จขกท. คิดมานานแล้วว่าจะตั้งกระทู้นี้ แต่ว่าไม่มีโอกาสซักที เพราะว่า ไม่มีคีย์บอร์ดไทย บางทีพิมพ์แอบลำบากนิดหน่อย + งานค่อนข้างยุ่ง
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นจริง ในเวลาที่ต่างกัน ในช่วง 3-4 ปี ที่ จขกท. เดินทางไปมา ระหว่างประเทศ
มีทั้งที่โดนด้วยตัวเอง ได้ยินคนข้างๆ พูดคุย มีตอบโต้กลับไปบ้าง มีแบบเฉยๆ ไม่รู้จะทำอะไร เพราะเหนื่อยจะไปสู้รบด้วย
ขอเริ่มเลยละกันนะคะ
เรื่องแรก (โดนกับตัวเอง)
ปลายปีที่แล้ว จขกท. บินกลับไทย เพราะเรื่องด่วนของครอบครัว และได้บินกลับพร้อมกับคู่หมั้น ที่เป็น ชาวต่างชาติ
ตอนนั้น จขกท. ใส่หูฟังสำหรับฟังเพลงไว้ ยังไม่ได้ถอดออก แต่ว่าปิดเพลงไปแล้ว เราทั้งคู่ก็เดินไปนั่งรอเครื่องที่เกท
เก้าอี้ตรงกันข้ามเยื้องๆไปหน่อย มี มนุษย์ป้า ไฮโซ กับลูกสาว วัยประมาณ 25+ นั่งรอไฟลท์อยู่เหมือนกัน
คู่หมั้นของเราก็นั่งอ่านหนังสือไป ตัวเราเมื่อนั่งลง กำลังจะปิดเพลง แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน บทสนทนาของสองแม่ลูกก็เริ่มขึ้น
มนุษย์ป้า : น้อง A (นามสมมุติ) ดูคนนั้นสิคะ ลูก เจอเมียฝรั่งอีกละ ดูสิ นั่งเชิดอย่างกับคุณนาย ฮิๆ
ลูกมนุษย์ป้า : คนนี้นี่แปลกจากคนอื่นนะแม่ อ้วนก็อ้วน ตัวอย่างกับโอ่ง ปั๋วฝรั่งมัน รสนิยมแปลกๆ หรือมันเป็นเทรนด์ใหม่
*** จขกท. เป็นคนอวบ + สูง ค่ะ ***
แล้วสองแม่ลูกก็หัวเราะคิกคักกันสองคน ตอนแรกเราเหนื่อยค่ะ เพราะมีเรื่องด่วนที่บ้านจริงๆ เลิกงานปั้บ บุคไฟลท์ด่วนสุดบินกลับไทยเลย
กังวลใจเรื่องที่บ้านมากพออยู่แล้ว ไม่อยาก + คิดว่า เออ เค้าจะคิดอะไรก็ปล่อยเค้า เราห้ามความคิดคนอื่นให้คิดเกี่ยวกับเราไม่ได้
แต่...... 10 นาทีผ่านไป นางสองแม่ลูกวนกลับมานินทาเราต่อคะ คิดว่าเราไม่ได้ยินเพราะยังใส่หูฟังอยู่ และคิดว่าตัวเองพูดเสียงเบา
ลูกมนุษย์ป้า : แม่ๆ ดูกระเป๋านางสิ ดูยังไงก็ของปลอม ทำเป็นถือ LV ชูคอ น่าจะเรียกให้เค้ามาตรวจกระเป๋านาง เอาให้เสียค่าปรับให้เข็ด ฮิๆ
มนุษย์ป้า : (หัวเราะคิกคัก) อย่าเลยลูก สงสารมัน ไม่รู้จะมีเงินพอเสียค่าปรับมั้ย
ลูกมนุษย์ป้า : จริงด้วยค่ะแม่ (หัวเราะคิกคัก)
ณ จุดนั้น เราถอดหูฟังออก วางของบนตักลง หยิบขนมในกระเป๋า เดินไปหา สองนางนั่น แล้วยื่นขนมให้ พูดกับสองนางนั่นว่า
จขกท. : นี่ค่ะ เอานี่ไปทานเล่นเพลินๆนะคะ ปากจะได้ไม่ว่างไปแกว่งหาเรื่องแบบนี้
สองแม่ลูกก็นิ่ง ไม่พูดอะไร ไม่ขอโทษ หยิบของเดินหนีไปเลย ทำเป็นเนียนไปเข้าห้องน้ำ
ตอนนั้น จขกท. อยากตามไป + มาก แต่คุณแฟนห้ามไว้ เพราะเค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เล่าๆไป แล้วก็จบตรงนั้น
ตอนขึ้นเครื่องก็เห็นสองนางแม่ลูกอีก มองตาขวางมาใส่เรา แต่ จขกท. ก็เฉยๆไปค่ะ ไม่อยากมีเรื่องต่อ -*-
เรื่องที่ 2
ตอนนั้นจะบินกลับมาทำงาน จากไทยค่ะ บินจากไทย จนถึงประเทศที่ต้องต่อเครื่อง ก็ไม่มีปัญหาอะไร มามีปัญหาช่วงต่อเครื่องนี่แหละ
ช่วงนั่งรอเหมือนเดิม เราไปนั่งข้างๆ สาวๆกลุ่มนึงค่ะ คาดว่าจะมากับทัวร์ เก้าอี้มี 5 ตัว สามสาวนั่งไปแล้ว 3 ที่ เรานั่งอีกที่นึง โดยมีที่นั่งที่นึงว่าง
นึกภาพออกมั้ยคะ ถ้าเก้าอี้ เป็น หมายเลข 1-5 สามสาวนั่ง 1-3 ตัวที่ 4 ว่าง และ ตัวที่ 5 เรานั่ง
ตอนที่เราเดินไปนั่ง นางๆก็ยิ้มให้นิดหน่อย ไม่อะไรมาก นั่งไปได้ซักพัก มีพี่ผู้หญิงคนนึง เดินมาที่เกท มือนึงอุ้มลูกอ่อนไว้ อีกมือก็จูงลูกชาย อายุราวๆ 8-9 ขวบ
คือมันดูออกว่า เป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก เพราะพี่เค้าดูเก้ๆกังๆมากๆ พี่เค้าก็กำลังมองหาที่นั่งอยู่
1 ใน สามสาวนั้นรีบพูดขึ้นมาว่า "แกๆ เอากระเป๋าวางกันไว้บนเก้าอี้ตัวนั้นสิ เค้าจะได้ไม่มานั่งกับเรา"
แล้ว คนที่นั่งใกล้เก้าอี้ว่างก็รีบเอาของมาวางกองๆ ไว้บนเก้าอี้ตัวที่ว่างทันที
เราหันไปมองแล้วเห็นนางสามคน มองพี่ผู้หญิงคนนั้น อย่างดูถูกมาก มีคนนึงพูดเบาๆประมาณว่า "แหวะ ไม่ชอบเลยว่ะ ผู้หญิงพวกนี้"
พี่คนนั้นก็เหมือนพยายามมองๆหาที่นั่งอยู่ มันมีที่นั่งไกลเกทมากมีแต่ฝรั่งนั่ง ดูแล้วพี่เค้าก็กลัวๆ พยายามมองหาคนหน้าตาเป็นมิตรนั่งด้วย
เราเลยหันไปสะกิดสาวๆกลุ่มนั้น แล้วยิ้มให้ บอกพวกนางว่า "ขอโทษนะคะ ตรงนี้มีคนนั่งมั้ยคะ พอดีมีเพื่อนกำลังมาน่ะค่ะ"
พวกนางก็ยิ้มให้เรา บอกว่า "อ๋อ ไม่มีค่ะ มานั่งได้เลย" เราก็ช่วยพวกนางหยิบกระเป๋าออก แล้วเราก็เดินไปเรียกพี่คนนั้นมานั่ง
พี่เค้าขอบใจเราใหญ่เลย ส่วนสามนางนั้น เหวอมาก ไม่พ้น หลังจากตรงนั้น พวกนางคงด่าเรายับแน่ๆ 55
ขอเล่าแค่สองเรื่องนะคะ จริงๆยังมีอีกเยอะ แต่มันยิบย่อย ขอเล่าแค่พอเป็นตัวอย่าง เพราะส่วนใหญ่บางที่เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร มันเพลีย
จากเรื่องที่เล่าไปข้างต้นนี่ เราอยากจะให้ทุกคน เลิกดูถูกคนไทยด้วยกันเองเถอะค่ะ เราไม่ชอบเวลาคนต่างชาติดูถูกเรา
ไม่ชอบเวลาที่เค้ามองเราในแง่ลบ แต่ทำไมเราคนไทยยังดูถูกกันเองเลย
ชีวิตของคนเราทุกคน มีบริบทที่แตกต่างกันไป เราไม่ควรเอามาตรฐานของตัวเราไปตัดสินค่าของคนอื่น
ไม่ว่าเค้าจะไปต่างประเทศด้วยเหตุผลอะไร เค้าเคยเป็นอะไร ทำอาชีพอะไรมาก่อน
ทุกๆคน ล้วนไขว่คว้าสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิตให้ตัวเองและคนที่เค้ารัก ต่อให้คนเหล่านั้น จะทำด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม
ถ้าช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกันไป หรือถ้าไม่มีอะไรจะต้องช่วย หรือทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ หยุดคะนองปาก แล้วเก็บอคติไว้ในใจดีกว่า
อย่าคิดแค่ว่าชีวิตตัวเองมีดี เพรียบพร้อมมากกว่าคนอื่นแล้วจะสามารถ ใช้ตรงนั้นมาเยี่ยมย่ำคนอื่นได้
จขกท. อยากให้สังคมไทย เป็นแบบน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ในแบบที่ผู้ใหญ่สอนให้เราเป็น
ก่อนที่ จขกท. จะมาใช้ชีวิตในต่างแดน ได้ยินมาตลอดว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน และ จขกท. ก็เจอเรื่องราวน่ารักๆ เยอะแยะในต่างแดน
คนที่จิตอคติ ที่ชอบดูถูกคนอื่น มีอยู่ไม่มากในวันนี้ก็จริง แต่ดูเหมือนมันเพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวันๆ
สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว มาทำตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่ ให้เด็กเอาเยี่ยงอย่างเถอะค่ะ
ไม่อยากให้เด็กไทยในวันนี้ โตไปเป็นมนุษย์ป้าในวันหน้า
จขกท. ขอจบ หัวกระทู้ไว้เพียงเท่านี้ (หมดเวลาพักเที่ยงที่ทำงาน ต้องทำงานต่อค่ะ 55)
ไว้จะกลับมาเล่าเรื่องราวน่ารักๆของพี่ๆคนไทยในต่างแดนที่ไปพบประสบมาทีหลังนะคะ
สวัสดีค่ะ
อีดิทเพิ่มเติมนะคะ
เพิ่งมาเห็นกลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้วขอบคุณมากค่ะ
โดยส่วนตัว จขกท. ทราบนะคะ ว่าไม่ได้เป็นเฉพาะชาติเรา ชาติอื่นๆก็เป็น
แต่เราไม่ได้แคร์ว่าคนชาติอื่นเป็นยังไง เพราะเราไม่ได้สนใจเค้า
เราสนใจ คนของเรา ในประเทศของเรามากกว่าค่ะ และก็ทราบดีว่ามันเป็นอยู่ที่นิสัยและการอบรมสั่งสอน
แต่ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ว่ากระทู้นี้จะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ แค่ให้ซัก 1-2 คน เปลี่ยนแปลงได้ จขกท. ก็ดีใจแล้วค่ะ
อยากให้คนไทยเลิกดูถูก นินทา วิจารณ์ คนไทยด้วยกันเองเวลาไปต่างแดนค่ะ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นจริง ในเวลาที่ต่างกัน ในช่วง 3-4 ปี ที่ จขกท. เดินทางไปมา ระหว่างประเทศ
มีทั้งที่โดนด้วยตัวเอง ได้ยินคนข้างๆ พูดคุย มีตอบโต้กลับไปบ้าง มีแบบเฉยๆ ไม่รู้จะทำอะไร เพราะเหนื่อยจะไปสู้รบด้วย
ขอเริ่มเลยละกันนะคะ
เรื่องแรก (โดนกับตัวเอง)
ปลายปีที่แล้ว จขกท. บินกลับไทย เพราะเรื่องด่วนของครอบครัว และได้บินกลับพร้อมกับคู่หมั้น ที่เป็น ชาวต่างชาติ
ตอนนั้น จขกท. ใส่หูฟังสำหรับฟังเพลงไว้ ยังไม่ได้ถอดออก แต่ว่าปิดเพลงไปแล้ว เราทั้งคู่ก็เดินไปนั่งรอเครื่องที่เกท
เก้าอี้ตรงกันข้ามเยื้องๆไปหน่อย มี มนุษย์ป้า ไฮโซ กับลูกสาว วัยประมาณ 25+ นั่งรอไฟลท์อยู่เหมือนกัน
คู่หมั้นของเราก็นั่งอ่านหนังสือไป ตัวเราเมื่อนั่งลง กำลังจะปิดเพลง แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน บทสนทนาของสองแม่ลูกก็เริ่มขึ้น
มนุษย์ป้า : น้อง A (นามสมมุติ) ดูคนนั้นสิคะ ลูก เจอเมียฝรั่งอีกละ ดูสิ นั่งเชิดอย่างกับคุณนาย ฮิๆ
ลูกมนุษย์ป้า : คนนี้นี่แปลกจากคนอื่นนะแม่ อ้วนก็อ้วน ตัวอย่างกับโอ่ง ปั๋วฝรั่งมัน รสนิยมแปลกๆ หรือมันเป็นเทรนด์ใหม่
*** จขกท. เป็นคนอวบ + สูง ค่ะ ***
แล้วสองแม่ลูกก็หัวเราะคิกคักกันสองคน ตอนแรกเราเหนื่อยค่ะ เพราะมีเรื่องด่วนที่บ้านจริงๆ เลิกงานปั้บ บุคไฟลท์ด่วนสุดบินกลับไทยเลย
กังวลใจเรื่องที่บ้านมากพออยู่แล้ว ไม่อยาก + คิดว่า เออ เค้าจะคิดอะไรก็ปล่อยเค้า เราห้ามความคิดคนอื่นให้คิดเกี่ยวกับเราไม่ได้
แต่...... 10 นาทีผ่านไป นางสองแม่ลูกวนกลับมานินทาเราต่อคะ คิดว่าเราไม่ได้ยินเพราะยังใส่หูฟังอยู่ และคิดว่าตัวเองพูดเสียงเบา
ลูกมนุษย์ป้า : แม่ๆ ดูกระเป๋านางสิ ดูยังไงก็ของปลอม ทำเป็นถือ LV ชูคอ น่าจะเรียกให้เค้ามาตรวจกระเป๋านาง เอาให้เสียค่าปรับให้เข็ด ฮิๆ
มนุษย์ป้า : (หัวเราะคิกคัก) อย่าเลยลูก สงสารมัน ไม่รู้จะมีเงินพอเสียค่าปรับมั้ย
ลูกมนุษย์ป้า : จริงด้วยค่ะแม่ (หัวเราะคิกคัก)
ณ จุดนั้น เราถอดหูฟังออก วางของบนตักลง หยิบขนมในกระเป๋า เดินไปหา สองนางนั่น แล้วยื่นขนมให้ พูดกับสองนางนั่นว่า
จขกท. : นี่ค่ะ เอานี่ไปทานเล่นเพลินๆนะคะ ปากจะได้ไม่ว่างไปแกว่งหาเรื่องแบบนี้
สองแม่ลูกก็นิ่ง ไม่พูดอะไร ไม่ขอโทษ หยิบของเดินหนีไปเลย ทำเป็นเนียนไปเข้าห้องน้ำ
ตอนนั้น จขกท. อยากตามไป + มาก แต่คุณแฟนห้ามไว้ เพราะเค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เล่าๆไป แล้วก็จบตรงนั้น
ตอนขึ้นเครื่องก็เห็นสองนางแม่ลูกอีก มองตาขวางมาใส่เรา แต่ จขกท. ก็เฉยๆไปค่ะ ไม่อยากมีเรื่องต่อ -*-
เรื่องที่ 2
ตอนนั้นจะบินกลับมาทำงาน จากไทยค่ะ บินจากไทย จนถึงประเทศที่ต้องต่อเครื่อง ก็ไม่มีปัญหาอะไร มามีปัญหาช่วงต่อเครื่องนี่แหละ
ช่วงนั่งรอเหมือนเดิม เราไปนั่งข้างๆ สาวๆกลุ่มนึงค่ะ คาดว่าจะมากับทัวร์ เก้าอี้มี 5 ตัว สามสาวนั่งไปแล้ว 3 ที่ เรานั่งอีกที่นึง โดยมีที่นั่งที่นึงว่าง
นึกภาพออกมั้ยคะ ถ้าเก้าอี้ เป็น หมายเลข 1-5 สามสาวนั่ง 1-3 ตัวที่ 4 ว่าง และ ตัวที่ 5 เรานั่ง
ตอนที่เราเดินไปนั่ง นางๆก็ยิ้มให้นิดหน่อย ไม่อะไรมาก นั่งไปได้ซักพัก มีพี่ผู้หญิงคนนึง เดินมาที่เกท มือนึงอุ้มลูกอ่อนไว้ อีกมือก็จูงลูกชาย อายุราวๆ 8-9 ขวบ
คือมันดูออกว่า เป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก เพราะพี่เค้าดูเก้ๆกังๆมากๆ พี่เค้าก็กำลังมองหาที่นั่งอยู่
1 ใน สามสาวนั้นรีบพูดขึ้นมาว่า "แกๆ เอากระเป๋าวางกันไว้บนเก้าอี้ตัวนั้นสิ เค้าจะได้ไม่มานั่งกับเรา"
แล้ว คนที่นั่งใกล้เก้าอี้ว่างก็รีบเอาของมาวางกองๆ ไว้บนเก้าอี้ตัวที่ว่างทันที
เราหันไปมองแล้วเห็นนางสามคน มองพี่ผู้หญิงคนนั้น อย่างดูถูกมาก มีคนนึงพูดเบาๆประมาณว่า "แหวะ ไม่ชอบเลยว่ะ ผู้หญิงพวกนี้"
พี่คนนั้นก็เหมือนพยายามมองๆหาที่นั่งอยู่ มันมีที่นั่งไกลเกทมากมีแต่ฝรั่งนั่ง ดูแล้วพี่เค้าก็กลัวๆ พยายามมองหาคนหน้าตาเป็นมิตรนั่งด้วย
เราเลยหันไปสะกิดสาวๆกลุ่มนั้น แล้วยิ้มให้ บอกพวกนางว่า "ขอโทษนะคะ ตรงนี้มีคนนั่งมั้ยคะ พอดีมีเพื่อนกำลังมาน่ะค่ะ"
พวกนางก็ยิ้มให้เรา บอกว่า "อ๋อ ไม่มีค่ะ มานั่งได้เลย" เราก็ช่วยพวกนางหยิบกระเป๋าออก แล้วเราก็เดินไปเรียกพี่คนนั้นมานั่ง
พี่เค้าขอบใจเราใหญ่เลย ส่วนสามนางนั้น เหวอมาก ไม่พ้น หลังจากตรงนั้น พวกนางคงด่าเรายับแน่ๆ 55
ขอเล่าแค่สองเรื่องนะคะ จริงๆยังมีอีกเยอะ แต่มันยิบย่อย ขอเล่าแค่พอเป็นตัวอย่าง เพราะส่วนใหญ่บางที่เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร มันเพลีย
จากเรื่องที่เล่าไปข้างต้นนี่ เราอยากจะให้ทุกคน เลิกดูถูกคนไทยด้วยกันเองเถอะค่ะ เราไม่ชอบเวลาคนต่างชาติดูถูกเรา
ไม่ชอบเวลาที่เค้ามองเราในแง่ลบ แต่ทำไมเราคนไทยยังดูถูกกันเองเลย
ชีวิตของคนเราทุกคน มีบริบทที่แตกต่างกันไป เราไม่ควรเอามาตรฐานของตัวเราไปตัดสินค่าของคนอื่น
ไม่ว่าเค้าจะไปต่างประเทศด้วยเหตุผลอะไร เค้าเคยเป็นอะไร ทำอาชีพอะไรมาก่อน
ทุกๆคน ล้วนไขว่คว้าสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิตให้ตัวเองและคนที่เค้ารัก ต่อให้คนเหล่านั้น จะทำด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม
ถ้าช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกันไป หรือถ้าไม่มีอะไรจะต้องช่วย หรือทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ หยุดคะนองปาก แล้วเก็บอคติไว้ในใจดีกว่า
อย่าคิดแค่ว่าชีวิตตัวเองมีดี เพรียบพร้อมมากกว่าคนอื่นแล้วจะสามารถ ใช้ตรงนั้นมาเยี่ยมย่ำคนอื่นได้
จขกท. อยากให้สังคมไทย เป็นแบบน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ในแบบที่ผู้ใหญ่สอนให้เราเป็น
ก่อนที่ จขกท. จะมาใช้ชีวิตในต่างแดน ได้ยินมาตลอดว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน และ จขกท. ก็เจอเรื่องราวน่ารักๆ เยอะแยะในต่างแดน
คนที่จิตอคติ ที่ชอบดูถูกคนอื่น มีอยู่ไม่มากในวันนี้ก็จริง แต่ดูเหมือนมันเพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวันๆ
สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว มาทำตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่ ให้เด็กเอาเยี่ยงอย่างเถอะค่ะ
ไม่อยากให้เด็กไทยในวันนี้ โตไปเป็นมนุษย์ป้าในวันหน้า
จขกท. ขอจบ หัวกระทู้ไว้เพียงเท่านี้ (หมดเวลาพักเที่ยงที่ทำงาน ต้องทำงานต่อค่ะ 55)
ไว้จะกลับมาเล่าเรื่องราวน่ารักๆของพี่ๆคนไทยในต่างแดนที่ไปพบประสบมาทีหลังนะคะ
สวัสดีค่ะ
อีดิทเพิ่มเติมนะคะ
เพิ่งมาเห็นกลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้วขอบคุณมากค่ะ
โดยส่วนตัว จขกท. ทราบนะคะ ว่าไม่ได้เป็นเฉพาะชาติเรา ชาติอื่นๆก็เป็น
แต่เราไม่ได้แคร์ว่าคนชาติอื่นเป็นยังไง เพราะเราไม่ได้สนใจเค้า
เราสนใจ คนของเรา ในประเทศของเรามากกว่าค่ะ และก็ทราบดีว่ามันเป็นอยู่ที่นิสัยและการอบรมสั่งสอน
แต่ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ว่ากระทู้นี้จะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ แค่ให้ซัก 1-2 คน เปลี่ยนแปลงได้ จขกท. ก็ดีใจแล้วค่ะ