขอแชร์ประสบการณ์

วันก่อนมีเพื่อนมาปรึกษา เพิ่งติดอินเตอร์เน็ตได้แค่สามเดือน แต่เน็ตช้ามาก หลุดบ่อยด้วย ช่างมาซ่อมตั้งหลายรอบ ไม่เห็นดีขึ้น อยากเปลี่ยนค่าย ก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะติดสัญญา ถ้ายกเลิกตอนนี้ต้องจ่ายเยอะ ก็เลยแนะนำเพื่อนไปว่า ยกเลิกได้ เพราะผมเคยทำมาแล้ว ไหนๆ ก็แนะนำเพื่อนไปแล้ว เลยขอแชร์ประสบการณ์ให้กับชาวพันทิพ เพื่อที่จะได้ไม่โดนผู้บริการอินเตอร์เน็ตเอาเปรียบ แต่ต้องบอกก่อนว่า ยกเลิกไป 7-8 เดือนแล้ว อาจจะมีหลงลืมรายละเอียดบ้าง ขออภัย


    ไม่ขอเอ่ยชื่อผู้ให้บริการนะครับ เอาเป็นว่า ขอเรียกผู้บริการอินเตอร์เน็ตที่ใช้อยู่เป็นค่าย A อินเตอร์เน็ตของค่ายนี้มีการจำกัดความเร็วเน็ตออกต่างประเทศในบางช่วงเวลา โดยผมใช้บริการมานานแล้ว หากยกเลิกก็ไม่ต้องเสียอะไร จึงอยากจะเปลี่ยนไปใช้ของค่าย B ก็เลยสมัครไป เลือกความเร็วเท่ากับค่าย A โดยที่ยังไม่ยกเลิกค่าย A เอาไว้เปรียบเทียบกัน เมื่อติดของค่าย B เสร็จ ปรากฏว่าเน็ตค่าย B ช้ากว่าค่าย A มากๆ ทั้งๆ ที่แพ็คเกจความเร็วเท่ากัน ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ตามของค่าย B ช้ากว่าช่วงจำกัดเวลาของค่าย A เสียอีก ตอนนั้นก็เริ่มใจเสีย คิดในใจ ไม่หน้ารนหาที่เลย น่าจะทนใช้ของเดิม ต้องขอบอกก่อนว่า ก่อนหน้าที่ใช้บริการเน็ตค่าย A เคยใช้ของค่าย B มาก่อน เวลาเน็ตช้า เขาจะอ้าง (หน้าด้านๆ) ว่าคอมมีไวรัสหรือปล่าว พอบอกไปว่ามีคอม 3 เครื่อง ช้าเหมือนกันหมด มีหน้ามาบอกว่า คอมอาจจะมีไวรัสทั้งสามเครื่อง ก็เลยยกเลิกไป แล้วเปลี่ยนมาเป็นค่าย A ตอนนั้นใช้มาหลายปีแล้ว เลยยกเลิกได้ ไม่มีปัญหา ผ่านมาหลายปี คิดว่าปรับปรุงแล้ว เลยจะกลับไปใช้ใหม่ แต่คิดผิดมหันต์


    พอทดสอบความเร็วของค่าย B และพบว่ามันช้ามาก ตอนนี้มุขไวรัสคงจะใช้ไม่ได้ เพราะเทียบกับเน็ตอีกค่าย จากคอมเครื่องเดียวกัน และดาวโหลดจากที่เดียวกัน จึงติดต่อไปที่ค่าย B ซึ่งพนักงานก็บอกว่า สัญญาณกำลังจูนกันอยู่ สักตอนเย็นน่าจะเข้าที่ เราก็รอจนตอนเย็นก็แล้ว ค่ำก็แล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น เลยคิดจะขอยกเลิกวันนั้นเลย (ติดวันเดียว ยกเลิกเลย) จะได้กลับไปใช้ของค่าย A ที่ยังไม่ยกเลิก เลยถามพนักงานไปว่ายกเลิกได้มั้ย เขาบอกว่าถ้าจะยกเลิกตอนนี้ต้องเสียค่าปรับโดยรวมประมาณห้าพันกว่าบาท ตอนนั้นโมโหมาก ความผิดของเราก็ไม่ใช่ เน็ตตัวเองห่วยเอง ทำไมเราต้องจ่ายเยอะขนาดนี้ ไม่ยุติธรรมเลย แต่เขาก็บอก เขาจะส่งช่างมาดูให้พรุ่งนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าได้ส่งหรือปล่าว แต่เน็ตก็ยังไม่ได้ขึ้น ตอนแรกก็เกือบจะยอมเสียห้าพัน คิดว่าเป็นค่าโง่ แต่จากการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต พบว่าไม่ต้องเสียเยอะขนาดนั้น  โดยให้ร้องเรียนกับ กสทช. ก็เลยลองโทรสอบถามข้อมูลกับกสทช.ดู พนักงานบอกว่า ถึงแม้ว่าจะเซ็นต์สัญญาแล้วแต่มีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอยู่ ซึ่งสัญญาไม่สามารถขัดได้ อย่างไรก็ดีอาจจะต้องจ่ายค่าอุปกรณ์แต่ส่วนมากไม่เกินพัน  พนักงานแนะนำว่าถ้าจะยกเลิก ให้ถอดปลั๊กอินเตอร์เน็ตออก ไม่ต้องเล่น ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น และส่งหนังสือร้องเรียนเข้าไป ซึ่งผมก็ทำตามโดยส่งเอกสารทางแฟ็กซ์ในวันนั้นเลยและก็ได้รับการติดต่อกลับในวันรุ่งขึ้น (ถือว่าเร็วมาก เทียบกับบริการราชการไทยอื่นๆ) ได้รับแจ้งว่าทางกสทช.ได้ส่งเรื่องให้ทางค่าย B แล้ว ให้รอการติดต่อกลับ เย็นวันนั้นค่าย B ติดต่อกลับมา พยายามง้อ บอกเดี๋ยวจะส่งช่างเข้าไปดู ซึ่งผมก็ให้โอกาส เพราะก็ยังอยากเลิกของค่าย A อยู่ โดยนัดให้ช่างเข้ามาในสองวันถัดมา แต่เมื่อมาถึงเวลานัดช่างไม่เข้ามาสักที เลยโทรไปเช็คดูปรากฏว่าชื่อของผมโดนลบออกไปจากระบบแล้ว ผมงงมาก เขาแล้วจะนัดช่างเข้ามาทำเผือกอะไร


    หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์กสทช.ติดต่อมา สอบถามความคืบหน้า ซึ่งผมก็ยังไม่ได้รับแจ้งอะไรจากทางผู้ให้บริการ หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ค่าย B ถึงติดต่อมา แจ้งว่าได้ทำเรื่องยกเลิกไปแล้ว ผมไม่ต้องเสียอะไรแม้แต่บาทเดียว


    ถ้าคุณไม่ได้รับความยุติธรรมจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต อย่ายอมครับ ให้ติดต่อกสทช.เลย โดยเฉพาะกรณีที่มีปัญหาแบบของผม ถึงแม้จะมีสัญญาอยู่ ร้องเรียนได้แน่นอน ไม่ต้องทนโดนเอาเปรียบ ส่วนกรณีที่เน็ตไม่มีปัญหาแต่ต้องการยกเลิกเพราะย้ายบ้านก่อนหมดสัญญาหรืออะไรก็ตาม ผมได้สอบถามกรณีนี้กับกสทช. เขาก็บอกแจ้งเข้ามาได้ อาจจะต้องเสียค่าอุปกรณ์และค่าติดตั้ง ซึ่งส่วนมากไม่เกินหนึ่งพันบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่