ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า
คุณตา อายุ 78 ปี ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับปอด โรคถุงลมโป่งพอง น้ำท่วมปอด ปอดติดเชื้อ
กลางดึกวันที่ 30 เข้า 31 มีนาคม คุณตาได้มีอาการหายใจไม่ทัน และหมดสติไปประมาณเกือบเที่ยงคืน
ญาติๆ ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล(เอกชนแห่งหนึ่ง) ถึงห้องฉุกเฉินประมาณ เกือบเที่ยงคืนครึ่ง
เบื้องต้นคุณหมอได้บอกคุณตาหัวใจหยุดเต้นมาสักพักใหญ่แล้ว แต่คุณหมอจะปั้มหัวใจ และฉีกยากระตุ้นหัวใจให้
หลังจากนั้นสักพักใหญ่คุณหมอก็ออกมาบอกว่า หัวใจกลับมาทำงานแล้ว จะนำไปไว้ห้องไอ.ซี.ยู
วันรุ่งขึ้น จากที่ถ้าคุณหมอประจำคุณตา(คุณตารักษาอยู่ที่นี่ประจำด้วยโรคที่ท่านเป็น)
บอกว่าสมองขาดเลือดไปนานทำให้สมองตาย หายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ+ให้ยากระตุ้นหัวใจ
วันต่อมา ทางญาติ พี่น้องของตา และ แม่กับน้าๆ(ลูกของตาทั้งหมด) ก็คุยกันถึงอาการว่าในเมื่อสมองตายไปแล้ว
หายใจเองไม่ได้ กินอาหารเองไม่ได้ ก็ตกลงว่าจะให้คุณตาจากไปอย่างสงบ โดยไปคุณกับคุณหมอประจำคุณตา
ก็สรุปว่าทางคุณหมอจะงดยากระตุ้นหัวใจ แล้วปล่อยให้ท่านไปเอง ก็มีการเซ็นต์ยินยอมในเอกสารว่าจะไม่ให้มีการช่วยชีวิตต่อ
ซึ่งหลังจากวันนั้น(1 มีนาคม 57)ถึงวันนี้ หัวใจของคุณตาก็ยังเต้นอยู่ ยังใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ ให้น้ำเกลือ+ยาฆ่าเชื้ออยู่
ซึ่งทางญาติๆ ก็สงสัยว่าเหมือนตอนเช้าชีพจรจะลง พอตกเย็นกลับมาเต้นขึ้นมาอีก จนตอนนี้ตัวท่านแข็ง+ปวม ขอบตาคล่ำแล้ว
แต่ชีพจร และความดันยังปกติ อยู่
วันนี้ทางญาติๆ ก็ทำใจได้แล้ว และได้ตกลงกัน อยากจะให้คุณหมอนำเครื่องช่วยหายใจออก แต่!!
คุณหมอไม่ยอมทำ กลับบอกว่า "หมอทำไม่ได้หรอก อยากถอด ถอดออกเอง ถ้าถอดก็ถือว่าคุณฆ่าพ่อตัวเอง"
พยาบาลที่ห้อง ไอ.ซี.ยู ก็บอกว่า "ถ้าจะถอดก็เอาแกไปถอดข้างนอก แล้วทางเราก็จะไม่ออกใบมรณะบัตรให้ด้วย"
หลังจากนั้นน้องของตา ก็ได้โทรไปหา ผ.อ.โรงพยาบาล ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ทำเรื่องย้ายได้มั้ย หรือทำเรื่องออกมาได้มั้ย
แต่ ผ.อ. ก็บอกว่า "ไม่สามารถอนุญาติได้ ต้องให้เป็นไปตามอาการที่เป็นอยู่"
อยากจะรบกวนสอบถามว่า ในกรณีนี้ผมและญาติควรจะทำอย่างไรดี เพราะเท่าที่รู้มาถ้าสมองตายไปก็ไม่ต่างอะไรกับคนตายอยู่แล้ว
ค่าโรงพยาบาลก็มีจำกัด ฐานะปานกลาง
ทางญาติทุกคนก็ยอมรับและอยากให้แกไปสู่สุขติ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
ขอแท๊กศาลาประชาคมเพื่อมีข้อกฏหมายที่จะช่วยเหลือได้นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้านะครับสำหรับคำแนะนำ
การนำผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
คุณตา อายุ 78 ปี ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับปอด โรคถุงลมโป่งพอง น้ำท่วมปอด ปอดติดเชื้อ
กลางดึกวันที่ 30 เข้า 31 มีนาคม คุณตาได้มีอาการหายใจไม่ทัน และหมดสติไปประมาณเกือบเที่ยงคืน
ญาติๆ ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล(เอกชนแห่งหนึ่ง) ถึงห้องฉุกเฉินประมาณ เกือบเที่ยงคืนครึ่ง
เบื้องต้นคุณหมอได้บอกคุณตาหัวใจหยุดเต้นมาสักพักใหญ่แล้ว แต่คุณหมอจะปั้มหัวใจ และฉีกยากระตุ้นหัวใจให้
หลังจากนั้นสักพักใหญ่คุณหมอก็ออกมาบอกว่า หัวใจกลับมาทำงานแล้ว จะนำไปไว้ห้องไอ.ซี.ยู
วันรุ่งขึ้น จากที่ถ้าคุณหมอประจำคุณตา(คุณตารักษาอยู่ที่นี่ประจำด้วยโรคที่ท่านเป็น)
บอกว่าสมองขาดเลือดไปนานทำให้สมองตาย หายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ+ให้ยากระตุ้นหัวใจ
วันต่อมา ทางญาติ พี่น้องของตา และ แม่กับน้าๆ(ลูกของตาทั้งหมด) ก็คุยกันถึงอาการว่าในเมื่อสมองตายไปแล้ว
หายใจเองไม่ได้ กินอาหารเองไม่ได้ ก็ตกลงว่าจะให้คุณตาจากไปอย่างสงบ โดยไปคุณกับคุณหมอประจำคุณตา
ก็สรุปว่าทางคุณหมอจะงดยากระตุ้นหัวใจ แล้วปล่อยให้ท่านไปเอง ก็มีการเซ็นต์ยินยอมในเอกสารว่าจะไม่ให้มีการช่วยชีวิตต่อ
ซึ่งหลังจากวันนั้น(1 มีนาคม 57)ถึงวันนี้ หัวใจของคุณตาก็ยังเต้นอยู่ ยังใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ ให้น้ำเกลือ+ยาฆ่าเชื้ออยู่
ซึ่งทางญาติๆ ก็สงสัยว่าเหมือนตอนเช้าชีพจรจะลง พอตกเย็นกลับมาเต้นขึ้นมาอีก จนตอนนี้ตัวท่านแข็ง+ปวม ขอบตาคล่ำแล้ว
แต่ชีพจร และความดันยังปกติ อยู่
วันนี้ทางญาติๆ ก็ทำใจได้แล้ว และได้ตกลงกัน อยากจะให้คุณหมอนำเครื่องช่วยหายใจออก แต่!!
คุณหมอไม่ยอมทำ กลับบอกว่า "หมอทำไม่ได้หรอก อยากถอด ถอดออกเอง ถ้าถอดก็ถือว่าคุณฆ่าพ่อตัวเอง"
พยาบาลที่ห้อง ไอ.ซี.ยู ก็บอกว่า "ถ้าจะถอดก็เอาแกไปถอดข้างนอก แล้วทางเราก็จะไม่ออกใบมรณะบัตรให้ด้วย"
หลังจากนั้นน้องของตา ก็ได้โทรไปหา ผ.อ.โรงพยาบาล ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ทำเรื่องย้ายได้มั้ย หรือทำเรื่องออกมาได้มั้ย
แต่ ผ.อ. ก็บอกว่า "ไม่สามารถอนุญาติได้ ต้องให้เป็นไปตามอาการที่เป็นอยู่"
อยากจะรบกวนสอบถามว่า ในกรณีนี้ผมและญาติควรจะทำอย่างไรดี เพราะเท่าที่รู้มาถ้าสมองตายไปก็ไม่ต่างอะไรกับคนตายอยู่แล้ว
ค่าโรงพยาบาลก็มีจำกัด ฐานะปานกลาง
ทางญาติทุกคนก็ยอมรับและอยากให้แกไปสู่สุขติ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
ขอแท๊กศาลาประชาคมเพื่อมีข้อกฏหมายที่จะช่วยเหลือได้นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้านะครับสำหรับคำแนะนำ